Group Blog
 
 
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
19 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
::♣ ใ ค ร ช น ะ ??? !!! ♣:: เชิญ ด่า ทัก ษิณ และ แก๊งค์ ::♣::






__________________________________________

ใครจะชนะสงครามแย่งประชาชน:
ระบอบทักษิณ หรือ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข


เข้าใจระบอบทักษิณ

การยึดอำนาจในวันที่ 19 กันยายน 2549 มิใช่อวสานของระบอบทักษิณเป็นแต่เพียงความสำเร็จในการปลดทักษิณออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ระบอบทักษิณ มิได้ประกอบด้วยตัวตนของทักษิณเท่านั้น ยังประกอบด้วยระบบย่อยต่างๆ ทั้งที่เป็นระบบความคิด ระบบพฤติกรรม ตลอดจนโครงสร้าง องค์ประกอบหรือกลไกของระบบต่างๆ มีอยู่ในปัจจุบัน เช่น ระบบราชการ ระบบเศรษฐกิจประชานิยม ระบบการปกครองท้องถิ่น และระบบจัดตั้งของอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ในรูปแบบต่างๆ เช่น สมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน สโมสรหนึ่งเก้า ชมรมและสหกรณ์ต่างๆ ฯลฯ รวมทั้งมวลชนหรือกลไกคู่ขนานของระบบนั้นๆ

เครือข่ายหรือระบบย่อยของระบอบทักษิณนี้ยังเข้มแข็งเหนียวแน่นอยู่ ถึงแม้พรรคไทยรักไทยจะถูกยุบ หรือผู้แทนของพรรคไทยรักไทยแตกพรรคหนีไป หรือถูกห้ามมิให้เล่นการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ระบบต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังเหลืออยู่ และยังมีโอกาสเติบโตต่อไป

ระบบเหล่านี้ต่างหากคือความเข้มแข็งและกำลังของระบอบทักษิณ และมีความสำคัญยิ่งกว่า ส.ส.ซึ่งเป็นเพียงนักเลือกตั้ง ที่เปลี่ยนไปมาตามแก๊งเลือกตั้ง ต่างๆ แบบ “ชนะไหนเข้าด้วยช่วยกระพือ” แล้วแต่กฎเกณฑ์และสถานการณ์การเมืองในขณะหนึ่งๆ ในกรณีรุนแรงที่สุด ซึ่งเกิดขึ้นได้ยาก คือ ส.ส.เก่าทั้ง หมดไปเพราะต้องห้าม ไม่เป็นการยากที่จะเลือกผู้สมัครใหม่ล้วนๆ เอาไว้สมทบกับอดีต ส.ส.เก่าที่แยกย้ายเพื่อรวมกลุ่มกันทีหลังเมื่อถึงยุค “มหาประชาชัย”

พรรคไทยรักไทยมีสโลแกนว่า “ไทยรักไทยหัวใจคือประชาชน” คำขวัญนี้มิใช่ political rhetoric ธรรมดา หากมีการตอกย้ำตามทฤษฎีเรียนรู้ Pavlovian Learning Theory ด้วยคำถามที่เป็นรูปธรรมว่า (ในอดีตและปัจจุบัน) ใครคือผู้ให้แก่ประชาชนมากกว่ากัน เพื่อที่จะให้ได้คำตอบที่เป็นหลักคิดว่าประชาชนได้รับจากใครมากที่สุด ประชาชนก็ต้องจงรักและตอบแทนผู้นั้นมากที่สุด

ความสำเร็จของประชานิยมนั้นขึ้นอยู่กับมาตรการระยะสั้นที่ให้ความติดใจทันที (immediate gratification) บวกกับลัทธิบูชาผู้นำ (cult of personality) ถ้าสองสิ่งนี้ถูกทอนอายุให้สั้นลง ก่อนที่ประชาชนจะมองเห็นความล้มเหลวและเสื่อมศรัทธาลงเองในระยะยาว ประชานิยมมักจะตีโต้เอาชัยชนะกลับคืนมาได้เสมอ และใช้เวลาไม่นาน

โอกาสที่ประชานิยมจะกลับมาไม่สำเร็จมีน้อยมาก เพราะในระยะข้ามผ่านหรือจุดเปลี่ยน รัฐบาลที่ตกอยู่ใต้อำนาจของชนชั้นสูงมักจะมีลักษณะอืดอาด อึดอัดและถือตัว เข้าไม่ถึงและไม่สามารถให้ความติดใจทันที (immediate gratification)และความเป็นธรรมแก่ประชาชนพร้อมๆ กันได้ ซ้ำจะมีเหตุให้เกิดความแปลกแยก (alienation) กับปัญญาชนและชนชั้นกลางได้สูง

โฉมหน้าของสงครามแย่งชิงประชาชนระหว่างระบอบทักษิณกับระบอบประชาธิปไตยจะเป็นอย่างไรย่อมขึ้นกับยุทธศาสตร์ยุทธวิธีและการจัดตั้งของคู่ต่อสู้ทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐ (บาล) กับฝ่ายทักษิณ

การจัดตั้งของทั้ง 2 ฝ่ายมีจุดอ่อนและจุดแข็งที่เป็นหลักๆ อะไรบ้าง เพราะชัยชนะในสงครามประชาชนขึ้นกับความสามารถในการใช้จุดแข็งของตนไปสยบจุดแข็งของฝ่ายตรงกันข้าม และใช้จุดอ่อนของฝ่ายตรงกันข้ามให้ทำลายตนเอง

- ขณะนี้จุดแข็งของฝ่ายรัฐมีอะไรบ้างที่เป็นหลัก ตอบได้ว่าคืออำนาจรัฐ

- จุดแข็งของฝ่ายทักษิณเล่าคืออะไร ตอบได้ว่าคือหลักคิดและมวลชนจัดตั้ง และองค์กรอำพราง

- ส่วนจุดอ่อนของรัฐบาลนั้นคือการขาดหลักคิด และไม่สามารถจัดการกับมวลชนของทักษิณ ซึ่งยังแฝงตัวอยู่ในกลไกของระบบต่างๆ อย่างเป็นปกติสุขได้

- สำหรับจุดอ่อนของทักษิณ คือวิบากกรรมของทักษิณเอง การขาดอำนาจรัฐ และข้อจำกัดในการเคลื่อนไหว (ชั่วคราว)

ในการต่อสู้ระหว่าง 2 ฝ่ายนี้ยังมีปัจจัยที่ 3 คือแรงบีบและแรงดึงจากต่างประเทศอีกด้วย เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ นอกจากจะสรุปว่าฝ่ายที่ได้เปรียบคือฝ่ายทักษิณ

สรุป : จุดจบของรัฐบาลมิใช่จุดจบของระบอบทักษิณ

เข้าใจการยึดอำนาจ

การยึดอำนาจครั้งนี้ไม่มีคำเรียกอยู่ในปทานุกรมการเมือง เพราะเป็นการยึดที่ต่างจาก การยึดอำนาจ การรัฐประหาร การปฏิวัติ หรือ coup d' etat หรือ power seizure ในอดีต แต่อาจจะสงเคราะห์เรียกได้ว่า coup de grace คือการทำให้ตายโดยเฉียบพลันเพื่อให้พ้นความทรมาน หรือการปลดรัฐบาลอย่างฉับพลัน โดยปราศจาก violence แต่ถึงกระนั้นภาพหลอนของ military junta ก็จะตามมาทำลายประสาทฝ่ายรัฐและประชาชนผู้รักประชาธิปไตยอยู่ไม่วาย

บรรดาชนผิวขาวชาวต่างประเทศที่หยิ่งในความเหนือกว่าของวัฒนธรรมตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสื่อ ปัญญาชน หรือผู้นำรัฐบาล รวมทั้งนักวิชาการบริสุทธิ์หรือปัญญาชนหอคอยงาช้างเมืองไทย ก็จะมองเห็นเหมือนกันว่านี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทหารทำลายประชาธิปไตยไทย โดยมองไม่เห็นว่า ภาคประชาชนและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ต่อสู้ขับไล่เผด็จการของระบอบทักษิณอย่างไม่ลดละมาเป็นเวลาปีเศษแล้ว ในที่สุดก็ได้พึ่งบารมีของในหลวง และกำลังใจจากพลเอกเปรม ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทัพบกตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ทักษิณจะทำการยึดอำนาจและปราบประชาชนด้วยกำลัง

ทักษิณได้ทำลายประชาธิปไตย บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ พระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญ สถาบันนิติบัญญัติ สิทธิมนุษยชน ระบบราชการและกลไกในการถ่วงดุลตรวจสอบในระบอบประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่องมากว่า 5 ปี จนเกือบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว นอกจากสัญลักษณ์อย่างเดียวคือการเลือกตั้ง

การโค่นล้มระบอบทักษิณโดยการสำแดงกำลัง (implied force) ครั้งนี้มิใช่การใช้กำลัง (violent overthrow of government by military force) ไม่ต้องเสียเลือดเนื้อแม้แต่หยดเดียว ที่กระทำได้และประสบความสำเร็จเพราะสมการดังต่อไปนี้

P+K+S+Aได้แก่ อำนาจของประชาชน P+บารมีของในหลวง K+ กำลังใจจากรัฐบุรุษเปรม S+ กองทัพบก A ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นขบวนการที่มีส่วนร่วมและองค์ประกอบหลายฝ่าย มิใช่ ปรากฏการณ์ อัศวินม้าขาวของฝ่ายทหารแบบข้ามาคนเดียว พลเอกสนธิเป็น ผู้ที่เข้ามาในวินาทีสุดท้ายเพื่อลงมีดผ่าตัด ในห้องที่เตรียมไว้พร้อมสรรพทั้งระบบไฟ หมอดมยา ยาดม คณะแพทย์ พยาบาล และมีดผ่าตัดเป็นชุด คนเดียวจะมีความหมายอะไร ถ้าไม่มีการต่อสู้มาเป็นปี

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการ 19 กันยายนนี้ เกือบจะเหมือนกับ 24 มิถุนายน 2475 ในเรื่ององค์ประกอบ และการฉวยจังหวะปฏิบัติการ ต่างกันแต่ว่าผู้ที่มีส่วนร่วมกันทุกฝ่ายขาดความเป็นเอกภาพ และมองไม่เห็นว่า นี่คือโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งที่ 2 ซึ่งมีโอกาสดีกว่าครั้งแรก ที่จะพัฒนาไปสู่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง ภายใต้ร่มพระบารมี เพราะภาคประชาชนมีวุฒิภาวะทางประชาธิปไตยสูงขึ้นมาก กลุ่มขุนนางกับชนชั้นนำ (นอกจากบริวารทักษิณ) ไม่มีความขัดแย้งกับพระมหากษัตริย์ อุปสรรคมีอยู่เพียง 2 อย่าง คือ ระบอบทักษิณยังไม่ตาย และกรอบความคิดเก่า(old paradigm)ของหุ้นส่วนระหว่างชนชั้นนำกับขุนนางทหาร ที่ยังไม่ยอมปรับตัวไปสู่กรอบความคิดใหม่ (New Paradigm)

สรุป: กรอบคิดเก่าหลงว่า 19 กันยายน 2549 เป็นการยึดอำนาจ ประพฤติตนเป็นแบบนักยึดอำนาจ (old style military junta) ความเสี่ยงที่จะถูกกวาดล้างยึดอำนาจคืนมีสูง เพราะจะขาดภูมิคุ้มกันจากมวลชนและพลังประชาธิปไตยก้าวหน้า

เข้าใจการจัดตั้งรัฐบาล

รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปัจจุบันคือกรอบคิดเก่าขนานแท้และดั้งเดิม ซึ่งมี 39 มาตราเช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับแรก 2475 แต่ล้าหลังกว่ามาก และเป็นเผด็จการมากกว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะตรึงรัฐบาลไว้กับกรอบความคิดเก่า แวดล้อมด้วยบุคคลเก่าๆ และไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติของความขัดแย้ง(contradiction)ในระบบการเมืองไทยได้ เว้นเสียแต่ว่านายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลจะใช้มาตรการทางบริหารและการเมืองตามกรอบความคิดใหม่เข้ามาแก้ โดยจัดตั้งรัฐบาล สภานิติบัญญัติ และสมัชชาแห่งชาติ ให้สอดคล้องและรับใช้ความเป็นจริงทางการเมือง

ความเป็นจริงทางการเมืองนั้นก็คือ การต่อสู้ระหว่างฝ่ายรัฐกับฝ่ายทักษิณกำลังดำเนินอยู่ในรูปแบบของสงครามแย่งชิงประชาชน

ซึ่งถ้าหากยังดำเนินไปตามแนวโน้มที่มองเห็นอยู่ขณะนี้ ทำนายว่าระบอบทักษิณจะเป็นฝ่ายชนะ และใช้เวลาไม่นาน

รัฐบาลหมายรวมถึง ครม. สภานิติบัญญัติ และองค์กรจัดตั้งตามรัฐธรรมนูญ

สูตรและองค์ประกอบของการจัดตั้งรัฐบาลที่จะล้มเหลว ได้แก่สูตร EKG

EKG มิใช่วิธีตรวจหัวใจ แต่เป็นสมการอำนาจระบบเก่า ประกอบด้วย

E = Elite หรือ Establishment K= King หรือ Monarchy

G = Government

ต่างฝ่ายต่างก็กำนัลกันด้วยคำหวานว่ามีความผูกพันกันลึกซึ้ง และพูดจาเข้าใจกันดี ความจริงมิใช่ เพราะสายสัมพันธ์และการสื่อสารกันเป็นแบบเข้าๆ ออกๆ เหมือนจุดลูกน้ำ..........มีช่องว่างและช่องโหว่ให้สอดแทรกเข้าไปได้ แอบอ้าง และหลอกลวงกันได้ มิใช่ความสัมพันธ์เป็นเส้นทึบที่แนบแน่น และทำนายได้ predictable

เราจะต้องเปลี่ยนสมการจาก E+K = G มา เป็น P+E+K= G จึงจะสู้ระบอบทักษิณได้ P = People ซึ่งบัดนี้มิใช่ประชาชนธรรมดาที่ Marx ดูถูกว่าเป็น potatoes in the sack of potatoes แต่เป็น informed citizen coalition ประกอบด้วยประชาชน+NGO+ปัญญาชนผู้ประกอบวิชาชีพ+สื่อเสรี

อย่าลืมข้อเท็จจริงว่า E คือ ตัวอุปสรรคทำให้บารมีที่แท้จริงของ K ไปไม่ถึงประชาชน K เพียงถูกแอบอ้าง และจะถูกตำหนิในความผิดพลาดของ E ทั้งๆ ที่ K ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย เพราะอะไร

เพราะวัฒนธรรมการเมืองไทย ไม่เปิดโอกาสให้ สายสัมพันธ์หรือการบังคับบัญชา command line กับการสื่อสาร communication ระหว่าง K กับ E หรือ K กับ G หรือแม้แต่ K กับ C (Privy Council) ลื่นไหลเป็นกิจวัตร จนกลายเป็นเส้นทึบ คงเป็นเพียงเส้นแบบจุดไข่ปลาแบบนี้ K......E, K.......G, K......C จึงถูกแทรกแซงทะลุออกทางช่องว่างและรูโหว่ระหว่างจุดต่างๆ มาโดยตลอด นั่นก็คือ การแอบอ้าง บิดเบือน หลอกลวง ขู่เข็ญ ในนาม K โดย K ไม่มีส่วนรู้เห็นหรือแก้ตัวใดๆได้เลย แม้พระบรมราชวินิจฉัยและพระราชอำนาจตามจารีตประเพณีที่แท้จริงก็ถูกนำมาบิดเบือนและครอบงำ หากไม่สามารถเปลี่ยนจุดไข่ปลาเป็นเส้นทึบได้ ก็จะเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด อึมครึม ขาดความโปร่งใสและผิดพลาดบ่อยๆ

เส้นทึบได้แก่ สายสัมพันธ์ที่ดีต่อเนื่องถูกต้องและเป็นทางการ Command Line และระบบสื่อสาร Communication ที่ Clear, Legitimate และ Predictable เส้นทึบนี้ รัฐบาลไม่มี แต่ทักษิณมีเต็มไปหมด โดยใช้ผลประโยชน์และหลักคิดร่วมเป็นเครื่องมือ

สรุป: การจัดตั้งรัฐบาลถ้าหากใช้สูตร EKG จะขาดพลังและพ่ายแพ้ทักษิณ ต้องใช้สูตร PEKG และในตัว P ควรมีเทพบุตรมารที่รู้เกมทักษิณอย่างแจ้งจบด้วยชาติและราชบัลลังก์จึงจะปลอดภัย

เข้าใจการต่อสู้

การต่อสู้ครั้งนี้พลเอกสายหยุด เกิดผล วิเคราะห์ว่า เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาธิปไตยที่แท้จริงกับประชาธิปไตยรวมศูนย์

ถ้าเป็นเช่นนั้น เราเสียเปรียบ 2 ต่อ เพราะประชาธิปไตยที่แท้จริงเรายังไม่มี แต่ประชาธิปไตยรวมศูนย์มีแล้ว คือระบอบทักษิณ

รัฐบาลต้องแบกน้ำหนัก 2 เท่า คือต้องสู้กับระบอบทักษิณ และต้องสร้างประชาธิปไตย แถมยังมีตัวถ่วงเดิม คือระบบราชการที่ผุพัง

สงครามที่สู้กันคือสงครามแย่งชิงประชาชน มียุทธศาสตร์หลัก ขึ้นอยู่กับกุญแจ 2 คำ คือ Information กับ Mobilization

แต่สงครามแย่งชิงประชาชนครั้งนี้แปลกกว่าทุกครั้ง และเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์โลก คือ ฝ่ายที่โค่นล้างรัฐบาลได้เปรียบมี legitimacy ภายนอกมากกว่า มีฐานที่มั่นในประเทศมากกว่า มีเครื่องมือในการทำสงครามข่าวสารมากกว่าและดีกว่า มีฐานมวลชน (mass base) ที่จะระดม (mobilize) ได้กว้างกว่า สิ่งที่ทักษิณเสียเปรียบคือไม่มีอำนาจรัฐ แต่ถ้าหากรัฐบาลไม่สามารถใช้อำนาจรัฐทำลายความได้เปรียบของทักษิณ อีกไม่นานทักษิณก็จะได้อำนาจรัฐ

อนึ่ง การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลกับผู้ต้านอำนาจรัฐ แม้เช่นกรณี 3 จังหวัดภาคใต้ รัฐบาลจะต้องถูกมัดมือชก ไม่สามารถหลีกเลี่ยง การใช้ Low Intensity Warfare

โดยใช้กำลังทหารและตำรวจที่ไม่จัดเจน ทำการข่มขู่ปราบปรามฝ่ายต่อต้านเพื่อขยายฐานปกครอง และ body count ไม่ว่าจับเป็นหรือจับตาย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่มีความขัดแย้ง (contradiction) ภายในสูง และจะผลักมวลชนไปให้ฝ่ายต่อต้าน ซ้ำต้องแบกระบบราชการที่ผุพังดังที่กล่าวมาแล้ว

ในขณะที่ฝ่ายทักษิณสามารถใช้ Asymmetric warfare ซึ่งยืดหยุ่นกว่า สามารถเลือกยุทธวิธี สมรภูมิ และคู่ต่อสู้คนไหน เมื่อใดก็ได้

เข้าใจการเคลื่อนไหวทางสังคม

การเคลื่อนไหวสังคมเป็นขบวนการที่ไม่มีใครห้ามได้ และมีอยู่ 3 แบบคือ 1. มีระบบหรือ control 2. ตามยถากรรม หรือ open และ 3. แบบผสม

ในประเทศไทยการเคลื่อนไหวมักจะเป็นแบบที่ 2 คือคนยากคนจน เมื่อลำบากที่สุดก็ร้องทุกข์ขอความเมตตา แบบที่ 3 ก็คือมีองค์ประกอบภายนอก เช่น NGO หรือ การเมืองทั้งในและนอกมาจัดตั้ง แบบที่ 1 ได้แก่โครงการพัฒนาต่างๆ ทั้งของรัฐบาล ในหลวง NGO ในและนอกประเทศ กลุ่มพลังการเมืองต่างๆ ทั้งใต้ดิน บนดิน เช่น พรรคคอมมิวนิสต์และขบวนการผู้พัฒนาชาติไทย ที่เข้ามาเป็นผู้รับประโยชน์และเป็น (กอง)กำลังให้พรรคการเมือง เป็นต้น

ถ้าหากรัฐบาลต้องการสู้กับทักษิณให้ได้ผล จะต้องเข้าร่วมกับขบวนการประชาชน เพื่อขยายฐาน information กับ mobilization ในการเคลื่อนไหวสังคมทั้ง 3 แบบ ฝ่ายรัฐจะต้องใช้การจัดตั้งจากภาคประชาชน และบุคลากรของรัฐที่ก้าวหน้าอย่างเต็มที่ จึงจะรับมือกลไกของระบบและระบอบทักษิณได้

การร่วมมือจะต้องมีลักษณะประจำ ต่อเนื่อง และเป็นทางการ ด้วยการมี communication และ command line แบบเส้นทึบมิใช่จุดไข่ปลา จึงจะประกันความน่าเชื่อถือ ทำนายทายทักได้




ภาพประกอบ

K = King E= Elite หรือ Establishment (Military+Business+Bureaucrat)

P=People (ประชาชนจัดตั้ง+ปัญญาชน+สื่อเสรี+NGO)

เส้นทึบ คือสายสัมพันธ์และระบบสื่อสารที่ดีแทรกแซงและบิดเบือนยาก

เส้นจุดไข่ปลาคือสายสัมพันธ์และระบบสื่อสารที่เลวมีช่องโหว่และช่องว่างมาก

เส้นผสม คือสายสัมพันธ์และระบบสื่อสารที่บกพร่องมีช่องโหว่และช่องว่างปานกลางแทรกแซงและบิดเบือนได้เป็นครั้งคราว

1. ถ้าหากการจัดตั้งรัฐบาลเป็นแบบ EKG ในที่สุดจะล้มเหลว เพราะจะแพ้ยุทธศาสตร์ information กับ mobilization ของฝ่ายต้าน ซึ่งยึดฐานที่มั่นตามยุทธศาสตร์ “โลกล้อมประเทศ-ชนบทล้อมเมือง” ไว้ได้ล่วงหน้าแล้ว รัฐบาลต้องบุกยึดคืน โดยการขีดเส้นทึบเข้าหากัน (diagram 3)

2. ถ้าหากตั้งรัฐบาลแบบ PEKS จะประสบความสำเร็จ และบุกเข้าไปตีฐานของทักษิณได้ ด้วยการรวมพลัง P คือประชาชนจัดตั้ง+ปัญญาชนผู้ประกอบวิชาชีพ+สื่อเสรี+NGO (diagram 2 )

3. ถ้าหากตั้งสภานิติบัญญัติและรัฐบาลแบบผสม คือมี K E P ตามยถากรรมก็จะต้องเสี่ยง อย่างดีอาจจะเสมอตัว พอรักษาสถานการณ์ไปได้ 6 เดือนหรือ 1 ปี (diagram 1)

สรุป: ขณะนี้เราเลือก model 3 ซึ่งจะพ่ายแพ้ทักษิณในที่สุด เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลจะสามารถ สร้างเส้นทึบไปให้ครบทุกฐาน 3 เหลี่ยม โดยการ mobilize การมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนขึ้นในอัตราเร่ง
ทำไมต้องเร่ง เพราะทักษิณเร็วกว่า!!!



::โดย อาจารย์ปราโมทย์ นาครทรรพ::
โดย อาจารย์ปราโมทย์ นาครทรรพ

__________________________________________

มีจำนวนรูปทั้งหมด 59 รูป ดูกันให้จุใจ





เอาเทียนแห่งธรรม ลน พวกเลวๆซะด้วยเลย
__________________________________________
191006/40'023/782/44'545


Create Date : 19 ตุลาคม 2549
Last Update : 2 พฤษภาคม 2552 23:46:41 น. 0 comments
Counter : 602 Pageviews.

แตนต่อย
Location :
♥ เที่ยว ♥ Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




♣ ท่านใดต้องการนำรูปภาพและหรือข้อมูลในบล็อคนี้ไปใช้ หรือไปทำประโยชน์อื่นใด เมล์มาคุยกันก่อนนะคะ ♣ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539 ♣ ข้อความและรูปภาพทั้งหมดที่ปรากฏบนBlogนี้้ ห้ามมิให้ทำซ้ำดัดแปลง หรือ เผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด ♣ขอบคุณค่ะ ♣

(((ประกาศ)))::จัดทริปพาเที่ยวSwitzerland::ปี 2007
______________________
คลิกฟัง ::เพลงเทียนแห่งธรรม::


:::C l i p VDO ยามเฝ้าแผ่นดิน:::

ClipVDO ::เมืองไทยรายสัปดาห์ ครั้งที่ 34::
ครั้งสุดท้าย-ครั้งต่อๆไปเปลี่ยนชื่อรายการ
เป็นรายากร-ยามเฝ้าแผ่นดิน-



ลงนามถวายพระพร ที่นี่




~

● การ์ตูนจี้เส้น ● TooN ●

♀ เฟรนด์ลิงค์ยังไม่ครบ! ♂

● โค๊ดสี 1 ● โค๊ดสี 2 ●


☆ ในหลวงประกอบพระราชพิธี 090606 ☆
☆คลิ๊กดู คลิปวีดีโอ ได้ที่นี่☆

● คลิ๊กที่นี่ฟังพระราชดำรัส ๔ ธค ๔๘ ●

พระราชดำรัส 260406


▒ วีดีโอ เพลงไอ้หน้าเหลี่ยม ▒

● click ที่นี่ เนื้อเพลง "ไอ้หน้าเหลี่ยม" ●


Blog~ความโหดร้ายที่ตากใบ~กรือแซะ



::::click::Blogการเมือง เรื่องของทุกคนไทย::




● คลิปวีดีโอ ก้าวต่อไปของการต่อสู้ ●
9 พฤษภาคม 2549
โดย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
โดย อ. สังสิต วิริยะรังสรรค์
โดย อ. ปราโมทย์ นาครทรรพ



● เช็คดูซิว่าโดนบล็อคMSNหรือเปล่า! ●
::click::





● since 15.05.06 ●
~20'195~
free hit counter


●จำนวนครั้งที่คลิ๊ก●
09.12.11=187'175
19.01.10=168'006
12.06.09=157'963
:::26.01.08=95'936:::
13.11.07=95'792/26.12.07=10'2016
16.09.07=87'669/02.07.07=76'178
29.03.07=62'492/17.06.07=68'695
16.02.07=59'255/24.02.07=59'956
09.02.07=57'546/12.02.07=58'198
30.01.07=55'830/06.02.07=57'306
09.01.07=53'686/20.01.07=54'730
13.12.06=51'403/20.12.06=51'991
05.12.06=50'533/08.12.06=50'903
30.11.06=49'982/02.12.06=50'193
24.11.06=49'148/26.11.06=49'428
14.11.06=48'034/18.11.06=48'528
03.11.06=47'013/11.11.06=47'690
28.10.06=46'104/02.11.06=46'836
23.10.06=45'180/25.10.06=45'740
18.10.06=44'458/20.10.06=44'763
10.10.06=43'143/13.10.06=43'500
06.10.06=42'124/09.10.06=42'824
03.10.06=41'021/05.10.06=41'802
30.09.06=40'149/01.10.06=40'550
26.09.06=39'441/27.09.06=39'642
20.09.06=37'939/23.09.06=38'839
12.09.06=36'120/18.09.06=36'915
06.09.06=35'225/10.09.06=35'725
02.09.06=34'534/03.09.06=34'702
28.08.06=33'720/30.08.06=34'100
24.08.06=32'852/26.08.06=33'395
20.08.06=32'050/21.08.06=32'265
17.08.06=31'523/19.08.06=31'763
12.08.06=30'650/14.08.06=31'100
07.08.06=29'778/09.08.06=30'100
25.07.06=27'962/28.07.06=28'816
19.07.06=27'039/22.07.06=27'561
16.07.06=26'436/18.07.06=26'946
12.07.06=25'632/14.07.06=26'095
08.07.06=25'012/10.07.06=25'302
05.07.06=24'452/07.07.06=24'788
01.07.06=23'870/04.07.06=24'304
24.06.06=22'335/28.06.06=23'219
10.06.06=21'607/20.06.06=22'105
08.05.06=19'957/09.05.06=20'004
04.05.06=19'663/07.05.06=19'822
09.04.06=18'782/28.04.06=19'505
01.04.06=18'159/05.04.06=18'520
23.03.06=17'346/28.03.06=17'757
16.03.06=16'747/17.03.06=16'807
14.03.06=16'537/15.03.06=16'595
11.03.06=16'046/11.03.06=16'046

●ยอดจำนวนผู้ชม B l o g g a n g●
●และ Profile●
26.01.08/36430/1801
26.12.07/30799/1764
13.11.07/22904/1724
16.09.07/14022/1619
- ยอดเก่าข้างล่าง - 17.06.07/19454/1'435
29.03.07/10'491/1'284
24.02.07/6'205/1'209
16.02.07/5'258/1'187
12.02.07/3'919/1'160
09.02.07/3'376/1'144
05.02.07/2'833/1'126
30.01.07/1'317/1'101
ยอดเป็นศูนย์-เปลี่ยนserver
ให้ BlogGang ใหม่ (24 ม.ค.)
20.01.07/54'169/1'054
090107/52'507/1'020
201206/50'058/959
131206/49'021/946
081206/48'078/930
051206/47'524/927
021206/47'071/921
301106/46'762/913
261106/46'014/903
241106/45'508/896
181106/44'537/885
141106/43'835/870
111106/43'162/858
031106/42'259/837
021106/42'042/834
281006/41'366/819
251006/41'047/808
231006/40'576/799
201006/40'191/786
181006/39'932/780
131006/39'143/761
101006/38'775/756
091006/38'508/751
061006/37'905/742
051006/37'589/740
031006/36'865/732
011006/36'506/727
300906/36'214/718
280906/35'785/709
260906/35'618/703
230906/35'179/691
200906/34'451/682
180906/33'698/668
120906/32'993/640
100906/32'696/632
060906/32'296/612
030906/31'909/596
020906/31'761/589
300806/31'412/577
280806/31'108/561
260806/30'869/552
240806/30'475/522
220806/30'052/503
200806/29'909/493
190806/29'711/485
170806/29'515/472
140806/29'224/461
120806/28'932/449
090806/28'536/428
070806/28'267/420
280706/27'405/388
250706/26'629/381
220706/26'292/371
200706/25'981/366
190706/25'896/363
180706/25'722/360
160706/25'265/358
140706/25'016/356
120706/24'620/348
100706/24'330/346
080706/24'133/336
070706/24'026/333
050706/23'839/325
040706/23'727/322
010706/23'413/318
300606/23'297/318


Friends' blogs
[Add แตนต่อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.