ตอนที่ ๑๑ คู่แข่งแสดงตัว
ธารารินมาถึงที่นาแต่เช้าเพราะนึกเป็นห่วงฌอนที่ต้องมาอยู่ท่ามกลางคนต่างถิ่นต่างภาษาและเกรงใจนายสง่ากับครอบครัวด้วยที่ต้องมารับผิดชอบคนที่พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง บุษบาเองก็มีน้ำใจตื่นมาทำไข่ดาวกับทอดไส้กรอกเป็นมื้อเช้าให้ชายหนุ่มด้วยแต่เมื่อมาถึงที่นากลับพบว่าอิตาฝรั่งตัวโตนั่นกำลังช่วยเด็กชายต้องรดน้ำผักในสวนอย่างสนุกสนานไม่ได้มีท่าทีสลดหรือน่าสงสารแต่อย่างใด ขยันกันแต่เช้าเลยนะคะน้าหง่า น้าจินนี่ทานข้าวกันแล้วเหรอ หญิงสาวสอบถามสองสามีภรรยาที่ก้มๆ เงยๆ ช่วยกันขุดหลุมไว้สำหรับลงหน่อกล้วยหอมซึ่งเป็นพืชชนิดแรกที่เธอจะปลูกบนที่ดินผืนนี้ กินแล้วค่ะคุณแธม มื้อเซ้าข้อยจี่ข้าวทาไข่จินดายืดตัวขึ้นตอบพร้อมรอยยิ้มซื่อๆ พลางปาดเหงื่อที่หน้าผากแม้อากาศตอนเช้าจะเย็นอยู่มาก แต่การออกแรงขุดดินแบบนี้ก็เรียกเหงื่อได้ชะงัดนัก แล้วฌอนเป็นยังไงบ้างคะ เขาสร้างความลำบากใจอะไรให้พวกน้ารึเปล่า บ่มีเลยค่าคุณแธม ซอนเป็นคนน่าฮักยิ้มเก่ง แล้วยังซ่อยสอนภาษาอังกฤษให้บักต้องอีก เอาหยังให้กินกะกินเบิดครับมื้อคืนกะกินทอดปลาทูกับข้าวเหนียว กินง่ายแท้ๆ เลย นายสง่าเสริม ดูเหมือนสองสามีภรรยาจะถูกใจฌอนไม่น้อยพอมองไปทางสวนผักก็เห็นว่าชายหนุ่มกับต้องพยายามใช้มือช่วยในการสื่อสารและหัวเราะกันไปด้วยเป็นระยะ แบบนี้ก็ดีเลยนะคะต้องจะได้เก่งภาษาอังกฤษ งั้นพี่บุษก็น่าจะเรียนบ้าง ไม่งั้นอายเด็กแย่ บุษบาว่าอย่างมุ่งมั่นเธอยังกลัวชาวต่างชาติอยู่แต่พอเห็นเด็กชายต้องไม่กลัวและทำท่าว่าจะคุยกับฌอนรู้เรื่องเลยเกิดฮึดขึ้นมาบ้าง ฌอนหันมาทางนี้พอดีเมื่อเห็นว่าธารารินมาก็ยิ้มกว้างพร้อมโบกทักทายหันไปคุยบางอย่างกับต้องพร้อมภาษามือ แล้ววิ่งตื๋อมาหาหญิงสาวอย่างไว อรุณสวัสดิ์ครับแธม คุณมาแต่เช้าเลยเขามองเธอด้วยสีหน้าบ่งบอกความดีใจอดไม่ได้ที่จะเลื่อนสายตาลงมองหน้าท้องนูนของหญิงสาวอยากเอื้อมมือไปสัมผัสแต่ก็สู้อดทนไว้ เขาไม่อยากทำให้เธอโกรธแล้วผลักไสเขาออกห่างเรื่องนี้คงต้องค่อยเป็นค่อยไป ฉันกลัวคุณสร้างปัญหาให้น้าหง่ากับเมียเขาเธอรีบออกตัว กลัวเขาทึกทักว่าเป็นห่วงเป็นใย ถึงจะเป็นความจริงด้วยแต่เธอจะไม่ให้เขาได้ใจไปหรอก ถึงคุณจะพูดอย่างนั้น ผมก็ไม่ไปหรอกนะแธมชายหนุ่มยืนยัน ก่อนดึงสายตามาที่บุษบา สวัสดีครับแนนนี่ อุ๊ย เขาว่าอะไรคะคุณหนูเหมือนจะพูดกับพี่บุษ ฟังออกแค่แนนนี่ ไม่ได้ชื่อแนนนี่นะคะ ชื่อบุษค่ะ บุด-สะ-บาบุษบาพยายามออกเสียงชื่อตัวเองช้าๆ ชัดๆ อยากให้ฌอนพูดตาม แต่บอกไม่เป็น เขาทักทายน่ะค่ะพี่บุษ แนนนี่หมายถึงพี่เลี้ยงไม่ใช่ชื่อคน หญิงสาวอธิบาย ก่อนบอกฌอนว่าพี่เลี้ยงของเธอชื่อบุษบาแต่จะเรียกแนนนี่ก็ได้ เขาจะได้ออกเสียงง่ายหน่อย แต่ผมออกเสียงชื่อคุณได้นะ ทา-รา-รินใช่มั้ย คราวนี้ฌอนออกเสียงไทยชัดจนเจ้าของชื่อถึงกับอึ้งแถมยังทำพลาดด้วยการหันไปสบตาเขา ทำให้มองเห็นความรู้สึกอบอุ่นอ่อนหวานที่ชายหนุ่มถ่ายทอดมาให้พร้อมรอยยิ้มและนัยน์ตาสีน้ำตาลที่เธอไม่เคยลืมเขาคงจะพาความทรงจำของเธอย้อนกลับไปที่อเมริกาในตอนพบกันครั้งแรกได้สำเร็จ หากบุษบาไม่พูดแทรกขึ้นมาก่อน เขาเรียกชื่อคุณหนูใช่ไหมคะ ชัดมากเลยเก่งจริงนะพ่อคุณ ต้องสอนล่ะสิ ประโยคหลังหันไปถามสองสามีภรรยา บ่แม่นดอกค่า พวกเฮาฮู้แต่ซื่อคุณแธมบ่เคยได้ยินผู้ใดเรียกธาราริน ซื่อม่วนแท้ๆ เนาะ นางจินดาตอบไปตามจริง เนื่องจากสองสามีภรรยาต้องขายบ้านใช้หนี้หลังแม่ของจินดาเสียที่นาก็เช่าเขาทำกิน ไม่มีเป็นของตัวเอง นายสง่าก็ไม่เหลือญาติที่ไหนอีกทำให้พวกเขาต้องออกเดินทางหารับจ้างเลี้ยงชีพ วันๆ สนใจแต่หาเงินไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีโทรทัศน์ให้ดูและไม่มีเวลาจะดูด้วย จึงไม่รู้ว่าธารารินเป็นดาราและเมื่อมาอาศัยที่ดินของตาเทียนทำมาหากินก็อยู่แต่ที่นา ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายในหมู่บ้านนานๆ จึงเอาผักเอาไก่ไปขายที เรียกว่าถ้าออกจากที่นาตาเทียนไปก็คุยกับใครไม่รู้เรื่องเพราะข่าวมาไม่ถึงนั่นเอง งั้นไปได้ยินใครเรียกมาล่ะคุณหนูบอกเขาเหรอคะ บุษบาหันมาถามคุณหนูของเธอด้วยความสนใจ ค่ะ ก็ที่คุยกันนานๆ เมื่อวานไงคะ เอาละงั้นก็แปลว่าทุกคนกินข้าวเช้ากันไปแล้ว ของกินที่พี่บุษเตรียมมาก็เก็บไว้กินมื้อหลังก็แล้วกันนะคะหญิงสาวเปลี่ยนหัวข้อ ก่อนจะต้องหาเรื่องมาโกหกเพิ่ม เธอไม่ได้อยากโกหกใครต่อใครจนติดเป็นนิสัยเพียงแต่เรื่องนี้อธิบายไปก็ยากจะมีคนเข้าใจ ใครๆ คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเธอควรยอมรับฌอนเพราะเขาคือพ่อของลูกเธอ แต่ธารารินไม่คิดว่าจะทำได้ง่ายดายเช่นนั้นแผนเดิมของเธอคือต้องการลูกและเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ได้มองหาคู่ชีวิตที่เลือกเขาเพราะลักษณะภายนอกเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์สิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือจะว่าเป็นความพึงพอใจของเธอเองก็คงได้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นคือตอนนี้ฌอนเสนอตัวจะเป็นพ่อของลูกซึ่งสิ่งที่เขาจะถ่ายทอดสู่ลูกของเธอนับจากนี้ไม่ใช่เพียงลักษณะทางพันธุกรรมแต่ยังเป็นเหมือนเบ้าหลอม เป็นต้นแบบให้ลูก เธออยากให้ลูกเติบโตเป็นคนดีเป็นคนที่มีคุณภาพ ไม่ใช่โตมาแล้วเป็นภาระสังคม ดังนั้นหากมีพ่อที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกไม่ได้เธอขอเลี้ยงลูกคนเดียวจะดีกว่า เธอเชื่อมั่นว่าตัวเองจะเป็นแม่ที่ดีได้อย่างน้อยที่สุดเธอก็รู้ดีว่าเธอต้องการอะไรจากแม่ และเธอควรให้อะไรแก่ลูก แม้ความเชื่อมั่นนี้จะไม่ได้รับประกันว่าลูกของเธอจะเป็นอย่างที่เธอปรารถนาแต่เธอจะทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุด การมาของฌอนทำให้แผนในชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปแต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าการมีอยู่ของเขาจะส่งผลอะไรต่อลูกของเธอบ้าง ฉะนั้นก่อนที่เธอจะยอมให้เขามีส่วนร่วมในชีวิตลูกเธอต้องมั่นใจเสียก่อนว่าเขาคู่ควรที่จะได้รับสิ่งนี้ นี่คือความรับผิดชอบของเธอในฐานะแม่เช่นกัน เด็กชายต้องรดน้ำสวนผักเสร็จก็กลับมาที่กระต๊อบเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียนบุษบาเอาของกินที่เตรียมไว้มาเก็บให้แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าที่นี่ไม่มีตู้เย็นจึงบอกให้ต้องนำกล่องใส่อาหารนี้ไปกินที่โรงเรียนด้วย ก่อนจะกลับไปเอากระติกน้ำแข็งที่ท้ายรถมาเติมน้ำดื่มแล้วหิ้วมาส่งให้สองสามีภรรยาอย่างที่เคยทำทุกวันเมื่อทั้งคู่เริ่มจัดการกับที่ดินสองไร่นี้เพื่อการปลูกกล้วยหอม ระหว่างนั้นฌอนกับธารารินยังยืนดูสองสามีภรรยาช่วยกันทำงานหญิงสาวอยากลงมือด้วยแต่ทุกคนค้านว่าเธอกำลังท้องและนี่ก็ย่างเข้าเดือนที่เจ็ดแล้ว ไม่ควรทำงานหนัก ธารารินเป็นห่วงลูกจึงยอมรับฟังและช่วยหยิบจับอะไรเล็กน้อยเท่าที่พอจะช่วยได้แต่เธอก็แทบไม่ได้ทำอะไรอยู่ดี เพราะบุษบาแย่งหน้าที่ไปเกือบหมด พวกเขาขุดหลุมไว้ทำไมเหรอแธม ฌอนถามด้วยความสนใจ ฉันจะปลูกกล้วยหอมซักสองไร่ค่ะขุดหลุมเสร็จค่อยเอาหน่อกล้วยมาลง ธารารินตัดสินใจเรื่องปลูกกล้วยหอมได้หลังไปพบเกษตรอำเภอหนึ่งวันเธอโทรไปปรึกษาเขา ชายหนุ่มไม่ได้รับสาย หญิงสาวคิดว่าเขาคงยุ่งเรื่องงานว่างแล้วคงติดต่อกลับมา เธอจึงตัดสินใจด้วยตัวเองหลังได้ปรึกษานายสง่ากับเมียแล้ว นายสง่าสนับสนุนเต็มที่เขาว่ากล้วยหอมราคาดี แต่ตอนปลูกใหม่นี่ต้องให้น้ำให้เพียงพอเมื่อต้นกล้วยติดดินแล้วแทบไม่ต้องดูแลอะไรมาก เขาอยากปลูกนานแล้วแต่ไม่มีทุนหญิงสาวจึงบอกให้เตรียมตัวได้เลย เธอจะหาหน่อกล้วยหอมมาให้เอง แล้วยศวินก็โทรกลับมาเธอจึงสอบถามถึงแหล่งซื้อหน่อกล้วยหอมราคาไม่แพง ชายหนุ่มเป็นธุระคุยกับคนขายให้ด้วยตัวเองเมื่อสองวันก่อนเธอจึงให้รถไถมาไถกลบหน้าดินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขุดหลุม สองสามีภรรยาจึงได้ลงมือขุดดินตั้งแต่เมื่อวาน คุณคิดจะเป็นชาวสวนจริงหรือ ฌอนถามต่อ ค่ะ คิดมานานแล้วแล้วคุณเป็นยังไงบ้างคะ เมื่อคืนหลับสบายดีรึเปล่า หญิงสาวหันเหหัวข้อไปเรื่องเขา ผมเข้าป่าตั้งแคมป์บ่อย แค่นี้จิ๊บๆ นั่นคุณทำไปเพื่อความบันเทิง คุณสนุกกับมันแต่คุณอยู่แบบนั้นตลอดไปไม่ได้ จริงไหมคะ ฉันเองก็วางแผนชีวิตเอาไว้แล้ว อยู่นี่ฉันมีอะไรให้ทำเยอะแยะแต่คุณล่ะคะ คุณจะทำอะไร ฉันเดาว่าแผนของคุณไม่ได้ลงเอยที่หมู่บ้านเล็กๆกับท้องไร่ท้องนาแบบนี้ ฌอนขมวดคิ้ว คำถามของเธอน่าสนใจ เขาพร้อมจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเพื่อเธอกับลูกไหม? ริมฝีปากหยักเม้มแน่น มองหญิงสาวด้วยสายตาจริงจังและค้นคว้าคุณไม่คิดจะไปอยู่ที่อื่นแล้วใช่ไหม? ธารารินส่ายหน้า ไม่ค่ะ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยมีอิสระอย่างแท้จริงจนกระทั่งมาอยู่ที่นี่ ฉันไม่อยากให้ใครมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจและการใช้ชีวิตของฉันอีกแล้วคุณอาจไม่เข้าใจ แต่ฉันเลือกเส้นทางของฉันแล้วค่ะคุณเองก็ควรเลือกทางที่คุณปรารถนาจริงๆ ไม่งั้นคุณจะอยู่กับมันไม่ได้นาน ไปหาคำตอบให้ตัวเองก่อนนะคะ ชายหนุ่มถอนใจยาว เท้าสะเอวก่อนก้มลงส่งยิ้มให้คนตรงหน้า แต่กลับไม่มีแววขี้เล่นให้เห็นสักนิด ผมรู้ว่าคุณ พิเศษ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราพบกัน จนถึงวันนี้ผมยิ่งมั่นใจ ผมรู้นี่มันไร้เหตุผลแต่เคยได้ยินไหมแธม เมื่อเรารักใครสักคน จะไม่มีที่ว่างให้กับความสงสัยผมรู้ว่าผมต้องการอะไร นั่นแหละคำตอบของผม หญิงสาวกะพริบตามองเขาอย่างไม่แน่ใจฌอนมองตอบอย่างแน่วแน่ ท่าทางหนักแน่นและเชื่อมั่นในสิ่งที่พูด ทำให้เธอมั่นใจว่าไม่ได้ฟังผิดหรือแปลผิด ธารารินไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับคำตอบที่คล้ายการสารภาพรักกลายๆนั้น ที่แน่ๆ เธอรู้ว่าแก้มร้อน จังหวะหัวใจเต้นแปลกไป บ้าจัง เธอบอกให้เขาค้นหาคำตอบ แต่กลับเป็นตัวเองที่ต้องมาสงสัยกับความรู้สึกที่มีต่อเขา วันนี้ฉันจะแวะเข้าไปในเมืองคุณอยากได้อะไรไหมคะ เงินคุณยังอยู่ที่ฉัน เธอตัดบทเอาดื้อๆ และมองหาบุษบา ฌอนส่ายหน้าและอมยิ้ม คุณต่างหากที่ต้องหาคำตอบให้ตัวเอง หญิงสาวหันขวับ ฉันไม่... แต่พอสบตาเขาแล้วก็เถียงไม่ออกแก้มแดงเรื่อขึ้นเพราะฉุนที่หาข้อแก้ตัวไม่ได้ เอาเถอะ ผมจะให้เวลาคุณบ้างคุณถามใช่ไหมว่าผมจะทำอะไรที่นี่ อย่างแรกเลยคุณต้องปลูกบ้านจะได้ไม่ต้องขับรถเทียวไปเทียวมาทุกวัน คุณทำแบบนี้ได้อีกไม่นานหรอกท้องโตขึ้นทุกวัน ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง เธอเห็นด้วยกับเขา แต่... ฉันยังหาช่างไม่ได้ค่ะ คุยกับผมได้ ผมเป็นสถาปนิกระหว่างที่รอช่างตัวจริงมาเริ่มงาน ผมจะออกแบบและคำนวณให้ แบบนี้คุณจะคุมค่าใช้จ่ายได้และช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้นเราจะหาซื้อวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ด้วยตัวเอง ช่างพร้อมเมื่อไหร่ก็เริ่มงานได้เลยคุณว่าไง ถ้าได้แบบนั้นก็เยี่ยมเลยค่ะหญิงสาวตอบรับอย่างตื่นเต้น แต่แล้วรอยยิ้มก็เลือนไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรเธอก็เริ่มจะพึ่งพาเขาแล้ว... อันที่จริงฉันไม่รบกวนคุณดีกว่า ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม แล้วคุณจะแปลกใจ เมื่อรู้ว่าคุณต้องการผมมากกว่าที่คุณคิดกุญแจรถอยู่ไหน ผมว่าคุณไม่ควรขับรถเองแล้วนะ ถึงไม่ห่วงตัวเองก็ต้องห่วงลูกบ้างและผมมีสิทธิ์ห่วงทั้งแม่ทั้งลูก เขายื่นมือไปตรงหน้าหญิงสาวแล้วบอกอีกว่าวางใจได้ ผมเคยอยู่อังกฤษสองปี ผมขับรถพวงมาลัยขวาได้สบายมาก แค่บอกทางผมก็พอ มีอะไรบ้างคะที่คุณทำไม่ได้ เขาตอบโดยไม่สนใจว่าหญิงสาวกำลังประชด เยอะแยะไปอย่างแรกเลยคือปล่อยให้คุณหายไปจากชีวิตตั้งหกเดือน เธอมองหน้าเขา บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงได้แต่พึมพำว่า ฉันไม่คิดว่าคุณจะมา งั้นก็คิดเรื่องผมซะจนกว่าคุณจะมีคำตอบให้ตัวเอง ผมไม่รีบ ผมรอได้ ชายหนุ่มยืนยันหนักแน่น แล้วบุษบาก็มาสมทบกับสองหนุ่มสาวพอดี ขอโทษที่ช้าค่ะคุณหนู พี่บุษแอบไปสำรวจผักในสวนมามีหลายอย่างเลยนะคะ ถ้าเรากลับมาถึงนี่ก่อนเที่ยง พี่บุษทำมื้อเที่ยงเองค่ะ ผักอะไรก็มีครบเดี๋ยวแวะซื้อเนื้อสัตว์นิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว แบบนั้นก็ดีเลยค่ะ น้าหง่ากับน้าจินทำงานหนักแล้วจะได้ไม่ต้องมายุ่งยากทำกับข้าวกินเองอีกธารารินเห็นด้วย ถ้าไม่ติดว่าช่วงนี้วิ่งวุ่นหลายอย่างเธอคงขอให้บุษบาทำกับข้าวเผื่อสองสามีภรรยาทุกครั้งที่แวะมา เธออยากให้ทั้งสองคนรู้สึกว่าอยู่กันแบบครอบครัวไม่ใช่เจ้านายกับลูกจ้าง หากบ้านใหม่เสร็จและได้ย้ายมาอยู่ที่นาจริงๆก็คงจะอย่างตั้งใจได้ทุกวัน แต่มีปัญหานิดนึงนะคะคุณหนูที่นี่ยังขาดอุปกรณ์ทำครัวหลายอย่างเลย แถมมีแต่เตาถ่าน พี่บุษก่อไฟไม่เป็นซะด้วยสิบุษบาแอบสำรวจในครัวของจินดามาด้วย ตอนที่เอาอาหารไปเก็บให้ งั้นเราซื้อเตาแก๊สเข้ามาด้วยก็ดีนะคะพวกเขาจะได้ทำกับข้าวสะดวกขึ้น ไหนๆ เราก็จะไปซื้อของใช้กันอยู่แล้ว ดีค่ะ แล้วพ่อฌอนนี่ล่ะคะจะเอายังไงกับเขา บุษบาเหลือบมองพ่อฝรั่งตัวโตที่ได้แต่มองหน้าเธอกับธารารินสลับกันไปมาเพราะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ให้เขาอยู่ที่นี่ก็แล้วกันค่ะตามไปก็เกะกะเปล่าๆ หญิงสาวตัดสินใจที่จะไม่พึ่งพาเขากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้จึงหันไปบอกชายหนุ่มฉันไปซื้อของนิดหน่อย คุณไม่ต้องไปหรอกค่ะ อย่างน้อยก็ยอมให้ผมขับรถเถอะแธม ช่วยหิ้วของก็ได้คุณท้องอยู่นะ ไม่ควรหิ้วของหนัก พี่บุษก็ไปด้วยนะคะ ผู้หญิงทั้งคู่ ถ้ามีของหนักต้องยกล่ะ ธารารินนึกถึงถังแก๊สแต่พนักงานที่ร้านก็คงช่วยอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาขากลับตอนยกลงยังน่าเป็นห่วงมากกว่าอีก คุณต้องให้ผมชินกับถนนแถวนี้บ้างนะถ้าคุณเจ็บท้องจะคลอด ผมจะได้พาส่งโรงพยาบาลทันเขาเห็นเธอทำท่าจะค้านจึงขัดขึ้นก่อนว่า ผมอยู่จนถึงคุณคลอดแน่ เชื่อสิถึงไล่ผมก็ไม่ไปหรอก เขาพูดอะไรเหรอคะคุณหนูบุษบาสงสัยเพราะสีหน้าของคนทั้งคู่ไม่เหมือนคุยกันปกติแต่เหมือนกำลังโต้แย้งเรื่องอะไรสักอย่าง ธารารินถอนใจเบาๆ เขาอยากไปด้วยจะได้ช่วยยกของน่ะค่ะ งั้นก็ดีสิคะ จะรออะไร ไปกันเลยดีกว่าบุษบาว่าพลางกวักมือเรียกฌอนให้เดินตามไปที่รถ ชายหนุ่มยิ้มร่ารีบตามพี่เลี้ยงของหญิงสาวไปโดยเร็ว ธารารินจึงต้องยอมให้ฌอนไปด้วยในที่สุด เขาขอขับรถ ทีแรกบุษบาโวยวายเพราะกลัวฌอนไม่รู้เส้นทางและไม่ชินถนนแต่ธารารินบอกว่าเขาขับพวงมาลัยขวาได้ พี่เลี้ยงของเธอจึงต้องยอม ทว่าพอชายหนุ่มขับไปได้สักระยะบุษบาก็เห็นว่าคุณหนูของเธอควรมีคนขับรถให้เพราะอีกแค่เดือนสองเดือนหญิงสาวก็จะคลอดแล้ว ถึงตอนนั้นคงลำบากน่าดู เพราะเธอก็ขับรถไม่เป็นและไม่มีความกล้ามากพอที่จะหัด ธารารินนึกว่าการเลือกซื้อของจะใช้เวลาไม่นานที่ไหนได้ กว่าจะได้ของครบก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงวัน หญิงสาวเป็นห่วงคนที่ทำงานออกแรงกลางแดดกลัวจะหิวจนรอกินมื้อเที่ยงไม่ไหว จึงบอกบุษบาว่ามื้อนี้ซื้อปลาเผากับส้มตำไปฝากนายสง่ากับจินดาแทนดีกว่าถึงแล้วจะได้กินกันเลย ไม่ต้องรอ ไว้มื้อเย็นค่อยทำอาหารกินด้วยกัน ดีเหมือนกันค่ะคุณหนูแดดกลางวันร้อนเหลือเกิน ป่านนี้สองคนนั้นคงจะเหนื่อยแย่ บุษบานึกเห็นใจชาวไร่ชาวสวนขึ้นมาทันทีและเห็นว่าธารารินตัดสินใจได้รอบคอบที่ให้นายสง่ากับภรรยาอยู่ช่วยทำสวนไม่เช่นนั้นงานหนักๆ พวกนี้ผู้หญิงชาวกรุงสองคนคงจะทำกันเองไม่ไหวแน่ เมื่อพี่เลี้ยงไม่ค้านหญิงสาวจึงขอให้ฌอนจอดที่ร้านขายส้มตำ ซึ่งค้นหาชื่อและตำแหน่งร้านดังขึ้นชื่อจากกูเกิลขณะนั่งรออาหารที่สั่งอยู่นั้นธารารินก็บังเอิญเหลือบไปเห็นคนหน้าคุ้นแต่เธอเห็นเขามากับข้าราชการด้วยกันเพราะแต่งชุดสีกากีเกือบทั้งโต๊ะจึงไม่ได้แวะไปทักทาย ยศวินได้ยินข้าราชการสาวๆ ที่โต๊ะถามกันว่านั่นใช่ธารารินรึเปล่าชายหนุ่มหูผึ่งขึ้นมาทันทีและรีบมองหาโดยอัตโนมัติ ใช่เธอจริงๆดาราสาวที่เป็นข่าวท้องไม่มีพ่อ ใจกล้าจัง ยังออกมาซื้อของกินเองได้มาร้านดังซะด้วย เป็นน้องคงไม่กล้าออกจากบ้านแน่ๆ อย่างน้อยคงรอให้คลอดซะก่อน หญิงสาวคนหนึ่งในโต๊ะเอ่ยขึ้นทุกคนเริ่มหันมาสนใจหัวข้อนี้และมองหาเป้าหมาย นั่นสิ เป็นพี่ก็คงอาย น่าเสียดายเป็นนางเอกประวัติดีมาตลอดแท้ๆ ต้องมาเสียเพราะผู้ชายไม่มีความรับผิดชอบคนเดียวเห็นในข่าวว่าแม่ยังทำใจยอมรับไม่ได้ จนป่านนี้ก็ไม่เคยออกมาจากบ้านอีกเลยก็ว่าไม่ได้เนาะ เป็นลูกเราก็ทำใจลำบากเหมือนกัน นั่นสิ ถ้าเป็นลูกผมผมยังไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนเลย เริ่มมีผู้ชายแสดงความเห็นในเรื่องนี้ด้วย ยศวินกำมือแน่น รู้สึกถึงความอยุติธรรมที่ทุกคนแสดงออกต่อหญิงสาวคนหนึ่งแม้บางคนพูดในลักษณะว่าเห็นใจ แต่น้ำเสียงไม่บ่งบอกความกรุณาเช่นนั้น เรื่องนี้เขาไม่ตำหนิธารารินเลย เมื่อหาข้อมูลของหญิงสาวจากสื่อต่างๆหลังรู้ว่าเธอท้อง เขามองว่าธารารินเป็นนักแสดงที่ประพฤติดีมาโดยตลอดไม่มีข่าวเสียหาย ไม่มีเรื่องซุบซิบนินทาว่าร้าย ไม่เคยมีข่าวกับผู้ชายด้วยซ้ำ เธอค่อนเรียบร้อยและเป็นแบบอย่างของกุลสตรีจนกระทั่งช่วงที่หญิงสาวท้องถึงมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับเธอเล็ดลอดออกมาบ้าง นั่นอาจเพราะเธอมีอาการแพ้ท้องทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนไป เขาคิดว่าคนที่เสแสร้งทำดีคงทำได้ไม่นาน คนที่ทำดีมาได้ยี่สิบกว่าปีโดยไม่มีข่าวเสียหายเลยย่อมต้องมีคุณงามความดีอยู่ในตัวในความเห็นของคนส่วนใหญ่ดูเหมือนเรื่องเสียหายเรื่องเดียวจะทำลายความดีทั้งหมดที่เธอเคยมีแต่สำหรับเขา เขาว่านี่เป็นเพียงความผิดพลาดเรื่องเดียวของเธอซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับคนอื่น หรือแม้แต่ตัวเขาเองก็ตาม แต่เหตุที่เขาไม่ได้สานสัมพันธ์ในเชิงหนุ่มสาวกับเธอเพราะมองเห็นปัญหาในอนาคตที่ต้องตามมาแน่นอนทั้งพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงคนสนิทหรือแม้แต่คนที่แทบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตอย่างกลุ่มคนที่นั่งกินมื้อเที่ยงด้วยกันวันนี้พวกเขาช่างมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเขาอย่างน่าขัน โดยเฉพาะคนกลุ่มหลัง ยศวินเพิ่งรู้ตัวในนาทีนี้เองว่าแม้เขาไม่ได้พูดจาเย้ยหยันหรือทับถมเธอ หรือแสดงความเห็นใจอย่างเสแสร้ง ทว่าเขาก็ไม่ได้ต่างจากคนที่มีพฤติกรรมเช่นนั้นเลยเขากลัวปัญหา กลัวในสิ่งที่คนอื่นเห็นว่าเป็นความผิดพลาดของหญิงสาว ชายหนุ่มลุกจากโต๊ะและเอ่ยขอตัวก่อนเดินไปหาธารารินที่นั่งรออาหารอยู่กับพี่เลี้ยงของเธอ ท่ามกลางสายตาประหลาดใจแกมตกตะลึงของทุกคนไม่มีใครคิดว่ายศวินจะรู้จักและใกล้ชิดธารารินถึงขั้นสามารถเดินเข้าไปพูดคุยได้หน้าตาเฉยแบบนี้ สวัสดีครับคุณแธม คุณบุษ วันนี้มาทานอาหารข้างนอกกันเหรอครับ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคนทักแล้วส่งยิ้มให้เขามาซื้อค่ะ เดี๋ยวกลับไปกินพร้อมน้าหง่ากับน้าจินที่สวน ผมว่าจะเข้าไปดูสวนของคุณเหมือนกันวันไหนลงกล้วยบอกผมด้วยนะครับ ถ้าจะทำเกษตรกรรมให้ยั่งยืนต้องมีระบบน้ำที่ดีด้วยผมอาจช่วยดูเรื่องนี้ได้ ขอบคุณมากเลยค่ะเตรียมหลุมเตรียมดินเสร็จเมื่อไหร่ แธมจะบอกอีกทีนะคะต้องรบกวนคุณยศอีกหลายเรื่องเลย แต่สัญญาว่ากล้วยออกลูกเมื่อไหร่จะเอาไปฝากแน่ๆค่ะ ธารารินพูดจากับเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและเป็นกันเองยศวินก็แสดงออกชัดเจนว่าหญิงสาวเป็นคนที่เขารู้จัก เป็นการส่วนตัว คราวหน้าคราวหลังเวลาใครจะพูดอะไรถึงเธออย่างน้อยจะได้ไปพูดไกลหูเขาหน่อย ฌอนไปห้องน้ำแล้วกลับมาเห็นภาพนั้นเข้าพอดีชายหนุ่มรู้สึกขัดใจกับสายตาที่ผู้ชายอีกคนมองแม่ของลูกเขาจึงรีบเดินเข้าไปแสดงตัว คุยอะไรกันอยู่ครับ ท่าทางน่าสนุกเชียวขอผมคุยด้วยคนได้ไหม? ____________________________________________ ยศวินกลับมาแล้ว คุณฌอนมีคู่แข่งนะเออ บอกเลย ใครดีใครได้ อิอิ
Create Date : 11 มีนาคม 2560 |
|
3 comments |
Last Update : 11 มีนาคม 2560 16:33:10 น. |
Counter : 1058 Pageviews. |
|
|
|