Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
8 พฤศจิกายน 2556
 
All Blogs
 
เล่ห์ร้อนอ้อนรัก - 6 - มือที่สาม





ทัศนัยกลับมาที่คอนโดมิเนียมของแม่สาวชุดแดงอีกครั้ง อีกไม่กี่วันก็ต้องกลับอเมริกาแล้ว เขาต้องรีบสานต่อกิจกรรมที่คั่งค้างให้เสร็จสิ้น

เมื่อคืนนี้เขามากับเจ้าของห้องจึงไม่มีปัญหาอะไร แต่บ่ายนี้ชายหนุ่มมาคนเดียว และไม่รู้ชื่อหญิงสาวด้วยจึงถูกพนักงานต้อนรับตรวจสอบยกใหญ่

“เมื่อคืนผมมาส่งเธอที่ห้องแล้วลืมของไว้ วันนี้เลยกลับมาเอาครับ ไม่เชื่อก็โทร. ไปที่ห้อง 2812 ได้” แน่นอนว่าพ่อปลาไหลอย่างทัศนัยไม่จนมุมใครง่ายๆ อยู่แล้ว

“งั้นรอซักครู่นะคะ ดิฉันจะเช็กให้ว่าเธออยู่ห้องรึเปล่า” พนักงานสาวตอบอย่างนอบน้อมแล้วต่อสายไปที่ห้อง 2812 พูดคุยสักพักก็หันมากล่าวเชื้อเชิญชายหนุ่มให้ขึ้นไปได้เลย

“ขอบคุณครับ”

เขาก้มศีรษะเล็กน้อยก่อนจะเดินผิวปากไปกดลิฟต์ คิดว่าวันนี้คงมีประสบการณ์น่าจดจำกับแม่สาวคนสวยอย่างแน่นอน

เมื่อมาถึงหน้าห้องของหญิงสาว เขาก็เช็กทรงผมกับเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะกดออด ครู่เดียวเจ้าของห้องก็เปิดประตูให้ แต่หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นทำให้ชายหนุ่มถึงกับอึ้ง ถอยออกมาดูหมายเลขหน้าห้องอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ

“คุณใช่มั้ยคะ ที่มาส่งฉันเมื่อคืน”

หญิงสาวที่เอ่ยทักทัศนัยมีสีหน้าเฉยเมย ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้เครื่องสำอางตกแต่ง แถมเธอยังสวมแว่นตาหนาเตอะ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ร้ายที่สุดคือเธออยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นเสมอเข่าที่ดูออกว่าผ่านการใช้งานมาหลายปี ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความเซ็กซี่เร้าใจให้เห็นในทุกอณูของร่างกาย

“เอ่อ...คือ...”

เขาไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี ดูเผินๆ เธอไม่ใช่คนเดียวกับผู้หญิงร้อนแรงคนเมื่อคืน แต่เมื่อเพ่งพิศดีๆ ก็พบว่าใบหน้ารูปไข่นั้นมีความงดงามซ่อนอยู่ เพียงแต่ผู้เป็นเจ้าของไม่ได้ทำให้มันโดดเด่นออกมาเท่านั้น ที่สำคัญริมฝีปากอิ่มสีชมพูระเรื่อนั้นเป็นริมฝีปากคู่เดียวกับที่เขาจูบเมื่อคืนนี้แน่นอน

“เข้ามาก่อนสิคะ เห็นพนักงานบอกว่าคุณลืมของไว้ ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร หาแล้วก็ไม่เจอ คุณเข้ามาหาเองก็แล้วกัน แต่ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าไม่มีอะไรแปลกปลอมหลงเหลืออยู่ในห้องนี้”

เธอผายมือเชื้อเชิญ ถอยหลังให้แขกก้าวเข้ามา เดินไปหลังเคาน์เตอร์เครื่องดื่มแล้วเงยหน้าขึ้นถาม “จะดื่มอะไรหน่อยไหมคะ”

ทัศนัยเดินเข้ามาในห้องที่สะอาดเอี่ยมเรียบร้อยเหมือนผู้เป็นเจ้าของเพิ่งจะทำความสะอาดยกใหญ่เสร็จไปด้วยความรู้สึกประดักประเดิดเต็มที อ้อมแอ้มตอบไปแก้เก้อว่า “ดีครับ”

“น้ำเปล่า ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมดีคะ”

“กาแฟก็ได้ ขอขมๆ เลยนะครับ เผื่อว่าผมจะหายมึน” เขาตอบพลางทรุดร่างลงบนโซฟาตัวเดียวกับที่ใช้มันเป็นสนามรักเมื่อคืนนี้ และเกือบจะไปถึงไหนต่อไหนถ้าผู้ร้ายที่จับคุณชายรัชต์ไว้ไม่โทรศัพท์มาขัดจังหวะเสียก่อน แอบไล้มือไปตามความนุ่มของโซฟาอย่างเสียดาย

ครู่หนึ่งหญิงสาวก็ยกกาแฟมาให้แขกแล้วทรุดนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวตัวถัดไป

“หาเจอมั้ยคะ”

“อะไรครับ” เขาทำหน้างงๆ

“ก็ของที่คุณลืมไว้ไงล่ะ ฉันเพิ่งทำความสะอาดห้องใหม่ เก็บอะไรทิ้งไปเยอะ ถ้าหาไม่เจอลองดูในถุงดำนั่นก็ได้ ฉันกำลังจะเอาไปทิ้งพอดี”

เธอชี้ไปที่ถุงพลาสติกสีดำใบใหญ่สามสี่ใบซึ่งวางอยู่ใกล้ประตูทางออก

เขาเบิกตากว้าง “คุณทิ้งข้าวของเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ”

เธอยักไหล่ “ของเก่าน่ะ เก็บไว้ก็เป็นเสนียดเปล่าๆ”

“คุณคงแต่งห้องใหม่บ่อยล่ะสิ” เขาคาดเดา มองผิวหน้าเนียนละเอียดของเธออย่างเพลิดเพลิน ผู้หญิงสวยใส่แว่นก็ดูแปลกตาดี

“ครั้งแรก” เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจแล้ววกกลับมาที่เรื่องของเขา “ตกลงหาเจอรึเปล่าคะ จะค้นในถุงดำมั้ย ถ้าไม่ค้นฉันจะเอาไปทิ้งแล้วนะ”

“เอ่อ...ผมอาจจะทำหายที่อื่นก็ได้ เมื่อคืนผมค่อนข้างมึนน่ะ”

ทัศนัยไม่คิดจะค้นถุงขยะของเธอหรอก ค้นไปก็เท่านั้น เขาไม่ได้ลืมอะไรไว้ นอกจากกิจกรรมที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์

“นั่นสิ ฉันจำหน้าคุณไม่ได้ด้วยซ้ำ ขอโทษนะคะ ฉันดื่มหนักไปหน่อย แล้วก็...ขอบคุณที่มาส่งฉันถึงห้อง ทั้งที่เราไม่รู้จักกันมาก่อน” เธอบอกพลางหลบตา รู้สึกอับอายกับความเปิ่นของตัวเอง แต่ช่างมันเถอะ ถึงยังไงเธอก็จำไม่ได้อยู่ดี

“รู้จักตอนนี้ก็ยังไม่สายนี่ครับ ผม...ทัศนัย เรียกทัศก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”

เขาอมยิ้ม ยื่นมือไปหาเธอ หวังจะสัมผัสมือเล็กนุ่มและหอมกรุ่นจนลืมไม่ลงอีกครั้ง แม้จะรู้สึกเสียความมั่นใจที่หญิงสาวจำหน้าเขาไม่ได้ก็ตาม

“ค่ะ งั้นคุณก็คงไม่ต้องการค้นถุงขยะแล้ว ฉันจะได้เอาไปทิ้งซะที คุณจะกลับแล้วใช่มั้ย ช่วยยกหน่อยนะคะ มันหลายถุงน่ะ ฉันคงยกไปทีเดียวไม่หมด โชคดีจังที่คุณมา”

เธอยิ้มกว้าง ลุกไปคว้าถุงขยะขึ้นมาสองใบ ส่วนอีกสองใบนั้นคือส่วนที่เขาต้องช่วย

ทัศนัยลุกตามงงๆ จำต้องช่วยหญิงสาวหิ้วขยะออกมาจากห้อง เดินตามเธอไปจนสุดโถงทางเดิน หญิงสาวเปิดประตูเล็กๆ ข้างบันไดแล้วโยนถุงขยะทิ้งลงไปตามช่องทิ้งขยะ ก่อนจะหันมารับอีกสองถุงจากเขาแล้วโยนตามลงไปทันที

“ขอบคุณมากค่ะ กลับบ้านดีๆ นะคะ”

เธอยิ้มและโบกมือลา ก่อนจะเดินกลับห้องตัวเอง

ชายหนุ่มยืนหันรีหันขวางอย่างทำอะไรไม่ถูก ตอนที่หญิงสาวกำลังจะปิดประตูห้อง เขาก็ตะโกนขึ้น “เดี๋ยวครับ รอผมด้วย!”

“คุณหมดธุระแล้วไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวโผล่หน้าออกมาถามด้วยความแปลกใจ

“คือ...คุณยังไม่ได้บอกผมเลยว่าชื่ออะไร”

เขาทำหน้ามึนๆ ไปเพราะนึกอะไรไม่ออก รู้เพียงแต่ว่าไม่อยากให้เรื่องจบแบบนี้

“สำคัญด้วยเหรอคะ” เธอเลิกคิ้วแล้วก็ไหวไหล่ “แต่มันก็ไม่ใช่ความลับอะไร อวัศยาค่ะ หรือจะเรียกหมอกก็ได้ ถ้าเจอกันข้างนอกก็ทักได้นะคะ แต่เราคงไม่เจอกันอีกหรอก”

เธอยิ้มอย่างจริงใจ ก่อนจะหดคอกลับเข้าไปและงับบานประตูลง

ทัศนัยรีบเอามือรั้งไว้ โพล่งขึ้นอีกว่า “ผมยังไม่ได้หาจนทั่วห้องเลย บางทีมันอาจจะยังอยู่ในห้องคุณก็ได้”

อวัศยาย่นคิ้ว ถอนใจยาว แต่แล้วก็เปิดประตูให้เขาโดยดี

“งั้นก็รีบๆ หาหน่อยนะคะ ฉันจะเริ่มทำงานแล้ว มีคนอยู่ด้วยมันไม่มีสมาธิ”

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน แกล้งมองไปทั่วห้องและชวนคุยเก็บข้อมูล

“คุณหมอกทำงานอะไรครับ แล้วทำที่ห้องนี้เลยเหรอ”

“ฉันกำลังทำวิทยานิพนธ์ค่ะ มันต้องใช้สมาธิค่อนข้างสูง”

เธอตอบตามตรง ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องปิดบังข้อมูลนี้ ระหว่างนั้นก็เก็บถ้วยกาแฟไปล้าง ปล่อยให้แขกเดินหาของที่ทำหายโดยไม่มีความหวาดระแวงใดๆ เพราะคิดว่าถ้าเขาจะทำอะไรเธอก็คงทำตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

ทัศนัยเลิกคิ้ว ไม่คิดว่าผู้หญิงที่ยอมให้เขามาส่งถึงห้องนอนและเกือบจะมีอะไรเลยเถิดกันตั้งแต่วันแรกที่พบหน้าจะเป็นนักศึกษาปริญญาโทไปเสียได้

หรือว่าเธอจะชอบสะสมแต้ม?

ความคิดนั้นทำให้หนุ่มรักสนุกถึงกับยิ้มกริ่ม ถ้ารื้อฟื้นความทรงจำเมื่อคืนของเธอได้สำเร็จ ไม่แน่ว่าบ่ายนี้เขากับอวัศยาอาจได้สานต่อกิจกรรมสุดเร้าใจที่ทำค้างไว้ตั้งแต่เมื่อคืน

ชายหนุ่มถอดนาฬิกาข้อมือเรือนหรูแล้วหย่อนลงในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันไปพูดกับเธอ “เมื่อคืนผมว่าผมถอดนาฬิกาไว้แถวๆ โซฟาตัวนี้นะครับ คุณเห็นบ้างมั้ย”

หญิงสาวขมวดคิ้วนิ่วหน้า จ้องมองเขาอย่างแปลกใจ

“แล้วคุณมาถอดนาฬิกาไว้ในห้องคนแปลกหน้าทำไม เราไม่รู้จักกันซะหน่อย”

เขาเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์ซึ่งกั้นระหว่างห้องรับแขกกับห้องครัวเอาไว้ จ้องตาเธอนิ่งๆ

“คุณจำไม่ได้จริงๆ เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

เธอส่ายหน้า รวบรวมสมาธิเพื่อหาคำมาอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ

“ฉันไม่จำอะไรเวลาที่เมาค่ะ คือ...ฉันหมายถึง ถ้าเมาแล้วฉันจะไม่รู้ตัว ตื่นมาจะจำอะไรไม่ได้เลย”

“แต่เมื่อคืนคุณไปดื่มคนเดียวนะครับ ถ้าเมาแล้วไม่รู้ตัวคุณก็ไม่ควรไปสถานที่แบบนั้นเพียงลำพัง” เขาค้านด้วยสีหน้าจริงจัง และรู้ตัวว่าทำพลาดไปเมื่อหญิงสาวมีแววตาที่เย็นชาขึ้นทันที

“นั่นมันเรื่องส่วนตัวนะคะ คุณหาของให้เจอแล้วรีบกลับไปจะดีกว่า”

ติ๊งต่อง!

เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นก่อนที่ทัศนัยจะได้ขอโทษหญิงสาว แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นซ้ำๆ บอกให้รู้ว่าคนด้านนอกแสนจะร้อนใจ

“ใครกันนะ เสียมารยาทจัง” เขาบ่นเมื่อถูกขัดจังหวะ สีหน้าหงุดหงิดนิดๆ

หญิงสาวถอนใจเฮือกใหญ่ กลอกตาเซ็ง และยืนนิ่งคล้ายกำลังพยายามข่มกลั้นอารมณ์อยู่สักพักก็เดินเข้าไปในห้องนอน แล้วกลับออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำ แว่นสายตาถูกถอดออกไปแล้ว ผมเธอค่อนข้างยุ่งเหยิง แต่มันดูเซ็กซี่ขาดใจจนทัศนัยตกตะลึง

อวัศยาเดินมาหยุดตรงหน้าเขาและเอ่ยขึ้นว่า “ช่วยอะไรฉันหน่อยนะคะ”

ชายหนุ่มยังคงอ้ำอึ้งเพราะคาดไม่ถึงว่าจู่ๆ แม่สาวร้อนแรงคนเมื่อคืนก็ฟื้นคืนชีพง่ายๆ เธอไม่รอคำตอบแต่คว้าหัวเข็มขัดของเขาแล้วปลดมันออก ก่อนจะโยนลงบนพื้นกลางห้อง ตำแหน่งที่ใครเข้ามาปุ๊บก็ต้องเห็นปั๊บ จากนั้นก็เดินไปเปิดประตูห้อง

“หมอก!” แขกผู้มาใหม่ร้องเสียงหลง สีหน้ากลัดกลุ้มสุดๆ ขณะรวบมือเล็กไปกุมไว้ แล้วเริ่มอ้อนวอนด้วยสุ้มเสียงเหมือนคนกำลังจะขาดใจตาย

“ผมขอโทษนะที่รัก ผมผิดไปแล้ว ยกโทษให้ผมนะหมอก ผมไม่ได้จริงจังอะไรกับผู้หญิงคนนั้น มันก็แค่ขำๆ น่ะ คุณหายโกรธผมแล้วเรากลับมาดีกันนะครับ”

หญิงสาวชักมือกลับ “เหรอคะ? แย่จัง เพราะฉันก็แค่ขำๆ กับคุณเหมือนกัน!”

ทัศนัยได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง ก่อนจะลนลานก้มลงเก็บเข็มขัดของตนมากำไว้แน่น

‘ซวยแล้วไอ้ทัศ นี่แกเกือบจะยุ่งกับเมียชาวบ้านเหรอวะ ตายๆๆ จะหนีออกไปทางไหนดีวะเนี่ย?’

“ไม่จริง! คุณโกหกเพราะโกรธที่ผมนอนกับคนอื่นใช่ไหม อย่าทำแบบนี้สิหมอก มีแต่คุณที่ผมจริงจังด้วย อย่าโกรธเลยนะ ก็แค่สีสันของผู้ชายเท่านั้น คุณใจกว้างหน่อยได้มั้ย” ชายหนุ่มขึ้นเสียง สีหน้าดุดัน กระชากร่างบางเข้ามากอดไว้แน่นถึงได้เห็นว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องนี้ด้วย

“ไอ้หมอนี่ใคร?”

อวัศยาผลักอกอดีตคู่หมั้นออก แล้วหันไปคว้าแขนทัศนัยมากอด ลอยหน้าลอยตายิ้มยั่วเขา

“ผู้ชายคนใหม่ของฉันเอง”

“ดะ...ได้ยังไงกันหมอก เรายังไม่ได้เลิกกันซะหน่อย” ผู้มาใหม่เหมือนจะอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่งเสียงลอดไรฟัน แววตาลุกโชนด้วยความโมโห

“ใครบอก ฉันเลิกกับคุณแล้ว แล้วเขาก็เป็นผู้ชายคนใหม่ของฉันด้วย เมื่อคืนเรามีความสุขกันมาก นี่ฉันยังง่วงอยู่เลยแต่ก็แข็งใจลุกมาเก็บของให้คุณเลยนะ ถ้าเสียดายก็ลงไปเอาข้างล่าง ฉันโยนทิ้งขยะไปหมดแล้ว” หญิงสาวตอกย้ำพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจพลางซบหน้าลงกับไหล่กว้างของทัศนัย

“นี่คุณ...คุณ...” เขาถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่ชี้หน้าหญิงสาวด้วยความโกรธแค้น หอบหายใจหนักๆ อยู่หลายครั้งก่อนจะกัดฟันพูดอย่างดูถูก “นี่คุณนอนกับมันได้ยังไง คุณเป็นผู้หญิงนะหมอก ทำไมทำตัวง่ายแบบนี้ฮะ”

เธอไหวไหล่ มองเขาตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยสายตารำคาญ

“ทำไมฉันจะทำไม่ได้ คิดว่าผู้ชายเบื่อง่ายได้ฝ่ายเดียวเหรอ ฉันขี้เบื่อยิ่งกว่าคุณซะอีกจะบอกให้ ตอนนี้ฉันมีผู้ชายคนใหม่แล้ว ย้ำว่าผู้ชายคนใหม่ ไม่ใช่กิ๊ก ไม่ใช่แฟน แต่ทำแทนได้ทุกอย่าง รู้แล้วก็กลับไปซะ อย่ามาวุ่นวายไร้สาระ ทีฉันยังไม่โวยวายตอแยกับคุณเลย แล้วคุณจะมาโวยวายเอาอะไร”

“แต่เรากำลังจะแต่งงานกันนะ คุณรับปากแล้ว รับแหวนของผมไปแล้วด้วย” เขาพูดเสียงสูง รู้สึกเหมือนสมองกำลังจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความโกรธ

“แค่กำลังจะแต่งแต่ยังไม่ได้แต่งนี่ ฉันชอบคนอื่นแล้ว ดูให้ดีสิ”

เธอจับทัศนัยหมุนสามร้อยหกสิบองศา ยิ้มเยาะขณะไล้มือไปตามสัดส่วนของชายหนุ่ม

“เขาตัวสูงกว่า หน้าตาดีกว่า กล้ามเป็นมัดๆ ทั้งเก่งและเร้าใจที่สุด อะไรๆ ก็ดีกว่าคุณหมด แล้วทำไมฉันจะเปลี่ยนใจไม่ได้ คุณเองก็ใจกว้างหน่อยสิคะ อย่าทำแบบนี้เลย มันน่ารำคาญ” ตอนท้ายเธอส่ายหัวและทำสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างที่สุด

“หมอก!” อีกฝ่ายกำหมัดแน่น คำรามในลำคออย่างเดือดดาล ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยถูกสบประมาทขนาดนี้มาก่อน หันไปจ้องหน้าผู้ชายคนใหม่ของอวัศยาอย่างชิงชัง

ทัศนัยสะดุ้งโหยง เขาไม่ชอบเป็นมือที่สามของใครเพราะไม่อยากเดือดร้อนวุ่นวายใจกับเรื่องอื้อฉาว แต่ดูเหมือนคราวนี้จะถอยไม่ทัน

‘ตัณหาพาซวยแท้ๆ ไอ้ทัศเอ๊ย!’

“อ้อ...เกือบลืม แหวนของคุณน่ะฉันทิ้งไปพร้อมข้าวของของคุณแล้ว ถ้าเสียดายก็รีบตามลงไปคุ้ยขยะดูก่อนที่รถเก็บขยะจะมาเอาไปทิ้งก็แล้วกัน จบนะ”

หญิงสาวตัดบทแล้วปิดประตูใส่หน้าอดีตคู่หมั้นปังใหญ่ พอปราศจากสายตาเคืองแค้นของอีกฝ่าย เธอก็เดินลงส้นไปกระแทกตัวนั่งลงที่โซฟายาวอย่างมีโมโห

ทัศนัยได้แต่ยืนเคว้งอยู่ที่เดิม แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงคล้ายคนกำลังถีบประตูระบายอารมณ์อยู่ด้านนอก เขากลอกตาไปมาพลางถอนใจยืดยาว ก่อนจะเดินมาหาเจ้าของห้องด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“ท่าทางแฟนคุณจะโกรธมาก”

“ก็บอกแล้วไงว่าเลิกกันแล้ว” เธอสวนกลับเสียงแข็ง

“ดูเหมือนเขาจะยังไม่รู้ตัวนะ แล้วคุณไปเลิกกับเขาเมื่อไหร่ล่ะ”

“เมื่อคืน”

คำตอบนั้นทำให้ทัศนัยอ้าปากค้าง จ้องหน้าคนพูดอย่างนึกทึ่งกึ่งๆ โมโห ก่อนจะย้อนถามเสียงสูง “นี่อย่าบอกนะว่าคุณเห็นแฟนไปนอนกับผู้หญิงอื่นก็เลยออกไปดื่มคนเดียว หวังจะหิ้วหนุ่มๆ มานอนด้วยเพื่อประชดแฟนน่ะ”

“จะบ้าเหรอคุณ!” เธอผุดลุกทันทีพลางตวาดแว้ด หน้าแดงก่ำด้วยความโมโห

“ฉันไม่สิ้นคิดแบบนั้นหรอก แค่ออกไปดื่มคลายเครียด เรื่องอะไรมาหาว่าฉันคิดจะหิ้วผู้ชายมานอนด้วยล่ะ พูดแบบนี้ตบหน้าฉันเลยดีกว่า”

“ก็คุณทำแบบนั้นจริงๆ นี่ เมื่อคืนคุณชวนผมมาที่ห้อง โซฟาตัวนี้แหละ” เขาเถียงขึงขัง ชี้นิ้วไปยังโซฟาข้างหลังเธอ

“เราเกือบจะไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว ถ้าเพื่อนผมไม่โทร. มาซะก่อน แล้ววันนี้ผมก็คงได้เป็นผู้ชายคนใหม่สมใจคุณ นี่คุณคิดจะใช้ผมเป็นเครื่องมือทำให้แฟนหึงล่ะสิ ร้ายกาจที่สุด”

ทัศนัยโมโหขึ้นมาจริงๆ เขาไม่คิดว่าตัวเองเกือบจะพลาดท่า ตกเป็นเหยื่อของคนอกหักเข้าให้

หล่อเลือกได้อย่างเขาไม่ชอบเป็นเครื่องมือของใครหรอกนะ!

“พะ...พูดบ้าอะไรของคุณเนี่ย ฉันน่ะเหรอจะทำแบบนั้น ไม่มีทางหรอก!”

อวัศยาทั้งโกรธทั้งอายจนตัวสั่น แต่ชะงักไปนิดหนึ่งอย่างไม่แน่ใจ หน้าแดงไปจนถึงใบหู แม้จะรับไม่ได้กับข้อกล่าวหาของผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกัน แต่ก็แอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อยว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริง

ก่อนจะแต่งตัวสวยออกไปนั่งดื่มคนเดียวนั้นเธอคิดเหมือนกันว่าจะประชดกรวีด้วยการนอนกับคนอื่นบ้าง แต่มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบตอนที่โมโหจนหน้ามืดเมื่อเห็นตำตาว่าเขานอกใจ แล้วเธอก็ออกไปดื่มจนเมา หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้ พอตื่นมาก็นอนอยู่บนโซฟาในห้องพักของตัวเอง เสื้อผ้าหลุดลุ่ย เมื่อเช้ายังงงอยู่เลยว่าเธอถอดมันทำไม

หญิงสาวหันข้างให้แขกหนุ่ม ยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่เห่อร้อนด้วยความอับอาย นึกอยากกลั้นใจตายหรือไม่ก็แทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด เพราะคำตอบมันชัดเจนที่สุดว่า เมื่อคืนนี้เธอชวนผู้ชายแปลกหน้าเข้าห้อง!

ชายหนุ่มหรี่ตามองเจ้าของห้องเมื่อเห็นท่าทีคล้ายจะนึกออกของเธอ เขาถอนใจเฮือกใหญ่แล้วบ่นเสียงขุ่นเพราะยังเจ็บใจไม่หายที่ถูกหญิงสาวใช้เป็นเครื่องมือ “จำได้แล้วสิ คุณนี่แย่มากเลยนะ ผมนึกว่าคุณชอบผมจริงๆ ซะอีก”

เมื่อคืนนี้เขาคิดจริงๆ ว่าเธอหลงเสน่ห์เขาเข้าแล้ว ที่ไหนได้ เกือบจะถูกผู้หญิงหลอกฟันแล้วทิ้งน่ะสิไม่ว่า!

“ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่ มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ คุณก็เลิกตอกย้ำซะทีได้มั้ย แล้ว...” เธอเม้มปาก สีหน้าเหมือนกินยาขม ก่อนจะกลั้นใจถาม

“เมื่อคืนฉัน...ทำอะไรคุณรึเปล่า?”

เขาอยากจะหัวเราะใส่หน้าคนเก่งไม่จริงนัก แต่มันก็เป็นตลกฝืดที่คงไม่มีใครขำออก จึงได้แต่ตอบเธอไปอย่างแดกดัน “เกือบๆ จะถึงสวรรค์อยู่แล้ว”

ใบหน้านวลแดงก่ำ หลับตาครางโอดโอยอยู่ในใจ ไม่กล้ามองหน้าเขา ได้แต่อุบอิบไล่แขกเบาๆ เพราะเรื่องที่ทำไว้มันน่าขายหน้าที่สุดในชีวิตเธอจริงๆ

“ตกลงคุณหาของไม่เจอใช่มั้ย ไว้ฉันซื้อคืนให้ก็แล้วกัน วันนี้คุณกลับไปก่อนเหอะ”

ชายหนุ่มเห็นท่าทีอับอายของหญิงสาวแล้วรู้สึกหมั่นไส้เป็นกำลัง ถ้าอวัศยาชอบเขาจริงๆ จะไม่โกรธเท่านี้เลย ดังนั้นแทนที่จะบอกเธอไปตรงๆ ว่าไม่ได้ทำของหาย เขากลับขอเบอร์ติดต่อของเธอไว้เพื่อจะได้เจอกันอีกครั้ง

มาทำให้คนหล่อเสียเซลฟ์อย่างนี้ เธอต้องชดใช้อานเลยล่ะ!


_____________________



ช่วงนี้รู้สึกมึนๆ และกล้ำกลืนกับการทำงานมากจริงๆ ไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ขอให้สนุกกับนิยายนะคะ ^^








Create Date : 08 พฤศจิกายน 2556
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2556 21:53:18 น. 5 comments
Counter : 1083 Pageviews.

 
คู่นี้ดูน่าลุ้นกว่าซะอีก


โดย: ree IP: 143.167.234.87 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2556 เวลา:21:21:11 น.  

 
g,kffffffffddsssa


โดย: sakeena IP: 124.120.195.165 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา:9:04:09 น.  

 
แง่วตอนิมพ์มันไม่ขึ้นตัวหนังสือ ลงกดโพสดันขึ้น เป็นไรเนีย ดีนะไม่ใช่นายผี ณ.ตอนพิพ์นี้ก็ไม่ขึ้นนะ


โดย: sakeena IP: 124.120.195.165 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา:9:06:17 น.  

 
555555 รู้แล้วตัวหนังสือมันเป็นสีขาว


โดย: sakeena IP: 124.120.195.165 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา:9:07:45 น.  

 
ขำๆ ดีนะ คู่นี้ ท่าทางน่าจะมีต่อ สาวหมอกนี่ เมาได้โล่จริงๆ รอดมาถึงปัจจุบันได้ไงนี่ โชคดีที่คุณชายเกิดเรื่องล่ะสิ


โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา:20:36:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.