สุดหรูเลย





บ้านเราใช้จานกระเบื้อง + สังกะสี

ฮา.. สองอย่างนี้.. น่ารักไปซะด้วยซ้ำครับ..

พี่ขาอย่างแรกนั่งดูเท่าไหร่ก็ไม่เก็ทค่ะ อย่างที่ 2 พอดูออก วานเฉลยหน่อยค่ะ

คิดถึงน่ะค่ะ พักนี้ไม่ได้เข้าบล็อคแก้งคืเลยค่ะ วันนี้เพิ่ง
ได้มีโอกาสแวะเข้ามา

อย่างแรก เขียนภาษาให้สะใจก็ว่า :::โตจะตาย hA แล้วยังทำอะไรเหมือนเด็กปัญญาอ่อน ดื้อรั้น แถมยังมีอาการไม่ครบสามสิบสอง :::
ภาษาเยอรมันที่เขียนกำกับไว้ แปลว่า "ขอให้อาการดีขึ้น เบบี้!"
นี่สุภาพแล้วนะ เดี๋ยวพวก เ ว ร จั งไ ร ที่ผ่านมาเห็น จะของขึ้นแทนเจ้านาย อ สู ร ตัวนั้นของพวกมัน

กระทั่งพระยังต้องออกมาโปรดพวกมันแล้วก็หลายครั้ง

ฟังข่าวบ้านเมืองได้ที่นี่นะน้อง
//www.uthaisak.com/
//www.fm9225.net/

ส่วนที่นี่ เป็นสถานีวิทยุของพวกสติแตกทั้งหลาย ที่คิดร้ายต่อประเทศชาติ
//www.tttradio.com/
ลองฟังดูเถอะ มันด่ากระทั่งศาลสถิตยุติธรรม ทั้งศาลปกครอง ศาลรัฐธรมนูญ มันว่าท่านเป็น มาร ทางการเมือง ฯ อย่างนี้แล้วคิดกันเอาเองเถิด

...จนในที่สุด เมื่อเช้านี้ ....ทหารออกมาปกป้องประชาธิปไตย ทหารบอกว่า ขอให้ใครอย่าคิดปฏิวัติ โดยเฉพาะรุ่นสิบ มิฉะนั้นคนที่จะแย่คือนายทักษิณ (รุ่น สิบ ที่ว่านี้เป็นพรรคพวกของทักษิณ! )
....คนรอบข้างนายทักษิณขณะนี้เป็น พคท ที่พ่ายแพ้และต้องหนีเข้าป่าไปเมื่อปี 2516
เวลานี้พวกมันมีทุกอย่างอยุ่ในกำมือแล้ว ทั้งอำนาจรัฐสภาซึ่งเป็นฐานกำลังสำคัญ อีกทั้งอำนาจบริหาร ฯ พวกมันก็จึงคิดการใหญ่อีกครั้ง หวังแก้แค้นให้สำเร็จ ฯลฯ

ฟังๆแล้วก็เหมือนหนังเหมือนละคร
การเมืองเป็นเรื่องสนุก แต่ตอนนี้ไม่สนุกแล้วล่ะ เพราะนี่คือประเทศไทยของเราทุกคน

อธิบายได้แค่นี้แหละนะ ถ้าชอบอ่าน ก็ติดตามรวมข่าวการเมืองได้ที่ บล็อคห้องการเมืองด้านซ้ายมือหรือคลิ๊กที่นี่ เป็นบล็อคล่าสุด :::::click::::รักเมืองไทย การเมืองไทย

((((ทักษิณ ออก ไป))))

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)

ผู้บัญชาการทหารบก เผย เตรียมขอเข้าเฝ้าฯในหลวง เพื่อให้พระองค์ทรงคลายทุกข์จากปัญหาบ้านเมือง พร้อมย้ำจุดยืนทหารไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง และไม่ยอมให้รัฐบาลใช้ทหารเป็นเครื่องมือ ลั่น ไม่ยอมให้มีรัฐประหารเด็ดขาด เผย เคยเตือนนายทหารรุ่น 10 ตั้งแต่ผู้ช่วย ผบ.ทบ.จนถึง ผบ.พล 1 อย่าเคลื่อนไหวพลการ

วันนี้ (17 พ.ค.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้ทำหนังสือผ่านตามขั้นตอนเพื่อขอพระบรมราชานุญาตเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะมีความรู้สึกว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์มาก เนื่องจากมีปัญหาบ้านเมืองหลายอย่าง ซึ่งการขอเข้าเฝ้าฯเพื่อให้พระองค์ท่านมีความสบายพระทัย ว่า งานในหน้าที่กองทัพทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการพัฒนากองทัพนั้น จะทำอย่างเต็มที่และสมบูรณ์ที่สุดในส่วนที่กองทัพรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้พระองค์ท่านเป็นห่วงเรื่องนี้

“ผมทราบว่า ในช่วงที่เกิดปัญหาการเมืองท่านจะยืนมองทอดสายตาไปที่ทะเล ผมคิดว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์อย่างที่ผมเคยบอกแล้วว่าพระองค์ท่านทรงเป็นทุกข์ ทหารก็ไม่สบายใจ” ผบ.ทบ.ระบุ

ผบ.ทบ.กล่าวว่า บ้านเมืองขณะนี้มีปัญหา ซึ่งเรื่องทางการเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง สำหรับตนขอยืนยันว่า จะไม่ใช้วิธีทางทหารเข้าไปแก้ไข ทหารอาชีพก็คือจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและการเมืองก็อย่าเข้ามายุ่งกับทหาร แต่ทหารเราต้องทำตามนโยบายของรัฐ ถึงจะเรียกว่าทหารอาชีพ และรัฐต้องดูแลทหารด้วย และอย่าเอาทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง

ผบ.ทบ.ยอมรับด้วยว่า มีคนส่งจดหมายเข้ามาอยากให้ทหารเข้าไปแก้ไขปัญหาการเมือง ในจำนวนทั้งหมดมีกว่า 50% ต้องการให้ทหารแก้ไขปัญหา แต่อีกส่วนหนึ่งเห็นว่าเราวางน้ำหนัก และวางตัวถูกต้องในสถานการณ์การเมืองเช่นนี้ และไม่ต้องการให้ทหารออกมาทำอะไรเช่นในอดีต ในส่วนของตนยังคงย้ำหนักแน่น ว่า จะไม่มีการปฏิวัติแน่นอน เพราะเท่ากับเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย สิ่งที่กองทัพต้องทำในขณะนี้ คือ การให้ความรู้ และต้องทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่ถูกชี้นำ

“การปฏิวัติทหารทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะได้เคยบอกกับน้องๆ โดยเฉพาะเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) ถ้าใครคิดทำอะไรนายกรัฐมนตรีคงแย่ และคิดว่า นายกรัฐมนตรีคงไม่สั่งอะไร เพราะรู้ว่าแต่ละคนมีศักยภาพแค่ไหน ซึ่งผมบอกกับเตรียมทหารรุ่น 10 เสมอว่า หากมีใครทำอะไรนายกรัฐมนตรีจะลำบาก อาทิ พล.ต.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ผบ.พล 1 รอ.ก็มีความสนิทกันดี และน้องๆ รุ่น 10 ที่คุมกำลังทหารก็ฟังผม รวมถึง พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ก็ฟังผมดี ไม่มีปัญหา ผมขอยืนยันว่า เรื่องการปฏิวัติทหารเราทำไม่ได้อยู่แล้ว ผมได้เคยบอกท่านนายกรัฐมนตรี เสมอว่า จะใช้กำลังทหารทำปฏิวัติไม่ได้ เพราะคนที่แย่ คือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งน้องๆ ทหารในกองทัพก็ฟังผมทุกคน” ผบ.ทบ.กล่าว

ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวเชิงลึกมานานหลายสัปดาห์แล้ว ว่า มีความพยายามเคลื่อนไหวอย่างผิดสังเกตจากฝ่ายนายทหารจำนวนหนึ่ง จนนำไปสู่การคาดหมายว่าอาจมีการก่อการรัฐประหารเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ตนได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งรับตำแหน่ง ผบ.ทบ.พระองค์ท่านทรงตรัสถึงเรื่องการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะเรื่องระบบการสื่อสารของทหาร ตำรวจ พลเรือน สามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ รวมถึงการประสานงานร่วมกัน เพราะที่ผ่านมาไม่มีการประสานงานร่วมกัน และงานด้านการข่าวของทหารไทยไม่ค่อยดี ซึ่งจะต้องเน้นเรื่องการข่าวเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า การทำงานการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีปัญหากับฝ่ายการเมืองหรือไม่ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ถึงแม้จะแตกต่างกันทางด้านความคิด เราทำงานร่วมกันได้

เมื่อถามว่า เหลือเวลาอีก 1 ปี ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.หากรัฐบาลมอบหมายให้รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ คิดว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คิดว่าถ้าให้ทหารรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาก็คงจะบรรลุผลมากขึ้น แต่ถ้าเกิดให้ทำงานร่วมกันก็ไม่เป็นปัญหา เพราะกองทัพไม่มีความขัดแย้งกับใคร เราจะนำสิ่งที่ไม่เหมือนกันมาเป็นพลัง ถ้าเมื่อไหร่ที่เราทะเลาะกัน อีกฝ่ายจะยิ้ม เราต้องทำให้เกิดความสามัคคี นอกจากนี้ ตนคิดว่าหากมีการจ้างงานหนึ่งแสนคนโดยนำคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเข้ามาทำงาน การแก้ไขปัญหาจะคืบหน้ามากขึ้น เพราะที่เราจ้าง 3-4 หมื่นคน ซึ่งไม่ได้ผล เพราะไม่ใช่คนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000064799

ความคิดเห็นที่ 31

ตำรวจทำให้นายสมชาย หายไปแล้ว สองปีกว่า ถ้าทหารทำให้นายทักษิณหายไปได้แบบนายสมชาย ภาคใต้จะสงบ พระองค์ท่านคงคลายพระทัยได้

ตั้งแต่ทักษิณขึ้นมาเวลามีพระราชดำรัสของพระองค์ออกมา ผมไม่เคยได้ฟังว่าพระองค์ทรงพระเกษมสำราญเลย ขอ ผบ ทบ อย่าได้เห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมรุ่นจนบ้านเมืองวิกฤตที่สุด ดั่งคำพระราชดำรัส

ผมเชื่อว่าถ้าท่าน ผบ ทบ ก็รู้ว่าทักษิณกำลังจะทำให้บ้านเมืองล่มสลายจนสิ้น ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เวลานี้เพียงออกมาพูดว่าทหารไม่ยุ่งการเมืองเด็ดขาด มันไม่พอหรอก เพราะตำรวจ หน่วยงานอิสสระ กรมกอง ต่างๆล้วนถูกทักษิณยึดไปหมดแล้ว ลำพังชาวบ้านธรรมดาๆ จะไปสู้รบปรบมือกับผู้มีอิทธิพลอำนาจได้อย่างไร ดูได้จากการกระทำ คำพูดของทักษิณกับพวก หามีความเกรงในพระบารมี พระบรมเดชานุภาพ ไม่ ยิ่งท่าน ผบ ทบ มาพูดเป็นกลางแบบนี้ทักษิณก็ยิ่งได้ใจว่าไม่มีใครปรามมันได้ มันและพวกทำผิดกฎหมายมันก็เลี่ยงไปได้เรื่อยๆ(เวลาชาวบ้านจับได้ว่าผิด)เพราะบ้านเมืองและกลไกของรัฐมันคุมหมด ท่าน ผบ ทบ ก็รู้ทุกอย่าง(ผมเชื่อว่าท่านรู้)แต่ยังปล่อยให้มันกำเริบอยู่อีก ก็อย่าบอกเลยว่าจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน อย่าบอกเลยว่าเป็นทหารของพระองค์ท่าน

ผมต้องขอโทษต่อท่านที่กล่าวเช่นนี้ แต่ท่านก็รู้ว่าคนที่ทำให้พระองค์เป็นทุกข์นั้นเป็นใคร แต่ท่านเห็นแก่คำว่าเพื่อน จนละเลยไม่ปฎิบัติหน้าที่ ทหารที่จงรักภักดี ทหารของพระเจ้าอยู่หัว

ในอนาคตถ้ามีคนถามว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงกังวลพระหฤทัยในยุคของ รัฐบาลใด ใครเป็นแม่ทัพในยุคนั้นบ้าง พวกท่านจะตอบกันอย่างใด???

ถึงเวลาแล้วที่พวกท่านต้องมีการแสดงตัวออกมาบ้าง ไม่ใช่ออกมาแต่คำพูดที่เป็นกลางอย่างนี้ อย่างน้อยๆก็พูดให้กำลังใจประมุขศาลสูงทั้งสามท่าน ให้ท่านทั้งสามมีกำลังใจสู้ต่อไป และให้ศาลรู้ว่ามีพวกท่านอยู่เคียงข้าง (นี่ถ้าท่านประมุขศาลทั้งสามหายไปแบบทนายสมชายท่านจะว่าอย่างไร)ไม่โดดเดี่ยว จะได้กล้าตัดสินใจ

สมมุติว่าศาลตัดสินว่า กกต และทักษิณ ผิดต้องโทษอาญาใครจะเป็นคนจับคนพวกนี้ในเมื่อกลไกของรัฐถูกอำนาจเงินครอบไว้สิ้น ก็เหลือแต่พวกท่านแหละทหารที่จงรักภักดี ทหารของพระมหากษัตริย์ หรือทหารที่เป็นกลาง
ขอเคารพด้วยน้ำตา
ปชช คน1

โอว .... จานทอง ช้อนทอง หรูเริ่ด

ความคิดเห็นที่ 33

.........ลองอ่าน พรบ นี้ดูหน่อยน่ะ กฎหมายขายชาติขายแผ่นดิน ฉบับนี้ออกเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2548
โดยรัฐบาลทักษิณ
ร่าง พ.ร.บ. เขตเศรษฐกิจพิเศษ
มาตรา 23) ให้มีอำนาจ ถมทะเล หรือเวนคืนและเมื่อพัฒนามาแล้ว มีอำนาจการขาย เช่า ซื้อ ให้เช่า
หรือแลกเปลี่ยนได้

มาตรา 26) ให้ต่างชาติ เช่าที่ดินได้ไม่ต่ำกว่า 50 ปี แต่ไม่เกิน 99 ปี

มาตรา 27) การให้เช่าหรือเช่าช่วงที่ดิน เกิน 100 ไร่ ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมที่ดินและ
เงื่อนไขสัญญาจะต้องให้เช่าช่วงได้

มาตรา 29) เศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจ ถมทะเล เพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดิน

มาตรา 30 )ผู้ว่าการและเจ้าหน้าที่ของเศรษฐกิจพิเศษ มีอำนาจเข้าไปครอบครองใช้ประโยชน์หรือ
หาประโยชน์ในป่าสงวนแห่งชาติ เขตคุ้มครองและรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอุทยาน
แห่งชาติได้

มาตรา 31) ให้ถอนสภาพที่ดินที่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดินตกเป็นของเขตเศรษฐกิจพิเศษโดย
ไม่ต้องถอนสภาพหรือโอนตามประมวลกฎหมายประมวลที่ดิน

มาตรา 34 )บรรดาอสังหาริมทรัพย์ของเศรษฐกิจพิเศษได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียน
สิทธิ์ และนิติกรรมทั้งปวงและได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ด้วย

มาตรา 50) ให้มีอำนาจ ถมทะเล ไห้มีอำนาจจัดให้มีไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ และระบบเทคโนโนยี
สารสนเทศโดยอิสระให้ร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นทั้งในและต่างประเทศได้

มาตรา 51) ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ การดำเนินการใดๆต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐ
ให้เขต เศรษฐกิจพิเศษมีอำนาจการดำเนินการดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต

มาตรา 52 )การดำเนินการใดที่กฎหมายบังคับให้ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐก่อน เช่น
ใบอนุญาตต่างๆหากได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าเศรษฐกิจพิเศษ หรือจดทะเบียน หรือแจ้งกับ
เศรษฐกิจพิเศษแล้วให้ถือเสมือนว่าได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐแล้ว

มาตรา 58) การจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด เขตเศรษฐกิจพิเศษสามารถดำเนินการจัดตั้งขึ้นเองได้

มาตรา 62 )สิทธิ์ของผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบการหรืออยู่อาศัยของเศรษฐกิจพิเศษ คือ

(1.) สิทธิ์ในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆของคนต่างด้าว
(2.) สิทธิ์ในการนำคนต่างด้าวเข้ามาอยู่อาศัยในราชอาณาจักร
(3.) สิทธิ์ในการนำเงินหรือส่งเงินไปนอกราชอาณาจักร
(4.) สิทธิ์ในการได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
(5.) สิทธิในการถือครองหรือเปิดบัญชีเงินฝากเป็นเงินตราต่างประเทศกับสถาบันทางการเงิน
(6.) สิทธิที่จะได้รับการยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากร

มาตรา 65) คนต่างด้าวที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ไม่จำกัดเวลา
(1.) ช่างฝีมือ
(2.) ผู้บริหาร หรือ ผู้ชำนาญการ
(3.) คู่สมรสและบุคคลที่อยู่ในอุปการะตาม (1) และ (2)
มาตรา 66 บุคคลต่างด้าวที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษได้เฉพาะเวลาทำงาน ( ถ้าทำงานตลอดชีวิตก็อยู่ได้ตลอดชีวิต )
คือ แรงงานไร้ฝีมือ (สรุปแล้วมันมาอยู่ทุกคน )

มาตรา 69) สิทธิพิเศษของผู้อยู่อาศัยในเขตเศรษฐกิจพิเศษ
(1.) สิทธิในการหักค่าใช้จ่ายก่อนการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกเหนือจากที่กำหนดไว้
ในประมวลกฎหมายรัษฎากร
(2.) ได้รับการลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล
(3.) ได้รับการลด หรือ ยกเว้นอากรขาเข้า ภาษีสรรพสามิตและค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมาย
ว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
มาตรา 70 การผลิตสินค้าเพื่อพานิชยกรรมได้รับอากร ขาเข้า- ขาออก ภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีสรรพสามิต ค่าธรรมเนียมอื่นๆ

มาตรา 71) วัสดุที่นำเข้าราชอาณษจักรเพื่อผลิตสินค้าไม่ต้องควบคุมคุณภาพหรือมาตราฐาน ไม่ต้องขอหรือมีใบอนุญาตนำเข้า

มาตรา 76 )รายได้ที่เก็บได้ให้ตกเป็นของเศรษฐกิจพิเศษจะส่งคืนรัฐกรณีเหลือ แต่ถ้าหากรายได้ขาดไม่พอบริหาร
ต้องใช้เงินภาษีของประชาชนจ่ายให้

มาตรา 78) ทรัพย์สินของเศรษฐกิจพิเศษไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ยึดทรัพย์ไม่ได้

มาตรา 99 )คนไทยเข้าไปเขตเช่าของต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 200000 บาท

รู้หรือยังใครทำให้พระองค์ระคายเบื้องยุคลบาท
สมพล

“เจิมศักดิ์”เตรียมแฉ “แอร์เอเชีย” บนเวทีสวนลุมฯ 20 พ.ค.นี้

แฉชินคอร์ปฯ เป็นร่างเป็นสิงคโปร์เต็มรูปแล้ว ต่างชาติถือหุ้นกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เข้ากอบโกยผลประโยชน์คนไทย “เจิมศักดิ์”เตรียมนำคนไทยการบินไทย ขึ้นเวทีแฉผลประโยชน์ทับซ้อน “แอร์เอเชีย” เสาร์ 20 พ.ค.นี้ ที่สวนลุมพินี

รายการ “รู้ทันประเทศไทย” ออกอากาศทาง ASTV คืนวันที่ 17 พ.ค. 49 ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ดำเนินรายการ ได้สนทนากับ นายกรณ์ จาติกวณิช คณะทำงานพรรคประชาธิปัตย์ และนายสัก กอแสงเรือง อดีตนายกสภาทนายความ รักษาการ ส.ว. กรุงเทพฯ ในหัวข้อเรื่อง “รู้ทันขายหุ้นชิน” โดยผู้ร่วมสนทนาได้ร่วมกันวิเคราะห์ว่า สถานภาพของบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ยังเป็นของคนไทยอยู่หรือไม่ หลังจากตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ได้ขายหุ้นให้กับกลุ่มเทมาเส็กของสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2549 ที่ผ่านมา

จากข้อมูลที่ผู้ร่วมสนทนายกขึ้นมา ชี้ชัดว่า ขณะนี้ถือว่าชินคอร์ปฯ เป็นของต่างชาติไปแล้วกว่าร้อยละ 90 แม้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นจะมีบริษัทสัญชาติไทยถือหุ้นร้อยละ 55 แต่ในบริษัทสัญชาติไทยเหล่านั้นก็มีต่างชาติถือหุ้นข้างในอีกหลายชั้น

นายกรณ์ กล่าวว่า ในแง่กฎหมาย อาจต้องมีการพิสูจน์หลายขั้นตอนว่า ชินคอร์ปฯ ขณะนี้ยังเป็นของคนไทยอยู่หรือไม่ แต่ถ้าจะดูที่ “หัวใจ” ตอนนี้ถือว่าชินคอร์ปฯ มีหัวใจเป็นสิงคโปร์แน่นอน เพราะในสัดส่วนของบริษัทสัญชาติไทยที่ถือหุ้นชินคอร์ปฯ อยู่ร้อยละ 55 นั้น มีบริษัทซีดาร์ถือหุ้นอยู่ ซึ่งแม้ว่าซีดาร์จะเป็นบริษัทสัญชาติไทย เนื่องจากมีบริษัทกุหลาบแก้วถือหุ้นอยู่ร้อยละ 51 แต่ที่เหลือก็เป็นไซเพรสโฮลดิ้ง จากสิงคโปร์ นอกจากนี้เมื่อดูผู้ถือหุ้นในบริษัทกุหลาบแก้วนั้น ก็มีเทมาเส็กถือหุ้นอยู่อีกร้อยละ 49 ที่เหลือร้อยละ 51 เป็นของคนไทย แต่ก็เป็นหุ้นบุริมสิทธิ์

นอกจากนี้ ภายหลังจากที่เทมาเสกซื้อเหมาหุ้นชินฯไป 49 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 49 หลังจากนั้น เทมาเส็กจะต้องมีการตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากรายย่อย หรือ เทนเดอร์ออฟเฟอร์ ตามกฎของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะฉะนั้นสัดส่วนการถือหุ้นของเทมาเส็กจริงๆ จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญ ไม่ใช่การถือหุ้นอย่างเดียว ยังมีอำนาจการจัดการบริษัท การแบ่งผลประโยชน์ และความเป็นเจ้าของ จะเห็นว่าเป็นของสิงคโปร์เกือบทั้งหมด เพราะหุ้นที่คนไทยถือโดยผ่านบริษัทกุหลาบแก้ว เป็นหุ้นบุริมสิทธิ์ ซึ่งผู้ถือมีสิทธิในการออกเสียง และการแบ่งผลประโยชน์น้อยกว่าหุ้นปกติ 10 เท่า

“คุณพงศ์ สารสิน ที่ถือหุ้นในกุหลาบแก้ว 51 เปอร์เซ็นต์ แต่มีสิทธิรับผลประโยชน์แค่ปีละ 3 เปอร์เซ็นต์ของเงินทุนที่ลงทุน อำนาจในการตัดสินใจก็น้อยกว่าหุ้นสิงคโปร์ 10 เท่า ซึ่งในวันที่แถลงข่าว เทมาเสกเข้ามาซื้อหุ้นชินฯ คณพงศ์ ก็บอกว่า ผมเป็นแค่ proxy ซึ่งก็มีความหมาย เท่ากับ นอมินี หรือตัวแทนเชิด เพราะฉะนั้น การให้คนไทยถือหุ้นในกุหลาบแก้วร้อยละ 51 จึงเป็นการสร้างภาพลวงตา”นายกรณ์กล่าว

ด้านนายสัก ได้กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเมื่อปี 2542 ทำให้ ต่างชาติเข้ามาตั้งบริษัทนอมินีในไทยได้ง่ายขึ้น เพราะแต่เดิมการถือหุ้นประกอบธุรกิจคนต่างด้าว จะมีการตรวจสอบการถือหุ้นของบริษัทย่อยทุกชั้น จนถึงที่สุด เพื่อให้เห็นว่าเป็นหุ้นของคนไทยจริงๆ ไทยเท่าไหร่ เป็นของต่างด้าวเท่าไหร่ นอกจากนี้มีการกำหนดสัดส่วนของกรรมการบริษัท คนต่างด้าวต้องน้อยกว่าคนไทย เพื่อป้องกันการใช้นอมินีเข้ามาฮุบธุรกิจของคนไทย แต่หลังจากมีการแก้กฎหมายแล้ว การดูสัญชาติบริษัท ก็ดูแค่ชั้นเดียว การกำหนดสัดส่วนกรรมการบริษัทที่เป็นต่างด้าวกับคนไทยก็ยกเลิกหมด ด้วยเหตุนี้ บริษัทกุหลาบแก้วจึงอยู่ในบังคับบัญชาและการบริหารของสิงคโปร์ แม้ว่าโดยสัดส่วนคนไทยถือหุ้นมากกว่า

ทั้งนี้ เมื่อชินคอร์ปฯ ตกเป็นของต่างชาติ ย่อมจะกระทบกับหลายบริษัทที่อยู่ในกลุ่มชิน อาทิ ไอทีวี แอร์เอเชีย เอไอเอส ชินแซตเทิลไลต์ ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงและผลประโยชน์โดยส่วนรวมของชาติ ซึ่งกรณีนี้ วุฒิสภาได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาตรวจสอบ

นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการ ส.ว.กทม.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึง กรณีแอร์เอเชียว่า ภายหลังจากเทมาเส็กเข้ามาซื้อหุ้นชินฯ ถือว่า แอร์เอเชียเป็นของต่างชาติโดยปริยาย เพราะเดิมมีมาเลเซียถืออยู่ 49 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามได้มีการตั้งบริษัทสัญชาติไทยที่เป็นนอมินีของสิงคโปร์เข้ามาถือหุ้นแทนในสัดส่วนของชินคอร์ปฯ เพื่อให้ยังเป็นบริษัทของคนไทย

อย่างไรก็ตาม นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า กรณีแอร์เอเชีย ถือเป็นการยกประโยชน์ด้านสายการบินให้ต่างชาติ โดยเฉพาะการที่สายการบินนี้ ได้เส้นทางบินที่การบินไทยเคยบินและมีกำไรดี หลายเส้นทาง รวมทั้งได้สิทธิการบินอีกมากมาย ซึ่งในวันเสาร์ ที่ 20 พ.ค. จะเอาคนข้างในการบินไทย มาแฉบนเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ภาคพิเศษ “คอนเสิร์ตการเมือง” ที่สวนลุมพินี ให้เห็นว่ารัฐบาลนี้มีการเอื้อประโยชน์ให้กับเอเชียอย่างไร

นายกรณ์ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้เท่ากับว่า แอร์เอเชียกลายเป็นคนต่างด้าวเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะผิด พ.ร.บ.ต่างด้าว โดยเฉพาะในข้อบังคับเกี่ยวกับธุรกิจการบิน ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า คนต่างด้าวไม่สามารถถือหุ้นเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นแอร์เอเชียควรจะระงับกิจการตั้งแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้นการบินรับผู้โดยสารของแอร์เอเชียหลังจากมีการเปลี่ยนโครงสร้างของผู้ถือหุ้น ถือเสมือนว่า เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ขณะที่สัก กล่าวว่า ธุรกิจบินเป็นธุรกิจทางด้านความปลอดภัยและความมั่นคง ถ้าจะอนุญาตให้คนต่างด้าวได้ก็ต้องเป็นอำนาจของรัฐมนตรี ที่จะอนุญาตให้เป็นพิเศษ แต่โดยหลักๆ ของเรื่องสายการบิน จะเน้นให้เฉพาะสายการบินในประเทศไทยมาดำเนินการทางธุรกิจ ไม่ควรที่อนุญาตให้คนต่างด้าวทำ นอกจากนี้ยังต้องดูว่า ประเทศของเจ้าของสายการบินนั้น อนุญาตให้คนไทยไปตั้งสายการบินต่างด้าวในประเทศเขาได้หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่คงจะไม่อนุญาต

นายสัก กล่าวว่า กรณีที่ของแอร์เอเชียไม่ได้เกิดเฉพาะการอนุญาตเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารที่ไปยกเลิกกฎเกณฑ์ของกกรมการบินพลเรือนในเรื่องการกำหนดอัตราค่าโดยสารขั้นต่ำ เพื่อให้เกิดแอร์เอเชีย ซึ่งเรื่องนี้ถ้ามีการตรวจสอบอย่างละเอียดคงพบอะไรที่ผิดปกติอีกมาก

ต่อคำถามของนายเจิมศักดิ์ ที่ตั้งข้อสังเกตว่า การขายหุ้นชินฯ อาจรวมไปถึงการขายสัมปทานดาวเทียวไทยคมด้วยหรือไม่ นายกรณ์ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นประเด็นที่ทุกคนเป็นห่วง เพราะว่าธุรกิจดาวเทียมเป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์ต่อความมั่นคงของประเทศโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นแง่ข้อมูลลับ การเข้าถึงตัวโคจรของดาวเทียมที่รับมาในฐานะที่เป็นบริษัทของไทย

นายกรณ์ ยังกล่าวถึงการซื้อหุ้นชินฯของเทมาเส็กอีกว่า วันนี้เทมาเส็กเข้ามาซื้อหุ้นชินฯ เทมาเส็กถูกบังคับโดยกฎหมายหลักทรัพย์ ให้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในทุกบริษัทที่เทมาเส็กถือหุ้นเกิน 25 เปอร์เซ็นต์ แต่เทมาเส็กเข้าไปเจรจากับ กลต.เพื่อขอตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นจากเอไอเอสบริษัทเดียว ส่วนไอทีวีกับชินแซตเทิลไลต์ กับไอทีวี เทมาเส็กขออนุโลม เพราะว่าไม่เจตนาที่จะได้สองกิจการนี้ แต่ได้ไปเพราะมันพ่วงกับหุ้นชินฯ ที่เทมาเส็กซื้อไป และความต้องการเทมาเส็กต้องการซื้อหุ้นของเอไอเอสเพียงอย่างเดียว

“ตั้งแต่มีการประกาศซื้อขายหุ้นกันระหว่างเทมาเส็กกับชินฯ ปรากฏว่า เทมาเส็กขาดทุนไปแล้วประมาณ 3,800 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามระดับความเสี่ยงที่เทมาเส็กได้ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ เพราะผลพวงที่ตามมาหลังหลังครอบครัวชินวัตรประกาศขายหุ้น น่าจะเกินความคาดฝันและการคาดการณ์ของผู้ขายและผู้ซื้อที่ไม่คาดคิดว่า จะมีผลภัยตามมามายถึงขนาดนี้ “นายกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

ปัจจุบัน คงไม่มีคนเรียกอย่างนั้นแล้วล่ะครับ มีแต่เรียกว่า เหลี่ยมจัด




ปล. มีเพลงใหม่มาให้ฟังแล้วนะครับ แวะไปเที่ยวบล็อกได้เสมอครับ

เกิดมายังไม่เคยกินข้าวกับช้อนทอง จานทองเลย (ทองแท้นะ) อิจฉาคนรวยจัง

ผบ.ทบ.สั่งอารักขา “ป๋าเปรม” ข้ม หวั่นมือดีป่วนซ้ำรอย



“พล.อ.สนธิ บุญยรัตกริน” สั่งเจ้าหน้าที่อารักขา “ป๋าเปรม” ดูแลบ้านสี่เสาเทเวศน์เข้ม หวั่นกลุ่มไม่หวังดีป่วนสร้างสถานการณ์โยงการเมืองซ้ำสอง ขณะที่“บรรหาร-อัยการสูงสุด”รุดเข้าพบ

วานนี้(18พ.ค.) มีรายงานข่าวว่า นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด เดินทางเข้าพบพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศน์ และล่าสุดนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เดินทางเข้าพบพล.อ.เปรมในช่วงเย็น ซึ่งเดิมทีพล.อ.เปรมต้องไปออกรอบตีกอล์ฟในช่วงเย็นวานนี้(18 พ.ค.)

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวด้วยว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกริน ผบ.ทบ.ได้ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพล.อ.เปรมเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น โดยได้สั่งให้ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด นอกเหนือการดูแลรักษาความปลอดภัย หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดที่หน้าบ้านพล.อ.เปรมแล้วครั้งหนึ่ง ได้สั่งเพิ่มรักษาความปลอดภัยอีกครั้งโดยเฉพาะช่วงนี้ เนื่องจากเกรงว่า กลุ่มผู้ไม่หวังดีอาศัยช่วงนี้สร้างสถานการณ์โยงการเมือง

ความคิดเห็นที่ 54
คิดดูให้ดีซิท่าน มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ บอกตรงๆว่าไม่ค่อยไว้ใจ ผบ.ทบ.ซักเท่าไร โปรดระวังตัวกันนะคนไทย ไม่รู้ว่าท่านส่งคนไปอารักขาท่านเปรม หรือท่านส่งคนไปควบคุมกันแน่ ควบคุมไม่ให้ฝ่ายตรงกันข้ามทากสินเข้าถึงท่านเปรมงัย เพราะท่านเปรมยังคงเป็นที่เคารพรักของคนทั้งประเทศอยู่โดยอย่างย่ง ทหารกลุ่มใหญ่พอสมควร เราไม่รู้จริงๆว่า ผบ.ทบ.ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆหรือไม่ ท่านเปรมท่านคงรู้ดี ท่านพลางกูร กล้าหาญ และท่านอู๊ด เบื้องบน คงรู้ดี แต่ประชาชนอย่างเราๆไม่รู้เพราะฉะนั้น ต้องคิดให้ด๊ว่าแท้จริงแล้วผบ.ทบ.พวกทากสินใช่หรือไม่ ท่านช่วยอารักขาป๋าจริงหรือไม่ หรือไปควบคุมตัวท่านไว้เป็นตัวประกันหาก ช่วงนี้มันอึมครึมแปลกๆอยู่นะท่านมันแปลกตั้งแต่ไอ้ทาก สินนรกนั่นแล้ว ถ้ามันไม่มีไม้เด็ดมันไม่สบายใจอยู่แบบนั้นหรอกนะ มันอาจจะกำลังใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ทำให้พวกเราตายใจ แล้วมันก็ทำการใหญ่ในบัดดล เมื่อกลุ่มพันธมิตรเริ่มหมดกำลังจับกลุ่มกันไม่ได้ วายร้ายอย่างทักษิรจะออกฤทธิ์ ท่านลองคิดดูซิ อยู่ๆผู้นำปากหมาอย่างทักษิณไม่โต้ตอบนักข่าวเลย มันเป็นไปได้หรือ โปรดระวังบุคคลสำคัญทุกคนไว้ให้ดี ตอนนี้ไอ้ทาก นรก มันสั่งให้ไอ้คงศักดิ์หน้าโง่เรียก ผบ.เหล่าทัพมาพบ มีนัยสำคัญทีเดียวนะท่าน สำคัญมากๆเสียด้วย โปรดจับตาดูไว้ให้ดี
กกก

ความคิดเห็นที่ 53
คห.44 (มาเฟีย) เสธ.คนที่จะมาให้ช่วยปราบนะคุณเข้าใจผิดแล้ว คนนี้ส่งสัยว่าจะเป็นคนสร้างสถานการณ์ เพราะเป็นกำลังของผู้มีอำนาจ เขากลัวท่านประธานองคมนตรี จะรายงานความชั่วของผู้มีอำนาจ
::::อดีตทหารไทย ::::

ความคิดเห็นที่ 52
ผบ.ทบ. ควรสั่งอารักษ์ขาตัวเอง เพราะคนที่จะยึดอำนาจคือหน่วยคุมกำลังระดับนายพันไม่ใช่ผบ. ทบ.
ระวังกลุ่มเสธฯไอซ์ เสธฯหิมาลัย อันธพาลในคราบทหารกลุ่มนี้ผูกขาแน่นบึ๊กกับ ทรท. ขึ้นตรงกับ พล.เอก ธรรมรักษ์
เมียเสธฯไอซ์ ได้รับการเลือกตั้งเป็น สว. กทม. ชุดใหม่ ทั้งที่คนกรุงเทพแทบไม่รู้จักเลย ก็ล้วนเป็นคะแนนจัดตั้งของ ทรท.
แล้วก็เสธฯไอซ์คนนี้นี่เองที่เอาเงินไปให้นายทวีเอาไปจ่ายพรรคเล็ก บนชั้น 2 ของอาคารดีแทคเก่า บนถนนวิภาวดี
ทรท. ยังเซ็ง

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000065487

พล.อ.คงศักดิ์ วันทนา รักษาการ รมว.มหาดไทย

“คงศักดิ์ วันทนา”นัดผบ.เหล่าทัพสังสรรค์เนื่องในโอกาสครบรอบวันแต่งงาน 2 ปี หวังกลบกระแสข่าวบิ๊กทหารบางรุ่นรวมตัวปฏิวัติ ขณะที่อดีตผบ.ทอ.ไม่หวั่นหากส.ส.ไทยรักไทยติงผบ.เหล่าทัพวางตัวไม่เหมาะสม คุยทหารไม่นำประเด็นนี้มาตอบโต้อย่างแน่นอน

เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้(18 พ.ค.) ที่บ้านพัก พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทยได้มีบรรดา ผบ.เหล่าทัพ อาทิ พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลินผบ.ทบ.พล.ร.อ.สถิรพันธ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือพร้อมด้วยภริยา ได้เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารกับพล.อ.อ.คงศักดิ์ เนื่องในโอกาสวันครบรอบวันแต่งงาน 2 ปีของพล.อ.อ.คงศักดิ์ และนางสลิลาวัลย์ ภริยาทั้งนี้การรับประทานอาหารขาดแต่เพียง พล.อ.อ.ชลิต ผุกผาสุก ผบ.ทอ.เนื่องจากติดภารกิจต่างประเทศ

ทั้งนี้ พล.อ.อ.คงศักดิ์ เปิดเผยถึงการรับประทานอาหารในวันนี้ว่าเป็นการนัดทานข้าวเนื่องจากภรรยาเป็นคนนัดเมื่อมีเวลาลงตัวแล้วจึงได้เเชิญผบ.เหล่าทัพมาร่วมรับประทานอาหารขาดเพียงผบ.ทอ.ที่ติดธุระต่างประเทศเท่านั้นโดยในการรับประทานอาหารร่วมกันในวันนี้จะไม่มีการพูดคุยเรื่องปัญหา3 จว.ใต้รวมถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้เพราะว่ามีภรรยาของแต่ละคนร่วมวงอยู่ด้วยหากพูดไปคงไม่เหมาะสมการนัดทานข้าวในวันนี้เป็นการพูดคุยส่วนตัวมากกว่า

เมื่อถามว่า ส.ส.พรรคไทยรักไทย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผบ.เหล่าทัพที่วางตัวไม่เหมาะสมที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองนั้นพล.อ.อ.คงศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบและไม่มีความเห็นแต่การวิพากษ์วิจารณ์เห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของส.ส.ที่พูดกัน สมัยตนก็เคยถูกสส.พรรคไทยรักไทยตำหนิหลายครั้งอย่างไรก็ตามทหารคงไม่นำประเด็นนี้มาตอบโต้กัน

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000065543

มาลงชื่อค่า ย่าสบายดี แต่คุณพ่อไม่ค่อยสบายจ้า

“โพธิพงษ์” ยื่นยูเอ็นประจานกลโกง กกต.- ระบอบทักษิณ

“โพธิพงศ์ บรรลือวงศ์” ยื่นหลักฐานให้ยูเอ็นแฉกลโกง กกต.- ระบอบทักษิณสมคบกันฉ้อฉล จัดเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม พร้อมเตรียมส่งผลสอบอนุฯ กกต.ชี้ มูลพรรคไทยรักไทยจ้างพรรคเล็กลงสมัครเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้กระทรวงการคลังฟ้องเรียกค่าเสียหายคือหลวงจากการจัดการเลือกตั้งมิชอบด้วย

วันนี้ (18 พ.ค.) นายโพธิพงศ์ บรรลือวงศ์ อาจารย์พิเศษ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ในฐานะคณะทำงานสอบสวนการกระทำผิดกฎหมายและสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย และคณะ เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมผ่านตัวแทนองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประจำประเทศไทย ในเรื่องการตรวจสอบกระบวนการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่งได้ยื่นไปแล้วก่อนหน้านี้

นายโพธิพงศ์ กล่าวว่า เอกสารเพิ่มเติมเป็นเอกสารภาษาอังกฤษ ที่ชี้ให้เห็นถึงการบริหารงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ผ่านมา ว่า ก่อให้เกิดปัญหาอย่างไรบ้าง ซึ่งจะเป็นประเด็นเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันจากการดำเนินงานของ กกต.ที่ทำให้การใช้อำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง เพราะเกิดเรื่องการทุจริตในการเลือกตั้งอย่างมากมาย รวมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 52/2546 ระบุว่า กกต.มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นที่มาของการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากการพิพากษาของศาลปกครองเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีความชัดเจนว่า กกต.ไม่สามารถอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเรื่องอำนาจการจัดการเลือกตั้งได้

นายโพธิพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะมอบเอกสารเพิ่มเติมอีก ซึ่งเป็นผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการ กกต.ที่เผยแพร่ในสื่อมวลชนเรื่องพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย และในวันนี้ เวลาประมาณ 14.00 น.จะเดินทางไปยังกระทรวงการคลังเพื่อยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงการคลังเรียกร้องให้หาคนรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549

“โพธิพงษ์” ยื่นยูเอ็นประจานกลโกง กกต.- ระบอบทักษิณ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤษภาคม 2549 14:25 น.
//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000065205

mms:.manager.co.th/videoclip/11News1/Thursday/CR003_180506_1200.wmv
มีคลิปวีดีโอ

.
.
ใครกันแน่ หมิ่นในหลวง
ใครกันแน่ ห่วงหวง ประเทศนี้
ใครกันแน่ จงรัก ภักดี
ใครกันแน่ กตัญญูกตเวที ต่อแผ่นดิน

ใครกันหนอ เคยยืน ข้างประชา
ใครกันหนอ พฤษภา เคยกล้าหาญ
ใครกันหนอ เป็นหมา รับใช้มาร
ใครกันหนอ ปกป้องพาล ป้ายสีเรา

ใครกันแน่ รักแผ่นดิน ถิ่นเกิดกาย
ใครกันแน่ ขายชาติ พินาศสิ้น.........ทักษิณ!
ใครกันแน่ โกหกคน ทั้งแผ่นดิน.........ทักษิณ!
ใครกันแน่ โกงกิน ทมิฬมาร.........ทักษิณ!

ใครกันหนอ รวยล้นฟ้า บ้าอำนาจ.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ ขายชาติ อุบาทว์ชั่ว.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ งก - โลภ เห็นแก่ตัว.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ โฉดชั่ว ขม้ำเมือง.........ทักษิณ!

ใครกันหนอ ขึ้นวอ เป็นคางคก.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ เป็นชูชก งก – โลภ - ดื้อ.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ จะปิดฟ้า ด้วยสองมือ.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ รื้อกฎหมาย ขายไฟฟ้า .........ทักษิณ!

ใครกันแน่ แหกตา ประชาชน.........ทักษิณ!
ใครกันแน่ คิดปล้น ประเทศนี้.........ทักษิณ!
ใครกันแน่ เหลิงอำนาจ ทำอวดดี.........ทักษิณ!
ใครกันแน่ ทำบัดสี F-T-A.........ทักษิณ!

ใครกันหนอ ล่อหลอก ประชาชน.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ ฉ้อฉล คอร์รัปชั่น.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ ปิดสื่อ เขาลือกัน.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ ปิดกั้น สิทธิเสรี.........ทักษิณ!

ใครกันหนอ ยึดประเทศ เป็นบริษัท.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ ชอบประหัต ประหารยิ่ง.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ หวาดกลัว ความจริง.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ เย่อหยิ่ง ไม่ฟังใคร.........ทักษิณ!

ใครกันหนอ อยากแดก กฟผ.! .........ทักษิณ!
ใครกันหนอ ซื้อ สว. สส.สิ้น.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ โลภนัก หนักแผ่นดิน.........ทักษิณ!
ใครกันหนอ โหดทมิฬ กินคนเดียว.........ทักษิณ!

วสันต์ สิทธิเขตต์
.
.
PANTIP.COM

คุณแหม่มเชื่อเรื่องกรรมไหมคะ

หากเชื่อ

ทุกอย่างก็เป็นไปตามกรรม

เรื่องที่เอามาลงเรื่องแรก ฮามากค่ะ

อ่านแล้ว ก๊าก เลย

ฮิฮิ มีอะไรเมลคุยกันดีก่า

เพราะแม่โสมอยู่เมืองไทย

และต้องพบเจอกับใครต่อใครอีกมาก

พานจะโดนอย่างที่เคยโดน และ ที่บ้านพ่อแม่ก็จะโดนอย่างที่เคยโดน

หึหึ .. เรื่องมันเยอะล่ะ

ตอนนี้แม่โสมจิตใจสบายขึ้น

เมื่อ"ของ" ที่เคยขึ้น ยุบลงแล้ว

ก็เกิดปัญญาให้คิดอะไรได้มากหลาย

เพียงรอเวลา ชะตาฟ้าชำระคดีจำเลยเท่านั้น

เลิกเถอะขอร้องประเทศช้ำพอแล้ว

เมื่อไหร่.. ประเทศไทยจะรอดพ้นจากคนไม่ดี..
ที่มาสูบเลือดสูบเนื้อ.. ทำลายรากฐานของคนในชาติ... เสียที

หัวข้อ : เปลวสีเงิน : การกลับมาของอีกาทำเนียบ

นึกอยากสะบัดก้นไป-ก็ไป ครั้นนึกอยากจะสะบัดก้นมา-ก็มา

ก็เค้าละ..มีหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ทำได้ ส่วนคนอื่น หน้าไหน..ใครจะกล้าบังอาจทำอย่างเค้าได้ล่ะ!

เมื่อวาน..ตอนเช้า ฟ้าตั้งท้อง ฝนตั้งเค้าจะเทลงมา แต่พอเที่ยงก็แดดแจ๋ เดี๋ยวเคลียร์..เดี๋ยวครึ้ม..อยู่อย่างนั้นทั้งวันจนมืดค่ำ ฝนก็ยังไม่เทซักที

หวังว่า ผ้าที่ผมตาก "วัดใจฝน" ทิ้งไว้หลังบ้านก่อนมาทำงาน คงไม่เป็นรังแห่งเชื้อราเป็นวันที่สองนะครับ

ก็เป็นที่แน่นอนแล้วครับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ท่านตระบัดสัตย์ได้คงเส้นคงวาอีกครั้งหนึ่ง!

ทำหนังสือราชการ อ้างทำงานเพื่อชาติจนร่างกายเหนื่อยล้า ขอลาพักเรื่อยไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ แล้วมอบหมายให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ เลื่อนชั้นขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ "ผู้รักษาการในตำแหน่งนายกฯ รักษาการ"

แล้วตัวเองก็บินไป-บินมา เที่ยวขอกาแฟผู้นำประเทศโน้นกิน ประเทศนี้กิน ท่ามกลางเสียงครหาชาวโลกว่า...ไม่เคยเห็นมรรยาทนายกฯ ประเทศไหน เท่..แบบนี้มาก่อน!?

พออยู่เมืองไทยก็ทำตัวเองให้เป็น "ข่าวสาธารณะ" ไปตีกอล์ฟบ้าง พาเมียไปช็อปปิ้งตามห้างบ้าง เกาะกุมเมียไปนั่งกินข้าวให้คนเห็นเยอะๆ บ้าง

พอใครถามว่า..อ๊าว..ท่านนาโย้กกก..ไม่ทำงานเหรอออ?

ก็บีบเสียงตอบเหมือนเด็กขมิบก้นว่า..โฮ้ยยยย..พ้มมันคนว่างงาน ไม่มีงานทำ ตกงานแล้ว ต้องขอเมียกิน แต่พลังยังเหลือเยอะ

ก็เลยต้องทำชีวิตประจำวันให้เป็นแบบ "อยู่อย่างเสือ..ไม่ใช่..อยู่อย่างหมา"

ก็เล่นเอา "หมาวัด" อย่างผมต้องหลุบหางหลบแว้บเลย!

แต่คงเห็นการเมืองยืดออกไปเป็นไข่ผู้เฒ่า ผิดล็อกจากสเปกเลือกตั้ง ๒ เมษา.ที่กะว่าราวๆ พฤษภา.ทุกอย่างก็เรียบร้อยนอมินี เมื่อไม่เรียบร้อย ตัวเองก็คงเคว้ง ทนยืนกระเด้าลมอยู่คนเดียวนอกทำเนียบไม่ไหว

แรกๆ ก็ทำกระมิดกระเมี้ยน ยกเรื่องห่วงงานฉลองทรงครองราชย์ครบ ๖๐ ปีขึ้นมาอ้าง แล้วเข้าทำเนียบ กระแทกตูดรองฯ ชิดชัยตกเก้าอี้ แล้วขึ้นนั่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมก่อน

พอหน้าชักจะนิ่มๆ วานนี้ก็ทำพิธีปราบดา-ประกาศตัวกลับมาทำหน้าที่ "นายกฯ รักษาการ" ตามเดิม!!??

ไอ้พวกลิ่วล้อก็เกณฑ์หน้าม้ามาให้กำลังใจ กุหลาบยุคนี้บ่นกันอุบ กี่คอกต่อกี่คอกคลอดดอกให้ซื้อไปลอยดอกกันไม่ทัน ทำเป็นดีอกดีใจกันยกใหญ่ที่ได้อภิมหานายกฯ ทักษิณกลับมาเป็นขวัญใจประเทศไทย

ก็ไหนประกาศว่าขอเว้นวรรค ไหนเขียนใบลาราชการว่า ลาพักเรื่อยไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ แล้วใครอนุญาต และใครบอกว่าสามารถกลับมาเป็น "นายกฯ รักษาการ" ได้ ในเมื่อยังไม่ถึงเงื่อนไขตามใบลา?

ประเทศไทย...

มันง่ายปานนี้สำหรับท่านแน่จริงหรือ?

ประเทศไทย เหมือนส้มในลัง จะเลือกหยิบ เลือกกิน เลือกบีบเล่นตามใจชอบ แบบไหน อย่างไร เมื่อไหร่ ก็ได้อย่างนั้นหรือ?

แล้วผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ รักษาการล่ะ นึกจะตั้ง-ก็ตั้ง นึกอยากจะปลด-ก็ปลด ไม่ต้องทำตามตรอก ตามประตูอะไรให้เป็นบรรทัดฐานเลยหรือ?

เออ..มันก็ง่ายดี เหมือนผ้าขี้ริ้ว หยิบขึ้นมาเช็ดหิ้งก็สูงขึ้นไปตามหิ้ง ครั้นหยิบไปเช็ดตูด มันก็ต่ำลงไปตามตูด

เฮอะ..เฮ้อ..นี่คือความภาคภูมิใจในเกียรติประวัติของ..ผ้าขี้ริ้ว!

ได้ยินอ้างภารกิจ ๒ ภารกิจที่จำต้องกลับมาทำหน้าที่นายกฯ รักษาการ ภารกิจแรก คือ งานฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในเดือนมิถุนายน

และงานแม่ทัพปราบยาเสพติด!

โดยเฉพาะภารกิจหลังนี้ ฟังแล้วขำจนเขินแทน ผมได้ยินจากขบวนการสาวกระบอบทักษิณมาร่วมเดือนแล้วละ คือเป็นแคมเปญปูทางทักษิณคืนทำเนียบอย่างหนึ่ง เป็นแคมเปญกู่ก้องป้องปากจากบรรดาสมุนอีกอย่างหนึ่ง เพื่อเทิดบารมีลูกพี่ว่า

เห็นมั้ย..ขาดทักษิณแล้วเป็นไง ยาเสพติดกลับมาเต็มบ้าน-เต็มเมืองแล้วเห็นมั้ยล่ะ!?

ถ้าผมแทงหวยบนดินให้ทักษิณเอาเงินไปแจกรากหญ้าแม่นอย่างนี้ ป่านนี้ "ไทยโพสต์" พิมพ์ ๔ สีทุกหน้า แต่ราคาบาทเดียวไปนานแล้วละ

แล้วยิ่งฟังไอ้สมุนกเฬวรากออกมากระพือโหมลากโยงไป พร้อมชี้มือ-ชี้ไม้ว่า..

นี่ไง..คือคำตอบว่า ขบวนการค้ายาเสพติด และผู้มีอำนาจที่สูญเสียประโยชน์มัน "ลงขันจ้าง" พวกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และพวกต่อต้านระบอบทักษิณทั้งหลาย ให้ล้มนายกฯ ทักษิณของเรา

พอล้มได้ ทักษิณเว้นวรรคหน่อยเดียว ยาเสพติดเลยกลับมาเต็มบ้านเต็มเมืองอีกไงล่ะ!

นี่แคมเปญทางการตลาดของเค้าละ เขายิงสปอตป่าวร้องโฆษณาชวนเชื่อ สร้างกระแส "อุ้มลูกพี่" คืนทำเนียบมาหลายวันแล้ว

ความจริงนั้น ยาเสพติดไม่เคยหมดไปจากประเทศไทย ไม่ว่าตอนทักษิณยังไม่ได้เว้นวรรค หรือเว้นวรรคแล้ว เพียงแต่ว่า ด้วยฤทธานุภาพของคนชื่อทักษิณ

วันไหน ท่านบอกตำรวจว่า..ยาเสพติดปราบหมดแล้ว

ตำรวจก็ตะเบ๊ะพรึ่บ...ครับ..ทั่น ปราบหมดแล้ว!

วันไหน ท่านบอกตำรวจว่า..ยาเสพติดเต็มเมืองอีกแล้วนะ

ตำรวจก็ตะเบ๊ะพรึ่บ..ครับ..ทั่น..เต็มเมืองอีกแล้ว!

ตอนทักษิณยังอยู่ จับวันไหน มันก็มีให้จับ และเป็นข่าววันนั้น แต่ถ้าไม่จับ มันก็ไม่มีข่าว ก็เลยเข้าใจกันว่ายาเสพติดถูกทักษิณปราบราบคาบหมดแล้ว! อาศัยเคยเป็นพระเอกแจ้งเกิดจากเรื่อง "แม่ทัพปราบยาเสพติด" ก็เลยติดซะเอง..คือติดใจน่ะครับ พอชื่อหายจากจอ ก็พยายามขุดบทเก่ามาแสดงใหม่ "จุดพลุ" มา ๒-๓ ครั้งก่อนหน้านี้แล้วด้วยซ้ำ แต่กระแสไม่ตอบรับ

คราวนี้ผมก็ว่า..มุกแป้ก อีกน่ะแหละ!

ท่านผู้อ่านคงจำได้นะครับ หลายสัปดาห์มาแล้ว ผมก็นำมาเขียนไว้ตรงนี้ครั้งหนึ่ง แต่ก็ลืมวัน-เวลาไปแล้ว คือเกี่ยวกับงานฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปีนั่นแหละ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งให้แยกงานเป็น ๒ ส่วนคือ ส่วนที่จัดงานฉลองทั่วไป และส่วนที่เป็นพระราชพิธีโดยเฉพาะ และทรงมอบหมายให้ "สำนักพระราชวัง" เป็นผู้รับผิดชอบ-ดูแลในส่วนนี้

พูดแล้วผมขอชมเชยหนังสือพิมพ์ "เดลินิวส์" ไว้ตรงนี้ด้วย คือนี่ก็ใกล้งานเข้ามาแล้ว แต่ไม่ปรากฏข่าวคราวอันเป็นปฏิทินงาน และโปรแกรมงานทั้งสองส่วนจากรัฐบาลให้ประชาชนได้ทราบสักเท่าไหร่เลย

"เดลินิวส์" เขาไปสรรหา ค้นคว้า ด้วยความเต็มใจ ตั้งใจ พิถีพิถัน นำพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมพระราชประวัติของพระราชาธิบดีแต่ละประเทศที่จะเสด็จฯ มาร่วมในพระราชพิธีเฉลิมฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มาตีพิมพ์เผยแพร่วันละพระองค์ ให้ประชาชนได้อ่าน ได้รับรู้

แต่ข่าวคราวอันเป็นสำคัญๆ ของพระราชพิธี ทางรัฐบาลดูจะให้ความสำคัญในสาระและรายละเอียดกับประชาชนน้อยมาก

ไม่เหมือนขายกำไลข้อมือ!

ไม่เชื่อลองให้เอแบคโพลล์ที่ใช้กันอยู่สำรวจดูซิว่า มีประชาชนซักกี่คนรู้ว่า งานเฉลิมฉลองนี้มีความหมายถึงอะไร แบ่งงานเป็นกี่ส่วน โปรแกรมงานมีอะไรบ้าง?

ในส่วนที่เป็นพระราชพิธีเริ่มจากวันไหน-ถึงวันไหน และมีพระราชาธิบดีกี่ประเทศ ประเทศอะไรบ้างเสด็จฯ มาทรงร่วม?

ผมว่า มีคนตอบได้ถึง ๑๐% ก็มอบเหรียญจงรักภักดีและซื่อสัตย์แห่งแผ่นดินให้รัฐบาล และกรมประชาสัมพันธ์ได้แล้วละ

แล้วก็ให้สำรวจโพลล์ไปทีเดียวกันด้วยว่า ฟุตบอลโลกเริ่มเตะจากวันไหน ถึงวันไหน เตะกันที่ไหน มีประเทศไหนแข่งกันบ้าง และรู้ข่าวจากไหน?

พรึ่บเลยครับท่าน!

ตอบถูกหมดทุกข้อ แถมบอกซะด้วยว่า ติดตามรายละเอียดจากการนำเสนอด้วยความกระตือรือร้นล่วงหน้าเป็นเดือนจากโทรทัศน์ ช่อง ๓ ๕ ๗ ๙ ๑๑ ITV และ ข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เข้าใจว่า นายกฯ รักษาการ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" คงต้องดูแลงานฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในส่วนที่ไม่ได้เป็นงานพระราชพิธี เพราะในส่วนพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมอบหมายให้ "สำนักพระราชวัง" รับผิดชอบไปแล้ว

พูดถึงหนังสือพิมพ์ ก็เห็น "มติชน-ข่าวสด" ฉบับวันศุกร์ที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๙ เขาตีพิมพ์ภาพหนึ่งที่เหมือนกัน ผมพูดก็ไม่เห็นภาพ ฉะนั้น ลอกเอาคำใต้ภาพมาให้อ่านดีกว่า ดังนี้

ต้อนรับ-อีกาเกาะบนยอดศาลพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ขณะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาทำงานอย่างเป็นทางการวันแรกเมื่อ ๑๘ พ.ค.หลังจากประกาศลาพักตั้งแต่หลังเลือกตั้ง ๒ เม.ย.

(ไทยโพสต์ 20 พ.ค.49)
//www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&;post_date=20/May/2549&news_id=124663&cat_id=200

จาก : คนเก็บข่าว - 20/05/2006 01:18

ไม่เชื่อลองให้เอแบคโพลล์ที่ใช้กันอยู่สำรวจดูซิว่า มีประชาชนซักกี่คนรู้ว่า งานเฉลิมฉลองนี้มีความหมายถึงอะไร แบ่งงานเป็นกี่ส่วน โปรแกรมงานมีอะไรบ้าง?

ในส่วนที่เป็นพระราชพิธีเริ่มจากวันไหน-ถึงวันไหน และมีพระราชาธิบดีกี่ประเทศ ประเทศอะไรบ้างเสด็จฯ มาทรงร่วม?

ผมว่า มีคนตอบได้ถึง ๑๐% ก็มอบเหรียญจงรักภักดีและซื่อสัตย์แห่งแผ่นดินให้รัฐบาล และกรมประชาสัมพันธ์ได้แล้วละ

แล้วก็ให้สำรวจโพลล์ไปทีเดียวกันด้วยว่า ฟุตบอลโลกเริ่มเตะจากวันไหน ถึงวันไหน เตะกันที่ไหน มีประเทศไหนแข่งกันบ้าง และรู้ข่าวจากไหน?

พรึ่บเลยครับท่าน!

ตอบถูกหมดทุกข้อ แถมบอกซะด้วยว่า ติดตามรายละเอียดจากการนำเสนอด้วยความกระตือรือร้นล่วงหน้าเป็นเดือนจากโทรทัศน์ ช่อง ๓ ๕ ๗ ๙ ๑๑ ITV และ ข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เข้าใจว่า นายกฯ รักษาการ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" คงต้องดูแลงานฉลองทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี ในส่วนที่ไม่ได้เป็นงานพระราชพิธี เพราะในส่วนพระราชพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมอบหมายให้ "สำนักพระราชวัง" รับผิดชอบไปแล้ว

ย้ำอีกครั้ง ให้อ่านกันเฉยๆ ย้ำ ๆๆๆๆๆ

"ทักษิณ"นั่งเก้าอี้เต็มก้นถกดับไฟใต้วันจันทร์-ปิดปากเข้าเฝ้าฯวานนี้



"ทักษิณ"กลับมานั่งเก้าอี้นายกฯในทำเนียบเต็มก้นวันจันทร์นี้ สบช่องสถานการณ์ชายแดนใต้และอ้างปัญหายาสเสพติดกลับมาระบาดอีก พร้อมเรียกหน่วยงานความมั่นคงประชุมด่วน ขณะที่ปิดปากเรื่องเข้าเฝ้าฯเมื่อวานนี้

วันนี้(20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ในช่วงเช้า พ.ต.ท.ทักษิณ เก็บตัวเงียบที่บ้านพักจรัลสนิทวงศ์ 69 แต่มีรายงานว่าออกไปธุระส่วนตัวตอนช่วงสายเพียง 1 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 13.40 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากบ้านพักพร้อมคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพนางพงษ์พันธุ์ มณีพันธุ์ ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม

โดยก่อนออกจากบ้านพัก ผู้สื่อข่าวที่ติดตามทำข่าวนายกรัฐมนตรียืนดักรอสัมภาษณ์หน้าประตูบ้าน เมื่อรถเคลื่อนผ่านหน้าประตูบ้าน ผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การจับครูเป็นตัวประกันและการทำร้ายครูจนบาดเจ็บสาหัส ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นายกรัฐมนตรี เปิดประตูรถพร้อมบอกว่า วันจันทร์ที่ 22 พ.ค.นี้ จะหารือ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นการด่วน ช่วงนี้ให้ พล.ต.อ.ชิดชัย ดูแลไปก่อน ตอนนี้ขอไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายกรัฐมนตรี เดินทางกลับจากร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะกรณีจับครูเป็นตัวประกันและทำร้ายครูบาดเจ็บสาหัส ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ว่า มีปัญหาเป็นจุด ๆ บางจุดกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่มีการจัดตั้งไว้นานเป็นอย่างดี เราก็พยายามที่จะเข้าไปทำความเข้าใจ อธิบายให้ประชาชนในพื้นที่ทราบ ซึ่งบางจุดก็ดีขึ้นมาก แต่บางจุดยังต้องใช้เวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์จับครูเป็นตัวประกันเมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) เป็นเรื่องที่น่าสลดและประชาชนในพื้นที่ก็ยังไม่ให้ความร่วมมือ จะแก้ไขปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรามีภาพจากกล้องวงจรปิด ทำให้เห็นว่าคนร้ายที่ไปยิงนาวิกโยธินและปล้นปืนไปมีความผิดจริง ทางการก็นำภาพดังกล่าวไปให้ประชาชนในพื้นที่ดู ก็สร้างความเข้าใจได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คงต้องดำเนินการคดีกับผู้ที่กระทำผิด

ต่อข้อถามว่า ความเข้าใจของประชาชนกับปัญหาที่เกิดขึ้นดูเหมือนยังไม่ได้รับการแก้ไข นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างที่เคยบอกให้ฟังว่าในแต่ละพื้นที่มีปัญหาเป็นจุด ๆ บางจุดกลุ่มก่อความไม่สงบมีการจัดตั้งที่เข้มแข็ง เมื่อทางการพยายามที่จะเข้าไปอธิบายว่าอะไรผิดอะไรถูก บางพื้นที่ก็เข้าใจ

“บังเอิญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่จับครูเป็นตัวประกัน มีคนร้ายที่ฆ่านาวิกโยธินร่วมอยู่ในหมู่บ้าน เมื่อเรานำภาพถ่ายพร้อมกับไปจับกุม ทางชาวบ้านยังไม่เข้าใจ ก็เลยปิดล้อม เพราะทางชาวบ้านเข้าใจว่าคนที่ไปทำไม่ดีคือคนดี อันนี้เราจะต้องพยายามอธิบายให้ชาวบ้านในพื้นที่ฟัง” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก ไม่เลือกแม้แต่ครูที่เป็นผู้หญิง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดำเนินคดี เพราะคงมีหลักฐานแน่นอน ส่วนรายละเอียดยังไม่ทราบ ต้องไปสอบถาม พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าใครเข้าไปถึงพื้นที่เกิดเหตุ ใครทำอะไรอย่างไร ซึ่งหลักการเราดูแลหมดแล้ว โดยวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ จะมีการประชุมกันอีกครั้ง

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องความปลอดภัยของประชาชนและครู ได้กำชับกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) เพิ่มความดูแลให้มากขึ้น

ต่อข้อถามว่าจะมีการปรับแผนการทำงานหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไว้ให้ตนกลับมาทำงานก่อน เมื่อถามว่าจะกลับมาทำงานเมื่อใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ให้ผมกลับมาทำงานก่อน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ จะมีการประชุมหน่วยงานความมั่นคงทั้งหมดใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงมีการเริ่มประชุมไปเรื่อย ๆ ต่อข้อถามว่าจะกลับมาทำงานเต็มตัวใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ก็ต้องทำงาน อีกหลายเดือนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ถ้าไม่ทำงานเดี๋ยวบ้านเมืองจะแย่ ตอนแรกนึกว่าจะเลือกตั้งเลย แต่พอยังไม่มีการเลือกตั้ง ซึ่งหลายเดือนกว่าจะเลือกตั้ง ก็ต้องไปทำงาน”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบข้อซักถามเกี่ยวกับการเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวานนี้ (19 พ.ค.) ที่วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000066228&#Comment

ธ่อ......... นึกว่าขนม.... อิอิ

แบบว่ากำลังหิวหน้ามืดน่ะค่ะ.....

แวะมาตามไปผจญภัยด้วยกันค่ะพี่....

อ้อ ๆๆๆ และก็แวะมาบอกเลขบัญชีค่ะ อิอิ 55555555555

นักวิชาการ ชี้ “ทักษิณ” โลโก้ทุนข้ามชาติ แนะกระจายอำนาจคานประชานิยม


ศ.เสน่ห์ จามริก
ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

นักวิชาการ รุมถล่ม “แม้ว” สร้างประชานิยมเพื่อฐานการเมือง ระบุ ระบอบทักษิณคือ สัญลักษณ์ทุนข้ามชาติ เผย รัฐบาลยุคนี้ ละเมิด รธน.มากที่สุด จวกอ้าง 19 ล้านเสียงเป็นตัวชี้ขาดสร้างความขัดแย้งต่อหลักประชาธิปไตย แนะปฏิรูปการเมืองเน้นกระจายอำนาจ เสริมความเข้มแข็งให้ท้องถิ่น ด้าน นักเศรษฐศาสตร์ ชี้ ธนกิจการเมืองสถาปนาพรรคการเมืองธุรกิจ หนุนชนชั้นกลางหัวหอกคานอำนาจพรรคธุรกิจ มั่นใจ กกต.อยู่อีกไม่นานต้องขอลาออกแน่

วันนี้ (21 พ.ค.) ที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดการเสวนาเรื่อง เมืองไทย:หลังทักษิณ 3 Thailand : Post Thaksin III โดย ศ.เสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ปาฐกถานำ ในหัวข้อเรื่อง “อนาคตการเมืองไทย:แลไปข้างหน้า” ว่า ในระบอบทักษิณเสมือนเป็นประชานิยม ซึ่งระบบทักษิณเป็นระบบการปกครองของรัฐบาลที่เป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญไทย กล่าวคือ รัฐธรรมนูญ 2540 ฉบับนี้ ที่ตนเคยตามพัฒนาการมาตั้งแต่ในปี 2535-2540 ซึ่งตนเคยได้กล่าวไว้ว่าเป็นช่องทางขึ้นสู่อำนาจของทุนนิยมโดยกระแสทุนนิยมข้ามชาติ จากที่เมื่อก่อนเป็นยุคของการปฏิวัติรัฐประหารและประชาธิปไตยไม่เต็มใบ แต่เมื่อเรามีประชาธิปไตยเต็มใบ คือ เปิดช่องให้ทุนนิยมขึ้นสู่อำนาจ ส่วนระบอบทักษิณเป็นระบอบอยู่ในบริบทเศรษฐกิจและทุนข้ามชาติของโลก คือ การตลาดโดยการกระจายเงินตราสู่ชนบทที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน ที่มีการกระจายเงินสู่ชนบทสร้างในประเทศอย่างมหาศาล จากเดิมที่เมื่อก่อนเศรษฐกิจไทยทุ่มในเรื่องการส่งออก ทำให้เป็นการสร้างฐานทางการเมืองจากชนบท จึงไม่น่าประหลาดใจเมื่อมีการประท้วงผู้นำประเทศของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงมีคาราวานคนจนขึ้นมา

“ระบอบทักษิณดึงคะแนนเสียงได้มาก เพราะโดยธรรมชาติพรรคการเมืองจะมีแต่นักการเมืองที่แสวงหาสู่ศูนย์อำนาจ เพราะเป็นแหล่งที่มาของผลประโยชน์ที่จะแจกจ่ายในชนบท จึงไม่แปลกอะไรที่เกิดการเมืองภายใต้ระบบรัฐบาลที่มีฐานสนับสนุนในภาคชนบท นอกจากนี้ ยังมีการละเมิดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งพันธมิตรฯ เป็นตัวสะท้อนของพฤติการณ์ของนักการเมืองที่ล้มรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่การละเมิดรัฐธรรมนูญไม่ได้เริ่มขึ้นตอนที่มีระบบทักษิณ แต่นับจากหลัง 2540 ไม่มีรัฐบาลชุดใดที่จะใส่ใจเคารพในรัฐธรรมนูญ”

นายเสน่ห์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันนี้การเมืองไทยมีมิติใหม่ของทุนข้ามชาติโดยมีระบอบทักษิณเป็นสัญลักษณ์ ระบอบทักษิณไม่ใช่ทักษิณหรือไทยรักไทย แต่เป็นระบอบที่สะท้อนความล้มเหลวของการเมืองไทย สองประการ คือ หนึ่ง ล่มสลายของรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ที่นักการเมืองสามารถพลิกแพลงได้โดยใช้กระแสประชานิยมเพื่อให้ตัวเองสามารถดำรงคงอยู่ได้ เช่น พฤติกรรมที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่อ้างถึง 19 ล้านเสียง ถือว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐธรรมนูญ เพราะการเอาเสียงข้างมากมาเป็นตัวชี้ขาดถือว่าเป็นการขัดแย้งระบอบประชาธิปไตยชัดเจน ซึ่งความคิดแบบนี้มีมากในหมู่นักการเมือง และนักเลือกตั้งมาทุกยุคทุกสมัย จุดหนึ่งที่เราควรจะต้องยอมรับว่ารัฐบาลชุดทักษิณสามารถใช้เสียงข้างมาก และประสบความสำเสร็จและสามารถทำได้มากกว่าอดีตอย่างชัดเจนโดยเฉพาะนักเลือกตั้ง ถือเป็นการล้มเหลวของการปฏิรูปการเมือง แต่ในทางกลับกันการใช้เสียงข้างมาก และการอ้างถึง 19 ล้านเสียงว่าตนเองประสบความสำเร็จอย่างมากเท่าใด ก็จะทำให้เกิดแรงต้านมากเท่านั้น ซึ่งเราจะเห็นปรากฏการณ์การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯที่ผ่านมา

“เท่าที่ผมได้ติดตามการปฏิรูปการเมืองมาตั้งแต่ปี 2540 ที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ การเข้ามาของระบบทุนนิยมและทุนข้ามชาติอย่างชัดเจนมากที่สุด ส่วนการปฏิรูปการเมืองของรัฐบาลทักษิณได้พยายามใช้วิธีอย่างรวบรัดโดยใช้อำนาจเงิน ในการรวบรวมเอาพรรคการเมืองเล็กๆ นักการเมืองท้องถิ่นในทุกระดับให้มาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งจุดนี้ถือว่าเป็นการทำลายระบบการเมืองในระดับท้องถิ่น อีกทั้งส่วนตัวมีความเชื่อว่าไม่มีรัฐบาลใดในโลกที่จะสามารถพัฒนาประชาธิปไตยได้หากไม่มีการกระจายอำนาจลงไปท้องถิ่นให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ดังนั้น หลังจากเราใช้รัฐธรรมนูญมาได้ระยะหนึ่ง หลายคนมาพูดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ควรจะต้องมีการแก้ไข จึงส่งให้เกิดกระแสการปฏิรูปการเมือง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นอีกครั้งในเวลานี้ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเตือนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องคิดคำนึงมากที่สุดหากจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้น คือ การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปการเมืองในครั้งนี้จะต้องทำให้ดี หากทำได้ไม่ดี ผมเชื่อว่าการแก้ไขที่จะเกิดขึ้นจะนำไปสู่เหตุการณ์ความชั่วร้ายให้ประเทศชาติอีกครั้ง เพราะการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เปรียบเหมือนกับกุญแจ และการผูกเงื่อนขึ้นมา” ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าว

นายเสน่ห์ กล่าวอีกว่า สิ่งหนึ่งที่ตนอยากจะฝากไว้กับการปฏิรูปการเมืองที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คือ การพัฒนาและการสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นจะต้องขึ้นให้ได้ และจะต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางครั้งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาบ้างก็ตาม ดังนั้น การที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ หากทำได้ควรจะกำหนดไว้ในบทเฉพาะกาลว่าให้ทุกรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศจะต้องพัฒนาและกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่นเกิดความเข้มแข็งให้ได้

หลังจากนั้น เป็นการเสวนาเรื่อง เมืองไทย:หลังทักษิณ 3 โดย นางผาสุก พงษ์ไพจิตร อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การเมืองไทยมีวิวัฒนาการไปตามการเติบโตของเศรษฐกิจโดยที่ไทยได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบทุนนิยมโลก และถ้าเราจะมองการเมืองในยุคนี้ต้องมองใน 3 เรื่อง คือ 1.การเมืองประชานิยม โดยเป็นประชานิยมที่เกิดขึ้นใหม่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งการเกิดประชานิยมจำเป็นต้องมีผู้นำประชานิยม และส่วนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เองได้พัฒนาละนำพาตัวเองไปเป็นผู้นำประชานิยมเป็นที่เรียบร้อย อย่างกรณีการซุกหุ้นภาคหนึ่ง ที่ตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบดีว่าถ้าตัวเองมีความนิยมมากก็จะทำให้มีแรงต่อรองศาล และหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำประชานิยมได้เข้าไปในมวลชนที่ไม่ใช่การจัดตั้งที่เป็นมวลชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ เช่น พ่อคา แม่ค้า ผู้ใช้แรงงาน ที่เป็นกลุ่มเศรษฐกิจนอกระบบ รวมไปถึงกลุ่มของเกษตรรายย่อย ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้เป็นมวลชนที่มีความวิตกในเรื่องความไม่แน่นอนในชีวิต เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาไม่เคยให้ความมั่นใจในเรื่องนี้ ดังนั้น จึงเป็นช่องว่างให้รัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปพร้อมกับนโยบายหลักประกันสุขภาพ โครงการเอื้ออาทร ถึงแม้โครงการจะยังไม่เกิดในระยะสั้น แต่มันก็ได้สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนกลุ่มนี้ขึ้นมา

“ถ้าพ้นรัฐบาลทักษิณและพรรคไทยรักไทย แต่สิ่งที่ทำไว้ยังคงอยู่โดยเฉพะในเรื่องของประชานิยม และมวลชนในส่วนนี้เป็นมวลชนกลุ่มใหญ่ของการเลือกตั้งที่มีถึง 2 ใน 3 ของประเทศ จึงเป็นสิ่งที่นักการเมืองหรือนักเลือกตั้งจะต้องเข้าไปเอาใจคนกลุ่มนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ประชานิยมต่อไปเพื่อเป็นฐานทางการเมือง ดังนั้น การแก้ไขในเรื่องนี้ คือ กระจายอำนาจการบริหารเพื่อเข้าไปคานไม่ให้คนกลุ่มนี้เป็นฐานทางการเมือง”

นางผาสุก กล่าวต่อว่า 2.ธนกิจการเมือง คือ กลุ่มธุรกิจที่ขนาดใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ ที่สามารถเข้ามาซื้อการเมืองและควบคุมการเมือง และรัฐสภาได้อย่างสิ้นเชิง แทนที่เราจะได้ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนทุกภาคส่วนแต่รัฐสภากลับเป็นตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งในทางทฤษฎีการแยกธุรกิจออกจากการเมืองคงทำได้ยากในระยะสั้น เพราะตอนนี้ธนกิจการเมืองได้เข้าไปในส่วนลึกของการเมืองแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัญหาของธนกิจการเมืองคือ ผู้นำพรรคธุรกิจ ที่ยังขาดดุลยภาพในการเป็นผู้นำโดยที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นผู้นำแบบไหน เพราะตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัวมากเกินไปมากกว่าผลประโยชน์ของพรรค จึงเป็นปัญหาให้พรรคธุรกิจยังไม่สามารถเป็นสถาบันการเมืองได้

3.บทบาทของชนชั้นกลาง เป็นกลุ่มคนที่จะเติบโตไปกระแสโลกาภิวัตน์ ซึ่งจุดยืนทางการเมืองของคนกลุ่มนี้ คือ ต้องการให้ระบบเศรษฐกิจภายใต้โลกาภิวัตน์มาเป็นประโยชน์กับตัวเขา และมวลชนกลุ่มนี้ไม่มีทางที่จะเข้ามาเป็นฐานทางการเมืองได้ เพราะมีพลวัตที่เปลี่ยนแปลงเร็วแบบวันต่อวัน เดือนต่อเดือน ปีต่อปี โดยจะเปลี่ยนไปตามสภาพของเศรษฐกิจ โดยสิ่งที่คนกลุ่มนี้ต้องการ คือ ความก้าวหน้าของประเทศ ความเป็นธรรม ความโปร่งใส ประชาธิปไตย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ชนชั้นกลางจะยอมรับผู้นำที่จะสร้างเศรษฐกิจให้โตขึ้น แต่หากผู้นำทำให้เศรษฐกิจล้มเหลว กลุ่มคนเหล่านี้จะก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าในการเคลื่อนไหวทางการเมือง เช่น การเกิดของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เกิดจาการรมตัวของปัจเจกชนที่หลากหลาย และเมื่อมีการรวมตัวกันแล้วจะมีแรงผลักเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสิ่งที่ควรจะเป็น

นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า จากสภาพการเมืองในเวลานี้การต่อสู้ทางการเมืองที่เป็นอยู่มีความซับซ้อนมากที่สุดกว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา และอาจจะนำไปสู่ความรุนแรงในอนาคตได้ เนื่องจากตัวละครทางการเมืองในตอนนี้มีหลายฝ่าย และยังมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่เปิดตัวออกมา ซึ่งปัญหาที่เกิดเป็นเรื่องใหม่ที่คนไทยยังไม่คุ้นเคย ดังนั้น การต่อสู้ทางการเมืองในอนาคตตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นการต่อสู้ในรูปแบบใด เพราะการต่อสู้ในวันนี้เป็นการต่อสู้ทีมีการขยายวงกว้าง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของวงการตุลาการในครั้งนี้ ซึ่งตนเชื่อว่าหากการต่อสู้ที่เกิดขึ้นในตอนนี้มีความยืดเยื้อและยาวนานอาจจะก่อให้เกิดผลเสียและก่อให้เกิดวิกฤตในวงการตุลาการได้

“การใช้อำนาจของตุลการที่เข้ามาแก้วิกฤตการเมืองของประเทศที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ผมมองว่าอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย ถึงแม้ว่าทุกคนจะยอมรับการออกมาของวงตุลาการแต่เชื่อว่าต้องมีวาระพิเศษ และกรณีของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เหลืออยู่สามคน ไม่ยอมลาออกก็น่าจะมีอะไรพิเศษเหมือนกัน แต่ตุลาการไม่ควรที่จะแสดงบทบาทอะไรออกมาให้มากนัก และไม่ควรที่จะเยอะเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยง เนื่องจากการต่อสู้ครั้งนี้มีการเดิมพันสูง ถ้าหากศาลยังไม่ปรับบทบาทของตัวเองที่เป็นอย่างในเวลานี้ต่อไปอาจจะทำให้สังคมหรือคนบางส่วนอาจจะไม่มีความเชื่อมั่นในศาล โดยเฉพาะในระยะเวลาอันใกล้นี้จะมีคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งของที่จะเข้าสู่การพิจารณาของศาลอีกหลายคดี ผมมีความเป็นห่วงสิ่งที่จะเกิดขึ้นสังคมไทย คือ ประชาชนจะหมดคนที่จะมาชี้ขาดความถูกต้องให้กับสังคมอีกต่อไป และถ้าหากศาลให้ กกต.มีความผิดอาจจะสร้างความไม่พอใจกับบุคคลที่อยู่ข้าง กกต.จนเกิดความรุนแรงตามมาได้”

นายวรเจตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า กกต.ชุดนี้จะอยู่ทำหน้าที่อีกไม่นาน โดยสิ่งที่ตนคาดหมายสาเหตุที่ทำให้ กกต.ชุดนี้อยู่ทำหน้าที่ต่อไป เพราะยังมีงานที่สะสางไม่เสร็จสิ้น โดยตนมองไปที่การวินิจฉัยการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสรุปคำวินิจฉัยแล้วเขียนสำนวนเพื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา อย่างไรก็ตาม มองว่า กกต.จำเป็นต้องลาอกจากตำแหน่งเพราะหากยังฝืนต่อไปการทำงานของ กกต.ก็จะไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจาก กกต.ไม่เป็นที่ไว้วางใจของสังคม ดังนั้น การฝืนอยู่ต่อไปไม่ได้ก่อให้เกิดผลดี และถึงแม้กกต.จะไม่ยอมลาออกตนเชื่อว่ากระบวนการของศาลจะมีขั้นตอนที่รองรับเพื่อหาทางออกเพราะเมื่อมีคนยื่นฟ้องคดีอาญากับ กกต.เชื่อว่า ศาลจะรับพิจารณาและหากศาลตัดสินว่ามีความผิด กกต.ก็จะต้องหลุดจากตำแหน่งตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของกกต.

“สำหรับประเด็นที่จะทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คือ 1.กระแสการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง กกต.ทั้งชุด ซึ่งจะส่งต่อการพิจารณาคดีฟ้องร้องที่อยู่ในการพิจารณาชี้ขาดของกกต.โดยเฉพาะเรื่องการฟ้องร้องยุบสองพรรคการเมืองใหญ่ 2.การปลดล็อก 90 วัน ที่จะส่งผลให้มีพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาใหม่ เพราะจะเป็นตัวช่วยให้สภาพทางการเมืองในเวลานี้มีความเบาบางลง เนื่องจากประชาชนจะมีทางเลือกใหม่ในการตัดสินใจในการเลือกตั้งมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังเชื่อว่า พรรคไทยรักไทยก็ยังคงได้เปรียบอยู่ เพราะมีนโยบานที่ชัดเจนและมีเงินทุนที่มากกว่าพรรคการเมืองอื่น 3.กรณีการยุบพรรคการเมือง กกต.จะต้องมีการสืบหาข้อเท็จจริงว่าจะสามารถเอาผิดพรรคการเมืองที่ทำผิดได้หรือไม่ ซึ่งถ้าหากสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ว่าเป็นการกระทำของพรรคจริง หัวหน้าพรรคจะต้องเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี และจะต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย หากเป็นเช่นนั้นจริง พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องเว้นวรรค และพรรคไทยรักไทย รวมทั้งการเมืองไทยก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วย แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าการสอบสวนจะสามารถสาวไปถึงตัวบุคคลได้หรือไม่ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยากเพราะสุดท้าย กกต.จะต้องเป็นผู้เสนอเรื่องการยุบพรรคให้ศาลรัฐธรรมเป็นผู้ตัดสิน”

นายวรเจตน์ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่า ในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนในเรื่องการกลับเข้ามาทำงานบริหารประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากมีส่งสัญญาณทางการเมืองจากนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย รวมทั้งในเดือนมิถุนายน จะมีการจัดงานเฉลิมฉลอง ซึ่งเป็นไปได้ยากที่กลุ่มพันธมิตรฯจะออกมากดดันในช่วงเวลาดังกล่าว แต่หลังจากนั้น หากมีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็น่าจะมีการเว้นวรรคทางการเมือง พร้อมทั้งมีการเสนอบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งนายกฯแทนในช่วงหลังเลือกตั้งที่มีการปฏิรูปการเมือง ส่วนเมื่อมีการปฏิรูปแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาบริหารประเทศอีกหรือไม่ขึ้นอยู่กับการปฏิรูปการเมือง ว่า มีความชอบธรรมและเป็นที่ยอมรับหรือไม่ หากสังคมไม่ยอมรับก็จะเกิดปัญหาการลุกฮือขึ้นมาต่อต้านและมีความรุนแรงมากขึ้น แต่หากสังคมยอมรับตรงนั้นก็จะเป็นปมปัญหาทางการเมืองใหม่ ซึ่งเราต้องมาวิเคราะห์อีกครั้ง ดังนั้น การปฏิรูปการเมืองต้องเป็นที่ยอมรับของสังคม และสามารถที่จะหาผู้นำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้าได้

นายธเนศ อาภรณ์สุวรรณ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงอำนาจของรัฐบาลทักษิณ ว่า การใช้อำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ส่วนหนึ่งยังไม่เป็นที่ยอมรับจากคนในสังคมอย่างแท้จริง ซึ่งจะเห็นได้จากการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยังไม่สามารถหาทางแก้ไขความรุนแรงได้ แต่กลับเกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น สิ่งที่ต้องเร่งแก้ไข คือ อำนาจที่ตนเองมีอยู่มากจากการเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากจำเป็นจะต้องสร้างความยอมรับให้เกิดในสังคมให้ได้ การแก้ไขปัญหาความไม่สงบรัฐบาลทักษิณไม่มีความแตกต่างจากรัฐบาลของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่เน้นในเรื่องนโยบายการพัฒนา แต่ปัญหาที่พบ คือ รัฐบาลทักษิณพยายามเปลี่ยนคนในพื้นที่ที่เป็นชาวมลายูมาเป็นคนไทยให้หมด ซึงสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการเปลี่ยนวัฒนธรรมและความเชื่อ ซึ่งไม่สามารถจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

“ผมมีความเห็นว่า รัฐบาลทักษิณประสบความล้มเหลวในการแก้ปัญหานี้อย่างสิ้นเชิง หากรัฐบาลทักษิณยังคงทำแบบนี้ต่อไป โดยใช้ความรุนแรง ผมสามารถบอกได้เลยว่านโยบายการแก้ปัญหาของรัฐบาลไม่มีทางประสบความสำเร็จแน่นอน ซึ่งผมแปลกใจว่าวิจารณญาณของรัฐบาลชุดนี้ทำไมไม่สามรถทำให้เกิดผลให้นโยบายการแก้ไขปัญหาภาคใต้ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งแตกต่างจากนโยบายด้านอื่นๆ ที่นำมาแก้ปัญหา แต่กลับประสบความสำเร็จ นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเชื่อได้ว่านโยบายของรัฐบาลทักษิณไม่สามารถให้ความสุขที่แท้จริงกับประชาชนได้ คือ ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้” นายธเนศ กล่าว

นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหาการเมืองตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 และที่มีการคิดว่า ความคลุมเครือของทักษิณจะกลับมาได้หรือไม่ คิดว่ามีความเป็นไปได้อยู่ 2 คือ กลับมาได้และไม่ได้ ที่กลับมาได้เพราะเสียงส่วนใหญ่ทางการเมืองยังเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ และการใช้ประชานิยมเพื่อสร้างความนิยมให้กับตัวเอง และส่วนการกลับมาไม่ได้ น่าจะเป็นเรื่องความชอบธรรม เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกกระทำให้เสียภาพพจน์ทางการเมืองเยอะมาก ซึ่งไม่เคยมีนายกฯไทยคนไหนของไทยถูกกระทำเช่นนี้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดังนั้น ตนเห็นว่า สินค้าภายใต้โลโก้ของพรรคไทยรักไทยมีตำหนิไปแล้ว

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000066583

ทรท.ฉุน “สนธิ” ป้ายสีปฏิญญาฟินแลนด์ ท้าแฉหลักฐาน-ขู่ฟ้องกลับ

“หมอเลี้ยบ” ออกโรงแจง “แม้ว” กลับมาทำงานได้ อ้างระเบียบข้าราชการการเมืองไม่กำหนดว่าต้องลากี่วัน พล่านขู่ฟ้องกลับ “สนธิ” หลังออกเมืองไทยฯ เผย ทรท.มีปฏิญญาฟินแลนด์ ท้าหาหลักฐานมายืนยันอย่าป้ายสีลอยๆ ด้านลิ่วล้ออัด พันธมิตรฯ-ปชป. พวกชอบหาเรื่อง


วานนี้ (21 พ.ค.) นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 22 พ.ค.ว่า ตนยังไม่ได้เจอ พ.ต.ท.ทักษิณ เลย ทราบเพียงจากการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนเท่านั้น จึงไม่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างเต็มตัวหรือไม่ ทั้งนี้ ขอให้ย้อนกลับไปตรวจสอบคำประกาศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในช่วงหลังการเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มอบหมายงานต่างๆ ให้ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทน แต่หากเป็นเรื่องสำคัญๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็สามารถกลับมาทำงานที่ได้ ส่วนเรื่องวันลาพักการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น การลาพักงานของข้าราชการการเมืองไม่ได้มีระเบียบกำหนดไว้ว่าต้องลาได้กี่วัน ซึ่งแตกต่างกับข้าราชการพลเรือนที่มีระเบียบนี้ชัดเจน

เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ในเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร มีการอ้างว่า พรรคไทยรักไทยมีปฏิญญาฟินแลนด์ ซึ่งต้องการเปลี่ยนแปลงวิธีการบริหารและปกครองประเทศใหม่เกือบทั้งหมด นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ตนมาทำงานที่พรรคไทยรักไทย และเข้าประชุมพรรคนั้นไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย ขอเวลาตนกลับไปค้นวาระการประชุมของพรรคก่อนว่า ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมามีปฏิญญาฟินแลนด์หรือไม่ เรื่องนี้ขอให้ไปสอบถามคนที่พูดเรื่องนี้ดีกว่าว่ามีเอกสารยืนยันหรือไม่ และขอให้นำแสดงออกมา เพราะการใส่ร้ายแบบนี้มันไม่ใช่ผลดีต่อประเทศ และไม่เหมาะสมที่จะนำมาอ้างในภาวะปัจจุบัน สังคมควรรับฟังอย่างระวังด้วย

เมื่อถามว่า หากกล่าวหาและอ้างอิงแบบนี้จะดำเนินการอย่างไร นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า พรรคจะดำเนินการฟ้องร้องคนที่นำเรื่องนี้มาพูด และให้รับผิดชอบแน่นอน เพราะกล่าวหาแบบไม่มีหลักฐานและกล่าวเท็จ

ส่วน นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ขอให้สื่อมวลชนไปขอหลักฐานจากคนที่พูดเรื่องนี้ เพราะตนทำงานที่พรรคนี้ยืนยันว่าไม่เคยมีปฏิญญาดังกล่าวเลย ผู้ที่พูดเรื่องนี้เป็นบุคคลที่สังคมยอมรับและเชื่อถือ ฉะนั้น ควรรับผิดชอบคำพูดและแสดงหลักฐาน เพราะไม่อย่างนั้นสังคมจะกลายเป็นสังคมแห่งความไม่รู้และเชื่อในการกล่าวอ้างลอยๆ พรรคไทยรักไทยก่อตั้งมาตั้งแต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจ ในช่วงนั้นสื่อมวลชนก็ติดตามไปทำข่าวนี้มากมายด้วย

“คือพรรคต้องสร้างนโยบายพรรคที่แตกต่างกับพรรคอื่นๆ โดยยึดนโยบายว่าต้องแก้ไขหนี้สินและสร้างรายได้ควบคู่กัน พรรคได้ระดมกำลังไปหารือกับปราชญ์ชาวบ้านทั่วประเทศ เพื่อนำความรู้ด้านต่างๆ มารวบรวมและสังเคราะห์ เป็นนโยบายพรรคที่ได้ผลชัดเจนในวันนี้” รองเลขาฯ ทรท.กล่าว

ด้าน นายสุทิน คลังแสง รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ กกต.จะพิจารณาคืนเงินเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่พรรคประชาธิปัตย์คัดค้าน โดยระบุว่า กกต.กับพรรคไทยรักไทยจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเล็ก ผู้สมัคร ส.ส.ไม่ห่วงตรงนี้ ไม่ได้อยากได้เงินคืนอะไรมากมายนัก และ กกต.เองก็ปฏิบัติไปตามกฎหมาย หากกฎหมายระบุออกมาให้ทำอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น คิดว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครด้วย ไม่บอยคอตการเลือกตั้งคำพูดคงไม่ออกมาแบบนี้ พรรคประชาธิปัตย์ควรหันไปสนใจเรื่องที่มีสาระมากกว่านี้ ไม่ใช่เก็บทุกชอตตอดทุกเรื่อง น่าจะไปสนใจด้านนโยบายหรือปัญหาประชาชน ช่วยแนะนำรัฐบาลในการแก้ปัญหาต่างๆ ดีกว่า

นายสุทิน ยังกล่าวถึงการกลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกครั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีเสียงคัดค้านจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า กลุ่มม็อบพันธมิตรฯ คือ พวกม็อบหาเรื่อง ไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง เนื่องจากมีเสียงเรียกร้องมากมายให้มาแก้ปัญหาบ้านเมือง จะไม่ให้ทำงานทั้งๆ ที่มีตำแหน่งนายกฯอย่างนั้นหรือ ถ้าไม่ทำงานต่างหากถึงควรจะว่า กลุ่มพันธมิตรฯอย่าคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของประเทศสั่งนู่นสั่งนี่คนเดียว กลุ่มพันธมิตรฯเปรียบเสมือนบัวใต้น้ำ ที่ไม่รู้เมื่อไหร่จะโผล่พ้นน้ำสักที อยากถามว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ทำงาน กลุ่มพันธมิตรฯจะแก้ปัญหาอะไรให้ชาวบ้านได้หรือไม่ ถ้าทำงานแทนรัฐบาลได้ค่อยมาห้ามคนอื่น

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000066495

สำหรับอีแม้วนั่น ที่เจ๊แตนต่อยให้มา
มันยังหรูไปเลยครับ

ปล. ... เอาพวกสตรีมมิ่ง Video ออก
มั่งดิครับ คนเน็ตเต่า จะเข้าไม่ได้แล้ว

เอื๊อกกกกกกกกก .... แบบว่าพี่แหม่มเลือดรักชาตเจ้มจ้นดีเจง ๆ เลยนะค๊า.......


ว่าแต่ว่าส เมื่อกี๊แวะไปกดตังค์ดู ยังไม่เห็นมีเข้าบัญชีเลยนะคะ.... โอนผิดเลขอ๊ะป่าว....อิอิ

"บัง" ผู้กล้า.... อยากรู้อะไรง่ะคะ... งง......

บังไงพี่ บังก็คือเวลาเรามองไม่ค่อยเห็นน่ะ เวลามีใครมายืนข้างหน้า 55555555555

ไม่ช่ายยยยย นั่น เค้าเรียกว่า บังงงงงง.... 55555555

อ้าวหรอ .... นึกว่าบัง...... 5555555

อ้อ ๆๆๆๆๆ แวะมาถามว่า.... ตกลงจะชมว่าบล็อคสวย รึ หูสวยกันแน๊ 555555555555 ....

วัยสะรุ่นสับสน.......... มึนตึ๊บ ปวดตับ 55555555555

ชอบรอยเท้าบนพื้นทรายจัง

ช่วงนี้พักรบสองสามวันครับ

ขอบคุณมาก ๆ นะคสำหรับโปสการ์ด เพิ่งส่งอีเมล์หาพี่แหม่มเมื่อเช้า ตอนบ่ายมีโปสการ์ดมาพอดี ใจตรงกันเลย
ชอบรูปรอยเท้าค่ะ

น่าน เจ๊แตนแฟนผม หายตามเคย
เดี๋ยวปั๊ด รักน้อยลง ๒ ไมโครกรัมเลย

ไม่เกี่ยวกับจานทอง
แต่อยากบอกว่า........
คิดถึง คิดถึง คิดถึงงงงงงง

แวะมาทักทายคุณแหม่มค่ะ
คิดถึงนะคะ

ตอบเรื่องหุ้นที่หลังไมค์แล้วค่าคุณแหม่ม

นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กับ นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ทางรายการ “เจาะลึกทั่วไทย INSIDE THAILAND” บิสิเนส เรดิโอ 98.0 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อเช้าวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา กรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่า ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยได้ร่วมกันทำ “ปฏิญญาฟินแลนด์” เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ระบอบใหม่ ที่มีนายทุนคุมอำนาจ และให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นเพียงสัญลักษณ์

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000067774

ความคิดเห็นที่ 171

สงสัยอ้ายเหลี่ยมจะถูก ไอ้พันสัตว์ หลอกใช้มากกว่า ลำพังอ้ายเหลี่ยม ภาษาอังกฤษไม่ค่อยกระดิกหูเท่าไหร่
ต้องขอให้อ้ายมือตีนพวกนี้แหละช่วยเขียน speech ให้ ไอ้พันสัตว์อยากทำอะไรได้อะไร อ้ายเหลี่ยมหาให้ได้หมด
ไอ้พันสัตว์ถึงไม่มีปริญญา แต่ชอบอ่านชอบเขียนเลยมีความสามารถพิเศษ ขยายความรู้ให้อ้ายเหลี่ยมเอาไปโม้ต่อ
ชอบคุยว่าไปอ่านหนังสือฝรั่งเจอหนังสือดีๆ เข้า ก้อมาแนะนำให้อ้าย สส ลิ่วล้อลูกกะโปกอ่านบ้างเพื่อเป็นแนวทางในการทำงาน
โ - ค - ต - ร – สภาโจ๊กเลย คิดว่าอย่างอ้ายโฆษกพรรคจากราม อย่างอ้ายจตุพร หรือ รมต อย่างอ้ายสมศักดิ์จะแปลออกหรือ
ขนาดเขาเชิญไปเปิดงาน TAT หรือออก TV โดยเจ้าภาพเขียนโพยให้พูด ภาษา อังกฤษสั้นๆ ตอบประโยคไม่เกินสิบตัว
ยังแบ่งวรรคแบ่งตอนไม่ถูก คนฟังต้องใบ้แดกเพราะเดาไม่ออกว่าพูดภาษาเขมรหรือไทย

ไอ้พันสัตว์รู้ตัวว่า speech ไม่เก่ง โกหกหน้าไม่ตาย ตอบไม่ตรงคำถาม พูดไปหัวเราะไป และเล่นละครตีบทไม่แตกเหมือน
อ้ายเหลี่ยม โดยเฉพาะบทน้ำตาไหลพรากๆ เลยยกบท นายก โ - ค - ต - ร –ฉลาด รอบรู้ไปทุกเรื่องให้โดยมีตัวเองเป็นผู้กำกับ
มีหน้าที่ไปซื้อหนังสือดีๆ ที่ได้รางวัล best seller มานั่งอ่าน นั่งแปลอยู่ที่ห้องสมุดที่มันครอบครองอยู่ที่ Emporium
แล้ว brief ให้อ้ายเหลี่ยมฟัง เพื่อเอาไป make believe ให้ประชาชนรากหญ้ารู้สึกทึ่งในความเก่งของผู้นำ
มันจะหลอกได้แต่กลุ่มเป้าหมายซึ่งถือเป็น majority vote ให้พรรคมันได้เข้ามาโกงบ้านเมืองไม่จบไม่สิ้น

แม้จะ อวดอ้างว่าได้ดีกรีเป็น ดร. ได้ข่าวว่าก๊อปปี้ thesis ของอ้ายลูกกะเป๋งชิดชัยเหรอ แล้วจ้างใครนั่งสอบจนได้ดอกเธอล่ะ
อย่าบอกนะว่าให้พลตำรวจเอกพงศ์พัฒน์ ชื่อเดิมตอนติดคุกในอเมริกาถูกจับข้อหาขโมยของใน K-Mart เป็น tutor ให้
เหลี่ยมคนนี่ต้องอาศัยช่วย

Consul ของหลายๆ ประเทศแปลกใจว่าทำไมคนที่รัฐบาลเขา blacklist ไม่ออก Visa ให้เข้าประเทศเขา แต่ยังได้ขึ้นแท่น
นั่งในตำแหน่งผู้บริหารในรัฐบาลไทยปัจจุบัน เกือบทุกกรม กอง กระทรวง และองค์กรกลางทั้งหลาย โดยเฉพาะตำรวจและทหารไทย
หลายคน ทั้งที่ยังอยู่ในอายุราชการและออกไปแล้ว เขาสงสัยว่าทำไมอ้ายเหลี่ยมเอาแต่คนเลวที่สันหลังหวะมาเป็นลิ่วล้ออยู่ในรัฐบาล
เพื่อจะให้ควบคุมง่าย ไม่แตกแถว ซ้ายเป็นซ้าย ขวาเป็นขวา ด้านเป็นด้าน หนาเป็นโ - ค - ต - ร –หนา เหมือนหัวหน้ามันที่มี
เรื่องโกงเขามาตลอดในอดีต ทั้งพ่อตาแม่ยาย ชาติชั่วทั้ง โ - ค - ต - ร – จริงๆ
These assholes are definitely the embarrassment to Thailand
nen


ความคิดเห็นที่ 168

อ้ายพันสัตว์นี่แหละตัวจริงเปิดเว็บไซด์มานุสสยะจาบจ้วงเบื้องสูงเป็นมือตีนให้อ้ายเ – หิ้ - ยเหลี่ยม
วันก่อนดูทีวีผ่านไปช่อง 5 คนจัดออกตุ๊ดๆชื่อดนัยอะไรซักอย่าง ไม่ได้คิดว่าจะดู
แต่ไปสะดุดคำพุดอ้ายแขกรับเชิญในรายการคือตัวมันนี่แหละ พูดภาษาไทยคำอังกฤษสามคำ
กลัวคนไม่รู้ว่ากูเนี่ยะใช้ English เป็น mother tongue นะ มันพูดว่ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียม
กันหมด ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เหมือนในอังกฤษที่ประชาชนออกมายืนด่าควีนอลิซาเบธปาวๆ
ที่ Hyde Park ตำรวจอังกฤษไม่เห็นว่าอะไร บอกควีนอังกฤษก้อเหมือนคนธรรมดาคนนึง ต้องการจะ
hint อะไรหรือ วิธีการและภาษาที่มันพูดเหมือนกับที่ใช้ตอบคนอ่านที่ถามคำถามหรือด่าเข้าไปในเว็บนั่นเลย
คงไม่ทันคิดว่าคนอยู่เมืองไทยก้อมีโอกาสเข้าไปอ่านในเว็บนั้นมากเหมือนกัน เดาว่าคนช่วยเรียบเรียงประวัติ
ศาสตร์ไทยแล้วเอาไปบิดเบือนในเว็บ จริงบ้างไม่จริงบ้าง คืออ้ายภูมิธรรม พวกนี้ต้องการล้างสมองคนรุ่นใหม่
และรากหญ้า เตรียมตัวแพ็คกระเป๋าลงเรือได้แล้วนะ พวกกบฏแผ่นดินน่ะตัดคอประหารชีวิตลูกเดียว
ไม่ต้องรอให้ deport หรอก จะถูกสหบาทาของประชาชนไทยเหยียบหน้าเละเสียก่อน เรื่องใกล้
จะแดงออกมาแล้วนะ เหมือนยมบาลมากวักมือเรียกหน้าบันไดบ้านไหวๆ

สนธิน่าจะรู้รายละเอียดดีที่สุด เพื่อนรักกันมาก่อนทั้งนั้น รอว่าจะออกมาปูดเมื่อไหร่
พยายาม think positive ว่านายสนธิกลับตัวกลับใจได้ก่อนเมื่อเห็นพรรคพวกเข้าไปแตะของสูง
ไม่ใช่ขัดผลประโยชน์กันเอง แล้วออกมาแฉเหมือนที่อดีตเพื่อนรักที่ยังคงภักดีต่อ ทรท พยายามออกมา
แก้ตัวให้ฝ่ายที่ถือหางพันธมิตรเข้าใจ เหมือนผัวเมียตีกัน เดี๋ยวแอบตกลงผลประโยชน์กันได้ก้อกลับไป
จูบปากกันเหมือนเดิม

นายสนธิก้าวออกมาเกินกว่าจะถอยแล้ว จงทำความดีต่อไปเพื่อประเทศชาติ เป็นการไถ่บาปให้กับตัวเองในบั้นปลายชีวิต
ลูกหลานที่จะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปในประเทศไทย จะได้เดินชูคอเชิดหน้าได้อย่างสง่าผ่าเผย เป็นคุณอนันต์กับวงศ์ตระกูล
ว่าได้มีปู่ทวดเป็นวีรบุรุษของชาติตอนแก่ เพราะโจรได้กลับใจออกมาแฉความชั่วของกบฏแผ่นดิน มีส่วนช่วยให้ชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้รอดพ้นจากเงื้อมมือโจร ซึ่งมาในคราบนักการเมือง และ ข้าราชการที่ดูเผินๆเหมือนคน
แต่ใจต่ำทรามกว่าสัตว์นรก

xwomen


ความคิดเห็นที่ 152

กล่าวกันถึงความเชื่อมโยงที่ไม่ต้องสงสัย....!
ด่าแต่ตุ๊ดแก่.......
หันมาสนใจพิธีกรบ้างดิ......ดนัย หมาแก่งัย

แปลกใจมั้ยทำไม พันศักดิ์ ถึงออกรายการดนัยหมาแก่บ่อยๆ

แปลกใจมั้ยทำไมรายการดนัยถึงได้ระดับสุดยอดของเหลี่ยมมาออกรายการบ่อยๆ
สมคิด....
วิษณุ...
พันศักดิ์....
ทนง....
ดร.โกร่ง....
สุรนันท์...
ผดุง.....
สิเทย.....

แปลกใจมั้ยล่ะ..................ข่าวแรงๆของรัฐบาลเกิดปั๊ป วันรุ่งขึ้น ขุนพลออกมาแก้ต่างผ่านรายการได้ทันที....
บางครั้งเกิดข่าวเช้า เย็นออกได้เลย....
บางครั้งเกิดหัวค่ำออกได้แต่เช้าตรู่......

อย่าแปลกใจ.......เพราะ
โครงการโฆษณามหาศาล.....เถ้าแก่มือใหม่จาก สสว...4ปีซ้อน กับงบนับสิบๆล้านบาท....จากเจ๊จิตรา
ทั้งทีวีผ่านดาวเทียมที่ไม่มีคนดู บิสซิเนส แชลแนล ปัจจุบันเจ๊งแล้ว(บ.นิวมัสติมีเดีย )
ทั้งวิทยุบิสซิเนส เรดิโอที่สามปีเปลี่ยนเลขคลื่นทั้งสามปี......แต่ก็มีงบจากเจ๊ป้อนตลอด(บ.จีจีนิวส์ )
ทั้งนิตยสาร SME TODAY ของ สสว...ที่เจ้าเก่าเค้าทำไว้ดีแล้ว เจ๊ก็ดึงมาให้ฝั่งนี่ทำ......จะได้แบ่งกันง่าย........งบทำนิตยสารทั้งเล่ม....พร้อมโฆษณา ขายได้แบ่งกันน่ะ....คนจะอ่านหรือไม่ไม่สนใจ(บ.อัพลิงค์)
ทั้งงานวีเว้นส์ โครงการเถ้าแก่มือใหม่....4ปีซ้อน จัดจ้างพิเศษที่ไม่ต้องประมูล แบ่งเค้กไปเลยน่ะเสี่ยยักษ์ แบ่งให้พี่แล้วกัน.............................
จัดทุกภาค ฟันทุกภาค บริษัทเดียวกันตลอด....(จีจีพลัส).
ไหนจะงานเล็กงานน้อยจาก สสว....
งานหนึ่ง ต้นทุนไม่ถึงล้าน สองล้าน................
กำไร ตั้งหลายล้าน...โธ่ สสว หน้าโง่.......

พนักงานทำให้ตาย ไม่ได้หน้า เพราะเค้าวิ่งเข้าหานายใหญ่ไม่มองแม้กระทั้งคนทำงานหน้าห้อง.....
( มีนายหน้า ร่างยักษ์กับม่ายสาวทรงเสน่ห์ กลัวอะไร แว่วว่า ซื้อบ้านเฉียด 8ล้านย่านประชาชื่นด้วยดิ )

ไหนจะงบ พีทีไอ....จากทีมฟื้นฟูสัมพันธ์ลึก......
ไหนจะงบเอสเอ็มอี แบงค์ ทั้งรายการและสปอตยิงทั้งคลื่น
ไหนจะงบ ก.คลัง
ไหนจะงบ ก.พาณิชย์
ไหนจะงบ ซีพี จาก.............
ไหนจะงบ ปตท. จาก............
ไหนจะงบ โอ้แม่จ้าว....................มากมาย.....

ขออย่างเดียวอย่าด่ารัฐบาล..........!!!!!

จุ๊ๆๆ จัดสัมมนาด้านเศรษฐกิจ เอาบิ๊กของรัฐมาปาถก...บ่อยๆ แสดงวิชั่น แล้วแบ่งงบจัดงานป้อน งบโฆษณาให้...สร้างกระแสน้ำดีให้พี่เสนาบดี
เก็บเงินคนฟังหน้าโง่..................ได้สองเด้ง............

ไม่ต้องแปลกใจ..............
ใครกันหนอ กู้เงินแบงค์ มาทำทีวี ไม่กี่วันอนุมัติ.......
ทำไปทำมา แล้วเจ๊ง..................................อึ่ง

ขอ บอก
บิสซิเนส เรดิโอ
สำนักข่าว จีจีนิวส์
บ.จีจีนิวส์
บ.จีจีพลัส
บ.อัพลิงค์
บ.นิวมัติมีเดีย

เจ้าของเดียวกันทั้งหมด......................ยะ
สับขาหลอกง่ายจะตาย......
สรุปแล้วไม่ต้องแปลกใจน่ะ............ว่าทำไม

เห็นแขนลีบ ทำงานแขนเดียวแบบนี้อ่ะ
ใครจะรู้ว่าแหลมคมเรื่องคารมแค่ไหน
ไม่เช่นนั้นคงไม่เผด็จศึกม่ายสาวรุ่นใหญ่ทรงเครื่องได้หรอก......
เธอคือล๊อปบี้ยิส์ตัวยง.....
แว่วว่ามีเรือนหอเฉียด8ล้าน ย่านสนามบินน้ำด้วยล่ะ.........
ใครกันหนอ........ดาวน์ให้อ่ะ..........อิอิ

เสี่ยแดงลีบ..............งัย
จุฬา ท่าน้ำวาสุกรี

มาเยี่ยมและขอบคุณคับ

โบกธงยาวๆๆ คับพี่น้อง!

จะโบกธงไทยกันเหรอ โน โน โน่

ก็ไอ้ทักษิณมันทำตัว ทอทะหาน ทับไว้ที่แถบสีน้ำเงินแล้วพี่น้อง!
โบกไปก็เหมือนเชียร์มัน เวนกำ ตัวรายัมแม้วเมืองไทย

อิอิ ว่าแล้วเชียว.. โทษทีนะค๊า เอาหน้าตาอัปลักษณ์มาแปะที่บล็อกคพี่แหม่ม

^
^
ขำการ์ตูนอ่า

“โสภณ” เตือน “แม้ว” หยุดป้ายสีไถเงินหมื่นล้าน ขู่แฉ 2 เรื่องมิบังควร

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2549 18:16 น.

//www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9490000069412

“โสภณ สุภาพงษ์”โต้ “ทักษิณ”อ้างขอเงินหมื่นล้านตั้งกองทุนเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น เชื่อสร้างเรื่องหวังดิสเครดิต ยืนยันพูดปฏิญญาฟินแลนด์ไม่เคยพาดพิงใคร แฉ 4ปีก่อนนัดกินข้าวพร้อมหมอประเวศ โอ้อวดสรรพคุณความสามรถ เตือนหากไม่หยุดป้ายสีพร้อมเปิดโปง2เรื่องลับที่คนเป็นนายกฯไม่ควรพูด

วันนี้(26พ.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.00 น.นายโสภณ สุภาพงษ์ รักษาการ ส.ว.กทม. แถลงข่าวตอบโต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดในที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 25 พ.ค.กล่าวหานายโสภณ ขอเงินตั้งกองทุนจำนวน 10,000 ล้านบาท จากพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อไม่ให้จึงทำให้ตนเองออกมาพูดมาในลักษณะที่สร้างปัญหาให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์

นายโสภณ แถลงว่า ตนรู้สึกแปลกใจที่พ.ต.ท.ทักษิณโกรธตนกรณีปฏิญญาฟินแลนด์และมาพูดเรื่องเท็จเกี่ยวกับตนเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ขอยืนยันว่า สิ่งที่นายกฯพูดเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เรื่องที่ตนจะคิดของเงินตั้งกองทุนใดๆจากนายกฯนั้น แม้แต่จะคิดก็ไม่เคยคิดจะขอใครโดยเฉพาะกับนายกฯคนนี้ ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เรื่องขึ้นเพื่อทำลายชื่อเสียงของตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์หรือเรื่องการทุบท้าวมหาพรหม หรือเว็บไซต์มนุษยดอทคอม ที่พ.ต.ท.ทักษิณ และคนใกล้ชิดอ้างถึง ซึ่งตนไม่เคยพูดว่าว่านายกฯเชื่อหมอเขมรแล้วสั่งให้ทุบ

นายโสภณ กล่าวชี้แจงว่า สำหรับเรื่องการรับประทานอาหารระหว่างตนและนายกฯที่บ้านพักย่านลาดพร้าวเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมานั้นเกิดจาก พ.ต.ท.ทักษิณได้มาปรึกษาหารือกับตนว่า จะขอนัดพบว่า นพ.ประเวศ วะสี ราษฏรอาวุโส ซึ่งน.พ.ประเวศ บอกว่าให้มาพบกันที่บ้านของตน โดยในวันนั้นนอกจากพ.ต.ท.ทักษิณ น.พ.ประเวศ แล้วยังมี พล.ท.ปรีชา วรรณรัตน์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและคนในครอบครัวตนได้ยินสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณ พูดทั้งหมด

“มากินข้าวบ้านผมแล้วยังมาให้ร้ายเจ้าของบ้านอีกเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและไม่ควรทำ ผมจำได้ว่าในช่วงแรกของการพูดคุยนั้นพ.ต.ท.ทักษิณได้คุยโม้โอ้อวดตามแบบของตนเองว่า สามารถกันงบประมาณจากส่วนราชการต่างๆมาไว้ที่ตนเองถึง 14,000 ล้านบาท เพื่อไว้ใช้ตามที่ต้องการบาทและจากนั้นยังคุยเรื่องอื่นๆอีก รวมทั้งได้พูดถึงเรื่องอื่นๆอีก 2 เรื่อง ซึ่งผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่คนเป็นนายกฯไม่สมควรพูดหรือแสดงท่าทีอย่างนั้น ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณคงจะจำได้ว่าพูดอะไรไว้ แต่ที่ผ่านมาโดยมารยาท ผมยังไม่เคยเปิดเผยสิ่งที่ไม่สมควรเพราะจะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณเสียหายมาก แต่ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ยังพูดจาใส่ร้ายป้ายสีผม และยังไม่ปรับปรุงตนเอง ผมก็คงต้องพูดในสิ่งที่ได้พูดในวันนั้นให้กับสาธารณชนรับทราบ “นายโสภณ กล่าว

นายโสภณ กล่าวว่า ตามมารยาทเรื่องที่คุยกันที่บ้านใครไม่ควรนำมาพูดหรือเปิดเผย ถ้าตนนำมาเปิดเผยพ.ต.ท.ทักษิณจะเสียหายมาก เรื่องนี้สามารถสอบถามได้กับน.พ.ประเวศได้ทุกเรื่อง ตนคาดไม่ถึงว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะพูดถึง 2 เรื่องนี้ และขอเรียนว่า ตนไม่เคยพูดระบุชื่อพรรคหรือบุคลใดที่ทำปฏิญญาฟินแลนด์ เพราะไม่รู้เรื่องไม่เกี่ยวข้องด้วยและไม่สนใจว่าใครทำ แต่มีการเขียนวิเคราะห์จากคอลัมท์นิสต์ซึ่งเหมือนกับสถานการณ์ประเทศไทยที่ประสบอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เลิกฟังคนใกล้ชิดที่มาพูดใส่ร้ายตนและอย่ามาตอบโต้ทางการเมืองทั้งพรรคไทยรักไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ

นายโสภณ กล่าวว่า ความจริงพ.ต.ท.ทักษิณได้ขอคำปรึกษากับตนตั้งแต่เป็นนายกฯตั้งแต่ปีแรกๆแล้วว่าอยากให้ตนแนะนำและบอกอะไรเสมอและมีการพูดคุยกันมาเรื่อยๆ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณกลับมาสู่ความจริงและปรับปรุงเรื่องจริยธรรม ซึ่ง 2 เรื่องที่ตนพูดก็คงๆไม่ต้องมาพูดกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้วิเคราะห์สาเหตุที่พ.ต.ท.ทักษิณมาพูดให้ร้ายหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องปฏิญญาฟินแลนด์ที่ไปเข้าใจว่าตนออกมาพูด ขอยืนยันว่าตนได้วิเคราะห์ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ว่าเหมือนกับที่มีคนพูดเอาไว้ ไม่ทราบว่าวันนี้พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอะไรถึงได้เที่ยวโกรธคนอื่นที่ขอคำปรึกษาหลายคน ขอให้พ.ต.ท.ทักษิณไปฟังเทปได้เลยและอย่าได้นำชื่อตนไปตอบโต้ทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณและของพรรคไทยรักไทย

เมื่อถามว่า 2 เรื่องที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงและสถาบันหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ขอรักษามารยาทที่ยังจะไม่เปิดเผยแต่ที่สิ่งที่พูดส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อตัวพ.ต.ท.ทักษิณถ้าหากในสังคมรับทราบ เมื่อถามอีกว่า การออกมาเปิดเผย 2 เรื่องดังกล่าวจะดีว่าปล่อยให้ประเทศเสียหายไป นายโสภณ กล่าวว่า ก็กำลังคิดอยู่ เพราะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก หากพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ปรับปรุงตนเองก็คงอธิบายเรื่องทั้งหมดที่คุยกัน ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้น.พ.ประเวศ และพล.ท.ปรีชา รวมถึงคนในบ้านก็ได้ยืนทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้ง 2 เรื่องนี้พ.ต.ท.ทักษิณได้ลงมือทำไปแล้วหรือยัง นายโสภณ กล่าวว่า เรียกว่า ทำไปแล้ว ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า เมื่อ 2 เรื่องถูกเปิดเผยแล้วจะทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯได้อีกหรือไม่ แต่ยืนยันเป็นเรื่องที่เสียหายต่อตัวนายกฯโดยตรง เมื่อถามว่า การออกมาพูดวันนี้เหมือนกับเป็นการแบล็กเมล์พ.ต.ท.ทักษิณ นายโสภณ กล่าวว่า ตนก็กลังเหมือนกันว่าจะถูกมองไปเช่นนั้น ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบคอบ ซึ่งข้อมูลปฏิญญาฟินแลนด์ได้รับทราบหลายครั้งหลายคนจากคนเดือนตุลา ซึ่งความคิดแบ่งออกเป็น 2 ฝัก 2 ฝ่าย มีทั้งภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่นี้และไม่เห็นด้วย แต่ข้อมูลไม่ได้จากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยตามที่พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าใจ

มาทักทายนะคะพี่ ^^

เรื่องคนบางคนนี่.. น่าเบื่อจริงๆ ค่ะ
ไม่รู้เมื่อไหร่จะ "พอ" สักที.. กับการโกงชาติบ้านเมืองเนี่ย..

ว่าแต่.. ที่น้ำท่วมเพราะแผ่นดินต่ำลงรึเปล่าคะ?
มีพวก "หนักแผ่นดิน" พวกนี้อยู่เยอะน่ะค่ะพี่..

ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ
รักประเทศไทย ขับไล่พรรคทรราชออกไป
ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ ทักษิณโกงประเทศ
รักประเทศไทย ขับไล่พรรคโกงประเทศ