Group Blog All Blog
|
เรื่่องของเลข 3 ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีอะไรๆ ก็ผูกกันพันเกี่ยวกับตัวเลขตัวนี้ไปซะแล้ว เลข 3 เลขที่หลายคนอาจบอกว่าเป็นเลขของความโชคร้าย เป็นเลขที่ขาดๆ เมื่อเทียบกับเลขแปดที่เป็นเลขมงคล เพราะเป็นสัญลักษณ์ของอินฟินิตี้ หรือความไม่สิ้นสุด ในขณะที่เลขสามตัดมาเพียงครึ่งของเลขแปด เจ้าสามเลยกลายเป็นตัวเลขที่ไม่ปรารถนาของใครหลายๆ คน แต่กับฉันผูกพันมากับตัวเลขนี้ตั้งแต่เมื่อไรก็จำความไม่ได้ รู้แต่ว่าเวลาต้องเลือกอะไรที่เกี่ยวกับตัวเลขก็มักจะเลือกเลขสาม คงเพราะเป็นลูกคนที่สาม เรามีกันสามคนพี่น้อง เหมือนเป็นการยืนยันความสำคัญของตัวเองอยู่กลายๆ ว่าฉันเป็นลูกคนเล็กนะ ไม่รู้ว่าตั้งแต่มีเลขสามเข้ามาในชีวิตแล้วเป็นอย่างไร ทุกวันมันก็ยังดำเนินไปอย่างนั้น-อย่างที่มันเป็นมาเรื่อยๆ ไม่หวือหวา โลดโผน ออกจะทึมทึบมืดสลัวด้วยซ้ำ แต่ฉันก็ไม่เคยเปลี่ยนใจจากเลขสาม รักเลขตัวนี้ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่อาจรู้ มันมากกว่าชอบนะ เพราะทุกอย่างที่เป็นตัวเลขฉันจะต้องให้เลขตัวนี้มีส่วนร่วมในชีวิต ทั้งร้ายและดี ซื้อหวยทุกครั้งก็ต้องมีเลขสาม ถูกหวยกินเพราะเลขสามแทบทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยจะไม่รักเลขตัวนี้ไปได้เลย เป็นความหลงใหลในความไม่เต็มของมัน-แล้วทำไมต้องเต็ม? ถ้าเราไม่เอาไปเปรียบเทียบกับตัวอื่น เราก็จะไม่เห็นความแตกต่าง ถึงแตกต่าง เลขทุกตัวก็มีความแตกต่าง มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มันก็เป็นเพียงความเชื่อ เป็นเพียงมุมมองของคนบางคนเท่านั้น สำหรับฉัน เลขสามก็คือเลขสาม เลขที่ฉันรักอย่างไม่มีข้อแม้หรือเหตุผล แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่สนใจเลขตัวอื่นเลย เลข 4 เลข 7 ก็เป็นเลขที่เกี่ยวพันกับชีวิตฉันไม่น้อย บ่อยครั้งที่ไม่มีเลขสามให้เลือก สี่กับเจ็ดก็เป็นตัวรองๆ ยังมีรองกว่าสี่กับเจ็ดอีกนะ นั่นคือ 1 เลขที่ใครหลายคนต้องการเป็นที่หนึ่ง แต่สำหรับฉันหนึ่งคือเลขสุดท้ายที่จะนำมาประกอบการตัดสินใจ นอกเหนือจากนี้แล้วเรียกว่าไม่โปรดดีกว่า ฉันใช้ชีวิตกับเลขสามมาจนอายุเข้าหลักสามแบบไม่ทันตั้งตัว-ไม่คิดว่าจะมาถึงวันนี้ แต่ในเมื่อมันเดินทางมาถึงแล้วเราก็ต้องอยู่กับมันไป พื่นที่หลักสามนี้ช่างว่างเปล่า เพราะฉันไม่เคยใส่ใจที่จะใส่อะไรไว้รองรับ เมื่อวันที่ต้องเดินมาถึงจริงๆ จึงมีเพียงความเวิ้งว้างเงียบเชียบ เท้าของฉันค่อยๆ ย่ำสำรวจพื่นที่ว่างเปล่าในหลักสามนี้ ทางข้างหน้าช่างยาวไกลไม่มีที่สุดสิ้น รอบตัวมีเพียงอากาศที่ไร้ชีวิตใดๆ ฉันก้าวเดินอย่างสะเปะสะปะไร้เข็มทิศนำทาง เดินไปเพียงเพื่อให้วันผ่านวันไปเท่านั้น แล้ววันหนึ่งฉันก็พบว่า ยังมีอะไรมากกว่าเลขสามของฉัน วันนั้นเป็นวันที่ 13 ของเดือนถัดมาหลังจากฉันก้าวเท้าเข้าเขตหลักสาม ฉันปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งอยู่ในความเงียบงันกับโลกที่สะลึมสะลือ มีเพียงสายน้ำจากดวงตาไหลมาเพื่อบอกว่า "ฉันยังมีอยู่" ระหว่างโลกความจริงกับโลกความฝันมันไม่ต่างกันเท่าไร ฉันรู้ตัวอีกครั้งก็ได้เห็นแสงอาทิตย์ของวันใหม่ เหลียวมองปฏิทินก็พบกับเลข 14 ใช่สินะ...หลังจากสิบสามคือสิบสี่ โลกนี้ไม่ได้มีเพียงเลขสาม ลำดับถัดไปที่ฉันต้องเรียนรู้คือเลขสี่ แล้วฉันมัวทำอะไรอยู่นะ... การค้นพบที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรต่อมนุษยชาติ แต่มันเป็นการค้นพบบางอย่างที่หายไปของฉันมานาน ฉันผูกตัวเองไว้กับเลขสาม โดยไม่รู้เลยว่าถ้าไม่มีเลขสามแล้วจะเป็นอย่างไร-มันไม่มีอะไรแตกสลาย ทุกอย่างยังคงเป็นไปอย่างที่มันเป็น นี่ฉันให้ความสำคัญกับเลขสามมากขนาดไหนกันนะจึงมองไม่เห็นเลขสี่ที่อยู่ถัดไป เพียงแค่ฉันเปิดเปลือกตาก็จะพบกับวันใหม่ หลังจากนั้นฉันก็พบว่าเลข 14 มันก็สวยงามไม่แพ้เลข 13 เลย เพียงฉันให้โอกาสตัวเองได้ลืมตาขึ้นมาพบความจริงบ้าง จะจมตัวเองอยู่ในโลกที่หม่นมัวเพื่ออะไรกัน แม้ฉันไม่อาจเรียกสิ่งที่ผ่านไปแล้วให้หวนคืนมาได้ แต่ฉันก็ยังยิ้มได้กับ ณ เวลาที่ฉันยืนอยู่ รอยยิ้มอาจอยู่กับเราไม่นาน แต่ก็ดีกว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลย ฉันยังคงรักเลข 3 เหมือนเคย แต่ฉันก็ไม่ลืมที่จะให้โอกาสเลข 4 ได้ทำหน้าที่อะไรต่ออะไรบ้าง เป็นสิ่งที่คอยกระซิบฉันว่า หนทางข้างหน้ายังไม่สิ้นสุด เราต้องก้าวต่อไป อาจมีเหนื่อยบ้าง ล้มบ้าง แต่ฉันยังต้องก้าวต่อไป แสงสว่างอยู่รอบตัวฉัน แม้มันจะไม่จัดจ้านชัดเจน แต่มันก็ทำให้ฉันมองเห็นอะไรต่ออะไรมากมาย และมันจะชัดยิ่งขึ้นเมื่อฉันกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าต่อไป |
ข้าวเหนียวหวาน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] เป็นเพียงเศษละอองของจักรวาล ที่มีคำถามมากมาย ^_^ Friends Blog
Link |