มีนาคม 2554

 
 
2
3
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
20
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
วันวุ่นวาย (กับหมา)
เพิ่งกังวลเรื่องเตี๋ยวไปเมื่อวันวาเลนไทน์ ไม่ทันไรเตี๋ยวกลายเป็นคุณแม่ยังสาวซะแล้ว ซึ่งฉันก็สังเกตรูปร่างเตี๋ยวมาตลอดเพิ่งจะเห็นนมเต่งตึงผิดปกติเมื่อสองสัปดาห์มานี้ ท้องก็ไม่ได้ใหญ่อะไรจากปกติ คิดว่าเตี๋ยวท้องแน่ๆ แต่คงอีกนานกว่าจะคลอด แต่วันนี้้้ท่ามกลางแดดเปรี้ยงของเที่ยงวัน เตี๋ยวไปหลบอยู่ข้างรั้วใต้ต้นมะลิ และให้กำเนิดหมาน้อยน่ารักมาถึงห้าตัว โอ้!!! แล้วใครจะเลี้ยงเนี่ย งานเข้าเลยทีนี้

ช่วงสายๆ ที่ฉันตื่นมาก็ได้ยินเสียงหมาร้องเหมือนติดอะไรสักอย่าง มองไปบ้านตรงข้ามก็เห็นสองนางคือด้ากับก๊วย ไม่เห็นเตี๋ยว ฉันเลยต้องออกไปดูที่บ้านฝั่งตรงข้าม ก้มดูข้ามรั้วก็พบเตี๋ยวนอนอยู่ใต้ต้นมะลิท่าทางกระสับกระส่าย และทำท่าเบ่งๆ-นี่เตี๋ยวจะคลอดลูกแล้วเหรอ ท้องก็ยังไม่ใหญ่น้า แต่ด้วยความร้อนของแดดตอนใกล้เที่ยงฉันจึงเดินกลับมาบ้านแล้วกะว่าสักพักจะไปสังเกตการณ์ใหม่

ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงได้ยินเสียงหมาคำรามใส่กันฉันจึงรีบวิ่งไปดูตรงจุดเดิม ปรากฏว่ามีหนึ่งชีวิตที่บ่งชัดว่ารับรองสำเนาถูกต้องของเพชรนิลกำลังคลานเข้าอ้อมอกคุณแม่หมาดๆ ซึ่งเตี๋ยวกำลังแยกเขี้ยวทำหน้าที่ปกป้องลูกน้อยสุดกำลัง ตรงกันข้ามกับเตี๋ยวคือด้าที่แยกเขี้ยวย่างสามขุมเข้าหาหวังจะเอาลูกน้อยของเตี๋ยวไปขย้ำ ฉันดุด้าเท่าไรก็ไม่เป็นผลจึงต้องรีบเปิดประตูเข้าไปใช้ไม้ตีด้าให้ถอยห่าง
กระนั้นด้ายังมึนจะเดินเข้าหาเตี๋ยวต่อจนฉันต้องลากด้าไปไกลๆ แล้วคอยยืนกันท่าเอาไว้

สิบนาทีต่อมาอีกหนึ่งชีวิตก็หลุดออกมาจากมดลูกพร้อมถุงน้ำคร่ำที่ยังห่อหุ้มตัวอยู่ ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่โดยไม่ต้องมีใครสอน เตี๋ยวจัดการกัดดึงถุงน้ำคร่ำออกและกัดสายสะดือให้ลูก ฉันได้แต่อึ้ง อุตส่าห์จะมาช่วยเป็นหมอตำแยซะหน่อย งานนี้ฉันได้แต่ช่วยเบ่งอย่างเดียว อาจเป็นภาพไม่ค่อยน่าดูนักที่แม่หมาจะกัดถุงน้ำคร่ำแล้วกลืนกินเข้าไปไม่เหลือซาก แต่มันก็เป็นสัญชาตญาณของสัตว์ที่รู้
ได้เอง ฉันเคยได้ยินบางคนพาหมาไปคลอดที่โรงพยาบาลสัตว์และต้องมีหมอช่วยทำคลอด แต่นี่หมาบ้านๆ ทำเองเป็นหมดทุกอย่าง
เมื่อจัดการเปลือกที่หุ้มห่อร่างกายลูกน้อยเสร็จเตี๋ยวก็จัดการเลียทำความสะอาดลูกซะเอี่ยมไม่มีคราบเกรอะกรังเหลือให้เห็น ตัวนี้สีออกน้ำตาลอ่อน ไม่แน่ชัดว่าได้เชื้อจากพ่อตัวไหน

สองชีวิตผ่านไปไม่นานชีวิตที่สามก็ตามมา เตี๋ยวขยับตัวเบ่ง อึ้ด!... ร่างหมาน้อยก็พรวดออกมาจากทางที่มันเข้าไป เตี๋ยวก็จัดการเช่นเดิม ฉันได้แต่เอามือลูบหัวให้กำลังใจและถามเตี๋ยวว่าหมดหรือยัง แต่ท่าจะยังไม่หมดเพราะท้องของเตี๋ยวยังไม่ยุบลงสักเท่าไร ด้าก็คอยหาโอกาสจะย่องเข้ามาเป็นระยะ ฉันก็ต้องคอยใช้ไม้ตีกำราบไว้ แต่ดูเหมือนด้าจะไม่สะทกสะท้านอะไร ฉันบอกว่า "นั่นหลานแกนะ แกเป็นยายแล้วนะ" มันก็ได้แต่ทำหน้ามึนคอยหาจังหวะจะเข้าหาเตี๋ยว เจ้าหมาน้อยตัวที่สามนี้มีสีเข้มแต่ไม่ถึงกับดำ แต่ละตัวสีไม่เหมือนกันเลย เตี๋ยวเอ๊ย...แกผ่านใครมาบ้างเนี่ย

ฉันเฝ้าดูเตี๋ยวให้กำเนิดชีวิตน้อยๆ มาแล้วสามชีวิต แดดเริ่มไล่มาถึงตรงที่เตี๋ยวกับลูกนอนอยู่ ฉันต้องไปหาสังกะสีมาบังแดดให้แล้วออกไปยืนหลบแดดอยู่ไม่ไกล มองเพลินๆ ไม่นานก็มีก้อนถุงน้ำคร่ำออกมาอีกก้อน เตี๋ยวจัดการเช่นเดิม คราวนี้สีดำสนิทอย่างไม่ต้องสงสัยว่าใครเป็นพ่อ เจ้าหมาน้อยๆสี่ตัวต่างก็มุดหาเต้านมตามสัญชาตญาณเหมือนกัน แม้ตาจะยังไม่เปิดแต่หมาน้อยก็ไปถึงนมแม่อย่างไม่ยากเย็นนัก

สี่ตัวแล้วฉันเองก็เริ่มล้าเลยกลับไปพักที่บ้านสักครู่ มองนาฬิกาก็ปาไปบ่ายโมงครึ่งแล้ว นั่งได้แค่สิบนาทีได้ยินเสียงเตี๋ยวขู่คำรามฉันต้องรีบวิ่งไปห้ามทัพ เมื่อเข้าไปใกล้ๆ เตี๋ยวก็เห็นว่ามีสมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่ง ทีนี้สีขาว ทำเอางงเลยว่าลูกใครกันหนอ คราวนี้ด้ามายืนประจันหน้ากับเตี๋ยวที่นอนกกลูกอยู่ฉันไม่มีอาวุธอะไรจึงใช้หน้าแข้งเตะป้าบด้าไปหนึ่งที...นิ่ง ด้าไม่สะเทือน ป้าบที่สอง...นิ่งอีก แถมรุกคืบเข้ามาอีก ป้าบที่สาม...มึน นี่มันไร้ความรู้สึกหรือขาฉันไม่มีแรงกันแน่นะ สุดท้ายก่อนด้าจะใกล้เตี๋ยวมากกว่านี้ฉันจึงต้องกึ่งลากกึ่งอุ้มด้าออกมาจากตรงนั้น

ดูรูปการณ์แล้วเตี๋ยวท่าจะอยู่บ้านเดียวกับด้าไม่ได้ เพราะก๊วยเองก็ด้อมๆ มองๆ พร้อมจะเข้าขย้ำลูกเตี๋ยวเมื่อด้าลงมือก่อน ฉันจึงต้องอพยพด้ากับก๊วยไปเดินเล่นที่บ้านฉันก่อน รอให้เตี๋ยวฟื้นตัวและดูท่าทีว่ายังจะมีตัวที่หกไหมแล้วค่อยพาทั้งแม่ทั้งลูกไปบ้านฉัน ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงฉันเข้ามาจัดที่ทางที่จะให้เตี๋ยวกับลูกได้อยู่ชั่วคราว เตรียมที่ทางแล้วปฏิบัติการขนย้ายก็เริ่มขึ้น ฉันจับเจ้าหมาน้อยทั้งห้าห่อผ้ามาไว้ที่บ้านฉันและหวังว่าเตี๋ยวจะตามลูกมา แต่เปล่า-เตี๋ยวไม่มีแรง เลยเป็นหน้าที่ฉันที่ต้องอุ้มแม่หมาที่ยังอ่อนแรงออกจากบ้านที่มันเกิดมายังบ้านฉัน-บ้านพักชั่วคราวของแม่ลูกทั้งหก

เมื่อย้ายยกครัวมาแล้วก็ถึงคราวบำรุงตัวแม่บ้าง ฉันเอานมให้เตี๋ยวกินไปหนึ่งกล่องก็ดูท่าทีจะมีแรงขึ้นมาบ้าง คราวนี้ฉันลูบหัวเตี๋ยวแล้วบอกว่า "อยู่ที่นี่ปลอดภัยแล้วนะ" เตี๋ยวดูจะเข้าใจส่งแววตาอ่อนโยนมาให้ ฉันเองก็เหนื่อยไม่แพ้กันเพราะยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า
เมื่อเตี๋ยวและลูกได้ที่ปลอดภัยฉันก็ขอไปพักบ้าง นาฬิกาตอนนั้นบอกเวลาบ่ายสามโมงกว่าเข้าแล้ว

ฉันหาอะไรใส่ท้องแล้วไปหาหมูน้อยเพื่อบอกข่าวดีนี้ให้รู้ หมูน้อยตื่นเต้นมากขอมาดูลูกเตี๋ยวและช่วยตั้งชื่อลูกๆ ของเตี๋ยว เพราะคลอดใต้ต้นมะลิหมูน้อยจึงให้เจ้าตัวขาวชื่อมะลิ แล้วก็มีมะขาม มะม่วง มะเฟือง มะไฟ เอ่อ...ไม่ใช่ร้านขายผลไม้นะหมูน้อย แต่ฉันยังไม่ตกลงในชื่อเหล่านั้น บอกหมูน้อยว่าพรุ่งนี้เราค่อยมาช่วยกันตั้งใหม่ดีกว่า เพราะอย่างไรฉันคงไม่ได้เลี้ยงเจ้าตัวเล็กพวกนี้จนโตแน่ คงจะให้
คนอื่นไปช่วยเลี้ยง ก็หมาพวกนี้มันหมาคนอื่นทั้งน้าน

คนที่เห่อหมาน้อยไม่ใช่มีแต่หมูน้อย แม่ฉันก็เห่อใช่เล่น แต่ไม่กล้าเข้าไปจับเพราะเป็นภูมิแพ้ ได้แต่ชี้สั่งให้ฉันทำโน่นนี่นั่นให้เตี๋ยวกับลูก ฉันต้องวิ่งเข้าวิ่งออกคอยดูเตี๋ยวกับลูกจนเหนี่อย แม้แต่คืนนี้ฉันก็ต้องคอยมองเตี๋ยวจากหน้าต่างห้อง ว่าเตี๋ยวจะหนีลูกไหม ฉันต้องคอยรายงานแม่เป็นระยะว่าเตี๋ยวกับลูกเป็นอย่างไรบ้าง และคงไม่ใช่แค่วันนี้ จากนี้ไปชีวิตฉันคงมีแต่หมา หมา และหมา เหอๆ...



Create Date : 21 มีนาคม 2554
Last Update : 21 มีนาคม 2554 2:28:10 น.
Counter : 579 Pageviews.

2 comments
  
5555+ น่ารักจังค่ะ นึกถึงตัวเองตอน เอมี่คลอดลูกเลย ขานั้นคลอดมา 3 ครอกแล้ว เด็ก ๆ น่ารักทุกตัว แต่เราไม่ได้เลี้ยงเองทั้งหมดอ่ะนะคะ ขยักไว้ตัวเดียว นอกนั้นก็แจกญาติบ้าง มีคนขอไปเลี้ยงบ้าง ตอนนี้ปลอดหมาเด็กมาหลายปีแล้วค่ะ เพราะเอมี่ทำหมันแล้ว...แต่ก็ยังแอบอยากเล่นหมาเด็กอยู่ดี
โดย: i'm not superman วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:8:00:26 น.
  
อยากดูรูปด้วยอ้ะ แต่เอาตอนน้องหมาโตๆหน่อยนะคะ ตอนทำคลอดมะอาว..
โดย: สะการะ วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:9:19:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข้าวเหนียวหวาน
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นเพียงเศษละอองของจักรวาล
ที่มีคำถามมากมาย ^_^