Angkor Wat Trip - 1st day :: ปราสาทพนมบาแค็ง ::
4 September 2009
ตื่นตั้งแต่ 3.45 AM
เสื้อผ้าเรียบร้อย ผมเผ้าสระไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
โทรปลุกจ๊อดสองครั้ง
ไม่รับแฮะ สงสัยจะอาบน้ำอยู่
เราก็เลยไปดูต้นไม้หลังห้องก่อน
รดน้ำให้ชุ่ม เพราะไม่อยู่ตั้งสามวัน เป็นห่วงต้นผักบุ้งมาก
จะตายไม๊หนอ...
ผักชีก็น่าห่วง...
"เป็นทรัพย์สินของอิ๋วต้องอดทนน้า..."
.
ก่อนไปอาบน้ำลองโทรหาจ๊อดอีกที
ป๊าด...คุณเธองัวเงียรับ
ต๊ายยย..."ตีสี่ ห้านาทีแล้วนะแก"
จ๊อดทำเสียงต๊กกะใจ "เหรอๆ เออๆ"
ดีนะนี่ ที่ตัดสินใจโทรอีกที
ไม่งั้นคงจะตกรถทั้งคู่
.
.
จ๊อดนั่งแท็กซี่มารับที่ห้อง
จากนั้นเราก็เดินทางไปที่จุดนัดหมาย
สวนลุมฯ ฝั่งตรงข้ามตึกอื้อจื่อเหลียง
ถึงรถบัส เอเจนซี่ให้โทรหาคนชื่อ "โก๋"
ยังไม่ทันโทร บอกว่ามากะทัวรืก็จัดแจงขนกระเป๋า ดันตูดขึ้นรถ
สักพัก "โก๋" ก็มาปรากฎตัว
แต่งตัวผูกไทด์มาเลย
แลกตังค์มาเมื่อวาน
จะพอไมหนอ....กลัวอะ ไปต่างบ้านต่างเมือง
อยากแลกสักพันดอลแต่ไม่มีตังค์
กั๊กๆๆๆๆ
.
ขึ้นรถมา
เพื่อนร่วมรถบัสส่วนมากจะข้ามไปบ่อน
ส่วนทัวร์เราเท่าที่นับได้มีแค่ 6 คน
ดีดี กรุ๊ปเล็กๆ เราชอบ
.
ถึงตลาดโรงเกลือ
จันทร์เจ้า เจ้าหน้าที่ไกด์ก็มารับเพื่อพาข้ามไปฝั่งเขมร
พาไปตรวจพาสฯ
และก็ถึงหัวสะพานข้ามแดน
รอเพื่อนร่วมทั่วร์ทำวีซ่า ส่วนของเราทำมาเรียบร้อย
นั่งไปนั่งมาก็ตัดสินใจแลกตังค์ "เรียล" เขมรมาใช้กันดีกว่า
แลกสัก "ยี่สิบดอล" ได้เงินเรียล มา 80,000 เรียล
ป๊าด...รวยทันตาเห็น
.
และถ่ายรูปเป็นที่ระทึกก่อนเข้าเขมร
นั่งรถบัสต่อรถตู้
ทุ่งนาสุดลูกหูลูกตา
ใครว่าเขมรแห้งแล้งค๊า
ส่งออกข้าวแข่งกะบ้านเราอยู่ทุกปี
ระหว่างนั่งรถ
พี่ไกด์ "เชน สาลี่" ก็บรรยาย เล่าเรื่องราว ประวัติเขมร
แนะนำ เล่าเรื่องราวช่วงสงครามเขมรแดง
ลูกทัวร์คนนี้ตั้งใจฟัง ดีมากกกกกกกกก
.
ลุงคนขับก็ขับรถช้าซะจริงๆ
150 กิโล ใช้เวลาปาเข้าไปเกือบ 3 ชั่วโมง
ในที่สุดเราก็มาถึง "เสียมเรียบ"
"เสียมเรียบ" เป็นเมืองท่องเที่ยวเล็กๆ
ไม่มีตึกสูงกว่าสี่ชั้น เนื่องจากมีกฎหมายห้ามตึกใดสูงกว่า "นครวัด"
"พระเจ้าขี้เรื้อน"
รู้สึกว่าเป็น สมเด็จพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ทรงสิ้นประชนมืด้วยโรคเรื้อน
"ราชวงค์ปัจจุบัน"
เห็นแล้วนึกถึง "คูเมืองเชียงใหม่"
เมืองเก่าๆ ส่วนมากจะมีคูเมืองให้เห็นแบบนี้
รถสามล้อ พาหนะที่เสียมเรียบ
หรือเรียกกันอีกอย่างว่า "มอเตอร์ตุ๊ก"
ตามแยกมีไฟจราจรแบบนับเลขด้วยน้า
มื้อแรกที่ เสียมเรียบ เราแวะกินข้าวที่ร้านอาหารไทย
"ตึกสด :: น้ำเปล่า"
"ตึกตรอย :: น้ำปลา"
ท่องไว้ ท่องไว้
"ยำมะม่วงปลาแห้ง"
"ไข่เจียว"
"ปลาเนื้ออ่อนทอดกรอบ ผัดพริกไทยดำ"
จานนี้อร่อยดี
"ผัดผัก"
หึหึหึ
.
กินอิ่ม
ไกด์พาไปส่งที่โรงแรม
ให้พักผ่อนก่อนจะไปมารับตอน 16.30 น. เพื่อไปทำบัตรผ่านชมปราสาท
และชมพระอาทิตย์ตกที่ปราสาทพนมบาแค็ง
.
"โรงแรม อัปสรา อังกอร์"
"Apsara Angkor Hotel"
มี "น้ำอ้อย" เป็น Welcome Drink
และผ้าเย็นๆ ให้หายเหนื่อย
.
ขึ้นมาดูห้องเราเลยดีกว่าคะ
เราพักที่ห้อง 241
ห้องสวยมาก
ระเบียงเปิดไปก็เห็นสระว่ายน้ำและสวนด้านล่าง
แปดหมื่นเรียล
90 ดอลล่า
.
ล้างหน้าตา เปลี่ยนกางเกงขาสั้น
หลับอีก 1 ชั่วโมง
แล้วก็ชวนกันออกไปชมเมืองก่อนจะถึงเวลานัด
นั่งสามล้อชมเมือง 5 ดอลล่า
ให้พี่แกพาไปหากาแฟ หะหะ
พี่แกก็พาไปดู นู้น นี่ นั่น จวนจะได้เวลานัดก็กลับมาที่โรงแรม
ชอบรถคันนี้มากๆ
เดินเล่นที่สวนของโรงแรม
สระน่าว่ายมาก
ทริปนี้พวกเราได้ลูกสาวเพิ่มมาอีกนึงคน
เป็น "แม่อิ๋ว" กะ "พี่จ๊อด"
คนเราบางคนนี่ไม่ยอมแก่เนอะ
หนูชื่อ "น้องขิม" คะ
.
พี่สาลี่มาถึง ก็ออกเดินทางกันไปทำบัตรผ่าน
ถ่ายรูปติดบัตรด้วยนะค๊า
ค่าเข้าชมปราสาททุกปราสาท ราคา 20 US
.
ต้องโชว์บัตรทุกปราสาทที่ไป
จากนั้นเราเดินทางต่อเพื่อจะไปดูพระอาทิตย์ตกกัน
จุดที่ดีที่สุดคือที่นี่
"ปราสาทพนมบาแค็ง"
กว่าจะขึ้นมาถึงตัวปราสาทได้
ก็ต้องเดินขึ้นเขามากิโลกว่าๆ
จากนั้นก็ไต่ขึ้นไปด้านบนปราสาท
สูงมิใช่น้อย
"สู้โว้ยยยยยยย"
ขึ้นมาถึง เล่นเอาหอบแฮ่กๆ
นู๋ขิมก็ขึ้นนะค๊า ทรหดน่าชื่นชมมาก
ขึ้นมาถึงก็ชื่นใจ
ลมเย็นสบาย อากาศดี๊ดี
เห็น "นครวัด" อยู่ ลิบลิบ
ถ่ายรูปกันตามใจชอบ
รูปนี้ทั้งแขม่ว ทั้งยืดสายตัวแทบขาด กว่าจะดูผอม
นางอัปสราของพนมบาแค็ง
คอเป็นปล้องๆ พุงอ้วนๆ
ยืนแบบเอาส้นเท้าชนกัน ปลายเท้าหันไปด้านข้าง
เห็นสระน้ำใหญ่ๆอยู่ลิบๆ
วันนี้ฟ้าปิด...อดเห็นพระอาทิตย์
เหมือนจะเป็นนัยยะว่า
"ไว้มาเที่ยวอีกครั้งนะจ๊ะ"
ลูกสาวนั่งซ้า...เซะซี่
.
ลงเขามาก็มืดค่ำ
พี่สาลี่ก็พามากินข้าวเย็นที่ภัตตาคาร
สวยนะ
แต่อาหารไม่ผ่านอย่างแรง
.
กลับถึงโรงแรม
อาบน้ำ นอนเขียนโปสการ์ด
เขียนไม่เสร็จ
ซื้อโปสการ์ดมาเป็นแพ็ค ก็ต้องคัดรูป พรุ่งนี้จะไปหาซื้อใหม่
.
วันนี้หมดแรง
ขอนอนก่อนนะค๊า
พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวใหม่ค๊า
"ฝันดีที่เสียมเรียบ"
๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐
Create Date : 11 กันยายน 2552 |
Last Update : 11 กันยายน 2552 19:59:21 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1742 Pageviews. |
|
|