Group Blog
 
 
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
21 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
เล่ห์ร้อนอ้อนรัก - 2 - พรหมลิขิตบันดาลชักพา?





ในขณะที่คุณชายรัชต์เดินตามหาปรียาไปทั่วผับ ทั้งชั้นบนชั้นล่างรวมถึงไปดักรอที่หน้าห้องน้ำหญิงด้วย หญิงสาวกลับถูกเรียกตัวไปอบรมที่ห้องผู้จัดการ

“ฉันเข้าใจว่าเธอรู้สึกยังไงที่ถูกแขกลวนลาม แต่เธอก็ต้องเข้าใจด้วยว่างานของเราต้องเสี่ยงกับเรื่องทำนองนี้อยู่วันยังค่ำ คนหวงเนื้อหวงตัวก็ดีอยู่หรอก แต่มันไม่เหมาะกับที่นี่ เธอเข้าใจที่ฉันพูดใช่มั้ยปาย”

หญิงสาวก้มหน้า ยอมรับเสียงอ่อย “ปายเข้าใจค่ะ แต่เพิ่งเคยโดนลวนลามซึ่งหน้าอย่างนี้เป็นครั้งแรกก็เลยตกใจและควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ปายสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกค่ะ”

“ฉันเห็นใจเธอนะ แต่นี่คืองานของฉัน คือวิถีของคนกลางคืน เธอต้องมีความอดทนให้มากกว่านี้ โชคดีที่เขาเป็นลูกค้าใหม่ ถ้าเป็นลูกค้าเก่าระดับวีไอพีที่รู้จักกับคุณยศวีร์ดี รับรองว่าเธอต้องตกงานแน่ คืนนี้กลับบ้านไปก่อนก็แล้วกัน ฉันไม่อยากให้มีปัญหาอีก ถ้าเธอยืนยันว่าทำได้ พรุ่งนี้ก็ให้มาทำงานเวลาเดิม แล้วอย่าสายเหมือนวันนี้อีกล่ะ” นิดนรีสรุปด้วยน้ำเสียงเป็นงานเป็นการแต่ก็แฝงไว้ด้วยความเข้าอกเข้าใจ

เธอทำงานนี้มาหลายปีย่อมเข้าใจธรรมชาติของผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มต้นกับงานกลางคืน แรกๆ ทุกคนก็แตกตื่นและไม่พอใจ แต่อีกไม่นานปรียาจะถูกดูดกลืนไปกับสภาพแวดล้อมรอบด้านเหมือนคนอื่น เธอไม่อยากให้ผู้หญิงดีๆ ต้องมาแปดเปื้อนกับงานอย่างนี้ ปรียายังมีโอกาสเลือกใหม่ และเธอก็พร้อมจะให้โอกาสนั้นกับสาวน้อยผู้นี้

“ขอบคุณมากค่ะ แต่ปายคิดดีแล้ว ปายสามารถทำงานต่อในคืนนี้ได้นะคะ ปายอยากพิสูจน์ว่าทำได้จริงๆ” หญิงสาวยืนยันอย่างกระตือรือร้น เธอรู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะเป็นปัญหาแน่ แต่ถ้าเธอก้าวผ่านจุดนี้ไปไม่ได้ เธอก็ไม่ควรจะทำงานที่นี่เช่นกัน ชายหนุ่มนิสัยแย่คนนั้นก็คือบททดสอบแรกของเธอ

“แต่ฉันอยากให้เธอกลับบ้านไปก่อน ถ้ามั่นใจว่าอยากทำงานที่นี่ต่อ พรุ่งนี้ค่อยมาเวลาเดิม ฉันเห็นสายตาผู้ชายคนนั้น เขาสนใจเธอมากกว่าที่เธอจะเข้าใจ รีบกลับไปซะ”

จากประสบการณ์ในการเป็นผู้จัดการผับมากว่าห้าปี นิดนรีมักจะสังเกตผู้คนรอบตัวเสมอ พอนานวันเข้าเธอก็รู้ว่าตัวเองมีความสามารถด้านการมองคนอย่างทะลุปรุโปร่ง แขกหนุ่มรูปหล่อผู้นั้นสนใจปรียา ท่าทางมั่นอกมั่นใจในตัวเองขนานแท้บอกให้รู้ว่าเขาเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและคงจะถูกตามใจจนเคยชิน เขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ และตอนนี้สิ่งนั้นก็คือเด็กเสิร์ฟหน้าใสที่พอแต่งหน้าเข้าหน่อยก็สวยเฉี่ยวผิดหูผิดตาซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเธอ คืนนี้จะไม่จบลงง่ายแน่ๆ เธอเชื่อแบบนั้น

“แต่คุณนิดคะ ปายรับมือกับเขาได้จริงๆ นะ” หญิงสาวยังไม่ยอมแพ้ เธอเกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เลือดนักสู้ในกายจึงเต็มเปี่ยมพร้อมจะขึ้นชกทุกสังเวียนอย่างไม่มีเงื่อนไข หากนั่นจะทำให้เธอไปถึงจุดหมายปลายทางที่วาดฝันเอาไว้ได้

ฝันเล็กๆ นั้นก็คือบ้านหลังใหม่ที่มีพื้นที่ใช้สอยรอบนอก ไม่ต้องใหญ่โตมากหรอก แต่ขอให้มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ไม่ใช่ชุมชนที่คนทั่วไปเรียกขานกันว่าสลัม เธอต้องการคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านั้นและเธอจะทำให้ได้

“ถ้ารักจะทำงานด้วยกันก็เชื่อฟังที่ฉันบอก รีบกลับไปซะ” นิดนรียื่นคำขาดแล้วเดินออกไปจากห้องทำงานเพื่อตรวจตราดูความเรียบร้อยภายในผับตามหน้าที่ โดยไม่ใส่ใจว่าปรียาจะทำตามคำสั่งหรือไม่

หญิงสาวคอตก ถอนใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะเดินเนือยๆ ออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และเก็บของกลับบ้านตามใบสั่งอย่างไม่มีทางเลือก



ขณะที่ยังตามหาปรียาให้วุ่น คุณชายรัชต์ก็เจอนิดนรีเข้าพอดี เขาตรงดิ่งเข้าไปถาม หากหญิงสาวกลับทำบ่ายเบี่ยงเหมือนไม่รับรู้ว่าตอนนี้มีเด็กเสิร์ฟหายไปหนึ่งคน

“แปลว่าคุณไม่สนใจถ้าจะมีเด็กเสิร์ฟแอบอู้งานงั้นเหรอครับ” เขาถามยิ้มๆ ทั้งที่ในใจเริ่มกรุ่นกับวิธีหลบเลี่ยงของผู้จัดการผับ

“เธออาจจะอยู่ในห้องน้ำก็ได้ค่ะ” หญิงสาวยิ้มตอบเหมือนไม่มีอะไร เธอฝึกตัวเองให้ยิ้มได้ทุกสถานการณ์เพื่องานที่มีประสิทธิภาพ

“ก็อาจจะใช่ ขอบคุณครับ งั้นผมไม่กวนแล้ว”

เขายิ้มเครียดๆ แล้วหมุนตัวเดินจากไป มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าปรียาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว

นิดนรีขมวดคิ้ว มองตามแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มด้วยความไม่สบายใจ แต่พอเห็นว่าเขากลับไปที่โต๊ะบนชั้นสองจึงหันไปใส่ใจลูกค้ารายอื่น

คุณชายเรียกเด็กมาเช็กบิลแล้วออกจากผับทันที เขามั่นใจว่าถึงอยู่ที่นี่ต่อก็คงไม่ได้พบปรียาอีก คืนนี้เธออาจจะกลับไปแล้วตามคำสั่งของผู้จัดการสาวเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหายุ่งยากที่อาจจะตามมา แต่เชื่อเถอะ หัวเด็ดตีนขาดเขาก็ต้องได้จูบแลกตบ ไม่งั้นก็อย่ามาเรียกคุณชายรัชต์ให้เสียชื่อ!



โดยปกติปรียาจะนั่งรถเมล์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่คืนนี้การแต่งกายไม่เอื้อสักเท่าไร และเธอก็ไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนชุดที่โรงแรม เพราะพรุ่งนี้ต้องไปบรีฟงานแต่เช้าก่อนออกภาคสนามจริงในตอนบ่าย ขืนต้องย้อนไปย้อนกลับอยู่นี่ก็ไม่ต้องนอนกันพอดี

หญิงสาวถอนหายใจเซ็งๆ เมื่อคิดว่าคืนนี้ชวดรายได้จากการเป็นเด็กเสิร์ฟไปหนึ่งคืนเหนาะๆ ไหนจะต้องจ่ายค่าแท็กซี่สองต่อ แถมยังถูกผู้ชายหน้าด้านแต๊ะอั๋งเอาอีก วันนี้มันถึงคราวซวยของเธอแท้ๆ ยิ่งบวกลบกลบหนี้แล้วรายได้จากการจัดดอกไม้ในงานแต่งที่วังมรกตก็หมดไปเฉยๆ เท่ากับว่าวันนี้เธอทำงานเหนื่อยแต่ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านเลย

“รู้งี้แอบห่อของกินที่วังมรกตกลับมาด้วยดีกว่า อย่างน้อยก็ยังได้อิ่มท้อง เป็นเพราะผู้ชายบ้านั่นคนเดียวเลย ขออย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลยนะ สาธุ!”

ในตอนที่ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปแบบนั้นปรียาไม่รู้หรอกว่าเมื่อพบเขาอีกครั้งเธอจะรู้สึกดีใจยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรีรางวัลที่หนึ่งเสียอีก

ร่างเพรียวบางเดินลัดซอยแคบๆ เพื่อตัดออกสู่ถนนอีกเส้น ซึ่งทางนี้จะใกล้บ้านกว่าขึ้นแท็กซี่ตรงถนนหน้าผับและประหยัดค่าโดยสารได้อีกเยอะ

ร่างสูงเด่นเดินแกมวิ่งออกมาจากผับและกวาดสายตาไปรอบบริเวณ ชายกระโปรงสีขาวยาวพลิ้วที่เห็นจากหางตาลิบๆ เหมือนจะลับหายเข้าไปในซอยเล็กแถวนั้น แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมันเท่าที่ควร ออกเดินไปที่ป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่เยื้องกับตัวร้านนิดหน่อยเพราะคิดว่าเธออาจจะอยู่ที่นั่น

ระหว่างที่ปรียาเดินไปก็คิดอะไรวุ่นวายในหัวไปด้วย เสียงอะไรแปลกๆ แว่วมาเข้าหู เธอหยุดเพื่อฟังให้แน่ใจ แต่ทุกอย่างกลับเงียบเชียบไร้วี่แววสิ่งมีชีวิตใดๆ แถวนี้ หญิงสาวเพิ่งสังเกตว่าในซอยนี้ทั้งเปลี่ยวและมืด เป็นทำเลที่ไม่เลวเลยสำหรับการก่ออาชญากรรม

ความคิดนั้นทำให้เธอเสียวสันหลังวาบ เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังมาจากที่ไหนสักแห่งทำให้หญิงสาวตัวแข็งจนแทบก้าวขาไม่ออก รู้ว่ามีคนอยู่ข้างหลังแน่แล้ว เธอตั้งท่าจะหมุนตัวสามร้อยหกสิบองศาเพื่อมองหาต้นเสียงให้เจอ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะได้ขยับตัวก็มีอะไรบางอย่างมาจี้ที่เอวพร้อมเสียงข่มขู่

“อย่าขยับ ไม่งั้นถูกแทงไส้ทะลักแน่!”

ปรียาสะดุ้งด้วยความตกใจ แม้ไม่ใช่ผู้หญิงบอบบางที่รอคอยให้เพศชายปกป้องตลอดเวลา ด้วยเกิดและเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด วิชาป้องกันตัวและกลอุบายเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ฉุกเฉินจึงพอมีสแปร์อยู่ในหัวบ้าง แต่ผิวหนังของเธอไม่ได้เหนียวจนฟันแทงไม่เข้านี่ เจอมีดจี้อยู่ที่เอวในระยะประชิดแบบนี้ก็เห็นจะบู๊ไม่ออกเหมือนกัน

“แกต้องการอะไร?” เธอถามเสียงสั่นน้อยๆ

“ขยับไปชิดกำแพง มีอะไรก็เอาออกมาให้หมด”

หญิงสาวนิ่วหน้าขณะถูกดันไปยืนติดกำแพง

นี่เธอถูกจี้ชิงทรัพย์เหรอ?

คำถามนั้นทำให้ความตื่นกลัวถูกบดบังด้วยอารมณ์ปรี๊ด

วันนี้รายได้เท่ากับศูนย์ ขืนถูกโจรมุมตึกช่วงชิงไปอีกก็ต้องติดลบ ทำไมมันถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนอย่างงี้วะ!

ปรียากัดฟันโยนกระเป๋าถือลงบนพื้นถนนให้ห่างจากตัวมากที่สุด “หมดเนื้อหมดตัวเท่านั้นแหละ เอาไปเลย เอาไปทั้งกระเป๋าเลยก็ได้”

คนร้ายทำเสียงจึ๊กจั๊กขัดใจ เมื่อกระเป๋าหล่นอยู่ไกลเกินกว่าจะคว้าได้ เขาใช้อาวุธจิ้มที่เอวบางพลางขู่เสียงเข้ม “ไปหยิบมา”

“อยากได้ก็ไปเอาเองสิ ฉันกลัวจนตัวแข็ง ก้าวขาไม่ออกหรอก นี่ก็ฉี่จะราดอยู่แล้วด้วย” เสียงของเธอสั่น ตัวก็สั่น แต่สั่นเพราะความโกรธ และดวงตาก็กำลังกวาดมองไปรอบๆ เพื่อหาอาวุธมาต่อสู้ นาทีนี้ความงกพุ่งสูงนำความกลัวไปไกลลิบ

ถ้าถูกจี้ไปทำมิดีมิร้ายเธอยังจะโมโหน้อยกว่านี้ เพราะเหตุการณ์เช่นนั้นใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้น มันเกิดในบ้านที่เธออาศัยอยู่ด้วยซ้ำ และเธอก็มีวิธีเด็ดๆ ไว้จัดการกับมันด้วย ครั้งสุดท้ายจำได้ว่าไอ้วัยรุ่นเมายาคนนั้นต้องไปนอนให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลหลายวัน หญิงสาวจึงไม่กังวลใจนักหากจะมีผู้ชายหน้ามืดใจทรามมาวุ่นวายกับเธออีก แต่ไอ้โจรนี่บังอาจมาจี้ชิงทรัพย์ นับว่าดวงใกล้ถึงฆาตเต็มที วอนตายอย่างนี้เดี๋ยวแม่จัดหนักให้ซะเลย!

“อย่ามาตุกติกนะ ฉันบอกให้เดินก็เดินสิ” คนร้ายที่ไม่รู้ตัวว่าเงาราหูกำลังเคลื่อนทับดวงชะตาส่งเสียงข่มขู่พร้อมใช้มีดกระตุ้นให้เหยื่อออกเดิน

หญิงสาวนิ่วหน้าเพราะรู้สึกเจ็บแปล๊บที่เอว พร้อมกันนั้นโทสะก็พุ่งปรี๊ดเมื่อคิดว่าผิวของเธออาจจะมีรอยแผลเป็น เธอไม่ได้ห่วงสวยห่วงงามอะไรนัก แต่ความงามแบบพอดีที่สวรรค์เมตตาประทานให้ ก็ส่งผลให้เธอมีช่องทางทำมาหากินที่รายได้ดี แม้จะเสี่ยงสักหน่อยแต่ก็นับว่าคุ้มกับผลกำไร แต่ถ้ามีรอยแผลที่เอวอาจทำให้ใส่ชุดวับๆ แวมๆ ไม่สวย ยิ่งเธอไม่ใช่คนผิวขาวตามสมัยนิยมอยู่ด้วย โอกาสพลาดงานง่ายๆ รายได้งามๆ ก็จะมากขึ้น เพราะฉะนั้นไอ้โจรนี่ก็รนหาที่ตายแท้ๆ

ปรียาแกล้งเดินขาสั่นไปตามคำสั่ง หางตาแลเห็นท่อนเหล็กขนาดเหมาะมือซึ่งมืดจนดูไม่ออกว่าเดิมเคยเป็นชิ้นส่วนของอะไร มันถูกทิ้งไว้ไม่ไกลจากกระเป๋าถือของเธอนัก ลำพังเรี่ยวแรงผู้หญิงไม่มีทางต่อสู้กับพละกำลังของหนุ่มฉกรรจ์ได้ แต่หากมีอาวุธเป็นตัวช่วยเธอมั่นใจว่าเอาอยู่แน่นอน

“หยิบมันขึ้นมา”

หญิงสาวย่อตัวลงตามคำสั่งด้วยท่าทีงกๆ เงิ่นๆ เมื่อโน้มตัวไปหยิบกระเป๋าได้ ท่อนเหล็กก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เธอใช้มือซ้ายฉวยกระเป๋า ส่วนมือขวาที่ถนัดก็คว้าอาวุธมาหวดหน้าแข้งของคนร้ายสุดแรงเกิด จนได้ยินเสียงร้องโอดโอยและเสียงมีดตกกระทบพื้น

“หน็อย...อยู่ดีไม่ว่าดี วอนตายแบบนี้ก็อย่าอยู่เลย!”

ปรียาเงื้อมือขึ้นสูงหวังจะหวดซ้ำลงไปที่ขาและกะเอาให้มือขวาของมันใช้การไม่ได้ จะได้ไม่แว้งกลับมาทำร้ายเธอได้อีก แต่ยังไม่ทันทุ่มแรงลงไปก็ต้องชะงักค้างกลางอากาศเมื่อมีวัตถุบางอย่างจ่ออยู่ริมขมับ และโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดเธอก็รู้ว่ามันคือปืน!

“อยู่เฉยๆ ถ้าไม่อยากตาย เราต้องการเงิน ไม่อยากฆ่าใคร ส่งกระเป๋านั่นมาซะดีๆ”

เวรแล้วไง มันไม่ได้มาแค่หนึ่งแต่มีถึงสอง แถมนอกจากมีดแล้วก็ยังมีปืนอีกด้วย ดวงมันจะซวยนี่อะไรก็เอาไม่อยู่จริงๆ บ้าเอ๊ย!

หญิงสาวได้แต่สบถอยู่ในใจ แม้จะมีวิชาบู๊ติดตัวอยู่บ้าง แต่เธอไม่โง่เสี่ยงให้ตายเปล่ากับสองคนร้ายวัยฉกรรจ์และมีดกับปืนครบมือ จึงส่งกระเป๋าให้พวกมันโดยดี ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วเมื่อคนร้ายมีจำนวนมากขึ้นพร้อมอาวุธที่มีแสนยานุภาพมากกว่า

“ปล่อยไว้ไม่ได้นะลูกพี่ มันเห็นหน้าฉันแล้ว” คนที่ถูกหวดหน้าแข้งด้วยท่อนเหล็กพยุงตัวลุกขึ้นจ้องมองเหยื่อสาวด้วยแววตาอาฆาต

“หุบปากแล้วรีบดูในกระเป๋าว่ามีอะไรบ้าง เราต้องรีบไป แกทำให้ฉันเสียเวลา” คนที่ปรียายังไม่เห็นหน้าเอ่ยเสียงแข็งพร้อมโยนกระเป๋าถือของหญิงสาวให้ลูกน้อง

ชายคนนั้นรีบเปิดดูแล้วร้องลั่น “เฮ้ย! มีแค่นี้เองเหรอวะ แม่งไม่คุ้มเลยว่ะ”

ปรียาสะดุ้ง มองหน้าคนร้ายที่กำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่อเห็นจำนวนเงินน้อยนิดในกระเป๋าของเธอด้วยความหวาดหวั่น “ฉันไม่ใช่คนรวยอะไร มีอยู่แค่นั้นแหละ อยากได้ก็เอาไปเลย แต่ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่แจ้งตำรวจหรอก”

“ตอแหล! เก็บของมีค่าไว้ที่ไหนอีกบอกมา แต่งตัวดีอย่างนี้บอกว่าไม่มีเงิน กูไม่เชื่อ” คนที่เป็นลูกน้องตวาดกลับอย่างไม่พอใจ เมื่อรู้สึกว่าการจี้คราวนี้ไม่คุ้มกับความเสี่ยงและเจ็บตัว

เฮอะ!

ปรียาทำเสียงเยาะในใจ นึกว่ามีแต่คนรวยที่วัดคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอก เพิ่งรู้วันนี้เองว่าแม้แต่ในหมู่โจรก็จัดระดับเหยื่อจากการแต่งกายด้วย

“ฉันแต่งตัวมาทำงาน ทั้งเนื้อทั้งตัวก็มีแค่นั้นแหละ รีบเอาไปแล้วก็ปล่อยฉันเถอะนะ ความผิดฐานจี้ชิงทรัพย์มันไม่หนักเท่าฆ่าคนตาย ถ้าถูกจับได้จะได้ไม่ต้องถูกประหารหรือติดคุกตลอดชีวิตไงล่ะ”

กว่าจะรู้ตัวว่าพล่ามมากไปคนที่เอาปืนจี้เธอไว้ก็ส่งเสียงคำรามอยู่ข้างหูแล้ว

“หุบปากซะ ถ้ายังอยากมีชีวิตรอด!”

“เราปล่อยมันไม่ได้นะลูกพี่ มันแจ้งตำรวจแน่ แล้วเงินไม่กี่ร้อยนี่ก็ทำให้เราหนีไม่ได้ด้วย” คนเป็นลูกน้องยังไม่วายยุแหย่

“แต่ถ้าเราฆ่าคน เราจะถูกตามล่าไปตลอดชีวิต” คนเป็นหัวหน้าบอกเสียงเครียด

“ตอนนี้เราก็ถูกตามล่าอยู่แล้ว พวกมันตัดหางปล่อยวัดเรา ดีไม่ดีมันจะสั่งตัดตอนเราด้วย รีบจัดการนังนี่แล้วไปหาเงินที่อื่นเถอะ”

ปรียาลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ไม่เข้าใจว่าพวกมันกำลังสนทนากันเรื่องใด แต่ที่พอจะสัมผัสได้คือคนที่ถูกเรียกว่า ‘ลูกพี่’ นั้นยังพอมีจิตเมตตาอยู่บ้างจึงลองอ้อนวอนเผื่อจะมีโอกาสรอด “ขอร้องละนะคุณลูกพี่ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะไม่แจ้งตำรวจแล้วก็จะไม่บอกใครด้วย ฉันมีเงินอยู่เท่านั้นจริงๆ พวกคุณเอาไปแล้วก็รีบหนีไปซะ เดี๋ยวก็มีใครผ่านมาแถวนี้หรอก”

“จริงของมันนะลูกพี่ รีบๆ ปิดปากมันเถอะ”

ปรียาอดจะหันไปถลึงตามองคนร้ายที่คอยแต่จะยัดเยียดความตายให้เธอไม่ได้

อย่าให้รอดไปได้เชียวนะ แม่จะแจ้งตำรวจ จะบอกรูปพรรณสัณฐานให้ละเอียด แม้แต่ไฝบนใบหน้าก็จะไม่ให้เล็ดลอดสายตาไปสักเม็ด คอยดู!

“นั่นทำอะไรกันน่ะ?”

เสียงห้าวทุ้มที่ทักขึ้นอย่างไม่แน่ใจนั้นราวกับดังมาจากสวรรค์ชั้นฟ้าในความรู้สึกของปรียา หญิงสาวรีบหันไปร้องขอความช่วยเหลือโดยเร็ว

“ช่วยด้วยค่ะ! โอ๊ย...”

หมัดลุ่นๆ ของคนร้ายที่ถือมีดสอยเข้าใต้ท้องน้อยจนร่างบางแทบทรุดลงกับพื้น ทั้งจุกและเจ็บจนพูดอะไรไม่ได้

“ปาย!” คุณชายรัชต์ร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นหน้าหญิงสาวชัดตา

เขาตามหาเธอจนทั่วก็ไม่เจอจึงลองเดินเข้ามาดูในซอยนี้ เมื่อเห็นชายหนุ่มสองคนยืนคุมเชิงหญิงสาวคนหนึ่งอยู่ก็คิดว่าเกิดเรื่องแล้วจึงยื่นมือเข้ามาแส่ แต่เขาไม่นึกจริงๆ ว่าเหยื่อนั่นก็คือคนที่กำลังตามหาเป็นบ้าเป็นหลังอยู่นี่

“เวรเอ๊ย! พวกมันรู้จักกัน” คนที่ถือมีดสบถลั่นพลางใช้อาวุธจ่อคอหญิงสาว “อย่าเข้ามานะ หยุดอยู่ตรงนั้นห้ามไปไหนด้วย ไม่งั้นนังนี่ตาย!”

ขู่แล้วก็หันมาปรึกษากัน “เอาไงดีลูกพี่”

คนที่ถูกเรียนกว่าลูกพี่ขยับไปยืนประกบปรียาไว้อีกข้างพลางใช้ปืนจ่อขมับหญิงสาวเพื่อข่มขู่ผู้มาใหม่ “ค่อยๆ เดินเข้ามา อย่าตุกติก ไม่งั้นฉันยิง!”

คนเป็นลูกน้องปล่อยมือจากหญิงสาวแล้วเข้าตะครุบตัวชายหนุ่มเอาไว้ ก่อนจะพามายืนชิดกำแพงข้างๆ เหยื่อรายแรก

“นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน” คุณชายถามคนข้างๆ อย่างมึนงงกึ่งตื่นเต้น

“โจรมุมตึกไงคุณ ขนาดนี้แล้วยังต้องอธิบายอีกเหรอ” หญิงสาวกัดฟันตอบพลางนิ่วหน้าเพราะยังจุกท้องน้อยไม่หาย

“หุบปาก ห้ามคุยกัน เอาไงดีลูกพี่ ถ้ายังอยู่ตรงนี้ต้องมีคนทะเล่อทะล่ามาเห็นอีกแน่” คนที่อยู่ในตำแหน่งต่ำกว่าหากดูเหี้ยมโหดและมีความเป็นอาชญากรมืออาชีพมากกว่าหันไปปรึกษาลูกพี่

“พาสองคนนี่เข้าไปหลบในตึกนั่นก่อน” อีกฝ่ายตัดสินใจแล้วจัดการลากกึ่งจูงเหยื่อทั้งสองรายเข้าไปหลบมุมข้างตึกร้างเก่าๆ ซึ่งตอนนี้เจ๊งไปแล้วและถูกปล่อยทิ้งไว้นานหลายปีจนทรุดโทรมพอๆ กับตึกอื่นที่อยู่ในซอยเดียวกัน

“ฉันมีข้อเสนอ” ปรียาเอ่ยขึ้นเพื่อหาวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันตราย เธอปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดทันทีที่เห็นว่าพลเมืองดีคนนั้นคือใคร แม้เขาอาจจะเคยเลวในสายตาเธอ แต่ตอนนี้ต้องจัดว่าชายหนุ่มเป็นคนดีใช้ได้ไปก่อน จนกว่าเขาจะแสดงนิสัยเลวๆ ออกมาอีก เพราะอย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีน้ำใจมากพอที่จะช่วยเหลือคนกำลังเดือดร้อนทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

“ข้อเสนออะไร” คนถามก็คือคนถือมีดอีกตามเคย

หญิงสาวหันไปสบตาชายหนุ่มที่ถูกผลักให้นั่งลงข้างตนบนพื้นที่สกปรกเต็มไปด้วยฝุ่นดิน ก่อนจะเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ “ผู้ชายคนนี้รวย...มากด้วย และเขาก็เป็น...คนรักของฉัน เพราะฉะนั้นถ้ายอมปล่อยเราไป พวกคุณต้องการเงินเท่าไหร่ก็ว่ามา”

คุณชายนิ่งอึ้ง จ้องหน้า ‘คนรัก’ ของตัวเองอย่างนึกไม่ถึง

เมื่อประมาณสิบห้านาทีก่อนเขาพยายามจะเสนอทุกอย่างให้แม่สาวผิวสวยผู้นี้ เพื่อแลกกับการให้เธอเป็นคู่นอนชั่วคราวทั้งที่เขาไม่เคยต้องใช้เงินซื้อผู้หญิง แต่เธอกลับปฏิบัติต่อเขาด้วยความหยาบคายแล้วก็หนีมาดื้อๆ จนเขาต้องร้อนรนออกตามล่าและถ่อมาซวยกับเธอถึงที่นี่ แต่ตอนนี้เจ้าหล่อนกลับยกตำแหน่งคนรักให้เขาง่ายๆ เสียอย่างนั้น

ช่างเป็นเกียรติจริงๆ เลยนะแม่คุณ ให้ตาย!








Create Date : 21 ตุลาคม 2556
Last Update : 21 ตุลาคม 2556 0:42:39 น. 5 comments
Counter : 1086 Pageviews.

 
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ


โดย: Ama_jung IP: 101.109.241.50 วันที่: 21 ตุลาคม 2556 เวลา:19:54:41 น.  

 
เรื่องนี้อีตาคุณชายนี่น่าตบด้วยรองเท้าจริงๆ เพราะเห็นผู้หญิงก็คิดใด้อย่างเดียวก็คืออยากนอนเเละเสียบกับผู้หญิงคนนั้น


โดย: VEE IP: 67.60.95.42 วันที่: 22 ตุลาคม 2556 เวลา:1:16:11 น.  

 
งานเข้าปายซะแล้ว แต่มีแผนอะไรในใจกันนะ


โดย: goldensun IP: 61.91.4.2 วันที่: 24 ตุลาคม 2556 เวลา:21:40:27 น.  

 
เรื่องนี้สนุก น่าติดตามเช่นเคย เป็นกำลังใจให้น้า


โดย: ree IP: 143.167.234.87 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2556 เวลา:4:06:09 น.  

 
เรื่องนี้สนุก น่าติดตามเช่นเคย เป็นกำลังใจให้น้า


โดย: ree IP: 143.167.234.87 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2556 เวลา:4:06:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.