ศาสนา เป็นองค์คุณอันสำคัญ
โดยช่วยให้ชีวิตนี้ มีความสดชื่น เยือกเย็น พอที่จะเป็นอยู่ ไม่ร้อนเป็นไฟ
เช่นเดียวกับน้ำ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง พฤกษาชาติ ให้สดชื่น งอกงาม ตลอดเวลา ฉันใดฉันนั้น
ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก




ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก (ต้นฉบับเดิม)

คาถายอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ต้นฉบับเดิม เปิดกรุได้ ที่เมืองสวรรคโลก มีคำกล่าว ในหนังสือนำว่า ผู้ใดมีไว้ประจำบ้าน - เรือน มีอานิสงส์ยิ่งกว่า ได้สร้างเจดีย์ทองคำสูงเทียมเทวโลก และป้องกันภยันตรายต่างๆ ทำมาหากินเจริญ ฯ

ผู้ใดสร้างไว้สวดมนต์ สักการะบูชาเป็นกุศลยิ่งใหญ่ และจะมีความสุขศิริสวัสดิ์เจริญต่อไป ทั้งปัจจุบันกาล อนาคต และภาย หน้า ภาคหน้า ด้วยอำนาจของความเคารพในพระคาถานี้

สร้างครบ 7 วัน ครบอายุ หมดเคราะห์โศกประการ ฯ

ประวัติกล่าวไว้ต้นฉบับเดิมว่า

หนังสือยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ มีคำกล่าวไว้ในหนังสือนำว่าศักดิ์สิทธิ์ ถ้าผู้ใดได้สวดมนต์ภาวนาทุกค่ำเช้าแล้ว ผู้นั้นจะไม่ ตกอบายภูมิ แม้ได้บูชาไว้กับบ้านเรือน ก็อาจป้องกันอันตรายต่างๆ จะภาวนาพระคาถาอื่นๆ สัก 100 ปีอานิสงส์ก็ไม่สูงเท่า ภาวนา พระคาถานี้ ครั้งหนึ่งถึงแม้ว่า อินทร์ พรหม ยมยักษ์ ที่มี อิทธิฤทธ์ จะเนรมิต แผ่นอิฐ เป็นทองคำ ก่อเป็นพระเจดีย์ ตั้งแต่ มนุษยโลก สูงขึ้นไปจนถึง พรหมโลก อานิสงส์ ก็ยังไม่เท่า ภาวนา พระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ และ มีคำอธิบาย คุณความดี ไว้ในต้นฉบับเดิม นั้นอีกหลายประการ ฯ

ต้นฉบับเดิม เปิดกรุได้ ที่เมืองสวรรคโลก จารเป็นอักษรขอม จารึกไว้ในใบลาน จึงแปล เป็นอักษรไทย หลวงธรรมาธิกรณ์ (พระภิกษุแสง) ได้มาแต่ ท่าฯศิลาอาสน์ มณฑล พิษณุโลก ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ ถ้าผู้ใด บริจาคทรัพย์ สร้างถวาย ภิกษุ สงฆ์ สามเณร ญาติ มิตรสหาย หรือสวดจนครบ 7 วันครบอายุปัจจุบันของตน จะบังเกิดโชคลาภทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง จะพ้นเคราะห์ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย และภัยพิบัติ ทั้งปวง









นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 ครั้ง)

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ

ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ

สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ, ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ


โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ,
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น พระองค์ใด เป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงกิเลส เพลิงทุกข์สิ้นแล้ว ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง,

สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม,
พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด ตรัสไว้ดีแล้ว

สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใด ปฏิบัติดีแล้ว

ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง
อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ,
ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอบูชาอย่างยิ่งซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ ด้วยเครื่องสักการะทั้งหลายเหล่านี้ อันยกขึ้นไว้ตามสมควรแล้วอย่างไร,

สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ,
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระผู้มีพระภาคเจ้าแม้ปรินิพพานนานแล้ว ทรงสร้างคุณอันสำเร็จประโยชน์ไว้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย

ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา,
ทรงมีพระหฤทัยอนุเคราะห์แก่พวกข้าพเจ้า อันเป็นชนรุ่นหลัง

อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ,
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงรับเครื่องสักการะ อันเป็นบรรณาธิการของคนยากทั้งหลายเหล่านี้

อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ ฯ
เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ข้าพเจ้าทั้งลาย ตลอดกาลนานเทอญ


อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะ สัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวมนุสสานัง พุทโธภะคะวาติ

สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตังเวทิตัพโพ วิญญูหิติ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทังจัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเนยโย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ







1. อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส

อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเองโดยชอบ


อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะสัมปันโน วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ

อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว

อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้รู้แจ้งโลก

2. อะระหังตัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

อะระหังตัง สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นพระอรหันต์ด้วยเศียรเกล้า

สัมมาสัมพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้ทรงตรัสรู้เองโดยชอบว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

สัมมาสัมพุทธัง สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบด้วยเศียรเกล้า

วิชชาจะระณะสัมปันนัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้พร้อมด้วยความรู้และความประพฤติว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ ด้วยเศียรเกล้า

สุคะตัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้เสด็จไปดีแล้วว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

สุคะตัง สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เสด็จ ไปดีแล้วด้วยเศียรเกล้า

โลกะวิทัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก ว่าเปป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

โลกะวิทัง สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้รู้แจ้งโลก ด้วยเศียรเกล้า

3. อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นอนุตตะโร คือ ยอดเยี่ยม

อิติปิ โส ภะคะวา ปุริสะธัมมะสาระถิ วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ

อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ วัจจะโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ตื่นจากกิเลส

4. อะนุตตะรัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

อะนุตตะรัง สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ยอดเยี่ยม ด้วยเศียรเกล้า

ปุริสะธัมมะสาระถิ สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้เป็นสารถีผู้ฝึกบุรุษว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

ปุริสะธัมมะสาระถิ สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษด้วยเศียรเกล้า

สัตถา เทวะมะนุสสานัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

สัตถา เทวะมะนุสสานัง สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ ด้วยเศียรเกล้า

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ข้าพเจ้า ขอถึงพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลสว่าเป็นที่พึ่งกำจัดภัยได้จริง

พุทธัง สิระสา นะมามิ
ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ตื่นจากกิเลสด้วยเศียรเกล้า

อิติปิ โส ภะคะวา








5. อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน อิติปิ โส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น รูปขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

อิติปิ โส ภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน อิติปิ โส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เวทนาขันธ์ เป็นอนิจจาลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

อิติปิ โส ภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สัญญาขันธ์ เป็นอนิจจาลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

อิติปิ โส ภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น สังขารขันธ์ เป็นอนิจจาลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว

อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมี จะ สัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น วิญญาณขันธ์ เป็นอนิจจลักษณะแต่พระบารมีถึงพร้อมแล้ว








6. อิติปิ โส ภะคะวา ปะถะวีจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือ ดินจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา และชั้นดาวดึงส์

อิติปิ โส ภะคะวา เตโชจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือ ไฟจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา และชั้นดาวดึงส์

อิติปิ โส ภะคะวา วาโยจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือ ลมจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา และชั้นดาวดึงส์

อิติปิ โส ภะคะวา อาโปจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือ น้ำจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา และชั้นดาวดึงส์

อิติปิ โส ภะคะวา อากาสะจักกะวาฬะ จาตุมะหาราชิกา ตาวะติงสา ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือ อากาศจักรวาล เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา และชั้นดาวดึงส์

7. อิติปิ โส ภะคะวา ยามาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือสวรรค์ชั้นยามา

อิติปิ โส ภะคะวา ตุสิตาธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือสวรรค์ชั้นดุสิต

อิติปิ โส ภะคะวา นิมมานะระติธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือ สวรรค์ชั้นนิมมานรดี


อิติปิ โส ภะคะวา กามาวะจะระธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุอันเป็นไปในกามาวจรภูมิ

8. อิติปิ โส ภะคะวา รูปาวะจะระธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุอันเป็นไปในรูปาวจรภูมิ

อิติปิ โส ภะคะวา ปะถะมะฌานะธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือปฐมฌาน


อิติปิ โส ภะคะวา ทุติยะฌานะธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือทุติยฌาน

อิติปิ โส ภะคะวา ตะติยะฌานะธาตุสัมมาทิยะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือตติยฌาน

อิติปิ โส ภะคะวา จะตุถะฌานะธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือจตุตถฌาน

อิติปิ โส ภะคะวา ปัญจะมะฌานะธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือปัญจมฌาน

9. อิติปิ โส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะเนวะสัญญานา สัญญายะตะนะอะรูปาวะจะระ ธาตุสัมมาธิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุอันเป็นในอรูปาวจรภูมิ คือ อากาสาสานัญ จายตนะและเนวสัญญา นาสัญญายตนะ

อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณัญจายะตะนะเนวะสัญญานา สัญญายะตะนะ อะรูปาวะจะระ ธาตุสัมมาทิยา นะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรม ที่เป็นธาตุอันเป็นไป ในอรูปวจรภูมิ คือ วิญญาณัญจายตนะ และเนวสัญญา นาสัญญายตนะ

อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะเนวะสัญญานา สัญญายะตะนะ อะรูปาวะจะระ ธาตุสัมมาทิยา นะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุอันเป็นในอรูปาวจรภูมิ คือ อากิญจัญญายตนะ และเนวสัญญานา สัญญายตนะ

10. อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปะฎิมัคคะธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือพระโสดาปัตติมรรค

อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาปะฎิมัคคะธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือพระสกิทาคามิมรรค

อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคาปะฎิมัคคะธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือพระอนาคามิมรรค

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะปะฏิมัคคะธาตุสัมมายานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือพระอรหัตตมรรค

11. อิติปิ โส ภะคะวา โสดาอะระหัตตะปะฎิผะละ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้า นั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือพระโสดาปัตติผล และพระอรหัตตผล

อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคาอะระสัตตะปะฎิผะละ ธาตุสัมมาทิยนานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือพระสกิทาคามิผล และพระอรหัตตผล

อิติปิ โส ภะคะวา อนาคาอะระหัตตะปะฎิผะละ ธาตุสัมมาทิยานะ สัมปันโน
พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ทรงถึงพร้อมด้วยธรรมที่เป็นธาตุคือพระอนาคามิผล และพระอรหัตตผล








12. กุสะละ ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

อิติปิ โส ภะคะวา พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น

อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ชมภูทิปัญจะอิสสะโร พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นอิสระแห่งชมภูทวีป

กุสะลา ธัมมา ธรรมฝ่ายกุศล

นะโม พุทธายะ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะโม ธัมมายะ ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า

นะโม สังฆายะ ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

ปัจจะ พุทธา นะมามิหัง ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าห้าพระองค์

อา ปา มะ จุ ปะ หัวใจพระวินัยปิฎก

ที มะ สัง อัง ขุ หัวใจพระสุตตันตปิฎก

สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ หัวใจพระอภิธรรมปิฎก

อุ ปะ สะ ชะ สุ เห ปา สา ยะ (มนต์คาถา)

โส โสสะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ หัวใจมรรคสี่ผลสี่นิพพานหนึ่ง

เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว หัวใจพระเจ้าสิบชาติแสดงการบำเพ็ญบารมีสิบ

อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ ภุ พะ หัวใจพระพุทธคุณเก้า (นวหรคุณ)

อิ สะวา สุ สุ สะวา อิ หัวใจพระไตรรัตนคุณ

กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

จิตติวิอัตถิ มีนัยวิจิตรพิสดาร








13. อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส

อะ อา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

สา โพธิ ปัญจะ อิสะโร ธัมมา (มนต์คาถา)

14. กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

นันทะวิวังโก (มนต์คาถา)

อิติ สัมมาสัมพุทโธ เป็นผู้ตรัสรู้เองโดยชอบแล้วแล

สุ คะ ลา โน ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

จาตุมะหาราชิกา เทวโลกชั้นจาตุมหาราชิกา

อิสสะโร อิสระ

กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

อิติ วิชชาจะระณะสัมปันโน พระองค์ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้และความประพฤติ

อุ อุ ยาวะ ชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ตาวะติงสา สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

อิสสะโร อิสระ

กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

นันทะ ปัญจะ สุคะโต โลกะวิทู พระพุทธเจ้า ผู้เสด็จไปดีแล้ว ผู้รู้แจ้งโลก

มะหาเอโอยาวะชีวังพุทธังสะระณังคัจฉามิ ข้าพจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

ยามา สวรรค์ชั้นยามา

อิสสะโร อิสระ

กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

พรหมมาสัททะ เสียงพรหม

ปัญจะ สัตตะ พระโพธิสัตว์ห้า

สัตตาปาระมี บารมีของพระโพธิสัตว์

อะนุตตะโร ยอดเยี่ยม

ยะมะกะขะ (มนต์คาถา)

ยาวะชีวัง พุทธังสะระณังคัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

15. ตุสิตา สวรรค์ชั้นดุสิต

อิสสะโร อิสระ

กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

ปุ ยะ ปะ กะ (มนต์คาถา)

ปุริสะธัมมะสาระถิ พระองค์ผู้เป็นนายสารถีผู้ฝึกบุรุษ

ยาวะชีวัง พุทธังสะระณังคัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

16. นิมมานะระติ สวรรค์ชั้นนิมมารดี

อิสสะโร อิสระ

กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

เหตุโปวะ (มนต์คาถา)

สัตถาเทวะมาะนุสสานัง พระองค์ผู้เป็นศาสดาขอเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

ตะถะยาวะชีวัง พุทธังสะระณังคัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

17. ปาระนิมิตตะ สวรรค์ชั้นปรนิมมิตตวสวัสดี

อิสสะโร อิสระ

กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

สังขาระขันโธ สังขารขันธ์

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ไม่เที่ยง เป็นทุกข็ มิใช่ตัวตนของเราจริง

รูปะขันโธ พุทธะปะผะ รูปชันธ์ของพระพุทธเจ้า

ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้า ขอถึงพระพุทธเจ้า ว่าเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต

18. พรหมมา พรหมโลก

อิสสะโร อิสระ

กุสะลา ธัมมา ธรรมะฝ่ายกุศล

นัจจิปัญจะยา วินะปัญจะ ภะคะวาตายาวะนิพพานัง สะระณังคัจฉามิ
ข้าพเจ้าขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่าเป็นที่พึ่ง ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

นะโมพุทธัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะโมธัมมัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า

นะโมสังฆัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

พุทธิลา โลกะลา กะระกะนา (มนต์คาถา)

เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด

หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ ฯ (มนต์คาถา)








19. นะโมพุทธัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะโมธัมมัสสะ ขอนอบน้อมแดพระธรรมเจ้า

นะโมสังฆัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ (มนต์คาถา)

อัตติ อัตติ มะยะสุ สุวัตถิโหนตุ ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด

หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ (มนต์คาถา)








20. อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง พรหมมะสาวัง
มะหาพรหมมะสาวัง จักกะวัตติสาวัง
มะหาจักกะวัตติสาวัง เทวาสาวัง
มะหาเทวาสาวัง อิสิสาวัง
มะหาอิสิสาวัง มุนีสาวัง
มะหามุนีสาวัง สัปปุริสาวัง
มะหาสัปปุริสาวัง พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธสาวัง
อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิทธิ วิชาธะรานังสาวัง
สัพพะโลกา
คาถาพระมหาทิพมนตร์

อิริยานังสาวัง เอเตนะสัจเจนะสุวัตถิโหตุฯ
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด

21. สาวังคุณณัง วะชะพะลังเตชังวิริยังสิทธิกัมมัง นิพพานนังโมกขังคุย หะกัง
(มนต์คาถา)

ถานัง สีลัง ปัญญานิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ตัปปัง สุขัง สิริรูปัง จะตุวิสะติเสนัง เอเตนะ สัจเจนะ
(มนต์คาถา) ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าเถิด

22. นะโม พุทธัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะโม ธัมมัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า

นะโม สังฆัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ มิใช่ตัวตน ของเราจริง

นะโม อิติปิ โส ภะคะวา ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

23. นะโม พุทธัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง

นะโม สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม ขอนอบน้อมพระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

24. นะโม ธัมมัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง

นะโม สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม ขอนอบน้อมพระธรรม อันพระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว

25. นะโม ธัมมัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วัญญาณะขันโธ
รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง

นะโม สุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ขอนอบน้อมพระสงฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ปฏิบัติดีแล้ว

26. นะโม สังฆัสสะ ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ
รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ วิญญาณขันธ์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง


นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ วาหะปะริตตัง
ขอนอบน้อมพระสงฆ์ สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ปฏิบัติดีแล้ว








27. นะโม พุทธายะ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

มะอะอุ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง

ยาวะ ตัสสะ หาโย (มนต์คาถา)

นะโม อุอะมะ ขอนอบน้อมพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง

อุ อะมะ อาวันทา ขอกราบไหว้พระพุทธ พระธรรม พระ สงฆ์

นะโม พุทธายะ ขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้า

นะ อะ กะ ติ นิ สะ ระ นะ (มนต์คาถา)

อา ระ ปะ ขุ ธัง มะ อะ อุ (มนต์คาถา)

ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มิใช่ตัวตนของเราจริง



























Create Date : 18 กรกฎาคม 2549
Last Update : 25 กรกฎาคม 2549 19:55:45 น. 0 comments
Counter : 1037 Pageviews.

สายน้ำระริน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
18 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สายน้ำระริน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.