ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
22 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 

สามต้นในหนึ่งหลุม (ทุเรียน ลองกอง มังคุด)

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
นึกได้ว่ามีการปลูกต้นไม้ได้สามต้นหนึ่งหลุม
ตามปราชญ์ชาวบ้าน ป๊ะหรน(หรือ หลน) หมัดหลี
เกษตรกรสี่ธาตุ น้ำ ดิน ลม ไฟ
ปลูกที่ตำบลเขาพระ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
เคยไปพูดคุยกับท่านมาหลายปีก่อนแล้ว
หมายเหตุ ท่านไปพบพระอัลเลาะห์แล้ว (ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว)
แต่ตอนนี้บุตรชายของท่านยังทำสวนเกษตรแบบนี้
และเป็นวิทยากรบรรยายเกษตรแบบธาตุสี่

ต้นไม้ประเภทสามต้นในหนึ่งหลุมมี
ทุเรียน(ไฟ) ลองกอง(ลม) มังคุด(น้ำ)
จะทำให้หนึ่งไร่ที่ปลูกต้นไม้แบบนี้
จะได้ต้นไม้ไม่ต่ำกว่าไร่ละ หกสิบต้น
ผลผลิตพอประมาณ
แต่ถ้าได้ต่อกิ่งพันธุ์ดีในการต่อยอด/เสียบ/ทาบกิ่ง
ผลผลิตก็จะได้ดีมากเช่นกัน

ส่วนคุณภาพขึ้นกับปัจจัยสี่ของต้นไม้
ดิน (ปุ๋ย ธาตุในดิน)
น้ำ (น้ำดี ไม่กระด้าง ไม่เป็นกรด ไม่เป็นด่าง)
ลม (ลมไม่แรง ไม่ใช่พายุ หรือลมร้อน หรือลมหนาว)
ไฟ (แสงแดดพอเหมาะ ไม่มาก ไม่น้อย ไม่ร้อนแรง)

การปลูกพืชตามแนวคิดของเกษตรกรธาตุสี่
น้ำ ดิน ลม ไฟ
มาจากหลักการที่ว่า ต้นไม้ทุกประเภทจะมีธาตุทั้งสี่ในตัวเอง
โดยใช้การชิมจากใบเป็นหลักก่อนการชิมจากผลไม้
จะรู้ว่าธาตุหลักของต้นไม้ประเภทนี้มีธาตุหลัก คือ ธาตุใด

ธาตุน้ำ รสจืด เช่น มังคุด กล้วย จำปาดะ อ้อย มะม่วง ชมพู่

ธาตุดิิน รสฝาด รสขม เช่น มะมุด สะตอ เหรียง

ธาตุลม รสขื่น รสเฝื่อน เช่น ลองกอง ลางสาด ผักเสี้ยนผี

ธาตุไฟ รสเผ็ด รสร้อน เช่น ทุเรียน พริก ส้ม มะนาว

ดังนั้นการทำเกษตรต้องเตรียมน้ำไว้เป็นหลัก
ถ้ามีระบบน้ำดีหรือรดน้ำได้สะดวกจะไม่มีปัญหา
แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องน้ำขาดแคลนหรือแล้งมาก
ป๊ะหรนแนะนำว่า ให้ปลูกกล้วย หรือ มะละกอ
เป็นพี่เลี้ยงที่ให้ร่มเงากับเป็นแหล่งน้ำก่อน

ส่วนการปลูกพืชผลแต่ละชนิดต้องปลูกในวันเสาร์เท่านั้น
นี่้เป็นความเชื่อส่วนตัวของท่านที่รับรู้
และได้รับการถ่ายทอดจากปู่และพ่อของท่าน
ท่านเชื่อว่า การปลูกต้นไม้ ไม้ผล ในวันเสาร์
จะได้ลูกดกหรืองอกงามดี
เผลอ ๆ จะออกลูกออกผลนอกยาม (นอกฤดูกาล)

เมื่อต้นกล้วยหรือมะละกอขึ้นพองามแล้ว
ให้เริ่มลงมือเพาะเมล็ดในหลุมข้าง ๆ ต้นกล้วย
โดยพืชธาตุไฟให้วางทางทิศตะวันออก
ส่วนพืชธาตุลมให้อยู่ตรงกลาง
พืชธาตุน้ำให้อยู่ทิศตะวันตก

เมล็ดไม่จำเป็นต้องไปจัดซื้อจัดหา
เอาจากเมล็ดที่กินผลไม้แล้วมีเมล็ดเหลืออยู่
คัดเอาเมล็ดงาม ๆ และรูปทรงดี
หนอนไม่ไช หนูไม่กัด ราไม่กิน
มาเพาะเมล็ดให้งอกในหลุมข้างต้นกล้วย
เพราะต้นไม้ที่มีรากแก้ว
รากจะได้เดินงาม เดินดี เดินลึก
หากินอาหารและน้ำได้เก่ง
เจริญเติบโตได้ดีไว้เป็นต้นตอในอนาคตได้

พืชธาตุไฟ มักจะมีรากลึกและแผ่ไปกว้างไกล เช่น ทุเรียน

พืชธาตุลม รากฝอยจะมากจะอยู่รอบ ๆ ลำต้น เช่น ลองกอง

พืชธาตุน้ำ รากแก้วจะลึกและหาน้ำเก่ง เช่น มังคุด

การปลูกพืชสามธาตุในหนึ่งหลุม
จึงเป็นการปลูกแบบผสมผสาน
พึ่งพาอาศัยกัน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน
ทุเรียนสูงสุด ลองกองสูงกลาง มังคุดเตี้ยสุด
ตามภาพข้างบนดังกล่าว

แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากประเภทของพืชด้วย
เช่น ชมพู่ เงาะ จำปาดะ ขนุน ปาล์ม มะพร้าว ส้มโอ ยางพารา
เป็นต้นไม้ที่ต้องการพุ่มกว้างและอยู่เดี่ยว ๆ
มีไม้อื่นเจือปนได้บ้างแต่ต้องไม่แย่งแสงแดด
สังเกตได้จากด้านล่างมักจะปลูกพืชอื่นไม่ได้มาก
เพราะใบหนามาก กิ่งก้านมาก ต้องการแสงแดดมาก

ป๊ะหรนเรียกต้นไม้ประเภทนี้ว่า หัวร้อน ตีนเย็น
หัวร้อน ต้องการแสงแดดสังเคราะห์แสงมาก
ตีนเย็น ต้องการน้ำมากหรือที่ดินที่ค่อนข้างชุ่มชื้น
ดูได้จาก ด้านล่างยางพารา ต้นปาล์ม ต้นมะพร้าว
จะเห็นมีพืชประเภทอื่นขึ้นได้น้อยมาก
เพราะรากเดินกว้างและไกล แย่งน้ำ แย่งอาหาร ไปเกือบหมด

ส่วนที่ป๊ะหลนสังเกตพบคือ
ต้นสะตอ กับ ต้นทุเรียน ปลูกร่วมกันไม่ได้
เพราะแย่งกันสูงหาแสงแดดแข่งกัน
การปลูกพืชผสมตามธาตุ
จึงต้องพิจารณาจากความสูงต้นไม้ด้วยเช่นกัน

เมื่อต้นไม้ในหลุมเจริญงอกงามพอสมควรแล้ว
ค่อยทำการทาบกิ่งหรือต่อตาหรือเสียบยอด
แล้วแต่การขยายพันธุืพืชแต่ละชนิด
ตอนนี้อาจจะต้องไปขอจากเพื่อนเกษตรกร
หรือซื้อมาทำการขยายพันธุ์
เพื่อให้ได้ผลไม้ที่มีรสชาติดี
เป็นที่ต้องการหรือเป็นที่นิยมของตลาด

อนึ่งถ้าต้นไม้ในหลุมประเภทใดตาย
ให้ใช้พันธุ์ที่ตายไปปลูกซ้ำหรือปลูกทดแทน
ไม่นานก็จะงอกงามใกล้เคียงต้นข้างเคียง
และความสูงจะเป็นตามลำดับ
หรือเรียกว่า ต้นหนึ่งต้นใดตายไป
ยังเหลือใช้งานได้อีกสองต้น
ค่อยปลูกแซมต้นที่ตายไป
ก็จะค่อยเจริญเติบโตทันต้นที่เหลือได้


การปลูกแบบสามต้นในหนึ่งหลุม
ควรใช้แบบการปลูกปาล์มจะได้จำนวนต้นมากกว่า

แต่ควรคิดถึงตอนที่ผลผลิตที่ออกมา
ต้องคำนึงถึงตลาดและการขนส่งด้วย
เพราะมิฉะนั้นจะมีปัญหาด้านราคาและการขาย
การลงทุนลงแรงไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายกับค่าลงทุน
ถ้าไม่ทำแบบเกษตรพอเพียง

บริเวณรอบ ๆ ต้นไม้สามต้นในหนึ่งหลุม
ป๊ะ แนะนำว่า ให้มีพืชพันธุ์อื่น
หรือสมุนไพร ขึ้นรอบ ๆ ข้างต้นไม้ได้
เพื่อเป็นการสร้างสมดุลย์ซึ่งกันและกัน
กับสามารถใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ในระยะยาว
แต่ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย
ถึงขนาดรกรุงรังหรือเกะกะการทำงานทำการปลูกพืช

ส่วนหญ้าคาหรือวัชชพืช
ท่านให้ถือว่าเป็นของมีประโยชน์
เหมือนต้นไม้ที่เป็นของประทานจากพระเจ้า
การนำมาใช้ประโยชน์ไม่ตัดทิ้งตัดขว้าง
ถือว่าไม่เป็นการทำบาปต่อทรัพย์สินของพระเจ้า

หรืออย่างภาษิตเยอรมันนี ที่ว่า
งินทอง เป็นของคุณจะใช้จ่ายอย่างไรก็ได้
แต่ทรัพยากร เป็นของโลก
ต้องใช้อย่างประโยชน์สูง ประหยัดสุด

ทำให้มีข่าวคราวและเรื่องราวของคนไทย
จัดโต๊ะพูดคุยพบปะกันระหว่างคนไทย
ไปกินอาหารในร้านอาหารแบบกินทิ้งกินขว้าง
เหมือนเมืองไทยในเยอรมันนี
เจ้าของร้านแจ้งสถานีตำรวจให้มาจัดการ
ถูกตำรวจที่นั่นปรับเป็นเงินหลายยูโร
(ถ้าห่อกลับบ้านไม่เป็นความผิด)
ด้วยถ้อยคำพูดดังกล่าวข้างต้น

ดังนั้นหญ้าคาหรือวัชชพืชนำมาเป็นปุ๋ยได้
(หมายความรวมถึง พืชที่ไม่ต้องการแต่ขึ้นมากเป็นพิเศษ)
โดยการให้ใช้ปุ๋ยตราจระเข้ใ่ส่เอา
คือ ใช้จอบตราจระเข้ ขุด/ถาง/ฟัน เอาตอนหน้าฝน
วางสุม ๆ ไว้รอบ ๆ ต้นไม้ที่ปลูกไว้
พอหน้าแล้งจะคลุมดินให้ชุ่มชื้น
และสลายตัวกลายเป็นปุ๋ยในระยะยาว

ส่วนการให้ปุ๋ยควรให้ช่วงฤดูฝน
ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยอินทรีย์เป็นหลัก
เพราะหน้าแล้งพืชแทบใช้ประโยชน์ไม่ได้
เผลอ ๆ อาจจะเหมือนคนกินข้าว แต่ไม่ได้กินน้ำ
คือ อึดอัด หรือ แน่นท้อง

การให้ปุ๋ยเคมี
ท่านไม่ต่อต้าน
แต่ให้คำแนะนำว่า
ถ้าให้ปุ๋ยแล้วแต่ฝนไม่ตก
จะทำให้สูญเสียเปล่า ๆ
เพราะมันจะแห้งกรังค่อย ๆ เสื่อมประโยชน์ไป

แต่จริง ๆแล้ว
จากการสอบถามเพื่อนที่เพาะต้นไม้ขาย
หรืออาจารย์ทางด้านเกษตรกรรม
มักจะมีำคำแนะนำว่า
การให้ปุ๋ยเคมีที่ดี
ควรมีการขุดดินรอบ ๆ ต้นไม้
แล้วค่อยใ่ส่ปุ๋ยก่อนทำการกลบฝัง
ต้นไม้จะได้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
หรือให้บาง ๆ แต่ปีละหลายครั้ง
เช่น การเพาะชำต้นไม้ขาย
มักจะให้น้อย ๆ แต่ให้บ่อย ๆ
เพื่อให้พืชดูดซึมไปใ้ช้ได้หมดภายในระยะเวลา

ปกติอายุของปุ๋ยเคมีประมาณสิบห้าวัน
มักจะเสื่อมสภาพหรือลดคุณภาพลงไปเรื่อย ๆ
หลังจากเริ่มเปิดใช้งานจากถุงใส่ปุ๋ย
การฝังกลบจะยืดระยะเวลาช่วงอายุของปุ๋ยได้ส่วนหนึ่ง
เว้นแต่ประเภทปุ๋ยละลายช้า
ที่มีช่วงอายุนานกว่าสามถึงหกเดือน
เช่น พวกออสโมคอส หรือหุ้มดิน หุ้มสารประเภทละลายช้าไว้

การให้ปุ๋ยในแปลงใหญ่หรือทั่วไป
มักจะใช้การหว่านหรือโยนหรือให้เป็นแถวยาว
เพราะง่าย สะดวก รวดเร็ว ในการทำงาน
กอปรกับค่าแรงงานในการให้ปุ๋ยจะมีราคา
หรือคนงานมักจะไม่ค่อยทำส่วนนี้ให้
เพราะคิดว่าเสียเวลากับไม่คุ้มค่าแรงงาน




 

Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2555
9 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 17:38:07 น.
Counter : 3512 Pageviews.

 

เป็นวิธีที่ไม่เคยทราบมาก่อนเลยค่ะ

เพื่อนเคยเล่าให้ฟังว่าถ้าปลูกป่าเขาจะปลูกกล้วยก่อนเพื่อได้ร่ม ทราบแค่นั้นเลยค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 22 กุมภาพันธ์ 2555 16:48:20 น.  

 

ได้ความรู้มากเลยค่ะ


พาหลิงๆ มาขโมยของกินค่ะ

 

โดย: โสมรัศมี 22 กุมภาพันธ์ 2555 18:27:33 น.  

 

คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ravio เรียบร้อยแล้วนะคะ

 

โดย: โสมรัศมี 22 กุมภาพันธ์ 2555 18:47:29 น.  

 

โอ้ว ความรู้ใหม่นะคะเนี๊ยะ ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ

 

โดย: คมไผ่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 13:13:29 น.  

 



ขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยียนจ๊ะ


*~*~*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*



. . . ยินดีในสิ่งที่ตนได้ . . .

. . . พอใจในสิ่งที่ตนมี . . .

. . . เป็นคนโชคดีที่สุดในโลก . . .




..HappY BrightDaY..

 

โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* 26 กุมภาพันธ์ 2555 18:07:37 น.  

 

ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ




บินล่องดุจเมฆคว้าง........บางเบา

สูงยิ่งย่ามใจเขลา...........พลาดพลั้ง

ไร้หลักพลัดคอนเงา.......ทะยานดิ่ง

คือนกปีกหักครั้ง...........ร่วงฟ้าหล้าลืม
.

 

โดย: ploythana 28 กุมภาพันธ์ 2555 22:11:01 น.  

 

แวะมาบ่นให้ฟังว่า...บ่ายนี้...ง่วงสุดๆ คริๆ

 

โดย: คมไผ่ 29 กุมภาพันธ์ 2555 15:55:10 น.  

 

วันนี้ถึงพัทลุงแล้วค่ัะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 4 มีนาคม 2555 21:31:09 น.  

 

ขอบคุณสำหรับสิ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อน

 

โดย: TNT503 4 ตุลาคม 2555 14:07:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.