Group Blog
 
 
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
6 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
ตอนที่ 5 เรื่องเข้าใจผิด




แพรววนิดต้องค้นกระเป๋าเดินทางหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาสวมใส่ให้รัดกุม หลังจากจนมุมกับข้ออ้างของอนลที่เธอจำเป็นต้องยอมให้เขาค้างด้วยอย่างไม่เต็มใจ คนถูกยิงหรืออาจจะเป็นฆาตกร...นอนหลับไปแล้วหลังจากกินยาแก้ปวดสองเม็ดไปไม่นาน แต่เธอข่มตาอย่างไรก็หลับไม่ลง ใจมัวแต่ว้าวุ่นพะวักพะวนถึงคู่กรณีของอนล อยากรู้ว่าฝ่ายนั้นเป็นอย่างไรบ้าง

อันที่จริงเธอไม่ได้เป็นห่วงผู้ชายเลวๆ พรรค์นั้น ถึงไม่มีเรื่องกับอนล เขาก็คงไปมีเรื่องกับคนอื่น เพราะแม้เธอจะรอดตัวมาได้เมื่อคืนนี้ แต่ก็ไม่แน่ว่าเขาอาจไปลวนลามผู้หญิงคนอื่นอีกเหมือนกัน สรุปว่าถ้าผู้ชายคนนั้นจะโดนสั่งสอนซะบ้าง เธอก็จะสมน้ำหน้ามากกว่าสงสาร แต่ถ้าถึงตายมันก็เกินไปหน่อย ต่อให้คนคนหนึ่งเลวแค่ไหน แต่ใครก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินโทษเขาถึงชีวิต เอาเป็นว่าเธอไม่ได้ห่วงใยผู้ชายคนนั้นแต่ก็ไม่ได้อยากให้เขาตาย ไม่อยากให้ครอบครัวของเขาต้องสูญเสีย

นอกจากนั้นแล้วถ้าเขาเกิดเป็นอะไรไปจริงๆ อนลก็จะกลายเป็นฆาตกร และยิ่งไม่มีคนอื่นรู้เรื่องนี้นอกจากเธอก็เหมือนเธอช่วยเขาปกปิดความผิด แล้วเธอจะกลายเป็นอะไร ผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้าย หรือผู้สมรู้ร่วมคิด?

แล้วไหนจะข่าวอีกล่ะ ลูกชายเจ้าของโรงแรมมณีมัญชุ์ฆ่าคนตายเพราะผู้หญิง และผู้หญิงคนนั้นคือลูกสาวคนเดียวของนายพลทัต ทยากร เจ้าพ่อสื่อโฆษณาคนหนึ่งของเมืองไทยเสียด้วย ครอบครัวคนดังกับคนดัง คราวนี้ได้ดับเบิลดังแน่ยายแพรวเอ๋ย...

หญิงสาวนั่งกุมขมับอย่างคิดไม่ตก ในหัวมีแต่คำถามที่ว่า...ถ้าเขาตาย แล้วอะไรจะเกิดขึ้น?

ร่างกายของเธอเย็นเฉียบแต่หัวใจกลับร้อนรุ่มจนนั่งไม่ติดที่ ต้องเปิดประตูห้องออกมาดูคนถูกยิง เผื่อเขาตื่นแล้วนอนไม่หลับเหมือนเธอ จะได้ถามว่าเรื่องเป็นยังไงมายังไง วิเคราะห์ได้ว่าใครถูกใครผิด และตัดสินใจได้ว่าเธอควรจะทำยังไงต่อไป

ช่วยอนลปกปิดความผิด หรือแจ้งตำรวจ?

แน่นอนว่าเธอไม่อยากเลือกทั้งสองข้อ ที่อยากทำสุดตอนนี้คือ...เผ่น!

แต่พอมาคิดว่าที่อนลมีเรื่องก็เพราะเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ หญิงสาวก็ต้องยอมรับว่าจะเพิกเฉยกับเขาไม่ได้ ต่อให้เขาทำเกินกว่าเหตุก็เถอะ

เมื่อออกมาจากห้องนอน สิ่งแรกที่สะดุดตาคือเสื้อยืดเปื้อนเลือดกับแจ็คเก็ตสูทที่เปื้อนด้วยเหมือนกัน แต่ตัวหลังมันเปื้อนแค่ด้านใน ไร้รอยขีดข่วน ขณะที่เสื้อยืดมีรอยกระสุนเจาะบริเวณไหล่ซ้าย สันนิษฐานได้ว่าตอนเกิดเรื่องเขาไม่ได้สวมแจ๊คเก็ตตัวนอก อาจจะเพิ่งสวมมันตอนเดินเข้ามาในโรงแรมก็ได้ นั่นอาจแปลว่าไม่มีคนอื่นรู้เรื่องนี้จริงๆ นอกจากเธอ

หญิงสาวรวบเสื้อสองตัวไว้ในมือและกำแน่น นี่จะเป็นหลักฐานมัดตัวอนลได้ถ้าคู่กรณีถึงแก่ความตาย ‘ทำลายหลักฐาน’ คำนั้นผุดขึ้นมาในหัวจนแม้แต่ตัวเองยังตกใจ เธอหลับตาลงพร้อมบีบนวดขมับเผื่อจะช่วยให้ผ่อนคลายและคิดอะไรได้มากกว่านี้

เสียงครางแผ่วๆ แว่วมาเข้าหู เธอมองไปที่โซฟาและเห็นว่าร่างสูงใหญ่ยังนอนอยู่ที่เดิมจึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ใบหน้าของเขาซีดเซียว คิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลา นอนกระสับกระส่ายเหมือนไม่ค่อยสบายตัวนัก ทั้งด้วยความที่เขาตัวใหญ่และบาดแผลที่ไหล่ขวาทำให้พลิกท่าอื่นไม่ได้ เธอก้มลงใกล้ๆ และลองแตะมือที่หน้าผากเขา

เป็นอย่างที่คิด ตัวร้อนจี๋เลย พิษบาดแผลคงเล่นงานเขาเข้าแล้ว

หญิงสาวยืดตัวขึ้นพลางถอนใจหนักหน่วง เหลือบมองนาฬิกาติดผนัง ตีห้าเศษแล้ว แปลว่าเขากินยาไปราวสี่ชั่วโมงได้ เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ รองน้ำใส่อ่างแก้วพร้อมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาด้วย ที่สุดก็ต้องสวมบทพยาบาลจำเป็นอีกรอบ เมื่อช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขาเสร็จแล้วก็เอาผ้าห่มมาห่มให้ หยิบยาแก้ปวดลดไข้มาสองเม็ด เขย่าปลุกคนไม่สบายจนกระทั่งชายหนุ่มยอมเปิดปรือเปลือกตาขึ้นมามองด้วยความยากลำบาก

อนลย่นคิ้วงุนงง ปวดระบมไปทั้งเนื้อทั้งตัว โดยเฉพาะในหัวกับไหล่ขวา ถ้าร่างกายแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้เขาอาจแตกสลายไปแล้ว ชายหนุ่มรู้สึกหนาวจนสะท้านแต่ก็รับรู้ถึงผ้าห่มที่คลี่คลุมบนร่างกาย และยังรับรู้ได้ถึงผ้าขนหนูเย็นๆ บนหน้าผากตัวเองด้วย

“คุณไข้ขึ้นน่ะ กินยาก่อนนะ อ้าปาก” เธอสั่ง

ชายหนุ่มกะพริบตาปริบๆ ท่ามกลางความร้าวระบมราวกับจะปริแตกที่รุมเร้าไปทุกสัดส่วนของร่างกาย ใบหน้าสวยใสของแพรววนิดกลับกระจ่างชัดในดวงตา เขาผงกศีรษะขึ้น ทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ยาขมถูกป้อนเข้ามาในปากตามด้วยน้ำดื่ม เขาพยายามกลืนทุกอย่างลงคอด้วยความพะอืดพะอม ก่อนจะทิ้งศีรษะที่หนักอึ้งลงไปตามเดิม

“ลุกไหวมั้ย เข้าไปนอนในห้องก็ได้ บนเตียงจะสบายกว่า” เธอตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำ

“แล้วคุณล่ะ” เขาถามด้วยเสียงแหบแห้ง

“จะเช้าแล้ว ฉันไม่ต้องการเตียงอีก แต่คุณยังต้องการ ไปเถอะ เดี๋ยวฉันช่วย” เธอว่าพลางช่วยพยุงร่างใหญ่ให้ลุกขึ้นนั่ง

อนลอยากบอกเหมือนกันว่าเขาไม่ต้องการเตียง แต่ต้องการให้เธออยู่ใกล้ๆ มากกว่า แวบหนึ่งหญิงสาวทำให้เขาคิดถึงความหลัง ตั้งแต่เสียแม่ไปมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยดูแลเขาแบบนี้ แม้ว่าในความเป็นจริงเธอยังมีชีวิตอยู่แต่ผู้หญิงคนนั้นได้ตายไปจากใจเขานานแล้ว นับแต่นั้นมาเขาไม่ต้องการใครอื่นอีก

ความผูกพันและการครอบครองก็เหมือนยาเสพติด ยิ่งเสพยิ่งติดใจ ถ้าวันไหนขาดไปก็จะลงแดง ทุรนทุรายทรมาน อยากได้อีก อยากมีอีก และมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาเลิกเสพมันแล้ว เลิกแบบหักดิบ ไม่ผูกพัน ไม่ยึดติด ไม่เป็นเจ้าของใคร และไม่ยอมให้ใครครอบครองเขา

แพรววนิดไม่ได้มีความสำคัญถึงขนาดจะทำให้เขาคิดอยากกลับไปเสพความผูกพันและการครอบครอง เขาเพิ่งพบเธอ รู้สึกถูกตาต้องใจในรูปร่างหน้าตาของเธอ และความเกรี้ยวกราดไม่พอใจของพ่อเมื่อรู้ว่าเขา ‘ยุ่ง’ กับเธอก็ทำให้ผู้หญิงคนนี้น่าสนใจมากขึ้น

แม้จะรู้สึกถึงแรงดึงดูดอย่างรุนแรงระหว่างเขาและเธอ แต่อนลก็ยังไม่คิดจะกลับไปผูกพันหรือคิดเป็นเจ้าของใครอยู่ดี เพียงแต่ตอนนี้เธอทำให้เขานึกถึงความหลังขึ้นมา...ความหลังที่ไม่อนุญาตให้ตัวเองนึกถึงมานานกว่าสิบปี

“จะลุกแล้วนะ ระวังด้วย” หญิงสาวม้วนผ้าห่มพาดบนเรียวแขนตัวเอง ก่อนจะช่วยประคองร่างใหญ่ให้ลุกยืน

เขาตื่นจากภวังค์ รู้สึกวิงเวียนศีรษะ หน้ามืด และตาก็ลายด้วย แต่พอยืนนิ่งๆ สักพักก็ดีขึ้น ทว่ามันคงจะดีกว่าหากเธอจะช่วยกอดประคองเขาไปแบบนี้จนถึงเตียง และจะดียิ่งขึ้นหากเธอจะนอนอยู่ข้างเขาบนเตียงนั้น

“ไหวมั้ยเนี่ย ระวังหน่อยสิคุณ ตัวหนักจังเลย” เธอบ่นเมื่อต้องแบกรับน้ำหนักของเขาไว้บนบ่าเพราะอีกฝ่ายเป็นนักฉวยโอกาสตัวพ่อ

“ผมมึนหัว ตาลายๆ ด้วย” เขาทำเสียงระโหย ที่จริงก็ไม่ได้โกหกทั้งหมดหรอก แต่แกล้งทำเหมือนอาการหนักกว่าความจริงเท่านั้น

“อีกนิดเดียว ระวังหน่อย” หญิงสาวเตือนเมื่อเขาพาเดินโซเซไปมา เธอพยายามจะเป็นคนควบคุมทิศทางแล้วแต่เขาตัวใหญ่กว่าจึงฝืนไม่ไหว ต้องเซซ้ายเซขวาตามแต่ชายหนุ่มจะพาไป กว่าจะถึงเตียงได้ก็เหงื่อตกเหมือนกัน

อนลไม่ยอมให้จบเพียงเท่านั้น ความเจ็บปวดร้าวระบมที่เหมือนหวดกระหน่ำลงมาทั้งร่างกายไม่ได้ทำให้ไฟปรารถนาของเขาตื่นตัว เขาก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ เธอ ถ้าไม่ยโสและหลอกตัวเองมากเกินไป เขาคิดว่าการได้รับความเอาใจใส่จากแพรววนิดทำให้รู้สึกดีอย่างประหลาด ดังนั้นจังหวะที่หญิงสาวจะวางเขาลงบนเตียง ชายหนุ่มจึงแกล้งเสียหลักและเหนี่ยวรั้งร่างอรชรลงไปด้วยกัน

แพรววนิดพยายามขืนตัวไว้แต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหว สุดท้ายเธอก็ร้องกรี๊ดทีหนึ่งแล้วล้มลงไปบนอกชายหนุ่ม แน่นอนว่าหนวดปลาหมึกรีบตะครุบร่างเธอไว้ไม่ให้ขยับหนีอย่างทันท่วงที

“ปล่อยนะ” เธอกระซิบเสียงเขียว ดวงตาวาววับจ้องคนใต้ร่าง กับผู้ชายคนนี้ใจดีไม่ได้เลยเชียว!

ชายหนุ่มหัวเราะแผ่วๆ เพลียๆ แต่กระชับวงแขนแน่นขึ้นอีก ทั้งที่ยังปวดร้าวตามตัวและมึนศีรษะอยู่มากแต่มันก็มาพร้อมความรู้สึกดีๆ อย่างไม่น่าเชื่อ

“ขำอะไร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลย” เธอแหวหน้าดำหน้าแดง ทั้งฉุนทั้งอาย ก็เขาเล่นเปลือยท่อนบนล่อนจ้อนแล้วยังมากอดเธอไว้อีก บนเตียงเสียด้วย

“ผมล้อเล่นหน่อยเดียว ทำโกรธไปได้”

“หายแล้วใช่มั้ย ถ้าหายก็ลุกขึ้นแล้วออกไปจากห้องฉันเลย”

“คุณก็รู้ว่าผมยังไม่หาย แต่เอาเถอะ ปล่อยก็ได้ ตอนนี้ปวดระบมไปทั้งตัว ไม่มีแรงทำอะไรหรอก” เขายิ้มเพลียๆ นัยน์ตาคมอ่อนแสงลงโดยไม่รู้ตัว

เธอรีบลุกไปจากตัวเขาโดยเร็ว ชักสีหน้าและมองคนเจ้ามารยาตาขวางจัด แสดงถึงความไม่ไว้ใจขั้นสูง ก่อนจะตวัดผ้าห่มคลุมร่างใหญ่บนเตียงให้อย่างเสียไม่ได้ แอบโกรธตัวเองด้วยที่ดันใจเต้นแรงกับความชิดใกล้อันไม่เหมาะสมนี้ ขืนเธอยังอยู่ภูเก็ตต่ออีกคืนมีหวังเสียคนแน่ ผู้ชายคนนี้อันตรายมากจริงๆ

“ถ้ายังไม่หายก็นอนไปเลยอย่าวุ่นวาย” เธอสั่งแล้วทำท่าจะผละไป แต่เขารั้งข้อมือเล็กเอาไว้ก่อน หญิงสาวจึงหันกลับมาถลึงตาขุ่นเอาเรื่อง

“สัญญาก่อนว่าตื่นมาแล้วผมจะเจอคุณ”

ใบหน้าตึงๆ ของหญิงสาวผ่อนคลายลง เปลี่ยนเป็นร้อนวูบวาบกับสายตาเว้าวอนของเขาแทน รีบหาคำตอบที่จะทำให้หลุดไปจากตรงนี้โดยเร็ว “ฉันจะไปไหนได้ อย่างน้อยก็ต้องรอฟังข่าวผู้ชายคนนั้นว่าเขา...ตายรึเปล่า”

พูดไปแล้วก็ชักเป็นกังวลขึ้นมาอีก แต่อนลกลับทำหน้าเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งใด เขาสนแต่ว่าเมื่อตื่นมาต้องเจอเธอเท่านั้น

“ผมจะนอน แต่ถ้าตื่นมาไม่เจอคุณ...”

“เรื่องของคุณเถอะ ฉันจะออกไปดูข่าวแล้ว” หญิงสาวตัดบทพลางสลัดข้อมือแล้ววิ่งแจ้นออกไปทันที

“ผมจะตามหาคุณจนเจอ” เขาพึมพำตามหลังเธอไป พอปิดเปลือกตาลงก็รู้สึกว่าหนังตาหนักอึ้งจนลืมไม่ขึ้น และเพียงไม่นานก็หลับสนิทไปเพราะฤทธิ์ยา



แพรววนิดกดรีโมตคอนโทรลดูทุกช่องที่มีข่าว แต่ก็ไม่รู้จะมองหาข่าวที่เป็นอุบัติเหตุลักษณะไหนเพราะอนลไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรู้ว่าเพียงเขาถูกยิงแต่เรื่องของคู่กรณียังเป็นปริศนา เท่าที่พอจะสบายใจได้ก็คือไม่เจอข่าวชายหนุ่มวัยราวๆ สามสิบปีเสียชีวิตด้วยเหตุอะไรก็ตามในจังหวัดภูเก็ตเมื่อคืนนี้ เธอขอคิดในแง่ดีไว้ก่อนก็แล้วกันว่าเขายังไม่ตาย

ด้วยความที่ไม่เจอข่าวเข้าเค้าหญิงสาวจึงสบายใจมากพอจะม่อยหลับไปที่โซฟานั่นเอง เธอสะดุ้งตื่นอีกทีในตอนเก้าโมงเศษๆ เพราะเสียงโทรศัพท์มือถือ สารินโทรมาชวนไปเที่ยวอีกวันเธอจึงโกหกเขาว่าไม่สบาย ชายหนุ่มจะแวะมาเยี่ยม แต่เธอก็ปฏิเสธอีกว่าไม่เป็นไรมาก แค่อยากนอนพักเท่านั้น เขาจึงวางสายในที่สุด

หญิงสาวรีบเข้าไปดูคนเจ็บในห้องนอน อนลยังนอนซมเพราะพิษไข้ ตัวเขาร้อนจี๋ อาจจะร้อนกว่าเดิมด้วย เธอแอบดูแผลของเขาก็เห็นว่าบวมเป่งจนน่ากลัว ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ ควรรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด แต่...อาจมีปัญหาอีกมากมายตามมา และเธอก็ไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไรดี

ร่างเล็กเดินไปเดินมาอย่างว้าวุ่นใจ ครุ่นคิดจนปวดหัว เวลามีปัญหาก็มักจะคิดถึงพ่อกับแม่ของตัวเองเลยทำให้นึกถึงพ่อของอนลขึ้นมาได้

“ใช่แล้ว!” หญิงสาวดีดนิ้วเปาะ สีหน้าดีขึ้นทันตา รีบโทรไปที่เคาน์เตอร์บริการ ขอสายผู้จัดการโรงแรมทันที



แพรววนิดได้แต่นั่งมองมือที่บีบกันแน่นบนตักตัวเองอย่างไม่รู้จะทำอะไรที่ดีไปกว่านั้น เธอพยายามบีบร่างให้เล็กลีบที่สุดอยู่บนโซฟารับแขกภายในห้องพัก ขณะที่แพทย์กำลังตรวจอาการและทำแผลให้อนลอีกครั้ง

ทันทีที่แจ้งสัญชัยว่าขอคุยกับเจ้าของโรงแรมเรื่องอนล เขาก็ต่อสายให้โดยไม่รอช้า นั่นอาจเพราะเห็นว่าอนลส่งชุดราตรีราคาหลายแสนมาให้เธอถึงห้องก็ได้ เธอถึงได้คุยกับเจ้าของโรงแรมง่ายนัก แต่จะด้วยเหตุผลใดเธอก็ไม่สนหรอก ตอนนั้นเรื่องอนลสำคัญที่สุด

เธอบอกคุณอุทัคว่าลูกชายเขานอนซมเพราะพิษไข้อยู่ที่นี่ ไม่ถึงสิบนาทีเจ้าของโรงแรมก็มาเคาะประตูห้องเธอพร้อมภรรยาของเขา จากนั้นก็มีการซักไซ้ไล่เลียงกันตามระเบียบ จนเมื่อรู้ว่าการพาอนลส่งโรงพยาบาลตอนนี้ไม่เป็นผลดี การตั้งคำถามจึงจบลง แล้วคุณอุทัคก็หันไปโทรศัพท์ตามหมอที่รู้จักมักคุ้นกันดีให้ตรงมาที่นี่อย่างเร่งด่วน

การตรวจรักษาทำกันที่ห้องพักของแพรววนิดเนื่องจากการเคลื่อนย้ายอนลตอนนี้จะเป็นที่ผิดสังเกตของแขกเหรื่อและพนักงาน ดังนั้นระหว่างหมอทำหน้าที่ของตัวเอง คุณอุทัคก็หันไปหยิบมือถือ โทรสั่งคนของตนให้สืบเรื่องอะไรก็ตามที่อนลก่อไว้เมื่อคืน ส่วนคุณโยษิตาก็มีโอกาสสำรวจเจ้าของห้องพักได้ถ้วนถี่ขึ้น

เธอมองหญิงสาวที่นั่งอยู่เยื้องกันบนโซฟาเดี่ยวด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์ ยิ่งรู้ว่าแพรววนิดเป็นลูกเต้าเหล่าใครก็ยิ่งนึกนิยมอยู่ในใจ ไม่ใช่เพราะฐานะที่ร่ำรวยทัดเทียมกัน แต่ประวัติคร่าวๆ ที่รู้จากสามีว่าหญิงสาวผู้นี้มาจากครอบครัวที่ดี มีการศึกษา และรู้จักทำงานช่วยบิดา ไม่ใช่ผู้หญิงฉาบฉวยชอบรวยทางลัด หรือผู้หญิงรักสนุกไปวันๆ เหมือนแม่สาวคนก่อนๆ ของอนล เพียงเท่านี้ก็ได้ใจเธอไปเกินครึ่งแล้ว ถ้าอนลตกลงปลงใจกับแพรววนิดได้ เธอคงสบายใจ อย่างน้อยก็จะได้มีคนฉุดรั้งเขาให้เดินไปในทางที่ถูกที่ควร เพราะเธอเองไม่อาจทำหน้าที่นั้นอีกแล้ว

“ตานลรีบมาหาหนูทันทีหลังเกิดเรื่อง หนูคงมีความหมายต่อเขามากนะจ๊ะ” เธอเริ่มด้วยน้ำเสียงปรานี อยากจะชวนคุยสร้างความสนิทสนมและแสดงให้แพรววนิดรู้ว่ายินดีต้อนรับหญิงสาวเข้ามาเป็นคนในครอบครัว

“ไม่หรอกค่ะ เขาคงกลัวจะมีคนรู้เรื่องมากเกินไป” แพรววนิดรีบปฏิเสธ วางสีหน้าไม่ถูกนัก เธอบอกไปแล้วว่าอนลมาหาเธอเพราะคิดว่าเธอมีส่วนต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้ผู้หญิงคนนี้เข้าใจให้ถูกต้อง ในเมื่อตอนเย็นวานนี้พ่อของอนลเห็นเขาจูบเธอในสถานที่ส่วนตัวของลูกชายซะเต็มตาขนาดนั้น คุณอุทัคคงเล่าให้ภรรยาฟังแล้ว

แล้วผู้ชายบ้านั่นก็ดันมาเคาะห้องเธอหลังมีเรื่อง แถมเรื่องที่ว่าก็มีจุดเริ่มต้นมาจากเธออีกด้วย ณ จุดนี้ไม่ว่าจะมองยังไงก็ดูเหมือนอนลให้ความสำคัญกับเธอมากเป็นพิเศษอยู่ดี และที่จริงมันก็น่าจะใช่ เขาสนใจเธอ แต่สนใจเหมือนที่สนคนอื่น ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ เขาก็แค่อยากชวนเธอขึ้นเตียงด้วยเท่านั้นแหละ!

ผู้สูงวัยกว่ายิ้มอ่อนๆ แววตามั่นใจและเปี่ยมไปด้วยความหวังที่แพรววนิดไม่เข้าใจ “ฉันเลี้ยงตานลมาตั้งแต่เด็ก รู้จักเขาดี เขาไม่กลัวใครหรอก...ไม่เลย ที่เขามาหาหนูแพรวก็เพราะอยากมา เขาไว้ใจหนูนะ ปกติตานลไม่ไว้ใจใครนอกจากตัวเอง เขาไม่มีเพื่อนด้วยซ้ำ หนูทำให้ฉันทึ่งมาก”

หญิงสาวอึ้งไป ตอนที่คุณโยษิตาบอกว่าอนลไม่มีเพื่อน เธอคิดว่ามองเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของคนพูด แล้วก็ให้นึกสงสัยว่าอนลกับผู้หญิงคนนี้มีเรื่องหมางใจอะไรกัน ดูเหมือนเขาต่อต้านคุณโยษิตามาก ในขณะที่อีกฝ่ายกลับมีท่าทีรักใคร่และห่วงใยเขาอย่างแท้จริง

คุณอุทัคคุยธุระเสร็จก็เดินมาร่วมวงด้วย สายตาที่มองแพรววนิดไม่ได้ต่างไปจากสายตาของภรรยาเลย “ถูกของคุณโย ไอ้นี่มันไม่เคยกลัวใครหรอก ฉันพูดกับมันจนปากเปียกปากแฉะมันยังไม่เคยฟัง ที่มาหาหนูแพรวคงอยากมาอ้อนมากกว่า”

คราวนี้แพรววนิดหน้าแดง ร้อนวูบวาบตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า เธอไม่กล้าสู้หน้าพ่อของอนลนัก เหตุเพราะเรื่องเมื่อเย็นวานนั่นแหละ อนลจูบเธอต่อหน้าพ่อ แล้วสองสามีภรรยานี่จะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน เป็นเพราะผู้ชายบ้านั่นแท้ๆ!

หญิงสาวฮึ่มฮั่มอยู่ในใจ แต่รู้ว่าแก้ตัวไปก็เท่านั้น หลายเหตุการณ์มันผูกมัดจนเธอดิ้นไม่หลุด ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บตัวฟรี ให้เขาแก้ตัวเองแล้วกัน ตอนนี้เปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า “เอ่อ...ท่านคะ”

“เรียกฉันว่าลุงก็ได้” ผู้สูงวัยบอกอย่างใจดี ผิดกับตอนชี้หน้าด่าอนลเมื่อวานเป็นคนละคน

“ค่ะคุณลุง แล้วคู่กรณีของคุณนลละคะ ได้เรื่องอะไรบ้างมั้ย แพรวอยากรู้ค่ะว่าเขาเป็นยังไงบ้าง” เธอยอมเรียกคุณอุทัคอย่างสนิทสนมเพราะนั่นจะทำให้ผู้ใหญ่เอ็นดูมากกว่า เวลาถามไถ่เรื่องคู่กรณีของอนลก็จะสะดวกใจขึ้นด้วย

“ลุงให้คนไปสืบแล้ว ตอนบ่ายน่าจะได้เรื่อง ตอนนี้วางใจได้ว่ายังไม่มีข่าวผู้ชายวัยสามสิบถูกฆ่าตายในภูเก็ตเมื่อคืนนี้ ส่วนอุบัติเหตุอย่างอื่นก็กำลังตามเรื่องอยู่ แล้วหนูพอจะจำหน้าผู้ชายคนนั้นได้ไหม”

“ถ้าเจออีกครั้งคิดว่าจำได้ค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นใจ รู้สึกโล่งขึ้นมาอีกหน่อยเมื่อรู้ว่าพ่อของอนลพยายามช่วยเต็มที่ ไม่ได้ปล่อยให้เขากับเธอต้องแก้ปัญหาอย่างเดียวดายเช่นที่นึกกลัว

“ดี ตอนนี้ลุงให้คนไปสืบที่ผับแล้ว น่าจะได้รูปจากกล้องวงจรปิดมาด้วย ถ้าเจ้านลมันยังไม่ฟื้นยังไงคงต้องขอให้หนูช่วยดูว่าคนไหน ข้อมูลจะได้แคบขึ้น”

“ได้เลยค่ะ แพรวยินดี” ปัญหาเหมือนจะเริ่มคลี่คลายลงทีละนิด หญิงสาวจึงค่อยยิ้มอย่างจริงใจได้บ้าง เฝ้าภาวนาตลอดว่าขออย่าให้ผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรถึงชีวิต เธอจะได้ไปจากภูเก็ตอย่างสบายใจ

ครู่หนึ่งนายแพทย์จรัณซึ่งนับถือเป็นเพื่อนกับคุณอุทัคมานานก็ออกมาจากห้องพัก เขาบอกว่าอนลไข้ขึ้นสูงเพราะพิษบาดแผล แต่ไม่เป็นอะไรมาก ตอนนี้ฉีดยาให้แล้ว บ่ายๆ คงจะฟื้นและดีขึ้นตามลำดับ ก่อนจะขอตัวกลับไปพร้อมรับปากว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ



คนของคุณอุทัคนำสำเนาภาพจากกล้องวงจรปิดของผับมาให้ดูก่อนเที่ยง เมื่อแพรววนิดชี้ตัวผู้ชายที่มีเรื่องกับเธอได้แล้วคนของเขาก็กลับไปสืบต่อว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร จนบ่ายแก่ๆ ก็ได้เรื่อง

“เขาชื่อเมธวัศ เดชดิลกครับ อายุ 28 ปี เป็นลูกชายคนเล็กของนายเมธัส เจ้าของร้านเพชรที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต ท่านสบายใจได้ ตอนนี้เขานอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ได้ยินว่ารถแหกโค้งเมื่อคืน ได้รับบาดเจ็บพอสมควรแต่ยังไม่ตาย และไม่มีการแจ้งความเรื่องนี้ด้วยครับ”

“แล้วมีอะไรน่าสนใจอีกไหม” คุณอุทัคถามด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจจนแพรววนิดแปลกใจ เขาเปลี่ยนจากผู้ใหญ่ใจดีไปเป็นเจ้านายที่น่าเกรงขามยามเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้อง

“ได้ข่าวว่าชอบทำตัวกร่างและเกเรมาก มีเรื่องกับคนอื่นไปเรื่อย ข่าวเรื่องผู้หญิงก็เยอะครับ มีแต่ฉาวๆ ทั้งนั้น คู่กรณีไม่น่าจะน้อย และดูเหมือนนายเมธัสจะเอือมระอาลูกชายคนนี้มากทีเดียว ผมว่างานนี้เรื่องคงไม่ถึงตำรวจ แต่คุณนลน่าจะระวังตัวหน่อย เมธวัศมีเพื่อนเป็นอันธพาลเยอะ เขาอาจผูกใจเจ็บไม่เลิก เพราะเทียบกันแล้วทางเราเจ็บน้อยกว่าเขามาก ถ้าเล่นกันถึงตำรวจเราน่าจะได้เปรียบด้วยซ้ำ มีรอยกระสุนที่ตัวรถหลายแห่งครับ มาจากด้านหลังและด้านข้าง น่าจะเป็นหลักฐานได้ว่าถูกฝ่ายนั้นไล่ยิง”

คุณอุทัคพยักหน้าหงึกหงักพลางตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ “โอเคเทพ ทำดีมาก ขอบใจนะ ออกไปก่อนเถอะ เรื่องนี้ฉันจะจัดการต่อทีหลัง”

“ครับท่าน” พงศ์เทพก้มศีรษะเป็นเชิงรับคำ ก่อนถอยออกไปจากห้องพักของแพรววนิด ที่ซึ่งทุกคนยังรวมตัวกันอยู่เพื่อรอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อ

“คิดว่าเรื่องคงไม่ถึงตำรวจนะหนูแพรว ว่าแต่หนูอยากจะเอาเรื่องเมธวัศไหมล่ะ ถ้าหนูต้องการเดี๋ยวลุงจะจัดการให้” พ่อของอนลหันมาบอกแพรววนิดอย่างจริงจัง เขามองเห็นอะไรบางอย่างจากเหตุการณ์คราวนี้ ดูเหมือนว่าคุณโยษิตาเองก็เห็นเช่นกัน

หญิงสาวถอนใจอย่างโล่งอกที่ผู้ชายคนนั้นยังไม่ตายและไม่ได้แจ้งความด้วย ตอนนี้เธอไม่อยากเอาเรื่องใครทั้งนั้น คิดถึงพ่อกับแม่และคิดถึงบ้านมากๆ จึงกราบขอบคุณผู้สูงวัย “ขอบพระคุณคุณลุงมากค่ะที่เมตตาแพรว แต่แพรวอยากให้เรื่องจบแค่นี้มากกว่า เอ่อ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วแพรวขอตัวกลับวันนี้เลยนะคะ แพรวคิดถึงพ่อกับแม่มากๆ เลยค่ะ”

“จะกลับแล้วเหรอจ๊ะ ทำไมไม่รอตานลฟื้นก่อนล่ะ หรือไม่ก็รอกลับพร้อมกันเลย” คุณโยษิตาทักท้วง ใช้แววตาวิงวอนให้อีกฝ่ายเห็นใจอนล

“คือ...เรื่องของแพรวกับเขา ที่จริงแล้ว...”

“หนูแพรวไม่ต้องพูดอะไร” คุณอุทัคโบกมือ “ลุงจะจัดการเรื่องนี้ต่อเอง ถ้าหนูจะกลับบ้านก็ไปเถอะ เดี๋ยวลุงให้คนขับรถไปส่งที่สนามบิน”

“คุณคะ” คุณโยษิตาทำท่าจะแย้ง แต่สามีส่ายหน้าและใช้สายตาปรามไว้ เธอจึงสงบปากสงบคำโดยดี

“ขอบพระคุณมากค่ะ” แพรววนิดถือโอกาสไหว้ลาและขอตัวไปเก็บของในห้องพักทันที

อนลหลับไม่ได้สติ สีหน้าเขายังซีดเซียวอยู่มาก เธอเม้มปากแน่น นึกถึงคำพูดของชายหนุ่มตอนเช้ามืด

‘สัญญาก่อนว่าตื่นมาแล้วผมจะเจอคุณ’

เพียงเท่านั้นหัวใจก็แกว่งไกวแปลกๆ เมืองไทยแม้ไม่กว้างเกินไปก็จริงแต่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีก ผู้ชายอย่างอนลพลิ้วไหวไม่ต่างจากสายลม ไม่มีสิ่งใดจะหยุดยั้งเขาได้ ไม่กี่วันเขาก็คงจะลืมเธอ

“ลาก่อน หวังว่าเราจะไม่ต้องพบกันอีกนะนายจอมหื่น”








Create Date : 06 ตุลาคม 2555
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2556 10:47:41 น. 4 comments
Counter : 1652 Pageviews.

 
เจอตามแน่ ฮ่าฮ่า พอเจอตัวแล้วคราวนี้มีหวังแสบกว่าเดิม


โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:18:00:23 น.  

 
โธ่ ตอนนี้ความสงสารเริ่มคืบคลานเข้ามาในหัวใจแพรวซะแล้ว


โดย: Green-ant IP: 171.7.205.252 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:18:26:26 น.  

 
ตามอ่านอยู่นะคะ..ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ..^.^


โดย: Natee IP: 184.56.150.138 วันที่: 6 ตุลาคม 2555 เวลา:19:41:46 น.  

 
ออกจะเป็นคนดัง ไม่ต้องเสียเวลาสืบ ก็รู้ว่าอยู่ที่ไหน


โดย: goldensun IP: 27.55.5.156 วันที่: 7 ตุลาคม 2555 เวลา:8:10:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.