My Best Friend's Wedding.
ตั้งหน้าตั้งตารอทริปนี้มานาน ตั้งแต่รู้ข่าวจากเพื่อนรักว่าจะแต่งงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จากนั้นก็จองตั๋วแล้วก็นับวันรอวันนี้ เนื่องจากมันไม่ใช่แค่การได้ไปเยือนเชียงใหม่อีกครั้ง แต่มันเหมือนได้ไปย้อนเวลา ไปใช้เวลากับเพื่อนเก่าๆ สมัยมหาวิทยาลัยด้วย
22 Oct 2010
ออกจากออฟฟิศประมาณบ่ายสามแล้วก็เข้าไปเอาของที่ห้อง จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ไปสุวรรณภูมิ ที่แท็กซี่ก็เปิดเพลงเพราะดั๊วะ เบิกบานสุดๆ ถึงสุวรรณภูมิก็ปาเข้าไปสี่โมงครึ่ง เช็คอิน แล้วก็รอ รอ รอ
บินตอนกลางคืนนี่ก็สวยดีเหมือนกันเนอะ
คราวที่แล้วกลับจากฮ่องกง จำได้ว่าก็บินตอนกลางคืนนี่แหละ แต่ไม่ได้นั่งติดหน้าต่างก็เลยไม่รู้ว่า วิวมันสวยขนาดไหน หวังว่าขากลับก็คงได้เห็นเมฆงามๆมั่ง เพราะเป็น Flight เช้า
ถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณทุ่มครึ่ง
"มีหนุ่มน้อยคนนี้มารอรับ"
"น้องต้นโมกข์"
จากนั้นก็ไปรับ "นิ" แถวๆถนนนิมมานฯ นิมาถึงช่วงเช้า เลยไปหาเพื่อนก่อนเพื่อรอเรากลบบ้านแล้วจะได้ไปนอนบ้านโอ๋ที่สันทรายด้วยกัน เพราะพรุ่งนี้เช้าเราจะไปงานแต่งของ "แอ" ที่ อ.พร้าว
เจอหน้ากันก็ไปหาของอร่อยกิน ไปกินกันที่ "ข้าวต้มพุ้ยสวนดอก" ตอนเรียนที่ มช. มากินกันที่นี่บ่อยๆ "ไส้เป็ดพะโล้ " อร่อยมากกกกกก กินกันจนอิ่มหน่ำสำราญ เม้าส์กันไปเรื่อย ประโยคแรกที่ไอ่นิพูดกะเราคือ
"อิ๋ว ลดความอ้วนด่วน ชั้นขอร้อง"
แง้ๆ "จ้า รู้แล้วจ้า"
ไปนอนที่บ้านโอ๋กัน ล่าสุดที่เจอกันนั้น โอ๋ยังไม่ได้ซื้อบ้านหลังนี้ เห็นว่าบ้านหลังนี้อายุ 3 ปีละ เราก็เลยคำนวนและรู้ได้ว่า ไม่ได้เจอกันที่เชียงใหม่มานานโข โอ๋จัดห้องให้เรากะนิ จากนั้นก็อาบน้ำนอน เรากะนิกว่าจะนอนหลับก็นอนคุยกันจนเกือบเที่ยงคืนละ ไม่ได้นอนคุยกันแบบนี้มานานมากตั้งแต่เรียนจบ อัพเดทชีวิตกันไป
จริงๆแล้ว "นิ" ก็อยู่ไม่ไกลจากเรานัก ลาดพร้าวกะวังหิน ได้แต่โทรคุยกัน ต่างคนต่างยุ่ง วุ่นวาย ต่อไปนี้ก็คุยกันว่า น่าจะเจอกันให้บ่อยกว่านี้หน่อย
....
23 Oct 2010
"วันปิยมหาราช"
วันเกิด "ปอ" สามีปา ก็ขอให้รวย รวย รวย เน้อเพื่อน
และ
วันแต่งงานของ "แอ" เพื่อนรักของเรา
.
ออกเดินทางไป อ.พร้าว ตอน 8.00 น.
"นิ" สวยไม่สร่าง
เส้นทางไป "พร้าว" เป็นถนนเส้นเล็กๆ พี่นาจ แฟนโอ๋พูดขึ้นมาขณะขับรถว่า "พร้าวเป็นอำเถอที่ถูกลืม" เราก็คิดว่าจริง เพราะเป็นอำเภอเล็กๆ วิ่งตรงไปถึงเชียงราย แต่ไม่ใช่เส้นทางที่นิยมเท่าไหร่ สถานที่ท่องเที่ยวก็น้อย ไม่เหมือนอำเภออื่นๆ ของเชียงใหม่ แต่เรากลับชอบ เพราะถนนสวย วิวงาม
ถึงงานปุ๊ป เจ้าสาวก็รีบจ้ำๆมาหา
"ประชันกับดาวเมเจอร์ฯกันหน่อย"
"แอ" เป็นประธานรุ่นของเมเจอร์ฯ (ภาควิชา) ของเรา เป็น "ดาว" ของเมเจอร์ซึ่งส่งไปประกวด "ดาวคณะมนุษยศาสตร์" จำไม่ได้ว่า ได้รึเปล่า โอย...กุเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ คุ้นๆว่า "ดาวมหาลัย" ปีนั้น เป็นของคณะวิจิตรศิลป์ เพราะฉะนั้น "แอ" ไม่ได้เป็นดาวคณะฯ ก็ไม่เป็นไร 555
"แก๊งค์ของเราสมัยเรียน ขาดไปหนึ่งคน"
"รูปบ่าวสาวหน้างานแต่ง"
ทักทายกันได้เล็กน้อย แม่เจ้าสาวก็ดึงเราไปคุยเรื่องที่จะให้ขึ้นไปช่วยเป็นเพื่อนเจ้าสาวบนเวที เนื่องจากมีพิธีผูกข้อมือและสวมแหวน แม่ก็พาเรากับนิขึ้นไปนัดแนะ แจ้งขั้นตอนและพิธีการ ยกขันหมากตอนไหน ยกถาดแหวน ยกพานพวงมาลัย งงอยู่เหมือนกัน
พิธีดูเหมือนจะเยอะแยะ
ตอนหลังแม่เห็นเราเริ่มจะงงก็เลยบอกว่า "ฟังพิธีกรละักันนะลูก 555"
"บ่าวสาวกำลังจะสวนแหวนแต่งงาน"
พิธีการเสร็จ เราก็ลงไปนั่งกินอาหารกันด้านล่าง รอบ่าวสาวทักทายแขก
"โอ๋" ล่วงหน้าไปก่อนละ จบปุ๊ป แต่งปั๊ป
มี "น้องต้นโมกข์" มาเป็นสมาชิกครอบครัว แซงเพื่อนๆไปโหม๊ดดดดด
"เสือร้าย" นี่ ชอบคนสวย เจอเราเรียก "แม่อิ๋ว" เจอไอ่นิ เรียก "พี่นิ"
"เคืองนะเนี๊ยะ"
"บ่าวสาวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน"
"สามสาวได้รับกระติ๊บมงคล" คนละใบ จากเจ้าสาว
"แอบอกว่าเอาไว้ใส่เงินนะจ๊ะ"
อยู่ประมาณเที่ยงกว่าๆก็เดินทางกลับ
ใจอยากอยู่นานหน่อย แต่หนุ่มน้อยเริ่มงอแง
.
เดินทางกลับก็ไปส่งสามีและลูกชายโอ๋ลงที่บ้านจากนั้นเราก็ตะเวนไปเยี่ยมเพื่อนคนอื่นๆ ไปหาเบิร์ด ตั้งแต่คลอดลูกก้ไม่ได้มาเยี่ยมเลยสักครั้ง คราวนี้เป็นครั้งแรก หลานสาว "น้องพอใจ" ก็อายุได้ 6 เดือนแล้วค๊า
"อ้วนปั๊ก" แน่นมาก
"พอใจ" เจอหน้าเรา แม่เบิร์ดก็ลุ้นว่า
"ต้องร้องไห้แน่ๆเพราะคราวก่อนลุงมด พี่ชายพ่อหมูมาหาก็ร้องไห้ตลอด"
ปรากฎว่า "พอใจ" ไม่ร้อง และยังให้เราอุ้ม ยิ้มหวานให้อีกต่างหาก
"อุ้มจนเมื่อย ก็เลยยัดเยียดให้โอ่มั่ง นิมั่ง 555"
.
จากนั้นก็ไปเดินเที่ยวต่อที่ "ถนนคนเดิน ถ.วัวลาย" ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเงิน เราก็อยากเอาสร้อยข้อมือไปซื้อตะขอใหม่ เนื่องจากตะขอหัก ไอ่นิก็อยากไปเดินเที่ยวเล่น เราก็เลยไปส่งโอ๋ที่บ้าน แล้วยืมรถโอ๋ออกมากับนิสองคน
"มาแต่หัวค่ำคนยังน้อยอยู่"
"หนวดปลาหมึกทอด"
อร่อยมาก เดือนที่แล้วที่มา น้องดาวซื้อ แต่คราวนี้
"เรากะไอ่นิ ซื้อคนละกล่องเลย"
กินจนเลี่ยน เราว่าซื้อกล่องเดียวกินด้วยกันเหมือนคราวที่แล้วมันแบบอร่อยดี และยังรู้สึกอยากกินอีก แต่คราวนี้เยอะเกินกินจนเลี่ยนไปเลยอะ
"ขนมตาล"
"ซื้อไปฝากโอ๋...เห็นบอกว่าอยากกินหนมไทย"
"ขนมถ้วยฟู" สีหวานๆ
.
จากนั้นก็ขับรถกลับ ก่อนกลับก็จะเติมน้ำมันให้ ดันไปกดปุ่มผิด ดึงฝาเปิดน้ำมันขึ้น (โตโยต้าจะดึงขึ้น แต่ ซีวิคมันดันลง) กระโปรงหลังรถโอ๋ก็เลยเปิด มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ที่มีปัญหาคือ รถโอ๋ ประโปรงดันปิดไม่ได้ เนื่องด้วยสายไฟฟ้าที่ลิงค์กันอยู่ดันขาด (ไอ่โอ๋ก็บอกว่า กุทำขาดเอง เพราะฉะนั้นเวลากุเอาของจากกระโปรงท้ายให้เมิง กุถึงดับเครื่อง แล้วใช้กุญแจเปิดเอาไง) โอย...กุจะรู้ไม๊ละ โทรไปเป็นสิบสายจะถามว่าเติมน้ำมันอะรไ แม่งก็ไม่รับน้อ...
แก้ปัญหาโดยการเอาเชือกฟางมัดกระโปรงท้ายไว้ รถสีดำ เชื่อฟางสีแดง เก๋เชียวกุ พอไปถึงบ้าน พี่นาจก็หาวิธีหลายอย่าง สักพักพี่แกเลยไปขยับสายไฟตรงกระโปรงหลังนิดหน่อย มันก็ปิดได้ง่ายๆซะงั้นแหละ เฮ้อ...โล่งอกไปที
.
.
หมดวันไปแบบทุกลักทุเล
พรุ่งนี้ไปเที่ยวเชียงใหม่กันนะค๊า
๐๐๐๐๐
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2553 14:36:58 น. |
Counter : 3354 Pageviews. |
|
|
|