Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 
ตัดผม

ได้ฤกษ์ตัดผมซะทีหลังจากปล่อยให้ยาว รกรุงรังมาซะกว่าสามสี่เดือน มาตัดที่ร้านเล็กบาร์เบอร์ ร้านประจำเจ้าเก่าที่ตลาดเชียงยืน เราเป็นคนยึดติดกับร้านตัดผมเดิม ๆ รู้สึกไม่มั่นใจหากต้องไปตัดผมในร้านใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคย ระหว่างนั่งตัดผมอยู่อาจเป็นเพราะง่วงสะลึมสะลือจากการที่เมื่อคืนนั่งรถมาจากกรุงเทพ ไม่ได้หลับสนิท ก็เลยแว่วเสียงปัตตาเลี่ยนไฟฟ้าที่ดัง หวื่อ ๆ กลายเป็นเสียง ดัง แก๊ก ๆ ของ ปัตตาเลี่ยนแบบดั้งเดิมที่ใช้แรงคนบีบเอาซะนี่ แถมยังคลับคล้ายคลับคลาว่านั่งอยู่บนก้นครกตำข้าวที่คว่ำให้เรานั่งตัดผมสมัยเด็ก ๆ กับน้าวี ช่างตัดผมใบ้มือเซียนประจำหมู่บ้านเราซะงั้น
ตอนเป็นเด็กเราไม่เคยไปตัดผมกับใครนอกจากกับน้าวี ช่างตัดผมประจำหมู่บ้านหนึ่งเดียวในสมัยนั้น น้าวีเป็นคนใบ้ ไม่พูดมาก แบ๊ะ ๆ เหมือนคนใบ้ในละครทีวี แต่ฝีมือตัดผมยอดเยี่ยมเด็ดขาดถูกใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทุกคนในหมู่บ้าน ที่บ้านเราไล่มาตั้งแต่ ทวด ตา พ่อ น้อง ก็เป็นลูกค้าขาประจำของแก เราก็ไม่รู้ว่าฝีมือแกดีหรือไม่ดี ก็เห็นตัดแล้วผมก็สั้นเกรียนสมตามความต้องการทุกครั้ง แต่ที่เราชอบเพราะแกตัดผมเร็ว นั่งไม่ทันเบื่อก็เสร็จแล้ว และไม่พูดมากให้น้ำลายกระเด็นมาเปื้อนหัวเรา แล้วก็ไม่ต้องอธิบายเรื่องทรงผมให้ยุ่งยาก อธิบายยังไงก็ออกมาทรงเดียวคือทรงหัวเกรียน สมัยเด็กก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทีกับผู้ใหญ่ไม่เห็นต้องพูดอะไรแค่นั่งลงแกก็ตัดทรง รองทรงให้ซะหล่อเหลา แต่เราพอย่างเข้าวัยรุ่นก็อยากจะตัดรองหวีหรือทรงอะไรที่มันเหลือผมยาวซักนิด ก็เพียรอธิบายแกซะนานจนเมื่อยมือแกก็พยักหน้าเข้าใจตลอด แต่พอตัดออกมา ทรงเดิมอีกแล้ว .. ก็เลยขี้เกียจอธิบายอีก เอาทรงตามใจช่างเหมือนเดิม
ปรกติน้าวีจะหิ้วกระเป๋าเหล็กบรรจุเครื่องมือตัดผมสามสี่ชิ้นของแกพร้อมผ้าคลุมตัดผมสีขาวมอ ๆ พาดบ่า ปั่นจักรยานมาบ้านเราประมาณเดือนละครั้งหรือกว่านั้นตามใจสะดวกของแก และเนื่องด้วยอาชีพหลักของแกคือกรีดยางและทำนา ว่างจากงานถึงจะขนอุปกรณ์ออกมาบริการประชาชนคนในหมู่บ้านซะทีนึง พ่อ ทวด และตาก็ อาศัยตามสะดวกของช่าง น้าวีมาทีนึงก็ตัดผมซะทีนึง ไม่ออกมาก็ไม่เดือดร้อน ไม่ต้องตัด พอช่างมาก็หิ้วเก้าอี้ออกมาหน้าบ้านถอดเสื้อ ไม่ต้องคลุมผ้าเพราะมันร้อน นั่งตัดกันเลย ตัดเสร็จก็เดินไปที่บ่อน้ำข้างบ้านอาบน้ำสระผมเสร็จสบายหัวสบายตัวไป แต่เรากับน้องนี่ซิต้องตัดผมให้สั้นทุกเดือนไม่งั้นเวลาผมยาวแล้วครูตรวจนี่ ก็จะโดนทำโทษด้วยการใช้ปัตตาเลี่ยนไฟฟ้าไถให้สามสี่ครั้งตรงท้ายทอยให้ได้อายเพื่อน แถมครูมักจะตรวจผมและจัดการตั้งแต่หลังเข้าแถวเคารพธงชาติตั้งแต่เช้า ใครโดนทำโทษก็เป็นอันได้อายและไม่มีสติ สมาธิจะเรียนหรือทำอะไรไปตลอดวัน เราไม่เคยโดนทำโทษแบบนี้แต่ก็กลัวเป็นที่สุด ทำให้มีวินัยในเรื่องนี้มาก ทุก ๆ เดือนก็เลยไม่สามารถอดใจรอน้าวีให้มาที่บ้านได้ ต้องปั่นจักรยานไปตัดผมที่บ้านแกเป็นประจำ
บ้านน้าวีเป็นกระท่อมชั้นเดียว ฝาไม้ไผ่สาน มุงจากอยู่ห่างจากบ้านเราประมาณสองกิโลไปตามถนนลูกรัง บ้านน้าวีปลูกห่างจากถนนลูกรังประมาณสองร้อยเมตร มีทางเดินแคบ ๆ พอให้คน ๆ เดียวเดินได้ผ่ากลางทุ่งหญ้าคา เพราะคนเดินประจำเป็นเวลานานจนทำให้ทางเดินกลายเป็นร่องดิน ที่ทำให้ยากในการบังคับล้อจักรยานให้อยู่ในร่องในรอยจนตลอดรอดฝั่ง หากวอกแวกหน่อยนึงล้อก็จะปีนขอบร่องทางเดินทำให้รถเสียหลักต้องกระโดดลงจากรถมาประคองไม่ให้รถล้ม ตอนที่กระโดดลงจากรถนี่แหละต้องเหยียบลงไปบนพื้นที่หญ้าคา หน่อหญ้าคาทั้งแหลมทั้งแข็งก็เสียบทะลุรองเท้าฟองน้ำยางขึ้นมาตำฝ่าเท้านิ่ม ๆ ของเรา บ้างก็ตำเฉียง ๆ ขึ้นมาแบบไม่ต้องผ่านรองเท้า เจ็บถึงใจ ใบหญ้าคาก็ทั้งคมทั้งคัน วันไหนผ่านไปได้โดยดีก็จะภูมิใจมากเป็นพิเศษ ไปถึงเจอแกก็แค่ทำท่ามือเป็นกรรไกร เหมือนเล่นเป่ายิ้งฉุบก็เป็นอันใช้การได้ น้าวีก็จะเข้าไปเอาอุปกรณ์ของแกออกมา ซึ่งในนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ปัตตาเลี่ยนอลูมิเนียม แรงคนหนึ่งอัน ตลับใส่แป้งพร้อมพู่จุ่มแป้งเพื่อเอามาแต้มรอบ ๆ หัวเราหนึ่งชุด ใบมีดโกนหนึ่งอัน และน้ำมันซิงเกอร์หนึ่งขวดเล็ก ซึ่งบางครั้งก็เป็นน้ำมันใส่ไฟแช็คกระป๋องแบน ๆ ที่บ้านน้าวีไม่มีเก้าอี้ เราก็เลยต้องนั่งตัดผมบนก้นครกตำข้าวที่คว่ำลง คลุมด้วยผ้าขาวกันผมแล้วก็เริ่มกันเลย แก๊ก ๆ แก๊ก ๆ ไปเรื่อย ไม่ช้า ไม่เร่งร้อน จนหัวเกรียน ใช้มีดโกนกันอีกหน่อยเป็นอันเสร็จ จ่ายเงิน ห้าบาท แต่บางวันนอกจากเสียง แก๊ก ๆ แล้วยังมีเสียงปึ๊ดเบา ๆ ตามมาด้วยพร้อมอาการสะดุ้งของเรา อันเนื่องมาจากปัตตาเลี่ยนไม่คมหรือฝืดก็จะถอนผมในช่วงที่ยกปัตตาเลี่ยนออกจากหัวเราเตรียมตัวลงในช๊อตต่อไป ถ้าเป็นอย่างนี้เราต้องทำท่าเจ็บให้แกเห็นให้ชัดเจน น้ำมันซิงเกอร์ก็จะถูกนำมาหยอดใส่ปัตตาเลี่ยน ทีนี้ก็จะดีขึ้น ไม่ดึงผมเรามากแต่เราก็จะรู้สึกว่าหัวเราลื่นขึ้น ตกลงแล้วเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่แท้น้ำมันซิงเกอร์มีใว้หล่อลื่นปัตตาเลี่ยนหรือใว้หล่อลื่นหัวเรา ยังไงก็ตามมันก็ให้ผลในทางทำให้การตัดผมลื่นไหลไปได้ด้วยดีทุกครั้ง ตัดผมกับน้าวีทุกครั้งไม่เคยมีเศษผมเหลือให้รำคาญใจซักครั้ง ตรงกันข้ามตัดกับคนอื่นในระยะหลังแม้จะตัดด้วยปัตตาเลี่ยนไฟฟ้า บางครั้งยังมีเศษผมที่ตัดไม่หมด
ตัดผมเสร็จแล้วก็ปั่นจักรยานฝ่าดงหญ้าคาฝึกความนิ่ง ท้าทายหน่อแหลม ๆ ของมันอีกครั้ง
เราตัดผมกับน้าวีมาตลอดจนประมาณช่วงที่อยู่ ม.ปลาย น้าวีก็ประสบปัญหาครอบครัว ทะเลาะกับทางครอบครัวเมียแกอย่างรุนแรงจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันจนบาดเจ็บ น้าวีโดนจับและต้องโทษขังอยู่หลายปี ในระยะนั้นในหมู่บ้านก็มีร้านเสริมสวย ร้านตัดผมเปิดบริการมากขึ้นมีอุปกรณ์มากขึ้น ปัตตาเลี่ยนก็กลายเป็นแบบใช้ไฟฟ้า ไม่ใช่แบบ un-plug แบบเดิมอีกต่อไป น้าวีพ้นโทษออกมาหลังจากเราเข้ามาเรียนที่กรุงเทพแล้วก็เลยไม่ค่อยได้ตัดผมกับแกบ่อยเท่าไหร่ ทุ่งหญ้าคากลายเป็นบ้านใหม่ของแกไปแล้ว เป็นบ้านชั้นเดียวทรงทันสมัยก่ออิฐ ฉาบปูน ทาสีอย่างสวย ไปบ้านแก ไม่ต้องลุ้นอีกต่อไป
ตอนที่เราบวชพ่อก็ยังไปขอช่วยให้น้าวีมาช่วยโกนหัวเราให้ด้วย ซึ่งแกก็มาด้วยความเต็มใจ แต่จะด้วยวัยที่ร่วงโรยไปมาก หรือเพราะแกตื่นเต้นก็ไม่รู้ เราโดนมีดโกนบาดหัวไปหลายรอย หรือว่าแกลืมพกน้ำมันซิงเกอร์มา
อาจจะเป็นเพราะเราคุ้นเคยกับการตัดผมกลางแจ้งอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กมั๊งเลยทำให้ไม่ค่อยชอบตัดผมตามร้านในห้างหรือร้านตัดผมติดแอร์ทั่ว ๆ ไป ชอบจะตัดในร้านแถวบ้านนอกที่โล่ง ๆ มีพัดลมเป่านิดหน่อยพอคลายร้อนและระบายอากาศไม่ให้เหม็นกลิ่นผู้ชายจนเกินไป และถ้าได้ตัดที่ไหนก็จะเป็นขาประจำของที่นั่นตลอด จนบางครั้งก็จะปล่อยผมยาวจนถึงเวลาที่ได้ไปกระบี่หรือเชียงยืนนั่นแหละจึงจะตัดผมสักครั้งหนึ่ง.

เชียงยืน ฝนพรำ
13-Aug-10
15:26:26



Create Date : 13 สิงหาคม 2553
Last Update : 13 สิงหาคม 2553 18:45:06 น. 3 comments
Counter : 1367 Pageviews.

 
ทักทายดึกๆค่ะ


โดย: far_sexy1 วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:0:07:00 น.  

 
แม่คุณดีนะที่ถ่ายรูปเป็น
แม่ฟ้าสิ
เพิ่งโทรออกเป็น


โดย: far_sexy1 วันที่: 14 สิงหาคม 2553 เวลา:16:44:27 น.  

 
งึมๆๆๆๆๆๆ


โดย: ดาริกามณี IP: 125.24.119.225 วันที่: 10 กันยายน 2553 เวลา:12:47:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รายารีย์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ตราบใดตะวันนั้นคง ขึ้นลงซื่อตรงเวลา ลมพริ้วพรมพัดมาเหมือนที่เคยเป็นมาทุกวัน พวกเราจะเดินก้าวไป ด้วยใจพร้อมเพรียงเคียงกัน ทุกข์ ร้อน มิเคยหวั่นหากเรามีกันอุ่นใจ
Friends' blogs
[Add รายารีย์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.