dtredwing
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Group Blog
 
 
มกราคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 มกราคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add dtredwing's blog to your web]
Links
 

 
ใครป่วย/ ใครกลัวตาย

           ได้มีโอกาสไปเยี่ยมพระรูปหนึ่งที่ป่วยครับ...ท่านเป็นพระเถระ...(สิบกว่าพรรษา...อดีตเป็นหัวหน้า TPI เงินเดือน 8-9 หมื่น...พอดีว่าภาวนาดีก็เลย...ลาออกมาบวชซะ...เหอะๆๆ)

           ก่อนไปเจอท่านพระพรรษาใกล้ๆท่านพูดติดตลกว่า....ท่านต้องให้คีโม....ตอนนี้ไม่รู้จะจำกันได้รึเปล่า....ก่อนหน้านี้ท่านมีอาการ แน่นท้อง หายใจไม่ออก กินไม่ได้....ไปตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง.....X-Ray พบว่ามีก้อนเนื้อที่ลำไส้.....พอจ.ใหญ่เลยให้ไปผ่า....ท่านเล่าให้ฟังว่าหมอบอกว่าเปิดท้องมาถึงกับอึ้ง....เพราะที่คิดว่าเป็นที่ลำไส้มันไม่ใช่.....แต่.....มันเป็นที่ต่อมน้ำเหลือง.....ตัดออกไม่ได้....เพราะต่อมน้ำเหลืองมัน...อยู่ในพังผืดที่เชื่อมกับลำไส้ทั้งหมด.....ต้องให้คีโม 6 ครั้ง......


ตอนเจอท่านก่อนสนทนา....งง...มากครับ....ป่วยยังไงว้า....ผ่องใสมาก....พูดจาก็ร่าเริง.....

            ท่านเล่าไปยิ้มไปว่า...ตอนคีโมครั้งแรกนะ...เราก็ไม่รู้ว่ามันจะมีผลอย่าไร..                   ถึงวันโกนเราก็โกน....ได้เรื่องเลย....เหวะทั้งหัว....อาการมันไล่ตั้งแต่หัวลงไปทั้งตัวเลยนะ..........แสบทุกครั้งที่มีอะไรผ่านปาก.....ร่างกายพร้อมที่จะรับโรคได้ตลอด...มันอ่อนแอมาก....

            เส้นเลือดนี่ไหม้ดำหมด.....มีอยู่ครั้งหนึ่ง...อยู่ในห้องน้ำ....อยู่ดีๆมันก็หมดแรก....คุมร่างกายอะไรไม่ได้เลย....มีสตินิดหน่อย...พอจะรวบรวมแรงที่เหลือให้ลงไปนั่งกับพื้นได้.....นั่งไป 30 นาที....เหงือออกแฉะทั้งตัวเลย...ถ้ารวมกำลังไม่ได้เราล้มทั้งยืนแล้ว....สตินี่เคยฝึกอยู่นะ....แต่บ้างทีมันก็เบลอแล้วหายไปเลย.....(เล่าไปยิ้มไปขำไป).....

        แล้วอยู่ๆท่านก็พูดว่า....น่าสงสารนะ....เราสงสารโยม.....โยมไม่เคยภาวนา....เจออย่างนี้มันสาหัสทั้งร่างกาย...ทั่งจิตใจเลย....เราหนะเห็นร่างกายมีแต่ทุกข์.....โสมมมาก.....เราแยกกายเวทนา ออกได้เป็นพักๆ....มันรวมกันเมื่อไรนี่ก็สาหัสเหมือนกัน....โยมไม่เคยฝึกเลยนี่น่าสงสารจริงๆ......(ขากลับพระที่ไปด้วยกันบอกว่าท่านภาวนาเก่ง....แยกจิตออกจากกายได้นานแล้ว....)

        อีกวันได้ไปกราบครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งครับ....เล่าให้ฟังว่ามีโยมที่คุ้นหน้าคุ้นตาคนหนึ่งที่มาทำบุญประจำ....เป็น....มะเร็ง...(อีกแล้ว).....โยมคนนี้มาแต่ทำบุญ...ไม่เคยภาวนา...ท่านอาจารย์ทราบเรื่องจากทางบ้านก็เลยถามว่าเป็นไงบ้าง....แค่พูดเรื่องนี้นิดเดียวก็สะกิด...ต่อมน้ำตา....ร้องห่มร้องไห้แล้ว.....ที่บ้านบอกว่า...ใครมาพูดเรื่องนี้ไม่ได้เลย....ร้องไห้อย่างเดียว......

                อ่านดูแล้วต่างกันมั้ยครับ....โรคเดียวกันแท้ๆ........อีกท่านสงสารคนอื่น....อีกท่านอย่าให้พูดเลย.....ไม่ได้เลย....(รู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่ได้ให้คีโมด้วยซ้ำ ....ถ้าโดนคีโมไม่รู้จะทนได้แค่ไหน) ยิ่งถ้าคนที่ไม่ได้เป็นอะไรก็ยังพร่ำรำพัน....น้อยใจอย่างโน้นอย่างนี้....ถึงเวลาเป็นจริงๆมันจะแค่ไหน.....ตอนนี้ต้องฝึกให้ใจเข้มแข็งไว้ก่อนครับ...ไม่งั้นเจอจริงๆคงลำบาก...จิตที่กลัว....ที่ทรมาณ....นำไปสู่อบายนะครับ.....เราเลือกตายไม่ได้.....ถ้าเราไม่ฝึก......ถ้าเราฝึก....เราพอมีลุ้นเลือกได้บ้าง

ปีใหม่พอจ.เทศน์ครับว่า....รู้มั้ยใครกลัวตายที่สุด....ท่านบอกว่า...พระพุทธเจ้าไง.....ท่านกลัวตาย...ท่านเลยไม่อยากเกิดอีก......แต่พวกโยมที่หลงโลก....ไม่รู้จักกลัวตาย.....หลงไปวันๆ......ถึงเวลาจะตายจริงๆ...จะมาฝึกมันไม่ทันแล้ว

ปล. การ์ดปีใหม่ปีนี้.....แรงไปมั้ยครับ.....ใครไปวัดช่วยมา post คำอวยพรของท่านอาจารย์ให้ soft หน่อยซิครับ....เหอะๆๆ สวัสดีปีใหม่ครับ




Create Date : 02 มกราคม 2556
Last Update : 2 มกราคม 2556 17:49:02 น. 11 comments
Counter : 1061 Pageviews.

 
อนุโมทนานะคะ (-/|\\-)


โดย: ยา IP: 27.55.139.88 วันที่: 3 มกราคม 2556 เวลา:8:41:44 น.  

 
อืม อ่านแล้วจุกอกอ่ะค่ะ

อนุโมทนาค่ะ


โดย: yosita IP: 115.87.5.239 วันที่: 3 มกราคม 2556 เวลา:11:04:57 น.  

 
จากที่จับความเองบางส่วนนะค่ะ

พอจ.บอกว่าทุกคนไม่ควรประมาท คนเราทุกคนโชคดีที่เกิดมาในช่วงมีบวรพุทธศาสนา โอกาสที่เราตายไปแล้วเกิดใหม่จะได้เกิดมาในภพมนุษย์นั้นก็ว่ายากแล้ว หากยังประมาทไม่ทำความดี ไม่รักษาศีล ภาวนา

ยังเป็นเพียงคนที่ถือศาสนาพุทธเพียงทะเบียนบ้าน หากเราตายไปแล้วเกิดอีกอาจไม่ได้เป็นคน ซึ่งถือว่าเป็นภพที่มีโอกาสในการปฏิบัติภาวนามากที่สุด ถือว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย




โดย: postlarva IP: 110.49.241.150 วันที่: 3 มกราคม 2556 เวลา:19:37:12 น.  

 
ขออภัย...มันปิติ...แต่จำอะไรไม่ได้เลย555++


โดย: ละอองเกลือ IP: 101.108.184.97 วันที่: 4 มกราคม 2556 เวลา:16:42:32 น.  

 
เอาเท่าที่จำได้นะ

อาตมาในตัวนามของคณะสงฆ์ ก็ขอให้บุญกุศลที่สงฆ์ได้ร่วมกระทำ ตลอดจนขออำนาจบุญบารมีของพระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์สาวก โดยมีหลวงพ่อชาเป็นที่สุด

ขอบารมีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่เคารพนับถืออย่างสุงสุด จงดลบันดาล ให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน สิ่งใดที่หวังในใจที่อยู่ในกรอบของศีลธรรม ขอให้สำเร็จ ขอให้สำเร็จ ขอให้สำเร็จ โดยง่ายทุกเมื่อ

ขอให้ความขัดข้องทั้งหลายจงอย่าได้มี ให้มีปัญญา มีความเห็นแจ้งในดวงใจ จนกระทั้งถึงพระนิพพานทุกท่านเทอญ


โดย: redwing IP: 171.97.156.209 วันที่: 5 มกราคม 2556 เวลา:17:29:50 น.  

 
อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ


โดย: postlarva IP: 171.5.123.34 วันที่: 5 มกราคม 2556 เวลา:20:15:02 น.  

 
ขอแชร์ละกัน ความเห็นส่วนตัว

เอาแค่ประสบการณที่ตัวเองเจอ...อาจจะไม่ใช่ทุกข์ทางกายแต่เทียบเคียงได้เหมือนกัน

ถึงจะฝึกภาวนามาบ้าง ศึกษาธรรมะมาบ้าง... แต่ถ้าทำไม่พอ...ณ ช่วงเวลาวิกฤติ ก็เอาตัวไม่รอดเหมือนกัน

ช่วงเวลาที่แย่ๆ บางทีก็เป็นตัวชี้วัดที่ดีเหมือนกัน ว่าที่ฝึกมามันพอมั้ย ใช้ได้มั้ย ทำถูกมั้ย ?? ไม่ต้องไปถามใครเลย...

ตอนนั้นบอกตัวเองเลยว่า...ผ่านเรื่องนี้ไป ต้องขยันภาวนาให้มากกว่านี้ เพราะตอนวิกฤติมันภาวนาไม่ได้จริงๆ (ฝึกมาทำมาไม่พอจริงๆ)

แต่ความน่ากลัวของมันก็คือ...พอเรื่องแย่ๆผ่านไปไม่เท่าไหร่ เราก็มักจะลืม....เหอะๆ


ช่วงนี้ได้ข่าวครูบาอาจารย์ไม่สบายอยู่เนืองๆ
หลวงปู่ที่เคยไปกราบท่านเมือ 2-3 ปีก่อน
เห็นได้ชัดเลยว่า..ผ่านไปไม่เท่าไหร่ ร่างกายท่านก็เปลี่ยนไปมาก เห็นชัดมาก....

จริงๆครูบาอาจารย์ หรือแม้แต่พระโพธิสัตว์บางองค์ ท่านก็แสดงให้เราเห็นเลยอ่ะนะ ว่าท่านเองก็ก้าวพ้นความป่วยไม่ได้ แต่ระดับท่านทางใจคงไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว

สรุปว่า...ห่วงตัวเราเองดีกว่า..เตรียมพร้อมแค่ไหนแล้ว กับความป่วยกายรวมไปถึงป่วยใจ ที่อาจจะมาถึง

จากประสบการณ์ที่เรียนรู้มา..ทำให้เข้าใจแจ่มแจ้งเลยว่าอะไรๆก็เกิดขึ้นกับชีวิตเราได้

อย่าประมาทดีที่สุด...



โดย: crossbite IP: 171.7.203.156 วันที่: 5 มกราคม 2556 เวลา:20:40:27 น.  

 
วันก่อน พอจ.รูปนึง...ก็บอกว่าอย่าเกิดเป็นมนุษย์เพียงแค่สัมมะโนครัวนะ...

ทาน ศิีล ภาวนา....

พวกเราๆ ยังบกพร่องเรื่องศีล กับภาวนากันอยู่น่ะค่ะ



โดย: ละอองเกลือ IP: 101.108.176.75 วันที่: 10 มกราคม 2556 เวลา:12:14:36 น.  

 
ไม่มีเวลา

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปฟัง หมอเขียว แพทย์วิถีธรรมพูดครับ

ก่อนเริ่มหัวข้อท่านพูดก่อนเลยว่า....ไม่มีใครไม่มีเวลา....

คนที่บอกว่าไม่มีเวลา....คือคนที่ตายแล้ว....(เจ็บดี...เหอะๆๆ)

ขอเวลาหน่อย.....ตอนนี้กำลังยุ่งอยู่ไม่มีเวลาให้หรอก....

ไม่ใช่ไม่มีเวลานะครับ....มีเวลา...แต่เอาไปทำเรื่องยุ่งๆอยู่

หาเรื่องยุ่งๆมาใส่ตัวตลอด

มีเวลาแต่ไม่เอาไปทำเรื่องดีๆ...เรื่องสบายๆ...(โดนไปอีกดอก)

เคยฟังครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งท่านเทศน์ไว้ว่า....(น่าจะเคย post แล้ว)

ถ้าเราต้องการแค่ basic minimum need ชีวิตเราจะไม่ลำบากมาก

เรามีอะไรเพิ่มเข้ามาในชีวิตเราจะมีภาระตามมาเสมอ

อยากได้บ้าน อยากได้รถ...ได้มาแล้วมีความสุขจริงมั้ย

จริง......แต่....แป๊ป เดียว....สิ่งที่ตามมาคือ...ถ้าบ้านใหญ่...

ก็ถูเยอะ...ต้องดูแลเยอะ....ถ้าทรัพย์สินมากก็ต้องหาวิธีดูแลอีก

ถ้าได้รถ...ก็ต้องหาเวลาล้าง...ไม่ก็ต้องไปจ้างเค้า....ถึงเวลาก็ต้องเอามันไปเชค

มีบ้างตามสมควร...พอใช้...ก็ภาระน้อย....มีมากก็ภาระมาก

มีเงินมากก็ต้องระวังโจรปล้น....ต้องคอยบริหารจัดการอีก....

ผมเคยอ่านหนังสือหลายเล่มมากๆ...เริ่มให้เงินทำงานให้....ผมว่ามันไม่จริง....มีแต่เราทำทั้งนั้น....เอาไปลงทุน....แล้วไม่ดู....ก็มีแต่จะลดลง....ต้องใช้เวลาคิดอีกว่าจะเอาไปลงทุนอะไร...ความเสี่ยงแค่ไหน.....แบ่งไปเท่าไร....บริหารจัดการอย่างไร....บางทีคิดไปคิดมา....ทำงานแล้วใช้ชีวิตไปตามปกติ....มันวุ่นวายน้อยกว่า...ให้เงินทำงานให้อีกนะครับ

เราอยู่ได้ถ้าไม่มีโทรทัศน์...ไม่มี internet ไม่มีหนังสือพิมพ์...และอื่นๆอีกมากมาย....แต่ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยอยู่กันเพราะเราเคยชินกับความวุ่นวาย.....บางครั้งอยู่เฉยๆมันก็ไม่วุ่น....แต่....เราไปหาความวุ่นวายมาใส่ชีวิตเราเอง.....เราไม่คุ้นเคยกับการมีให้น้อย...แต่เราคุ้นเคยกับการหาอะไรมาใส่ให้มันมากๆ....เยอะๆไว้ก่อน

หมอเขียวบอกว่า....คนรวยคือคนที่ซวยที่สุด.....เหอะๆๆ

ตอนนี้เค้ามีเงิน 0 บาท...มีความสุขที่สุด...(ผมดูแล้วรู้สึกว่าเค้าเป็นคนดี....ดีแบบไม่ต้องเสแสร้ง....ซึ่งผมยังทำไม่ได้ 555 )

เค้าบอกว่าแต่ก่อนก็อยาก....อยากมีมากๆ....ยิ่งหายิ่งทุกข์....อยากได้เยอะๆๆๆๆ

ตอนนี้มีคนเอามาให้เป็น พัน เป็น หมื่นล้าน....ไม่เอา....(บอกด้วยว่าทำไมไม่เอามาให้ตอนอยากน้อ).....หาคนรวยมาแข่งมีความสุขกับเค้าหน่อยดูซิว่าจะมีใครชนะมั้ย.....555

สำหรับตัวเองแล้วผมว่า....ถ้าเราไม่มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน....เราก็จะแสวงหาความทุกข์มาใส่ตัวไปเรื่อยๆ....แต่ถ้าเรามีเป้าที่ชัดเจน....เดินไปตามเป้า...หลงไปก็กลับมาใหม่....มันต้องมีทางพ้น

ผมก็ยังไม่สามารถที่จะไม่มีไม่หา....ทิ้งทุกอย่างได้....แต่ถ้ามี...ถ้าหา...ก็ต้องมี..ก็ต้องหา...อย่างระมัดระวัง....ระวังเอาสารพิษเข้าทั้งร่างกายและจิตใจ..เตือนตัวเองอยู่เท่านี้ครับ

ปล.มันเขียน blog ใหม่ไม่ได้อะ..มีใครรู้วิธีช่วยเมลบอกหน่อยนะครับ redwing7724@hotmail.com


โดย: redwing IP: 124.121.132.59 วันที่: 19 มกราคม 2556 เวลา:8:43:48 น.  

 
ตามมาอ่าน ให้อาหารสมองบ้าง ห่างวัดมานานเลย ช่วงนี้ ^^'


โดย: P'Ja IP: 125.24.154.118 วันที่: 21 มกราคม 2556 เวลา:19:40:05 น.  

 
ลืมมมมมอ่ะ มัวแต่ดีใจ

ขอบคุณมากๆๆ สำหรับบรรยายธรรมหลวงปู่ชาค่ะ





โดย: postlarva IP: 110.49.251.80 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:9:18:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.