ประสบการณ์ท้องและผ่าคลอดแบบชิวๆ
เราคงเหมือนคุณแม่หลายคนที่ตั้งใจจะคลอดโดยวิธีธรรมชาติๆ แต่เนื่องจากเจ้าตัวเล็กไม่ให้ความร่วมมือ เลยได้แผลเป็นที่ระลึกให้หน้าท้องบวมๆหมดงามไปกันใหญ่
เราไปหาหมอฝากท้องตอนอายุครรภ์ประมาณ 7w ซึ่งคุณหมอขอซาวน์ทางช่องคลอด เห็นเจ้าตัวเล็กมีหัวใจเต้นดุ๊บๆๆเป็นที่เรียบร้อย และประมาณการคลอดช่วง 3 ส.ค. การตั้งครรภ์ก็เป็นไปตามปรกติ จะมีขลุกขลักบ้างก็อาการปวดท้องรุนแรงชนิดตัวคดตัวงอไป 3 วัน จนต้องไปหาหมอ ซาวน์เจอซีสต์ที่รังไข่ขวา ซึ่งหมอบอกว่าเป็นปรกติของคนท้องและจะหายไปเอง (สุดท้ายก็หายไปจริงๆ จะว่าไปจ่ายเงินปุ๊บก็หายปวดปั๊บอะ สงสัยอยากเสียตังค์)
เรื่องน้ำหนักช่วงไตรมาสแรกขึ้นมา 2 Kg ไม่ค่อยแพ้ท้องเท่าไร กินได้ปรกติ ส่วนไตรมาส 2 น้ำหนักกระฉูดเนื่องจากปากพาอับจนพิศวาสมะม่วงน้ำดอกไม้ ซัดโฮกๆๆที 3-4 ลูก บวกกับไอติมมะม่วง ผลคือน้ำหนักกระฉูด จนคุณหมอดุแกมบังคับให้คุมน้ำหนัก เพราะก่อนตั้งครรภ์น้ำหนักเยอะ (66 Kg) เบ็ดเสร็จเหมารวมช่วงนี้ขึ้นมา 8 Kg ผลจากการระวังปากไตรมาสสุดท้ายน้ำหนักเลยขึ้นนิดหน่อยเฉลี่ยเดือนประมาณ 1 Kg
เจ้าตัวเล็กเริ่มกลับหัวตอน 32w เรารึก็ดีใจว่าตูดหมึกๆ แบบนี้คลอดธรรมชาติชิวๆ แต่ที่ไหนได้ 36w ไปตรวจภายในหมอว่าเด็กยังไม่เอาหัวลงมาที่อุ้งเชิงกรานนะ ยังไงลองเดินเยอะดู เผื่อกระชอกลงมา อิอิ เราก็บ้าจี้เดินวันละเป็นกิโลๆๆๆ ผลก็เหมือนเดิมค่ะ 37w ไปตรวจก็ยังไม่ลงสุดท้ายหมอบอกให้กลับไปดูฤกษ์งามยามดีผ่าออกเถอะ เพราะส่วนหนึ่งช่วงนี้น้ำหนักเริ่มลดลง ซึ่งหมอว่าสงสัยรกเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว
เอาฟระ ผ่าก็ได้ แต่ยังแอบหวังเล็กๆ ว่าลูกจ๋าจะให้ความร่วมมือ ที่บ้านหาฤกษ์ให้วันที่ 2 ส.ค. นัดหมอตอนเที่ยงๆบ่ายๆ
วันที่ 1 งานเข้าตื่นมาเริ่มมีมูกเลือดก็รีบแจ้นไปหาหมอ (เพราะใจจริงอยากให้ลูกคลอดวันที่ 1 งะ พ่อเกิด 15 แม่เกิด 30 จำง่ายดี ) แต่หมอบอกรอได้ ไว้รอฤกษ์พรุ่งนี้ละกัน สุดท้ายส่งกลับบ้าน เสียค่ารถไปฟรีๆ กำ หนำซ้ำตี 1 น้ำเริ่มเดินพาเลยกันไปโรงพยาบาลใหม่ ไม่อยากบอกว่าไปได้ครึ่งทางระลึกได้ว่าจะไปนอนรอทำไมหว่าไว้นอนตอนผ่าเสร็จดีก่า ว่าแล้วก็วนรถกลับบ้านนอน นอนไปได้สักพัก ตี 3 น้ำเดินแบบทะลักทลาย คราวนี้ฉลาดโทรไปโรงพยาบาลก่อน ห้องคลอดบอกให้รีบมาเพราะอาจอันตรายต่อเด็ก สุดท้ายเลยแอดมิทตอนตี 4
พยาบาลมาติดเครื่องฟังเสียงหัวใจและวัดการบีบตัวของมดลูก รวมถึงตรวจภายในดูว่าปากมดลูกเปิดกี่เซนต์ (แอบงง เพราะเราผ่าจะตรวจทำไมอะ แอบแหกปากด้วยเพราะปวดมากๆๆๆ) สวนถ่าย และก็โกนๆๆๆๆ แถมท้ายว่าจะรอฤกษ์มั๊ยค่ะ ตอนนั้นปวดมากจนบอกไปเลยค่ะว่าตามหมอได้ก็ผ่าเลย ไม่ทนเจ็บแล้วอะ
เข้าห้องผ่า ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ สบายๆ หมอวิสัญญีก็น่ารักอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียด (ไม่ได้ใส่ใจเลย ทำไรก็ทำเถอะ) แล้วก็เริ่มบล็อคหลัง โดยให้นั่งงอตัว ขอบอกว่าไม่เจ็บเลยนะ เย็นๆวาบๆที่หลัง สักแป็บก็เริ่มไม่รู้สึกแล้วอะ จะว่าไม่รู้สึกก็อาจไม่ถูกนัก เรารู้นะว่ามีคนมาทำอะไรแต่ไม่เจ็บอะ เหมือนหนังตึงๆ แล้วก็เริ่มสวนท่อปัสสาวะ หมอมาประมาณ 6 โมงลงมีด แล้วเจ้าตัวเล็กก็โผล่มาตอน 6.11 โมง พ่อจ๋าร้องไห้ด้วย แต่เราง่วงอะ ถามว่าดีใจมั๊ยก็ดีใจนะ แต่ไม่ร้องแฮะ อิอิ
เจ้าตัวเล็กแรกคลอดหนัก 3.7 kg สูง 50.5 เกินมาตรฐานหญิงไทยมานิดนึง แถมร้องเสียงดังมากจนหมอๆๆแซวเลย ที่สำคัญออกมาดูดปากส่ายหัวหานมแจ๊บๆๆๆๆ จนหมอต้องสั่งกลูโคสให้กินอะ ก๊ากๆๆๆ ลูกชั้นทำขายหน้าจัง
เอารูปหน้าซาลาเปามาฝากค่ะ อ๋อหนูน้อยนางนี้ชื่อโบอิ้งค่ะ (รุ่นใหญ่จัมโบ้ 747 เลย อิอิ)
แถมรูปช่วงครึ่งเดือนมาโชว์ อิอิ
แล้วจะมาอัพความแสบของเจ้าตัวเล็กและความโทรมในการอยู่เดือนให้ฟังนะค่ะ
Create Date : 02 กันยายน 2552 |
|
33 comments |
Last Update : 3 ตุลาคม 2552 15:49:34 น. |
Counter : 1174 Pageviews. |
|
|
|