ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 กันยายน 2556
 
All Blogs
 

คนสร้างกิโยตินไม่ได้ตายด้วยกิโยติน

 l y a des hommes malheureux.
Christophe Colomb ne peut attacher son nom à sa découverte ;
Guillotin ne peut détacher le sien de son invention.

โลกนี้มีคนที่โชคร้าย
Crostophe Colomb(โคลัมบัส)ไม่มีชื่อในแผ่นดินที่ค้นพบ
Guillotin ไม่อาจถอนชื่อจากเครื่องตัดคอกิโยตินได้อีกเลย - Victor Hugo


Victor Hugo  ผู้แต่งนวนิยาย les miseribles เหยื่ออธรรม



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Clip ภาพยนตร์เรื่อง les miseribles

เรื่องราวที่ Guillotin ตายด้วยกิโยตินเป็นเรื่องไม่จริง
แต่เรื่องราวแบบนี้ได้แพร่กระจายกันไปทั่วแล้ว
เพราะเครื่องจักรสังหารเครื่องนี้ได้กวาดล้างชีวิต
ของผู้ตกเป็นเหยื่อ ชาวบ้าน ขุนนาง บาทหลวง กษัตริย์
อย่างไม่หยุดยั้งในยุคแห่งความเงียบและความหวาดกลัว
ประมาณกว่าว่าจำนวนไม่น้อยกว่า 40,000 คนขึ้นไป
ที่ถูกตัดหัวกับเครื่องจักรสังหารกิโยติน
จนคำว่า กิโยติน เป็นชื่อที่น่าหวาดกลัวที่สุด
เรื่องราวประวัติศาสตร์ของกิโยตินมีลำดับพอสังเขปคือ


Dr. Joseph-Ignace Guillotin



Dr. Joseph-Ignace Guillotin
ชาตะ 28 พฤษภาคม 1738(2281) - มตะ มีนาคม 1814(2357 )
เป็นแพทย์และนักการเมืองที่รู้จักกันดี
ได้เสนอแนวคิดคัดค้านโทษประหารชีวิต เมื่อ 10 ตุลาคม 1789(2332)
ว่าการใช้อาวุธลงโทษประหารชีวิตในประเทศฝรั่งเศสยุคนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
ทั้งที่ความจริงเขาไม่ได้คิดค้นเครื่องจักรประหารชีวิตที่เรียกกันว่า Guillotin กิโยติน
แต่ชื่อนี้ได้กลายเป็นชื่อสามัญเรียกขานกันทั่วไปแล้ว
ว่าเป็นเครื่องจักรตัดหัวนักโทษที่ต้องโทษประหารชิวิต
ที่ทำงานได้รวดเร็วและทรงประสิทธิภาพมากที่สุด
จนกลายเป็นชื่อที่น่ากลัวและสยดสยองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส
กลายเป็นตำนานและคำพูดติดปากชาวบ้านไปแล้ว
ทั้งที่จริง ๆ แล้วผู้คิดเครื่องจักรตัดคอนักโ์ทษคือ Antoine Louis


Antoine Louis ราชบัณฑิตศัลยแพทย์ศาสตร์  ผู้คิดค้น/พัฒนากิโยติน



Dr. Joseph-Ignace Guillotin เป็นลูกคนที่ 9 ของพี่น้อง 13 คน
ของครอบครัว  Alexandre Guillotin ทนายความที่   Gironde
กับ Catherine Agathe Martin มีภิมิลำเนาที่ Villiers -sur-Orge
Guillotin ใช้เวลาศึกษาเทววิทยา 7 ปีในวิทยาลัยคณะเยซูอิตที่  Bordeaux
จนสำเร็จปริญญาโทที่นั่น ผลงานวิทยานิพนธ์ของ Guillotin เป็นที่ชื่นชอบมาก
จึงได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์ที่วิทยาลัย  Irish ที่ Bordeaux
ในปี 1763(2206) Guillotin ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนแพทย์ Reims
เพราะมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาถูกกว่าที่อื่น
ในปี 1768(2211) ได้เป็นลูกศิษย์คนโปรดของ Antoine Petit  



Antoine Petit อาจารย์ของ Joseph-Ignace Guillotin


ทำให้ Guillotin ได้รับทุนการศึกษาเป็นเวลา 3 ปี
และต่อมาได้เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่คณะแพทย์ศาสตร์ปารีส
ได้รับปริญญาเอกทางการแพทย์ Docteur Régent ในปี 1770(2213)
ทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนวิชากายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา พยาธิวิทยา
ในคณะแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยที่จบการศึกษา
ช่วงปี 1778-1783(2321-2326) ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น
Guillotin ได้รับตำแหน่งทางการเมือง  
แต่ยังค้นคว้าทดลอง/ทดสอบทางวิทยาศาสตร์
เกี่ยวกับเรื่องน้ำส้มสายชู  หรือลักษณะของโรคพิษสุนัขบ้า
ในวันที่ 14 กรกฎาคม 1787(2330) Guillotin ได้แต่งงานกับ Elise Saugrain



การประหารชีวิตกษัตริย์หลุยส์ที่ 16





Franz Anton Mesmer



ในปี 1784(2327) Franz Mesmer ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ทฤษฏี
แม่เหล็กของสัตว์  ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจจากผู้คนจำนวนมาก
จนกษัตริย์หลุยส์ที่ 16 ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบทฤษฏีนี้
Guillotin ได้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการร่วมกับ Benjamin Franklin และคนอื่น ๆ



Benjamin Franklin







ทิวทัศน์ของ Provence


Guilltin ยังได้ริเริ่มตั้งคณะกรรมการแพทย์ใน  Provence  ในปี 1772(2316)






สถาปัตยกรรมของ Angouleme


และมีการจัดตั้งคณะกรรมการเต็มรูปแบบที่  Angouleme ในปี 1776(2319)  
ทั้งยังได้รีบเกียรติยกย่องจากคณะสงฆ์ Concorde
ที่อยู่ทางตะวันออกของกรุงปารีส



ชื่อคณะสงฆ์ Concorde สะกดเหมือนกับเครื่องบิน Concorde
ที่ร่วมกันผลิตระหว่างอังกฤษกับฝร่งเศส  หลังจากอุบัติเ้หตุครั้งร้ายแรง
ได้ยกเลิกสายการผลิต/การบินระหว่างทวีปไปแล้ว


ในปี 1778(2321) Guillotin ได้เป็นพันธมิตรของกลุ่มภราดรทั้งเก้า
พร้อมกับเป็นเพื่อนกับ



จิตรกร Jean - Baptiste Greuze



จิตรกร Claude Joseph Vernet



นักปรัชญาการเมือง François-Marie Arouet (Voltaire นามปากกา)



the Duke of Orleans

Louis Philippe Joseph d' Orléans (13 เมษายน 1747 – 6 พฤศจิกายน 1793)
หรือรู้จักกันว่า Philippe เป็นหนึ่งในราชสกุล Bourbon ที่ปกครองฝรั่งเศส
เป็นผู้สนับสนุนการปฏิวัติฝรั่งเศสและเปลี่ยนชื่อเป็นสามัญชน Philippe Égalité
แต่ไม่พ้นถูกกิโยตินตัดหัวในที่สุดในยุคแห่งความเงียบและความหวาดกลัว
Louis-Philippe บุตรชายของเขาได้เป็นกษัตริย์ฝรั่งเศสในช่วงการปฏิว้ติกรกฏาคม 1830
ต่อมาถูกเนรเทศไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ
การเคลื่อนไหว Orléanist  หมายถึง การเคลื่อนไหวทางการเมือง
ที่ชมชอบระบบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ


Guillotin ยังได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการวิทยานิพนธ์ตลอดชีวิต
มีนิสัย/แนวความคิดเต็มไปด้วยความเป็นเหตุเป็นผลและเสรีภาพ
ทั้งยังมีบทบาทเป็นผู้นำในการในกลุ่มการเมือง Grand Orient de France
ผลการเลือกตั้งยุครัฐที่สามของเขตเมืองและชานเมืองปารีส
ฝรั่งเศสมี 3 ฐานันดร คือ บาทหลวง ขุนนาง และไพร่
ส่วนนักหนังสือพิมพ์มักอ้างว่าพวกตนเป็นฐานันดรที่ 4

เมื่อห้องประชุมรัฐสภาถูกปิดไม่ให้พวกไพร่เข้าร่วมประชุม
ในการประชุมรัฐสภาในวันที่ 19 มิถุนายน 1789
(ก่อนการปฏิว้ติฝรั่งเศส 14 กรกฏาคม 1789)
Guillotin ได้เสนอให้ย้ายไปประชุมที่ห้องโถง Jeu de Paume



Jeu de Paume


ก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศส Guillotin เริ่มมีชื่อเสียงทางการเมือง
มีการตีพิมพ์หนังสือหลายเล่มและได้เสนอเรื่องการปฏิรูปทางการเมือง
ในหนังสือเรื่อง คำร้อง 6 ประการที่เป็นหลักการสำคัญ
(คำร้องประชาชนที่อาศัยอยู่ในปารีส เขียนวันที่ 8 ธันวาคม 1788(2331)
เกี่ยวกับระบบรัฐธรรมนูญของประชาชน
ก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศส 14 กรกฏาคม 1789  
มีใจความสำคัญคือ
การลงคะแนนเสียงโดยชนชั้นผู้นำ
ที่มีจำนวนมากกว่าพวกไพร่(ประชาชน)
มีคะแนนเสียงรวมทั้ง 2 ฐานันดรมากกว่าพวกไพร่
ทำให้การลงคะแนนเสียงชนะฐานันดรที่ 3 ตลอดมา

คำร้องเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้กับกษัตริย์หลุยส์ที่ 16
แต่ประชาชนจำนวนมากเห็นด้วยกับคำร้องนี้ในเรื่องอำนาจอธิปไตย
เพียงแต่มีการติดต่อสื่อสารทางจดหมายส่วนตัวเท่านั้น
ไม่มีการพูดคุยกันอย่างเปิดเผยในประเด็นเรื่องนี้ในที่สาธารณะ
เรื่องนี้นำไปสู่การพิจารณาของรัฐสภาปารีสในวันที่ 20 ธันวาคม 1788(2331)
มีการพิจารณาตามรูปแบบแต่ไม่มีเนื้อหา
ตามรายงานสรุปบันทึกขององคมนตรี

" การตัดสินใจครั้งนี้มันเกี่ยวพันกับรูปแบบงานเขียนของคุณ
ในเรื่องวิธีการกระจายอำนาจอย่างไร  
ด้วยความเคารพของรัฐสภา
เรื่องทั้งหมดนี้ผมได้ตีความว่า
ที่นี่(รัฐสภาไม่มี อะไรที่ผิดปกติ  "  

คำร้องดังกล่าวจึงถูกถอดถอนออกไปในวันที่ 27 ธันวาคม 1778
ตามคำร้องของ Necker และได้รับการยอมรับจากคณะองคมนตรีกษัตริย์

แต่เรื่องราวครั้งนี้ได้สร้างชื่อเสียงและความนิยมให้ Guillotin เป็นอย่างมาก
จนในวันที่ 2 พฤษภาคม 1789(2332) เขาได้เป็น 1 ใน 10 ผู้แทนกรุงปารีส
ที่เป็นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ Assemblée Constituante
และได้เป็นเลขานุการสมาชิกรัฐสภาตั้งแต่มิถุนายน 1789(2332) จนถึง ตุลาคม 1791(2334)



Jacques Necker รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง  
ที่ประสบความล้มเหลวทางการเงินยุคกษัตริยหลุยส์ที่ 16




Louis Antoine ตั้งชื่อเครื่องจักรสังหารครั้งแรกชื่อว่า Louison
แต่เขาค่อนข้างเสียใจมากที่มีการใช้ชื่อ Guillotin
ที่เป็นเพื่อนสนิทของเขาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงกับเครื่องจักรสังหารนี้
กลายเป็นชื่อเครื่องจักรสังหารที่ติดปากชาวบ้าน
จนกระทั่ง  Guillotin เสียชีวิตไปในปี 1814



ที่มาของภาพ //meded.ucsd.edu/clinicalmed/heart.htm


angle of Louis เป็นชื่อกระดูกชิ้นหนึ่ง
แถวกระดูกหน้าอกส่วนบนกับกระดูกสันอกของร่างกาย
ตั้งชื่อเป็นเกียรติให้กับ Louis Antoine



Halifax Gibbet ใช้ในสมัย Oliver Cromwell ปกครองอังกฤษ




ระหว่างศตวรรษที่ 16-18  ใช้ใน  Edinburgh Scotland  สมัย Mary Queen of Scots.



เครื่องจักรสังหารมีพัฒนาการมาจาก Halifax Gibbet ของอังกฤษ
และผสมผสานกับ Maiden (beheading) ของสกอตแลนด์
แล้วพัฒนามาเป็นรูปแบบใบมีดตรงมีรอกดึงใบมีดขึ้นไป
มีตำนานเล่าว่ากษัตริย์หลุยส์ที่ 16 (งานอดิเรกชอบเล่นกุญแจผี)
เป็นผู้แนะนำให้ใช้ใบมีดตัดเฉียง 45 องศา

แต่จริง ๆ แล้ว Tobias Schmidt  
ช่างชาวเยอรมันนีและช่างทำ harpsichord
เป็นผู้ร่างแบบเครื่องจักรสังหารนี้
รวมทั้งแนะนำให้ใช้ใบมีดตัดเฉียง 45 องศา
โดย Antoine Louis ได้ยอมรับแบบนี้



การสร้างกิโยตินมีสองรุ่น


ช่อมูลสังเขปเครื่องกิโยติน
น้ำหนักรวมของกิโยติน 1,278 ปอนด์(580.91 กิโลกรัม)
ใบมีดตัดคอหนัก 88.2 ปอนด์(40.09 กิโลกรัม)
ระยะดึงความสูงคมมีด 14 ฟุต(4.3 เมตร)
ระยะเวลาหล่นลงมาของใบมีด 21 ฟุตต่อวินาที(6.4 เมตร/วินาที)
อัตราความเร็วในการตัดหัว 2/100 ของวินาที
ระยะเวลาหยุดนิ่งของใบมีดที่ 70 วินาที

การรัฐประหารและจับกุมกลุ่มทรราษฏร์ Jacobin


ในช่วงปลายยุคแห่งความน่าสะพรึงกลัว
จดหมายฝากฝังครอบครัวจากเพื่อนที่เป็นขุนนาง  
ที่ส่งให้กับ Guillotin ตกไปอยู่ในมือของอัยการรัฐ
เจ้าหน้าที่รัฐได้บังคับให้ Guillotin
บอกเกี่ยวกับเบาะแสลูกเมียของเพื่อนขุนนาง
แต่ Guillotin  ปฏิเสธในเรื่องนี้และไม่ยอมบอก
ทำให้ถูกจับกุมคุมขังรอการประหารชิวิต
แต่รอดตายเป็นอิสระด้วยการนิรโทษกรรมจาก
Thermidor ยุคที่ 9 ในปี 1794



Maximilien de Robespierre


หลังจากกลุ่มทรราษฏร์นักปฏิวัติ Robespierre
หัวหน้ากลุ่มซ้ายจัดหัวรุนแรง Jacobin
ถูกรัฐประหารและถูกตัดหัวด้วยกิโยติน



การตัดหัว Maximilien de Robespierre หัวหน้ากลุ่มหัวรุนแรง Jacobin


หลังจากนั้น Guillotin เลิกอาชีพทางการเมือง
หันกลับไปเริ่มต้นอาชีพทางการแพทย์
ในฐานะที่เป็นหัวหน้าทีมที่ปรึกษา
ได้เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการริเริ่ม  
โปรแกรมสุขภาพประชาชนแห่งชาติที่ใช้กันทั่วประเทศ
ต่อมาเขาได้รับแต่งตั้งหัวหน้าคณะแพทย์
โรงพยาบาล Saint- Vaast également
และยังเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมแพทย์ปารีส  
Society of the physicians of Paris
ซึ่งต่อมาในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น
สถาบันแพทย์ศาสตร์แห่งชาติ  



การประจานนักโทษประหาร


Guillotin เป็นแพทย์ฝรั่งเศสคนแรก
ที่สนับสนุนการค้นพบของ Edward Jenner
ในเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ
ให้กับประชาชนชาวฝรั่งเศส
ในปี 1805(2338)  Guillotine ได้เป็นประธานคณะกรรมการ
เรื่องการฉีดวัคซีนในปารีส  
ทั้งยังมีส่วนในการก่อตั้งราชบัณฑิตทางการแพทย์



Edward Jenner


Edward Jenner ผู้ค้นพบวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษ
ด้วยการสังเกตคนเลี้ยงวัวที่ติดเชื้อไข้ทรพิษจากวัว
มักจะไม่เป็นโรคนี้อีก เลยทดลองทำให้เจือจาง
แล้วฉีดเข้าไปในร่างการของคนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
มีครั้งหนึ่ง ในช่วงสงครามฝรั่งเศสกับอังกฤษ
ได้ขออภัยโทษเชลยศึกอังกฤษจากจักรพรรดิ์นโปเลียน
ทำให้เชลยศึกได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
เรื่องเกี่ยวกับการประหารชีวิตด้วย guillotine  
ทำให้ชื่อเสียงครอบครัว Guillotin เสียหายเป็นอย่างมาก
สกุล Guiiotin ต้องอับอายขายหน้ามาก
ที่นามสกุลนี้กลายเป็นเครื่องตัดคอประหารชีวิตนักโทษ
ดังนั้นครอบครัว Guillotin  จึงยื่นคำร้องไปยังรัฐบาลฝรั่งเศส
ให้เปลี่ยนชื่อหรือตั้งชื่อใหม่สำหรับเครื่องตัดคอนักโทษประหารชีวิต
แต่รัฐบาลปฏิเสธการแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อนี้
ทำให้พวกเขาต้องเปลี่ยนนามสกุลของครอบครัวแทน
และมีเรื่องบังเอิญคือ มีนักโทษประหารชิวิตรายหนึ่ง

ชื่อ Guillotin ถูกประหารชีวิตด้วยกิโยติน
มีตัวตนจริงแต่ชื่อว่า  JMV Guillotin
เป็นแพทย์เมือง Lyons  ลียง เรื่องบังเอิญแบบนี้
ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและเชื่อกันว่า Guillotin
ตายด้วยเครืองตัดหัวนักโทษที่เขาสร้างขึ้นเอง

แต่ข้อเท็จจริงแล้ว Guillotin เสียชีวิตในปารีสในปี 1814(2357)  
จากสาเหตุ(โรคชรา)ธรรมชาติ
และถูกฝังอยู่ในสุสาน Père - Lachaise ในปารีส
เป็นสุสานที่ฝังศพคนดังมีชื่อเสียงหลายคน



ปากทางเข้าสุสาน



บริเวณส่วนหนึ่งของสุสาน



หลุมศพของคีตกวี Chopin



หลุมศพของนักประพันธ์ Osca Wilde



หลุมศพของนักร้อง Jim Morrison



หมายเหตุ  มีเรื่องเล่าว่าทุกวันครบรอบ
วันตายของ Jim Morrison
จะมีบุรุษนิรนามนำเหล้ามาวางหน้าหลุมศพ
แต่ตอนนี้หายไปแล้ว คาดว่าน่าจะตายไปแล้ว
หรือชราภาพเกินกวาจะมาเยี่ยมหลุมศพแห่งนี้


ความเชื่อที่ว่า Guillotin ตายด้วยกิโยตินจึงเป็นเรื่องไม่จริง
แต่เรื่องราวข่าวลือแบบนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วแล้ว
เพราะเครื่องจักรสังหารนี้ได้กวาดล้างชีวิตของผู้ตกเป็นเหยื่อ
ชาวบ้าน ขุนนาง บาทหลวง กษัตริย์  อย่างไม่หยุดยั้ง
ในยุคแห่งความเงียบและความหวาดกลัว จนเป็นชื่อที่น่ากลัวในที่สุด



เรื่องเล่าบางเรื่อง


Charles-Henri Sanson



หัวหน้าเพชฌฆาต Charles-Henri Sanson
ประหารชีวิตนักโทษด้วยตนเองจำนวน 2,918 รายรวมทั้งพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
ตระกูลนี้ทำอาชีพเป็นเพชฌฆาตมาถึงหกชั่วคนแล้ว
ส่วนบุตรชาย Henri เป็นผู้ลงมือประหารชีวิตพระนางมารีอังตัวแนตต์
มีเกร็ดเล่าว่า หลังเกษียณอายุแล้ว ชาร์ล  เฮนรี่ หัวหน้าเพชฌฆาต
เคยพบปะพูดคุยกับ จักรพรรดิ์นโปเลียนมหาราช ได้รับการสัพยอกว่า
" เป็นไงนอนหลับดีไหม กับการประหารชีวิตคนร่วมสามพันคน "
ชาร์ล ตอบกลับว่า " ถ้าจักรพรรด์ พระราชา เผด็จการ
ยังนอนหลับได้อย่างสบายดี  แล้วทำไมเพชฌฆาต
จะนอนหลับบ้างไม่ได้ละ  "


ชุดสีแดงเฉพาะของหัวหน้าเพชฌฆาต




Charlotte Corday ผู้สังหารทรราษฏร์ Jean-Paul Marat กลุ่มหัวรุนแรง Jacobin



ภาพวาดการตายของ Marat



ก่อนการประหารชิวิต Charlotte Corday



La maison ของ Charlotte Corday


หลังการตายของ Charlotte Corday
พร้อมกับการสิ้นสุดของยุคความหวาดกลัว
การฆ่าทรราษฏร์เป็นสาเหตุหนึ่งนำไปสู่การรัฐประหารกลุ่ม Jacobin
คำพูดที่โด่งดังของเธอ  ฆ่าคนชั่วหนึ่งคน คนอีกนับแสนคนจะรอดตาย

หลังจากเธอถูกตัดหัวแล้วช่างไม้ที่มาซ่อมแซมกิโยตินชื่อ Legros
ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของเพชฌฆาตตามบันทึกหัวหน้าเพชฌฆาต
หยิบหัวเธอออกจากตระกร้าแล้วตบหน้าเธอ
ปรากฎว่าใบหน้าของเธอแดงกร่ำขึ้นมาทันที
ผล Legros  ถูก  Charles-Henri Sanson หัวหน้าเพชฌฆาต
ฟ้องว่าทำนอกเหนือจากหน้าที่ตนเอง
จึงถูกตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลาสามเดือน

เรื่องนี้มีการบอกเล่าจากปากคำบรรดาเพชฌฆาต
ถึงเรื่องหัวนักโทษที่ถูกตัดหัวแล้ว
บางหัวของนักโทษยังมีอาการกระพริบตา น้ำตาไหล ร้องไห้
หรือกัดกับหัวนักโทษคู่อาฆาตที่อยู่ในตระกร้าเดียวกัน
หรืออ้าปากจะพูดหรือด่าทอแต่ไม่มีคำพูด

มีผลรับรองจาก Dr. Beaurieux
ที่สังเกตหัวนักโทษประหาร Henri Languille
ในวันที่ 28 มิถุนายน 1905
มีอาการกระพริบตาและพยายามจะพูด
แต่เพราะไม่มีร่างกาย(ปอด หัวใจ) ไปสูบฉีดโลหิต/อากาศ
หัวจะหยุดทำงานประมาณไม่เกินกว่าสิบห้านาที
เพราะไม่มีเลือดและอากาศไปเลี้ยงสมอง

เรื่องเดิม พระสีสกฏาหะปริศนา
//pantip.com/topic/30005083

เรียบเรียงจาก
//en.wikipedia.org/wiki/Joseph_Ignace_Guillotin
//en.wikipedia.org/wiki/Guillotine
//en.wikipedia.org/wiki/Charlotte_Corday
//fr.wikipedia.org/wiki/Joseph_Ignace_Guillotin
//goo.gl/4spht
(ปฏิวัติฝรั่งเศส เล่าเรื่องพร้อมปริศนาสำคัญ รวม 8 ตอน)
//google.com
//dict.longdo.com/

ขอบคุณภาพประกอบจาก
//wikipedia.org
//google.com

ผิดพลาดขออภัยโปรดชี้แนะ จะรีบกลับมาแก้ไข ขอบคุณครับ
กิโยตินมีการใช้หลายประเทศ
แต่ที่นิยมกันมากคือประเทศอาณานิคมฝรั่งเศส
ภาพเครื่องประหารกิโยตินบางส่วน
จาก //boisdejustice.com/History/History.html





















 

Create Date : 12 กันยายน 2556
2 comments
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2557 16:43:01 น.
Counter : 3562 Pageviews.

 

สวัสดีค่า คุณravio ^^

อ่านเรื่องราวตอนนี้แล้วทึ่งมาก
รายละเอียดเยอะมาก น่าสนใจมากด้วยค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะ ได้รู้อะไรดีๆเยอะเลยค่ะ

 

โดย: lovereason 13 กันยายน 2556 0:09:17 น.  

 

เพราะความบังเอิญนี่เอง

 

โดย: tuk-tuk@korat 13 กันยายน 2556 12:22:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.