ศาสนา เป็นองค์คุณอันสำคัญ
โดยช่วยให้ชีวิตนี้ มีความสดชื่น เยือกเย็น พอที่จะเป็นอยู่ ไม่ร้อนเป็นไฟ
เช่นเดียวกับน้ำ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง พฤกษาชาติ ให้สดชื่น งอกงาม ตลอดเวลา ฉันใดฉันนั้น
มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์ที่ ๒ "หิมพานต์"




มหาเวสสันดรชาดก หิมพานต์ กัณฑ์ที่ ๒
ผู้แต่ง : สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส
ที่มา : หนังสือชุดภาษาไทยของคุรุสภา มหาเวสสันดรชาดก ฉบับ ๑๓ กัณฑ์
--------------------------------------------------------------------------------



อิติ สา วเร คเหตฺวา ตโต จุตา มทฺทรญฺโญ อคฺคมเหสิยา กุจฺฉิมฺหิ นิพฺพตฺติ ชายมานาย จนฺทนจุณฺเณน ปริปฺโผสิเตน วิย สรีเรน ชาตตฺตา เตนสฺสา นามคฺคหณทิวเส ผุสฺสตีเตวฺว นามํ กรึสุ สา มหนฺเตน ปริวาเรน วฑฺฒิตฺวา โสฬสวสฺสิกกาเล อุตฺตมรูปธรา อโหสิ

สา ผุสฺสตี อันว่าสมเด็จพระผุสดีผู้ทรงศรีสุนทรเลิศลักษณา วเร คเหตฺวา ครั้นได้รับพระราชทานทศวรพรสิบประการ อันท้าวมัฆวานประสิทธิ์ให้ จวิตฺวา พระนางจุติจากสุราลัยลงปฏิสนธิในมาตุครรโภทรบวรราชวงศ์ องค์อัครมหิษีตระกูลเกศกษัตริย์มัททราช ทสมาสจฺจเยน ถ้วนทศมาสก็ประสูติพระราชกุมารี สรีเรน ชาตตฺตา ผิวพรรณฉวีวรรณพระองค์ประดุจหนึ่งทรงเฉลิมลูบด้วยแก่นจันทน์ญาติกุลา พระประยูรญาติทั้งหลายนั้นถวายพระนามชื่อว่าผุสดี ก็สมมูลปณิธีอันตั้งไว้ โสฬสวสฺกกาเล ครั้นพระชนม์ได้สิบหกปีก็ได้เป็นองค์เอกอัครมหิษี สมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยผู้เสวยสิริมไหศูรยราชวงศ์ เป็นจอมขัตติยพงศ์พิภพสีพี

สกฺโก เทวราชา ส่วนสมเด็จท้าวโกสีย์สหัสนัยน์เทวราช รำพึงถึงพระพรที่ประสาทพระผุสดี พระพรทั้งเก้านี้ก็สำเร็จแล้วยังแก่พระลูกแก้วที่พระนางเธอปรารถนา ควรอาตมาจะประสิทธิ์ให้ สนฺติกํ คนฺตฺวา ก็เสด็จครรไลไปสู่ทิพยวิมานอันเป็นวิวาสนสถานหน่อพุทธางกูล ครั้นถึงจึ่งบังคมทูลอาราธนาพร้อมด้วยเทพดาทั้งหกหมื่น ก็ชวนกันชมชื่นรับปฏิญาณ ส่วนพระโพธิสัตว์ก็จุติจากทิพยสถานพิมานมาศ ทรงเสวยปฏิสนธิชาติในครรภ์พระผุสดี พระนางเธอก็เปรมปรีดิ์ทุกเวลา สพฺเพ เทวคณา ฝ่ายฝูงเทพดาทั้งนั้นก็จุติจากสวรรค์พิมานมาศ ลงสู่ครรภ์ภริยาอำมาตย์ทั้งหกหมื่น ก็พร้อมกันวันคืนทุกเวลาด้วยหน่อพระศาสดาเจ้านั้นแล

สา ผุสฺสตี อันว่าสมเด็จพระผุสดี ผู้เป็นจอมนารีราชวงศ์ ทส มาเส ธารยิตฺวา เมื่อพระนางเธอทรงพระครรภ์ถ้วนทศมาสปรารถนาจะประพาสชมพระนคร จึ่งทูลวอนพระภัสดา ท้าวเธอก็ทรงพระกรุณาให้ตกแต่งนคเรศเหมือนทิพยนิเวศน์สุราลัยมโหฬาร ให้ทรงสีวิกาญจนประดับเป็นสีแสงสุวรรณวาบวับระยับตา พร้อมไปด้วยตระกูลราชกัลยาแห่แหนเป็นขนัด มยุรธงชัยฉัตรพัดโบกบังแสงพระสุริยมาศ เสียงดุริยางคพิณพาทย์ ฆ้องกลองนฤนาทประโคมแห่เป็นคู่ ๆ ดูสะพรั่ง ปุรํ ปทกฺขิณํ ประทักษิณเวียนรอบพระพารา เวสฺสานํ วีถิยา ตามมรรคาถนนหลวงที่พ่อค้าทั้งปวงประชุมกันมิขาดได้ กมฺมชฺชวาตา จลึสุ ลมกัมมัชวาตประพาตผันทรงพระประชวรครรภ์ดูอนาถ ฝ่ายพระประยูรญาติแวดล้อมเป็นขนัด นางกษัตริย์ประสูติพระราชกุมารในสถานที่นั้นแล

ตโต จุตา สา ผุสฺสตี ฯ

มหาสตฺโต อันว่าพระบรมพุทธพงศ์โพธิญาณ เสด็จจากอุทรสถานพระมารดา อกฺขีนิ อุมฺมีเลตฺวา ลืมพระเนตรทั้งซ้ายขวาเหยียดพระกร จึ่งทูลวอรพระมารดาว่า อมฺม ข้าแต่พระแม่เจ้า ยํกิญฺจิ ธนํ ทรัพย์อันใดของเราที่บรรดามีพระลูกนี้จะบำเพ็ญทาน ได้ทรงฟังก็บันดาลอนาถนัก จึ่งส่งทรัพย์ให้แก่ลูกรักพันตำลึง จึ่งว่าถ้าพ่อพึงชอบใจฉันใดเจ้าจงให้ตามปรารถนา พระโพธิสัตว์ตรัสด้วยพระมารดาก็ปรากฏชาติเป็นมโหสถเวสสันดร กิตติศัพท์ก็ขจรกัมปนาท ครั้นเมื่อปัจฉิมชาติก็เหมือนกัน เป็นมหัศจรรย์จุฬาโลกเลิศพสุธา สพฺเพ ขตฺติยา ฝ่ายพระประยูรวงศาสโมสร นามํ กรึสุ จึงถวายนามชื่อว่าพระเวสสันดรเหตุประสูติกลางพระนครตรอกพ่อค้า เอกา กเรณุกา ยังมีนางกุญชรคชาชาติฉัททันต์เถื่อน เที่ยวอยู่ในกลางอากาศ ก็พาบุตรขาวบริสุทธิ์ดั่งไกลาสเลิศล้นมาไว้ในโรงช้างต้น เป็นมหามงคลบรมราชคชาสารก็คืนยังสถานวนาเวศ

สพฺเพ ชนา อันว่าประชาชนชาวพิชัยเขตอุตดรจึงให้ชื่อกุญชรปัจจัยนาเคนทร์ ควรจะเป็นศรีสงามพระนครเพราะเกิดเป็นปัจจัยแก่พระเวสสันดรมหาสมมุติวงศ์ ฝ่ายบรมพงศ์นราธิราชท้าวเธอก็ประสาทพระนม ทรงศรีสวัสดิ์อุดมเลิศลักษณนารี หกสิบสี่ล้วนสมบูรณ์ ประทานให้ประโลมเลี้ยงพระลูกเจ้าทุกเวลาชาตทารกา ถึงทารกที่เกิดพร้อมด้วยพระลูกรัก สมเด็จพระจอมปิ่นปักก็ประทานนางนมทั่วทุกตัวคน แล้วประทานเครื่องต้นอลังการสำหรับพระกุมารบรมราชวงศ์อันเลิศแล้วแต่ล้วนแก้วกาญจนมณี หน่อพระชินศรีโมลีโลกพระทัยนั้นปรารถนาจะข้ามโอฆสงสาร มิได้ย่อหย่อนที่จะบริจาคมหาทาน เมื่อพระชนมานได้สี่ห้าพระวรรษา โอมุญฺจิตฺวา จึ่งเปลื้องเครื่องปิลันธนาออกจากพระองค์ ทรงประสาทให้แก่พระนมกำนัลในถ้วนหน้าสิ้นวาระเก้าครั้ง ด้วยพระหฤทัยท้าวเธอหวังพระโพธิญาณในอนาคตกาล นั้นแล


โส โพธิสฺตโต สมเด็จพระบรมนราพิสุทธิ์พุทธางกูร เมื่อพระชนมานบริบูรณ์แปดพระพรรษา เสด็จสถิตแท่นบวรมหาไสยาอาสน์ปาสาทวรคโต ในปราสาทรัตนพิมานทอง จินฺเตสิ จึ่งทรงพระดำริโดยคลองพุทธภูมิภาค เพียงพระโพธิญาณว่าอาตมะบริจาคทานอลงกรณ์รัตนวิภูษิตประเสริฐก็เป็นพาหิระล้ำเลิศควรจะเลื่อมใส โกจิ ยาจโก ถ้าและว่ายาจกผู้ใดจะปรารถนาดวงหทัยเนื้อเลือดก็จะฉะเชือดให้เป็นทาน จะแลกเอาพระโพธิญาณอันยอดยิ่ง ครั้นพระองค์จำนงนิ่งจะให้อัชฌัตติกทาน อัศจรรย์ก็บันดาลบังเกิดมี มหาปฐวี อันว่าพื้นพระธรณีก็บันดาลกัมปนาท สิเนรุ ปพฺพตราชา ทั้งพญาเขาสิเนรุราชสัตปริภัณฑคิรี* เรียงดุจเอนเอียงล้มลู่ทลาย วิชฺชุลฺตา เสียงฟ้าประภาสสายสะเทือนสะท้านสกลพิภพหิมพานต์ก็บันลือพิลึกลั่น สัตว์จตุบาทก็ผาดผันแซ่ซ้องเสียงแผดร้องสะทกสะท้าน อากาศก็บันดาลเป็นเมฆหมอกมืดมัวทั่วสกลมหามงคลจักรวาล

สาคโร ทั้งสาครก็บันดาลเป็นระลอกคระโครมครึกกึกก้องโกลาหล ติมิงคล มัจฉาก็ดำด้นพ่นน้ำเป็นฝอยฟอง เหราลอยล่องฉวัดเฉวียนว่ายคล้าย ๆ ตามคลื่นฝืนฝัดมังกรสะบัดโบกหางวางวู่ฟูฟุ้งเข้าพิงผา มจฺฉกจฺฉปา เต่าปลาก็ดำโดดดิ้นเล่นกระแสสินธุ์สายสาคร ภุชงค์ชูเศียรสลอนตามกระแสชลพ่นน้ำเป็นฟองฝอย ช้างน้ำก็คะนองล่องลอยลองงวงและเงยงา สพฺพ เทวา ทั้งเทพเจ้าในชั้นฉกามาพจร* โสฬสพิมาน* ทุกอมรสถานเทเวศในขอบเขตขุนเขาทุกแหล่งหล้า ก็โปรยทิพยรัตนมาลาสุมณฑาธารร้องซ้องสาธุการอำนวยพร แก่พระเวสสันดรเจ้า นั้นแล

โพธิสตฺโต อันว่าพระบรมราชพุทธพงศ์ผู้ทรงญาณ ครั้นพระชนมานจำเริญรุ่นสิบหกปี ทรงลักษณราศีพร้อมมูลทั้งพระบารมีก็เพิ่มพูนผุดพุ่งดุจจันทรจำรัสรุ่งในนภา ทั้งพระปรีชาก็เชี่ยวชาญ สิปฺปานํ นิปฺผตฺติ รู้ศิลปศาสตร์สิบแปดประการ* ก็เสร็จสิ้น สญฺชโย สมเด็จพระเจ้ากรุงสญชัยนฤบดินทร์ปิ่นพิภพพสุธา พระทัยท้าวเธอปรารถนาจะมอบเวน ซึ่งสิริรัตนราเชนทร์แก่พระลูกรัก จะให้เป็นจอมปิ่นปักพระพารา มทฺทึ อาเนตฺวา จึ่งนำมาซึ่งพระมัทรีผู้ทรงศรีสวัสดิ์เลิศลักษณกัลยา เป็นตระกูลธิดามาตุลราชวงศ์ ท้าวเธอก็ทรงราชาภิเษก เป็นเอกองค์อัครมหิษี ประทานราชกุมารีกำนัล หมื่นหกพันพระองค์นาง พื้นสาวสาวสวัสดิสำอางเป็นอย่างยิ่ง แล้วมอบมิ่งมไหศวรรย์ ให้สืบศรีสุริยสันตติวงศ์ดำรงราชประเพณี ฝ่ายหน่อพระชินศรีเสวยสวัสดิโภคัยเป็นจอมฉัตรพิชัยสีพี

ทานํ ปวตฺเตสิ ท้าวเธอก็เปรมปรีดิ์ที่จะบริจาคทานมิได้ขาด จึ่งให้อำมาตย์ทำฉทานศาลา* ทานํ ปวตฺเตตฺวา ให้จัดแจงทั้งเงินทองเสื้อผ้าราชวัตถาศุภาภรณ์พรรณแพรม้วนมุ้งม่านสรรพภัณฑ์เครื่องดีอันมีค่า ตามแต่จะปรารถนาแล้วยกให้แก่ยาจกเข็ญใจทุกถ้วนหน้า ท้าวเธอทรงพระราชศรัทธามิรู้สิ้นดุจพื้นพระธรณินทร์อันหนานักเป็นที่บำรุงรักแก่ไพร่ฟ้า มทฺที สพฺพงฺคโสภนา ส่วนนางพระยามัทรีเจ้าก็ทรงพระครรภ์ อุทรนั้นมิได้คลาดเคลื่อนถ้วนสิบเดือนจึ่งประสูติพระลูกยา พระญาติวงศาได้รับด้วยข่ายทองอันบริสุทธิ์ จึ่งถวายนามพระราชบุตรชื่อว่าชาลี แล้วพระมัทรีเธอทรงพระครรภ์คำรบสอง ประสูตินางน้องราชธิดา พระญาติวงศาก็รับดด้วยหนังหมีถวายพระนามนุชราชบุตรีชื่อว่ากัณหาชินานาฏ

เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่าพระเวสสันดรบวรราชวงศ์ผู้ดำรงพิภพพสุธา ครั้นเพลาพระสุริยาอรุณรุ่งจำรัส บรมกษัตริย์เสด็จทรงมหามงคลรัตนวิภูษิตประเสริฐสถาพร ทรงพญาเศวตกุญชรพระที่นั่งอันเลิศแล้วประดับแก้วกาญจนมณีสลับแสงวะวาบวับระยับตา พร้อมด้วยสหชาติโยธาแห่ห้อม จอมกษัตริย์เสด็จยังโรงทานพระทัยท้าวเธอเกษมศานต์โสมนัสเปรมปรีดิ์ ทรงกุญชรหัสดีทอดพระเนตรทุกโรงทานศาลา ณ กาลนั้นแล

ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวร ปางเมื่อพระเวสสันดรทรงประสาทพญากุญชรราชพาหนะพระที่นั่งต้น ก็เกิดมหาวิจุรณจลาจลทั่วพิภพพสุธา เต พฺราหฺมณา พราหมณ์ทั้งหลายนั้นครั้นได้รับพระราชทานพญากุญชรคชสารศรี ก็ขึ้นขี่ออกจากกรุงพิชัยเชตอุตดร สพฺเพ นาครา ฝ่ายพวกประชาชนชาวพระนครสีพีก็กรูเกรียวเลี้ยวไล่ล้อมคลุกคลี สกัดหน้าและหลังแล้วร้องตวาดว่า โภนฺโต พฺราหฺมณา ดูก่อนพราหมณ์กลีเหล่ากลิงคราษฎร์วิสัย เออเอ็งไฉนจึ่งองอาจมาขับขี่คชสารศรีพระที่นั่งทรงสำหรับบรมวงศ์องค์กษัตริย์

เต พฺราหฺมณา พราหมณ์ที่ขับขี่คชสารได้ฟังอรรถก็เดือดดาล ตะคอกขู่ชาวพระนครว่า อยฺ นาโค ช้างตัวนี้พระเวสสันดรประสาทให้เออก็การอันใดจึ่งมาถาม เต ชนา ประชาชนครั้นทราบความว่าท้าวเธอประสาทให้ เทวตา วตฺตเนน กุทฺธา เทพเจ้าเข้าดลใจชาวพิชัยราษฎร์สีพีที่รักให้พิโรธร้าวราน เหตุท้าวเธอจะได้บำเพ็ญพระโพธิญาณอันยอดยาก บุตรทานบริจาคมหาทาน เนคมา ทั้งชาวนิคมคามเขตชนบท รถิกา ทั้งนายรถราชหัตถาจารย์ ทั้งเสนาทหารอันชาญเชิง ชาวพิชัยเชตอุตดร สมาคตา ก็สโมสรพร้อมกันหน้าพระลาน

อุปกาสึสุ ร้องอุปกาศสารแก่กรุงสญชัยปิตุราช ว่าข้าแต่พระบาทบพิตรผู้ผ่านพิภพสีพี ราชปุตฺโต บัดนี้พระเวสสันดรพระลูกเจ้ากระทำผิดราชกิจประเพณีแต่โบราณ นาคฺ ทชฺชา ให้พญาคชสารพระที่นั่งต้นเป็นมหามงคลอันล้นเลิศขาวประเสริฐดั่งเงินยวง พฺราหฺมณานํ แก่พราหมณ์ทั้งปวงอันมาขอ ไม่ควรที่จะยกยอประสาทให้ คชสารนี้ไซร้ควรจะไว้สำหรับประดับเมือง เมื่อพระเวสสันดรท้าวเธอกระทำให้แค้นเคืองถึงเพียงนี้ ถ้าพระองค์ทรงกำหนดว่าพระโอรสของพระองค์ดี กระหม่อมฉันเห็นว่าไพรีจะมีแก่พระองค์

ครั้นท้าวเธอได้ทรงฟังก็เดือดดาลประหนึ่งว่าเพลิงกาฬเข้าลามลน จึ่งตรัสแก่ประชาชนทุกถ้วนหน้า เวสฺสนฺตโร ราชา อันว่าพระลูกรักเรากระทำผิดราชกิจประเพณี กุญฺชรํ ทชฺชา ให้คชสารศรีสง่างามแก่พราหมณ์อันมาขอ ท่านจึ่งมายกข้อหยิบเอาโทษพาลพิโรธร้าวราน วิหญฺญเร เราจะประหารด้วยท่อนจันทน์และศัสตราหาควรไม่ ชนทั้งปวงจึ่งทูลว่าฉะนั้นไซร้ก็ควรจะเนรเทศบำราศจากนิเวศน์กรุงแก้ว จึ่งตรัสว่าเวลานี้ก็จวนแล้วยับยั้งก่อนพรุ่งนี้จะให้บทจรเสียจากบุรีมหานครสีพีนี้แล

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
อุฏฺเฐหิ กตฺเต ตรมาโน ฯ

ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลสังวรสิกขา สมเด็จพระบรมนราธิบดินทร์ปิ่นกษัตริย์ มีราชโองการตรัสประภาษสั่ง กตฺเต เหวยนายนักการใครนั่งอยู่ที่นั่น ตรมาโน จงรีบด่วนไปพลันทูลสารแก่พระลูกเรานั้นให้แจ้งเหตุ ปพฺพาเชสิ ว่าจะเนรเทศพระลูกเสียจากเมืองประชาชนเขาแค้นเคืองด้วยให้ช้างเป็นทาน ฝ่ายนายนักการก็รีบมาทูลเหตุแด่พระจอมปิ่นปกเกศนราราชว่า เทว ข้าแต่ละอองธุลีพระบาทผู้ทรงพระคุณอันเลิศแล้ว ทูลกระหม่อมแก้วจะจากจรด้วยชาวพระนครเขาขึ้งโกรธ ทั้งพระบิดาก็ทรงพระพิโรธด้วยช้างแก้วพระองค์ให้ไปเป็นทาน จึ่งตรัสใช้กระหม่อมฉานมาทูลเหตุสั่งให้เนรเทศเสียพรุ่งนี้

ขอฝ่าธุลีจงทราบพระญาณสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์ขัตติยวงศ์ทรงสดับสารอันนายนักการมากราบทูลโดยมูลเหตุ ว่าไพร่ฟ้าเขาจะเนรเทศไปสู่ป่า ท้าวเธอมิได้ท้อพระราชศรัทธาที่จะทำทาน จึ่งมีพระราชโองการตรัสว่า กึเม พาหิรกํ ธนํ อย่าว่าแต่เศวตคชาพาหิรกทานอัยยอดยากที่จะยกให้ ถ้าและมียาจกผู้ใด ๆ จะปรารถนาซึ่งพาหาหฤทัยนัยน์เนตรทั้งคู่ เราก็อาจจะเชือดชูออกบริจาคให้เป็นทาน จะแลกพระโพธิญาณในเบื้องหน้า อย่าว่าแต่จะต้องบัพพาชนียกรรมทำโทษ ถึงไพร่ฟ้าเขาจะพิโรธรอนรานประหารชีวิต เราก็มิได้คิดย่อท้อที่จะบำเพ็ญทาน

ครั้งนั้นเทพเจ้าบันดาลเข้าดลใจให้นายนักการทูลแนะตำแหน่งวนสถานคิรีวงกต จึ่งตรัสสั่งนายนักการให้ช่วยทูลงดสักสองราตรี แต่พอเราได้บำเพ็ญทานบารมีให้อิ่มศรัทธาแล้ว จะถวายบังคมลาทูลกระหม่อมแก้วจากพระนคร จะบุกป่าฝ่าดงดอนไปตามโทษ จงทรงพระกรุณาโปรดทุเลาก่อน ฝ่ายนายนักการชุลีกรแล้วก็รีบร้อนกลับมากราบทูลแด่นเรศูรนราราชบิตุรงค์ ส่วนสมเด็จบรมพงศ์พุทธางกูรเกศกษัตริย์ก็มีพระราชดำรัสสั่งเสนาบดี ให้ตระเตรียมโดยวิธีสัตสดกมหาทานพร้อมไปด้วยคชสารสินธพยานราชรถปรากฏด้วยนางกษัตริย์ ให้จัดตั้งทาสกรรมกรชายหญิงทั้งโคนมประสมสิ่งละเจ็ดร้อยทุกประการไว้ยังโรงทานสถาน นั้นแล

ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห
อามนฺตยิตฺถ ราชา นํ ฯ

ภิกฺขเว ดูกรสงฆ์ผู้ทรงศีลวิสุทธิญาณ ปางเมื่อสมเด็จพระจอมมกุฎผู้ผ่านพิภพสีพี ตรัสสั่งให้แต่งทานวิธีแล้วลีลาศยังปราสาทพระมัทรีศรีสุนทรลักษณ์เลิศกัลยา สยนปิฏฺเฐ นิสีทิตฺวา เสด็จนั่งเหนือบวรรัตนมหาสยนอาสน์ จึ่งมีพระราชโองการแก่พระยอดเยาวมาลย์มิ่งมหิษีว่า ยํ เต กิญฺจิ มยา ทินฺนํ อันว่าทรัพย์อันเป็นของของพี่ประสาทให้แก่เจ้า อนึ่งเล่าทรัพย์สมบัติอันพระน้องได้มาแต่สำนักมัททราชตระกูล นิทฺทเหยฺยาสิ เจ้าจงมั่วมูลฝังไว้จะได้เป็นมหานิธีขุมทองอันใหญ่ติดตามตน

พระมัทรีได้ทรงฟังก็ฉงนในพระบัญชา จึ่งทูลถามเสด็จพระภัสดาดวงกษัตริย์ ว่าทรงพระกรุณาจะให้ฝังสรรพสิริสมบัติไว้ในแห่งได จึ่งตรัสว่าเจ้าจงให้สรรพข้าวน้ำโภชนาหารวัตถาลังการอันอุดม แก่ท่านผู้ทรงศีลสมาธิพรหมจรรยา ก็จะเป็นมหาสุวรรณนิธีอันประเสริฐสิ่งอันอื่นจะล้ำเลิศกว่าทานนั้นมิได้

อนึ่งพระลูกรักสองสหายใจสุดสวาทเจ้าจงอย่าประมาทช่วยอภิบาลบำรุงรักษาทั้งองค์สมเด็จพระราชบิดามารดาของพี่ เจ้าจงภักดีปฏิบัติอย่าให้เคืองขัดพระอัธยาศัย อนึ่งถ้าและว่ากรุงกษัตริย์พระองค์ใดปรารถนาจะรับเจ้าไปเป็นอัครราชกัญญายอดนาง จงประกอบกิจสัจจางปฏิบัติอย่าให้เคืองขัดพระราชหฤทัย อย่าอาลัยถึงพี่อันจะบำราศรัตนบุรีไปอยู่ป่า เห็นชีวิตจะมรณาเสียเป็นมั่นคงในพนัสแดนดง นั้นแล

สมเด็จพระมัทรีศรีสุริยราชกัญญา ได้สดับสารพระภัสดาวันนั้นพรั่นพระทัย ทรงพระวิมัติสงสัยเคลือบแคลงแหนงใจพระราชโองการ จึ่งทูลสนองสารบรมกษัตริย์ว่าไฉนท้าวเธอมาตรัสฉะนี้จะเสด็จจรลีจากพระนครด้วยกิจธุระร้อนสิ่งอันใด ท้าวเธอจึ่งตรัสบอกโดยนัยคดีการ พระมัทรีทรงทราบสารจึ่งทูลสนองพระราชโองการพระราชสามีว่า นุ ไฉน ฉะนี้พระลูกเจ้าจึ่งไม่โปรดเกล้าข้ามัทรีมาตัดความไมตรีปราศจากประโยชน์

อภูต ปุพฺพํ แต่ก่อนก็มิได้เคยตรัสโปรดประภาษราโชวาทเหมือนครั้งนี้ ประหนึ่งว่าข้ามัทรีนี้หินชาติใช่เชื้อราชสุริยวงศ์ จะละให้พระองค์เสด็จผู้เดียวเปลี่ยวในกลางไพร เนส ธมฺโม อย่างธรรมเนียมที่ไหนพระพุทธเจ้าข้า กษัตริย์นี้หรือว่าจะเสด็จพระองค์เดียวดั่งนี้เล่า ถึงพระร่มเกล้าปกเกศเสด็จทุเรศไร้ราชสุริยวงศ์ จะบุกป่าฝ่าดงไปแห่งใดข้าพระบาทจะตามเสด็จไปไม่ขออยู่ จะเอาชีวิตและกายนี้ไปสู้สนองพระคุณกว่าจะสิ้นบุญข้ามัทรี ที่จะละพระราชสามีนั้นหามิได้

แม้จะตกไร้แสนกันดารจะบริโภคมูลผลาหารต่างโภชนา ก็จะสู้ทนทรมานหามาปฏิบัติพระองค์ ถึงแม้มาตรจะปลดปลงก็มิได้คิดจะเอาชีวิตนี้เป็นเกือกทองฉลองพระบาท แม้พระองค์มิทรงพระอนุญาตให้ตามเสด็จไป อคฺคึ อุชฺชาลยิตฺวาน ข้ามัทรีก็จะก่อไฟให้โรจน์โดดเข้าตายเห็นจะดีกว่าอยู่เป็นม่ายให้คนเขานินทา ว่ามีพระภัสดาแต่เมื่อยามสุขถึงเมื่อยามทุกข์สิไม่ทุกข์ด้วยดีแต่จะรื่นรวยอยู่ในบุรี

จะขอตามเสด็จจรลีไปสู้ยากเมื่อยามจน อนฺวติ หตฺถินี ดุจนางช้างต้นอันยุรยาตร ติดตามพญาราชกุญชร ทนฺตึ มีงาอันงามงอน เชสฺสนฺตํ อันสัญจรท่องเที่ยวไปในทุ่งท่าอันลุ่มลาด ก็ติดตามมิได้คลาดพญาคชสาร ยถา อันนี้แหละมีอาการฉันใดข้าบาทก็จะพาสองดรุณราชไปมิได้ห่าง ปจฺฉโต แต่เบื้องพระปฤษฎางค์พระร่มเกล้า มาตรว่ามีทุกข์เท่าถึงอันตราย จะวิ่งไปก่อนให้ตายต่างพระองค์ผู้ทรงพระคุณ ประกอบด้วยการุญแก่ข้าบริจาริกา

เมื่อพระมัทรีจะทูลพรรณนาป่าหิมพานต์ ก็กล่าวเป็นสารพระคาถาว่า

อิเม กุมาเร ปสฺสนฺโต ฯ

สา มทฺที ส่วนสมเด็จยอดพระเยาวมาลย์มมาศมัทรีศรีสุริยราชธิดา จึ่งทูลพรรณนาพนัสนาเวศประเทศหิมพานต์ดุจได้ทัศนาการแน่ถนัด ถวายบรมกษัตริย์ผู้เป็นภัสดาว่า เทว ข้าแต่บรมนราธิบดินทร์ปิ่นสกลอาณาจักรจอมพิภพสีพี ปางเมื่อพระองค์เสด็จจรลีประพาสในพนาวาสแดนดง สุณนฺโต จะได้ทรงฟังสองดรุณราชกุมาร ร้องรับขับขานประสานเสียงเสนาะในวนาศรม เมื่อยามรุกขชาติร่มเวลาเย็นจะแล่นเล่นในบริเวณพระอาศรมสถาน

ข้ามัทรีนี้จะเก็บกุสุมาลย์มากรองร้อยเป็นสายสร้อยสะอิ้งรัดสะเอวองค์สังวาลวงวิจิตรมาลัย ประดับสองดรุณหน่อไทน้อยนาถ สองดรุณเยาวราชก็จะลีลาศแล่นเล่นบันเทิงทุกเช้าค่ำ เจ้าจะฟ้อนรำสำราญจิตมิได้รู้ที่จะคิดถึงยามทุกข์ มีแต่เสวยสุขสนุกทุกเวลาท้าวเธอได้เห็นเป็นที่ปรีดาดวงกมลปลื้ม น สริสฺสริ พระทัยท้าวเธอก็จะหลงลืมรัตนราชัยมไหศูรยสมบัติ ทกฺขสิ มาตงฺคํ อนึ่งจะได้ทรงชมมหามหิทธิหัสดีเดี่ยวเดินโทนเที่ยวในกลางป่า ช้างสารที่เป็นคชคณาบดีดูพิลึก คำรนเสียงคระครึกมาภายหน้า เงยงวงงาร้องก้องโกญจนาทนำโขลงคลาดออกจากดง ได้ทอดพระเนตรเห็นก็จะเป็นที่พิศวงว่างวิตกถึงพระนคร

อุภโต วนวิกาเส สองขอบข้างทางบทจรลำเนาป่าเดียรดาษด้วยพาฬมฤคคณานิการ หมู่พยัคฆพญาไกรสรสรรพจตุบาทละมั่งมาศหมู่มฤคสุกร โคมหิงส์สิงโตตัวตัวคะนองลองเชิงระเริงร้องก้องคระครึกป่า ได้ทรงเห็นก็จะเป็นมหามหรสพเนตรจะบรรเทาที่ทุกข์เทเวษถวิลวัง ยทา โสสฺสสิ นิคฺโฆสํ แล้วจะได้ทรงฟังเสียงกระแสสินธุนทีอันตกลงมาแต่ยอดรัตนคิรีไหลหลั่ง

สายอุทกถั่งเป็นท่อแถวทั้งเสียงกินรีร้องจะเจื้อยแจ้วจำเรียงขับประสานเสียงสรงสนานชล บ้างก็จะฟ้อนบนชะง่อนผา โมรีหิ ปริกิณฺณํ จะได้ทรงชมพญาโมรมาศแวดล้อมด้วยหมู่นิกรคณานาฏนางยูงควรทัศนา พระองค์เห็นก็จะหรรษาโสมนัส น สริสฺสิ จะมิได้ระลึกถึงสมบัติบุรีรัมย์ เหมนฺเต ปางเมื่อน้ำค้างตกประพรมพื้นพสุธา หริตํ ทกฺเขสิ เมทนึ ควรที่จะทัศนาพื้นภูมิภาคปฐพีอันเดียรดาษด้วยหญ้าแพรกพรรณต่างสีซ้อนสลับสี่องคุลีสรรพเสมอกัน อินฺโคปกสญฺฉนฺนํ พื้นพรรณแมลงค่อมทองดูนี่ก็เรืองรองอร่ามงามระยับประเสริฐสรรพสรรพางค์ เที่ยวเล็มน้ำค้างบนปลายหญ้า

วณํ ทกฺขสิ ปุปฺผิตํ แล้วจะได้ทอดพระเนตรนานาพรรณหมู่ไม้ บ้างผลิดอกออกใบระบัดอ่อนกิ่งก้านอรชรดั่งชั้นฉัตร บ้างก็ทรงผลกำดัดสุกทราม บ้างก็ดิบห่ามระคนปนผกามาศ ที่บานแบ่งบุปผชาติน่าใคร่ชมเสาวคนธภิรมย์ระรวยรื่น ที่โรยก็ร่วงลงยังพื้นพสุธาหอบขจรตรลบป่า ปางเมื่อฤดูดอกเดียรดาษระดับดง ได้ทรงชมก็ละเลิงหลงลืมระลึกถึงพระนครอันเคยสุขสถาพร นั้นแล

สา มทฺที สมเด็จพระมัทรีศรีสุริยราชวงศ์ พระองค์เอกอัครประยูรยอดกษัตริย์มัททราชธิดา มีพระกมลเจตนาจำนงนึกตรึกถวิล จะตามเสด็จบรมรินทรราชประยูรสนองพระคุณโดยมูลปณิธานกตเวที จึ่งแนะแนววนาลีลำเนาเขตดุจได้เคยทอดพระเนตรจำแน่ถนัด ในตำแหน่งพนัสพนาเวศประเทศหิมพานต์ โดยพิสดารทูลถวายแด่พระราชสามี ดั่งพรรณนามาฉะนี้ แล้วแล


หิมวนฺตกณฺฑํ นิฏฺฐิตํ










Create Date : 24 สิงหาคม 2549
Last Update : 24 สิงหาคม 2549 21:23:15 น. 0 comments
Counter : 2703 Pageviews.

สายน้ำระริน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2549
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 สิงหาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สายน้ำระริน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.