(2)ตะลุยเที่ยวทริปโสดออนทัวร์@อุตรดิตถ์
หลังจากเดินทางท่องเที่ยวทริปโสดออนทัวร์@น่านในตีม เส้นทางDIY ภูมิใจ ฉันทำเอง แล้วเราก็เดินทางต่อไปที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งคุณธนภร พูลเพิ่ม ผู้อำนวยการททท.สำนักงานแพร่ (ดูแลแพร่ น่าน อุตรดิตถ์) ได้จัดตีมเส้นทาง ปั่นจักรยานซ่อกแซ่กลับแล 10แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดอุตรดิตถ์ มาตอบโจทย์ นักท่องเที่ยวสาวโสดอินเทรนด์ให้ได้ปั่นซอกแซ่กทั้งกิน-เที่ยว-ช้อปอย่างมีความสุขและสนุกสนาน พวกเราขึ้นรถโดยสารปรับอากาศแบบหวานเย็นที่ บขส.จังหวัดน่าน ล้อหมุนเวลา 07.45 น. ถึง บขส.อุตรดิตถ์ ประมาณ 11 โมงกว่าได้เวลากินอาหารกลางวันกันพอดีเลยประเดิมอาหารอร่อยๆ ขึ้นชื่อประจำจังหวัดที่ร้าน ป้อมข้าวพันผัก ร้านของคุณแม่ น้องชัช ชัชวาล วิชัยรัตน์ประธานกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ Yec อุตรดิตถ์ ไกด์กิตติมศักดิ์ที่สละเวลาพาพวกเราตระเวณหาแหล่งท่องเที่ยวและร้านอาหารอร่อยๆภายในจังหวัด อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยแม้อากาศจะร้อนทะลุ 40 องศา อาหารสุขภาพ@ร้าน ป้อมข้าวพันผัก
ร้านป้อมข้าวพันผักนี้ ตั้งอยู่บนถนนศรีอุตรานอกซอย4 อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ที่นี่มีเมนูอร่อยหลากหลายและขึ้นชื่อมายาวนาน น้องชัชบอกกับเราว่า อยากแนะนำเมนู ข้าวพันผักสูตรดั้งเดิม ใครกินแล้วต้องติดใจ มีเคล็ดลับการกินให้อร่อยคือต้องทานกับซอสพริกและซอสถั่วเหลือง โรยหน้าด้วยไข่หั่นฝอยและแคปหมูไร้มันในแบบต้นฉบับชาวลับแลเพิ่มไข่ดาวสุกวางบนหน้าอร่อยเข้ากัน
และอีก 1 เมนูแนะนำ คือข้าวพันผักหมูตุ๋นที่คุณแม่คิดค้นสูตรขึ้นมาเองสูตรนี้สำหรับคนชอบทานน้ำซุปร้อนๆเสริฟด้วยข้าวพันผัก ในน้ำซุปหมูตุ๋นสูตรพิเศษนี้เนื้อหมูตุ๋นจะอร่อยนุ่ม ทานง่ายปรุงตามใจชอบเหมือนก๋วยเตี๋ยว อร่อยจนต้องขออนุญาตบอกต่อนะคะ นอกจากนี้เรามีข้าวพันม้วน หรือชาวเมืองเราเรียกว่า ข้าวพันไม้ ทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยแม่ป้อมทำแป้งหมักสูตรพิเศษ กินกับน้ำจิ้มแจ่วสูตร ชาวลับแล อร่อยอย่าบอกใคร เลยต้องขอบคุณ น้องชัชและคุณแม่ป้อม แห่งร้านป้อมข้าวพันผัก ที่ได้จัดเมนูอิ่มอร่อยให้พวกเราค่ะ
แม้จะอิ่มอร่อยกันไปแล้วเรายังแอบหมายตา ข้าวแคบ คือ แผ่นแป้งสำหรับใช้พันหมี่ของเมืองลับแล กินแล้วให้ความรู้สึกเหนียว นุ่ม และมีรสอร่อย นั่งรถระหว่างทางสามารถนำมากินเล่นเพลินๆ ได้ด้วย
พออิ่มท้องในมื้อกลางวันแล้วพวกเราก็ได้ตระเวณเดินทางไปยังร้านวิเชียรผ้าไทย ร้านจำหน่ายผ้าไทยผ้าพื้นเมือง และผลิตภัณฑ์จากผ้าที่ได้คุณภาพ OTOP ที่นี่สินค้าทุกชิ้นมีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยลวดลายทอแบบโบราณ
จากนั้นไปต่อกันที่ ร้านลมเย็น ร้านอาหารขวัญใจคนเดินทางเป็นจุดพักรถที่สำคัญของเส้นทางอุตรดิตถ์-พิษณุโลก มีอาหารหลากเมนูให้เลือกสรรอาหารรสชาติอร่อย สะอาด ท่ามกลางบรรยากาศของแมกไม้ และการแต่งสวน นอกจากนี้ยังมีบริการเครี่องดื่มชา กาแฟ และของฝาก ของที่ระลึกมากมาย
ไปชิล@ขุนฝางบ้านสวนฮารีน
เดินชมสินค้าโอท็อปอย่างจุใจแล้ว พวกเราก็บึ่งรถต่อไปกันที่ ขุนฝางบ้านสวนฮารีน ที่นี่บรรยากาศร่มรื่นพอช่วยคลายร้อนได้เพราะอยู่ในท่ามกลางขุนเขารายล้อมด้วยสวนผลไม้ท้องถิ่นนานาพันธุ์ บรรยากาศสงบ เย็นสบาย มีกิจกรรมขี่ม้า ยิงธนู และขับรถ ATV ชมสวนเหมาะสำหรับการพักผ่อน
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านกาแฟเก๋ไก๋ให้นั่งจิบกาแฟหรือดื่มชาเขียวเย็นๆ คุณพรทัศ สรงสุวรรณ หรือคุณลุงติม บอกว่า เพิ่งเปิดได้ไม่นานปีกว่านิดๆ ลูกค้าส่วนใหญ่นิยมมานั่งเล่นกินบรรยากาศร้านกาแฟมาชิลชิลกันซึ่งคุณลุงเติมบอกว่า เราไม่ได้ทำที่พักเพราะเห็นเพื่อนบ้านรายรอบได้ทำที่พักทั้งรีสอร์ท โฮมสเตย์ ล้อมรอบ จะได้ไม่แย่งลูกค้ากัน ส่วนหน้าหนาวก็จะมีกางเต๊นท์ อากาศจะหนาวเย็น เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาแตะที่3-4 องศา
บางคนมานั่งกินกาแฟเสร็จก็ไปสนุกกับกิจกรรมสวนที่อยู่ถัดไปมีทั้ง ขี่ม้า ยิงธนู ฯลฯ และมีที่พักเป็นห้องและบ้านเป็นหลัง ราคาไม่แพง พักได้หลายคน
ของว่างอร่อย@ร้านจิราภาขนมอบเทียนเสวย
ช่วงบ่ายๆได้เวลาไปหาขนมอร่อยๆ กินกันที่ร้าน จิราภาขนมเทียนเสวยเป็นขนมพื้นเมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ร้านผลิตสดใหม่ทุกวัน ทำจากวัตถุดิบอย่างดีมีคุณภาพ สะอาด โดยเฉพาะแป้งและไส้จะหอมหวานกลมกล่อมรสชาติถูกใจชาวอุตรดิตถ์มาเป็นเวลานาน ราคาก็ไม่แพง โดยเฉพาะขนมอบเทียนเสวย ที่คุณมัณฑ์ฐินี คชนิล บอกว่า หลังกวนแป้งเสร็จแล้วจะนำคลุกงาคั่วหอมแล้วห่อใบตองขนาดพอดีคำ จากนั้นค่อยนำไปใส่ซึ้งเพื่ออบควันเทียน มีใส่ดอกมะลิเพื่อให้มีกลิ่นหอม ที่นี่มีขนมอบเทียนเสวย 2 กลิ่นคือทับทิมเสวย ใช้แป้งข้าวเหนียวดำทำ สีจะออกม่วงดำ และขนมอบเทียนเสวยที่ใช้ข้าวเหนียวขาวทำ ชิมแล้วต้องบอกว่าอร่อยจริงๆค่ะหอมกลิ่นเทียบอบจริงๆด้วย ก๋วยเตี๋ยวเรือเป่าปาก แซ่บจี๊ดดดดด
พวกเราใช้เวลาอยู่ที่นานพอสมควร นานพอที่จะหิวอาหารมื้อเย็นกันเลยทีเดียวน้องชัช เลยพาไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน ก๋วยเตี๋ยวเรือเป่าปาก ของแม่จวน ร้านนี้อยู่ใกล้กับร้านป้อมข้าวพันผัก เดินถึงกันได้ เป็นร้านต้นตำหรับดั้งเดิม ก๋วยเตี๋ยวเรือจะไม่ใช้ชามแต่ใช้กะลาใส่แทน มีหลากหลายเมนูไว้บริการ แบ่งตามชอบว่าเผ็ดมากเผ็ดน้อย ทานคู่กับน้ำซุปที่กลมกล่อมด้วยสูตรเด็ดเฉพาะของที่ร้านและมีที่จอดรถบริการสะดวกสบาย เราชอบชื่อรสชาติก๋วยเตี๋ยวเรือของที่นี่คุณป้าจวนตั้งชื่อไว้ 3 ระดับ คือ เจ็บชื่อเมนูว่า เจ็บภูสอยดาว อร่อยมาตรฐานเป่าปาก เจ็บเขื่อนสิริกิติ์ รสนี้เผ็ดกลางๆและเจ็บหลงลับแลรสนี้ไม่เผ็ด เด็กกินได้ เราเลือกกินอร่อยมาตรฐานจี๊ดจ๊าดจนต้องเป่าปากสมชื่อร้านจริงๆค่ะ พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล เมืองห้ามพูดโกหก
ก่อนตะวันตกดินพวกเราเดินทางมาเดินเล่นหน้าพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล เมืองห้ามพูดโกหกซึ่งมีตำนานเล่าขานสามีภรรยาคู่หนึ่งแห่งเมืองลับแล ที่วันหนึ่งสามีพูดโกหกเพื่อกล่อมลูกน้อยหยุดร้องไห้และเรื่องราวนี้ทราบถึงหูภรรยานำมาซึ่งความซื่อสัตย์ต่อจารีตประเพณีของเมืองลับแลที่ห้ามพูดโกหกทำให้ภรรยาต้องยอมเสียสละความรักเพื่อธำรงจารีตประเพณีไว้ด้วยการให้สามีออกจากเมืองไปทำให้จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นเมืองที่รักษาสัจจะวาจาจนถึงปัจจุบัน ร้านม่อนลับแลร้านอินเทรนด์เอาใจสาวโสดคอกาแฟโดยเฉพาะ
จากนั้นพวกเราเดินทางต่อไปที่ ร้านม่อนลับแล บริหารโดย คุณกัญญาวีร์ ศิริกาญจนารักษ์ เป็นร้านอาหารในบรรยากาศร่มรื่นบริการอาหารพื้นเมืองหลากหลายเมนู มีร้านกาแฟเอาใจสาวโสดที่เป็นคอกาแฟ ในโซนใหม่ Laplae La liga (ลับแลลากิกา) นอกจากนี้ มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเรื่องราวผ้าเมืองลับแล และมีสินค้าที่ระลึกหลายประเภทให้เลือกช้อปมากมายโดยเฉพาะผ้าซิ่นลับแลที่นี่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งเธอบอกว่าที่นี่มีจุดเด่นไม่เหมือนใครคือ ตั้งอยู่ในบริเวณ ม่อน ซึ่งเป็นหุบเขาเล็กๆ มีความชัดเจนในเรื่องของผ้าเมืองลับแลและอาหาร ชมผ้าซิ่นตีนจกไท-ยวน ลับแล
วันรุ่งขึ้นพวกเราได้เดินทางไปพิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกไท-ยวน ลับแล แหล่งเรียนรู้เรื่องผ้าซิ่นตีนจกบริหารโดยคนรุ่นใหม่ จงจรูญ มะโนคำ หรือคุณโจ มีเชื้อสายไท-ยวน-ลับแล ภายในพิพิธภัณฑ์คุณโจได้จัดแสดงผ้าซิ่นตีนจกและผลิตภัณฑ์ผ้าทอจกที่โดดเด่นด้วยสีสันและความประณีตของลายผ้าที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติในการย้อมแบบดั้งเดิม และจกด้วยขนเม่น แบบโบราณ ทำให้ผ้าแต่ละผืนดูมีคุณค่าเพราะลวดลายไม้ซ้ำที่ใด คุณโจ บอกพวกเราว่า งานผ้าเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาแบบรุ่นสู่รุ่น ยุคสมัยเชียงแสน มาถึงรุ่นคุณโจก็ทำมา 15 ปีแล้ว และลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่การออกแบบ การเลือกเส้นไหม การหาแห่งผลิตเส้นไหมที่มีคุณภาพ การย้อมสี การซัก จะ QC ด้วยตัวเองทั้งหมด เพราะคุณโจมีจุดยืนจำหน่ายผ้าเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมเพื่อความยั่งยืน ฉะนั้นการที่ต้องทำเองทั้งหมดโดยเฉพาะการออกแบบจนถึงการจก เราจะจกแบบโบราณตามแบบยุคสมัยแต่ไม่เสียความเป็นเอกลักษณ์ของ จกไท-ยวน ลับแล ตะบองทอดมาแล้วต้องกินที่ร้านเจ้นีย์@เมืองลับแล
ร้านเจ้นีย์ของทอดเมืองลับแลสารพัดเมนูของทอดที่สาวๆต้องลอง ทั้งตะบองทอด(หน่อไม้ทอด) ,ผัดทอด ,เผือดทอดและอีกหลากหลายเมนูทอด ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของที่ร้าน การันตีความอร่อยจริงๆค่ะ
เสื้อผ้าฝ้าย ผ้าซิ่นลับแลตอบโจทย์สาวโสด@ร้านตะวันฉาย
ร้านตะวันฉาย เป็นร้านเล็กๆ ตกแต่งเก๋ไก๋ บรรยากาศร้านร่มรื่นรายล้อมไปด้วยต้นไม้ คุณปุณยนุช ทองชั้น หรือพี่นิดแห่งร้านตะวันฉายของฝากเมืองลับแลแห่งนี้ บอกว่า แต่เดิมไม่ได้ใช้ที่บ้านเป็นร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก แต่มาจากที่วันหนึ่งนักท่องเที่ยวที่ศึกษาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตก่อนมาเที่ยวแล้วเดินทางมาที่บ้าน และเผยแพร่ข้อมูลออกไปทำให้มีคนรู้จักมากขึ้น ที่ร้านของเราจะมีผลิตภัณฑ์ในชุมชนหลากหลายไม่ว่าจะเป็น เสื้อยืด เสื้อผ้าฝ้ายผ้าซิ่นลับแล ผลไม้ตามฤดูกาล และไม่เป็นเพียงแค่สินค้าที่ระลึก ทางพี่นิดเองก็ได้ร่วมกับชาวบ้านทำที่พักแบบโฮมสเตย์ที่เป็นชาวบ้านจริงๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่สนใจพัก ค้างคืน
ทำปีละครั้งไปแล้วต้องกินไอศครีมทุเรียนหลงหลินลับแล
มาถึงอุตรดิตถ์ทั้งที อย่างไรก็ต้องมาดูทุเรียนพันธุ์หลงหลินลับแลกับตาให้ได้ พวกเราเลยเลือกมาที่ ร้านบ้านบนดอย ของคุณสุรีพรย์ รัตนรอด เป็นสวนผลไม้ผสม และมีทุเรียนพันธุ์นี้ด้วย ที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชมเป็นศูนย์เรียนรู้และมีผลิตภัณฑ์ ทุเรียนกวน เป็นของฝากขึ้นชื่อที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งนอกจากนี้ที่ร้านยังมีสินค้าที่ระลึกจำหน่าย อีกหลายประเภท โดยเฉพาะช่วงหน้าผลไม้ เอาใจสาวโสดด้วยเมนู ไอศครีมทุเรียนหลงหลินลับแล สูตรเด็ดของร้านที่ 1 ปีจะผลิตแค่ครั้งเดียว แต่เป็นที่น่าเสียดายที่อากาศร้อน รีบทานเลยลืมถ่ายภาพมาฝากค่ะ สาวโสดกินแล้วไม่อ้วน@เฮือนข้าวพันผักริมคลอง
เฮือนข้าวพันผักริมคลอง เอาใจสาวๆที่รักสุขภาพด้วยสารพัดเมนูข้าวพันผักหลากเมนู พร้อมด้วยคุณค่าทางอาหาร รสชาติอร่อยถูกปากในบรรยากาศริมคลอง ลมเย็นสบาย บริการเป็นกันเอง หลังจากเก็บเกี่ยวเที่ยวซ่อกแซ่กไปในจังหวัดอุตรดิตถ์กันแล้วก็สรุปว่า จากจังหวัดอุตรดิตถ์ที่เคยมองว่า เป็นเมืองที่ไม่มีอะไร พอได้ไปตะลุยเที่ยวตะลุยกินของอร่อยๆ ทำให้ได้คำตอบเลยว่า ไม่เสียเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่จริงๆ รู้สึกคุ้มค่ากับเมืองที่มีแต่อาหารอร่อย แถมยังได้พกความสุขกลับบ้านจนกระเป๋าตุงเลยค่ะ.
Create Date : 15 เมษายน 2559 |
|
3 comments |
Last Update : 16 เมษายน 2559 12:22:59 น. |
Counter : 5212 Pageviews. |
|
|
|