[ ป า ย ] รั ก ฤ ๅ ผู ก พั น . . . ก็ เ จ็ บ ป ว ด เ ท่ า กั น # ๔ #
**คำเตือน**
เรื่องนี้ . . .
เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิง
ไม่เกี่ยวข้องกับ บุคล แต่อาจเกี่ยวพันกับสถานที่
หรือเหตุการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นในบรรณภิภพนี้
ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่านอย่างมากถึงมากที่สุด
ปล. เป็นเรื่องแต่งมิได้เกี่ยวข้องใด ๆ ต่อ เจ้าของบล๊อก
ต อ น ที่ ๔
Free TextEditor
ผมไม่รู้เหมือนกัน คนอื่น ๆ ถ้าเจอแบบผมจะทำอย่างไร มองไปทางไหนก็เห็นเงาครึ้มของปัญหาแทบทั้งนั้น ทั้งปัญหาของตัวเอง ปัญหาที่เกี่ยวพันกับคนรอบ ๆ ตัว ได้ยาพาราไปสองเม็ด สมองเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะที่พร้อมจะรับรู้รับฟังอะไร . . .
ผมมองดูนาฬิกา . . . เกือบสี่ทุ่ม
กินข้าวกับชัยตั้งแต่เที่ยง จนป่านนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลย อาจเพราะเรื่องของโก ทำให้เครียดเลยพาลไม่หิวก็เป็นได้ ผมว่าตอนผมอยู่มหาวิทยาลัย ผมสนุกกับเพื่อน ๆ วัยเดียวกัน มันไม่มีอะไรให้ต้องคิดนอกจากหน้าที่ของตัวเอง
หน้าที่เรียน . . .
. . . เรียนให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ . . .
แต่. . .
พอมาอยู่ที่นี่เมืองเล็ก ๆ ที่ห้อมล้อมด้วยขุนเขา ผมกลับเห็นปัญหามากมายสารพัด ปัญหาที่เหมือนกระจกส่องทาง มีทั้งปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคม . . .
ครอบครัว . . .
. . . ของคนที่ผมรัก
สังคม . . .
. . .การเติบโตของเมืองท่องเที่ยวที่ไร้การควบคุมจากการวางแผนที่ดี
การไหลบ่าของวัฒนธรรมตะวันตก . . . การกอดจูบ แสดงความรักของคนตะวันตก เริ่มกลายเป็นภาพที่ชินตาของผู้คน ภาพที่เด็กเล็กเด็กน้อยปิดตา แต่แอบมองตามง่ามนิ้ว
แล้ว . . . อนาคต
ผมได้แต่มองเมืองท่องเที่ยวกลางหุบเขาอย่างเงียบ ๆ อย่างน้อยที่สุด วิชาที่ผมเรียนมา มันทำให้ผมพอจะวิเคราะห์ การไหลบ่าของกระแสเงินตราได้ ผมไม่ขัดขืนการไหลบ่าของนักท่องเที่ยว เพราะรู้ดี ประเทศต้องการเงินตราเพื่อเข้ามากอบกู้ระบบเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่จากการดำเนินการที่ผิดพลาด . . .
คนทั้งประเทศไม่มีใครไม่รู้จัก . . . IMF
ปัญหาคนตกงาน . . . โรงงานปิดกิจการหนี เพราะทนแบกดอกเบี้ยจากการอ่อนลงของค่าเงินไม่ไหว ปัญหามหภาคที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่ปัญหาเล็ก ๆ ของครอบครัว เราสามารถที่จะป้องกันได้มิใช่หรือ
ปัญหาจุลภาค . . .
. . . เรื่องของโก
ผมเดินมาเรื่อย ๆ อากาศยามดึก ไม่ร้อน และค่อนข้างไปทางเย็นชื้น ๆ เสียด้วยซ้ำ เมืองกลางหุบเขาก็แบบนี้ กลางวันอากาศอบอ้าวหากกลางคืน . . . หนาว
คนที่นั่งเหม่อที่ร้านเดิม . . .
. . .โกเมศร์
มันยิ้มกว้างเมื่อเห็นผม พี่อาร์ม
ผมยิ้มให้โก แปลกจัง ที่วันนี้ผมไม่เจ็บปวดเหมือนคืนก่อนวันเกิด อาจเพราะเรื่องราวที่ผมรับรู้มาจากชัย มันทำให้ผมมองไปอีกขั้น
มันอาจมีห่วงผูกอยู่ . . .
. . . พันธะทางกาย . . .
ส่วน . . . หัวใจ
บางทีในหัวใจของมัน อาจยังไม่มีใคร มันยังอาจมีที่ว่าง ๆ สำหรับผมที่จะแทรกเข้าไปในหัวใจของมันก็ได้ ผมรักมัน รักอย่างคน ๆ นึงพึงจะรักใครสักคนได้ ผมแน่ใจ ในวันข้างหน้า ผมจะทำให้มันรักผมให้ได้
ผมเชื่อ . . .
. . . ความผูกพัน
เหมือนเกลียวเชือก แน่นเหนียว ยาวนาน ยากจะจะตัดได้ง่าย ๆ ความผูกพันมันค่อย ๆ สร้างจากหัวใจสู่หัวใจ
ผมเดินไปหามัน ผมมองบนโต๊ะ มีขวดปล่าวสองขวด กับอีกครึ่งขวดที่อยู่ในมือของโก มันกินเบียร์ด้วยเหรอ เพราะปกติมันจะไม่ค่อยกินของมึนเมาสักเท่าไหร่ ชีวิตของมันมีแต่งานเท่านั้นกระมังที่ผมเห็น
ไงไอ้เสือ มานั่งดวดเบียร์คนเดียว
เบื่อ ๆ อ่ะพี่ แล้วพี่มาเมื่อไหร่ ไม่โทรมาหาผมเล้ยยยย ปลายเสียงมันเหมือนคนน้อยใจ
มาถึงเมื่อเช้า ไม่โทรเพราะไม่มีตังค์ ผมปดมันทั้ง ๆ ที่ผมอยากโทรหามัน อยากคุยกับมัน แต่มันมีครอบครัวแล้ว มันไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยแบบที่ผ่านมา ผมจะโทรมาหามัน จะคุยกับมันเรื่องอะไร ถามมันเหรอว่า กับเมียเป็นไงบ้าง มันก็ไม่ใช่เรื่อง ผมขีดตัวเองเอาไว้ ด้วยรู้ดี อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเราห้ามกันไม่ได้หรอก ผมได้แต่ยิ้มให้มันอีกครั้ง
เบื่อไรนักหนา ชีวิตยังอีกยาวไกล ผมจ้องหน้ามันชัด ๆ มันเหมือนคนมีเรื่องคับอกคับใจ
ไม่รู้สิพี่ . . . มันบอกไม่ถูก
พี่ก็เคยเบื่อ เบื่อแบบหาสาเหตุไม่เจอ
แล้วพี่ทำไง . . . มันเลื่อนขวดเบียร์ที่เด็กเสิร์ฟเอามาวางหน้าผม
ก็นึกถึงคนที่เรารักมาก ๆ พ่อ แม่ บางทีเรายังมีอะไรอีกมากมายที่เรายังไม่ได้ทำ แต่พ่อแม่ เขาผ่านอะไรมามากกว่าเรา ถ้าท้อมาก ๆ จนอยากจะร้องก็เข้าไปกอดแม่เอาไว้ ทำบ่อย
พี่รักแม่มากสินะ
อืม
ผมก็รักแม่
งั้นที่บอกว่าเบื่อ ลองทำอะไรเพื่อแม่บ้างสิ บางทีเราอาจทำเรื่องหนักอกหนักใจให้แม่ แต่คนเป็นแม่เขาไม่พูดหรอกโก แม่ให้อภัยลูกได้เสมอ แม่รับสภาพลูกได้ ไม่ว่าลูกจะทำเลวมาขนาดไหน ทั้ง ๆ ที่บางที หัวใจแม่อาจย่อยยับแล้วที่ลูกทำไปแบบนั้น ผมมองหน้ามัน
มันหลบสายตา ที่ผมมองมัน . . .
ผมรู้ว่ามันเองก็รู้ว่าผมแอบด่ามันกลาย ๆ แต่การจะโน้มน้าวคนแบบมัน ต้องเอาคำพูดดี ๆ เข้าข่ม ผมรู้จักมัน จุดอ่อนของมันอยู่ที่มันรักแม่มัน การที่จะให้มันตัดสินใจทำอะไร ต้องพูดในแนวว่า แม่มันเจ็บปวดกับสิ่งที่มันกำลังกระทำ
มันนิ่งเงียบ . . .
ผมไม่เร่งมันหรอก ของแบบนี้ ถ้ามันไม่คิด มันไม่เงียบ สิ่งที่ผมพูดกับมัน แค่ส่วนน้อยนิดของความรักที่ป้าภามีให้มัน มันสัมผัสได้นะผมว่า แต่อยู่ที่ว่ามันจะตัดสินใจอย่างไรมากกว่า
คนเราทำผิดได้เสมอโก บางทีแค่คำขอโทษไม่พอหรอก เราอาจต้องทำความดีไถ่โทษ ผมยิ้ม ก่อนกระดกเบียร์เข้าปาก
พี่ว่าอย่างผมจะเรียนต่อได้มั้ย
ห๊า
ไม่ต้องทำท่าตกอกตกใจขนาดนั้นก็ได้พี่ ผมแค่อยากรู้ว่าผมจะเรียนต่อได้มั้ย
จะไม่ให้ผมตกใจได้อย่างไร สิ่งที่มันพูด ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ผมเคยคุยเรื่องเรียนต่อกับมัน แต่มันก็ทำเฉย แล้วจู่ ๆ มันกลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ผมก็ต้องประหลาดใจเป็นธรรมดา
แล้วจบไรมา
กศน.
สามหรือหก
สาม
อืม . . . น้อยจริง ๆ สำหรับคนที่จบแค่มอสาม นี่กรูจะจบตรีแร่ะ แต่มันเพิ่งจะเริ่มเรียน ก็ยังดีที่มันยังคิดที่จะเรียน ไม่มีใครสายเกินไปที่จะเรียนหรอก ความรู้มันอยู่รอบ ๆ ตัวเราตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราจะไขว่คว้ามันมาหรือเปล่า
จบสามก็ต่อ สี่ห้าหก หรือไม่ก็ ปวช. สายพาณิชย์ พวกบัญชี หรือการตลาด ไม่ก็สายเทคนิค ไฟฟ้า อิเลค โอ้ยเรียนได้เยอะแยะมากมาย อยู่ที่ว่าชอบอะไร ผมบอกมันเท่าที่ผมรู้
พี่ว่าผมเรียนต่อดีมั้ย
เรียนนะดีอยู่แล้ว แต่ . . . ผมมองหน้ามัน ปัญหาของคนมีครอบครัวแล้ว จะแก้อย่างไร ผมว่ามันก็คงรู้ในจุดนี้ดี
เมีย
ผมพยักหน้ารับ . . .
. . . มันเงียบ . . .
ปัญหาที่มันเป็นคนก่อขึ้นมาเอง ผมไม่รู้จะเริ่มยังไงเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่นี่น่าจะเป็นโอกาสดีที่ผมจะพูดกับมัน เพราะว่ามันเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน ปัญหาข้อนี้ มันคนเดียวที่จะแก้ได้ เพราะคนอื่น คงไม่มีใครแก้ให้มันได้
ผมชอบพวกเครื่องยนต์
ก็มีช่างกลโรงงานกับช่างยนต์
พี่ว่าผมเรียนดีมั้ย มันถามย้ำ
ผมยิ้ม มองหน้ามัน เหมือนเด็กที่ขอคำตัดสิน ดู ๆ ไปแล้ว มันก็ไม่ใช่คนที่มีความมั่นใจใน ตัวเองสักเท่าไหร่ อาจเพราะมันเป็นลูกคนเดียว ที่ครอบครัวไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ มันอาจเติมโตมาด้วยความรักของแม่ แต่เท่าที่ผมรู้ พ่อมันมีเมียน้อยมาแล้วเป็นสิบ แยกห้องนอนกับแม่มันนานแล้ว ด้วยเหตุนี้กระมัง ที่ทำให้มันติดผม
เพราะผมเป็นคนเดียวที่คอยแนะนำ คอยสอนมัน ให้คำปรึกษามันได้ . . .
มันไว้ใจผมเหมือนผมเป็นพี่แท้ ๆ ของมัน . . .
แต่ . . .
. . . ผมเลว . . .
รักมันมากกว่าน้อง . . . มากกว่าที่ผมควรจะรัก
แล้วแต่โก
พี่ มันมองหน้าผม ยิ้ม
คิดเอาเอง โตแล้ว อยากเรียนอะไร แต่ถ้าโกถามพี่ สี่ห้าหก ตัดทิ้งไปได้เลย เพราะ . . . ผมมองหน้ามัน
อะไรหรือพี่
อย่างแรก จบ กศน. มาฐานไม่แน่น ไปเรียนก็สู้คนอื่นลำบาก อย่างที่สอง อายุมากกว่าคนอื่น การปรับตัวเข้าหาเพื่อนที่อายุน้อยกว่า อาจจะทำให้อึดอัด ไม่ได้เรียนมาสองปีแล้วมิใช่หรือ
มันพยักหน้ารับในสิ่งที่ผมพูด . . .
ทีนี้เหลือแค่พาณิชย์กับช่างกล
พี่ว่าอย่างไหนดีกว่ากัน มันขาดความมั่นใจจริง ๆ ไม่อย่างนั้น มันคงตัดสินใจเองได้ไม่ยาก ในเมื่อตัวมันเองก็รู้อยู่แล้วว่ามันชอบอะไร
พาณิชย์ ผมมองหน้า
ผมไม่ถนัดบัญชี ทำไมต้องพาณิชย์
ก็ บ้านของโกมีกิจการ แล้วแม่ไม่รู้หนังสือ พ่อไม่เคยสนใจกิจการ แล้วเมืองท่องเที่ยวมันโตขึ้นทุกวัน คนที่มีความรู้จบมาก็บริหารงานได้ คนที่ไม่มีความรู้จะสู้คนอื่นได้อย่างไรกัน ถ้าโกเรียนสายพาณิชย์ อย่างน้อยจบมาก็บริหารกิจการที่พ่อแม่ทำเอาไว้ได้
ผมเชื่อ . . . ทุนใหญ่กลืนทุนเล็ก
ไม่ช้าไม่นาน เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ก็จะโดนกลืนโดยทุนใหญ่ เช่นเดียวกับเมืองท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งในเมืองไทย เพราะระบบปฏิบัติ หรือโมเดลทางธุรกิจเป็นมาแบบนี้ ไล่มาจาก ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา สมุย พะงัน เกาะเต่า
และอีกไม่ช้า . . . ปาย
ปายแบบอดีตจะไม่หลงเหลือความมีมนต์เสน่ห์อีกต่อไป อาจเหลือแค่มนต์ แต่ไร้เสน่ห์ เพราะกระแสทุนจะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คน
แต่ผมชอบเครื่องยนต์
งั้นก็จบ . . . รู้อยู่แล้วว่าชอบอะไร ก็ไม่ยาก
โก มาอีกแล้วนะ พี่คนนี้มาทีไร มาเที่ยวดึก ๆ กันทุกที ถามจริง ๆ เหอะ มีอะไรกันเหรอ เสียงพิฆาตของเมียมันดังมาจากข้างหลังผม
ผมจิ้ดขึ้นมาทันที . . . มีอะไรกันเหรอ
มันคงดูผมออกมั้งว่าผมแอบชอบผัวมัน . . .
ไอ้สิ่งเลวในตัวของผมกระตุ้นบอกตัวเอง คอยดูกูจะเอาผัวมึงไปเรียนต่อกับกูให้ได้ แล้วเมื่อถึงวันนั้น อย่ามานั่งโอดครวญ ผมไม่หันไปมองหน้าเขาหรอก เพราะผมคิดเสมอ ไม่ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับผู้หญิงแบบที่ชัยมันเล่า
เงียบไปเลย ไม่รู้อะไรอย่าพูด มันขึ้นเสียง
ทำไมเหรอ เห็นตูดดีกว่า . . .
มันหยาบเกินที่ผมจะรับได้ ถึงผมจะทะลึ่งตึงตังกับเพื่อนมากขนาดไหน แต่ผมไม่เคยเอ่ยถึงส่วนนั้น ไม่เคยด่าใครแบบนั้น ผมเชื่อ คนเรา หากมีการศึกษาพอ ควรรู้มารยาทในการเจรจา
ไปก่อนนะโก . . . ไว้คุยกันใหม่ดีกว่า บรรยากาศเริ่มมีกลิ่นว่ะ
พี่อาร์ม มันเรียก ผมยกมือห้ามมัน ก่อนหันไปมองเมียมันด้วยหางตา
เมียคอยมาคุม คอยมาคุ้ม คอยมาคุม ผมได้แต่ฮัมเพลง และดังมากพอที่คนแถวนั้นจะได้ยิน เพลงฮิตเพลงนี้ใช้การได้เสมอ
ผมเข้าใจดี . . .
. . . วันนี้ไม่ใช่วันของผม
หาก . . . ผมย้อนเวลาได้
ผมแน่ใจนะว่าผมยังคงทำแบบที่ผมทำ เพราผมมีเหตุผลในการรองรับการกระทำของตัวผมเองเสมอ คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจกับสิ่งที่ผมกระทำ แต่ผมรู้ว่าผมทำอะไรลงไป และผมแน่ใจว่า มันดีพอ ดีพอ . . . ในสายตาของผม
หรือ . . .
ในความเป็นจริงแล้ว ผมมันก็แค่คนที่เห็นแก่ตัวคนนึง คนที่อยากได้อยากมี อยากเอาชนะ ผมทำในสิ่งที่ผมคิดว่าดี โดยที่ผมไม่เคยถามคนที่เขามีส่วนกระทำเลยด้วยซ้ำว่าเขายินดีกับการกระทำของผมด้วยหรือไม่
ผมผิดใช่ไหม . . .
. . . ที่อยากอยู่ใกล้ ๆ คนที่ผมรัก
การที่ผมทำทุกอย่างเพื่อคนที่ผมรัก . . .
. . . ผมเลวใช่ไหม?
คำถามที่ผมเองไม่เคยพิจารณาให้ถี่ถ้วนมาก่อนเลยในเวลานั้น ผมรู้เพียงแต่ว่า โลกมันหมุนไปทุกวัน ความเจริญมันไหลบ่ามาอย่างรวดเร็ว แล้วสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันคือ . . . เงิน
คนไม่มีเงิน . . .
. . . อยู่บนโลกนี้ได้อย่างไร
แล้วหนทางที่จะได้เงินมาดำรงชีพ . . . การศึกษา
ผมไม่รู้นะ ผมรู้แค่ว่า คนที่ศึกษาน้อยมักตกเป็นเหยื่อของคนที่เก่งกว่า เพราะการศึกษาสอนให้คนคิดสลับซับซ้อน เหมือนผมไง . . .
. . . ผมรักโก
ผมอยากได้มันมาอยู่กับผม ทุกครั้งที่ผมคุยกับมัน ผมมักจะพูดถึงแต่อนาคต วันข้างหน้า จะลำบากขนาดไหน ถ้าเราไม่มีความรู้ เราต้องตกเป็นเหยื่อของคนที่มีความรู้ ภาพที่ผมวาดให้มันดูน่ากลัว . . .
มันจะกำจัดภาพนั้นได้ ก็ต่อเมื่อ . . .
. . . มันต้องเรียน . . .
เห็นมั้ย . . .
โดยแท้จริงแล้ว ผมอยากให้มันเรียนหรือผมอยากให้มันมาอยู่ใกล้ ๆ ผมกันแน่ ในเวลานั้นผมคิดว่า ผมอยากให้โกเรียน เรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่พอวันเวลาผ่านไป ผมมองย้อนกลับไปอีกครั้ง มองในสิ่งที่ผมกระทำลงไป สิ่งที่ผมเฝ้าบอก ผมอยากให้มันเรียนนั้น แท้จริงแล้วเป็นแบบนั้นหรือปล่าว แน่ใจใช่ไหมว่ามันไม่มีอะไรแอบแฝงอยู่
สิ่งที่แอบแฝงที่ผมมองไม่เห็นในเวลานั้น . . .
ผมยอมรับอย่างไม่อาย ทั้งสองอย่างที่ผมกล่าวมานั่นแหละ มันคือส่วนผสมที่ลงตัวนะ มันเรียนเพื่ออนาคตที่ดีของมัน แต่มันต้องแลกกับการตกเป็นเหยื่อของคนแบบผม
เหยื่อ ?
ในเวลานั้น . . .
มุมมองความรักของผมอาจจะแคบ
ผมอาจจะรักมาก และ รุนแรง อยากอยู่ใกล้คนที่ผมรัก อยากทำอะไรให้คนที่ผมรัก จับเขาปั้น แต่งแบบที่ผมอยากให้เป็น โดยที่ผมไม่มองสักนิดว่าเขาจะรู้สึกเช่นไร อะไรก็ตามที่ผมมองว่าดี ผมจะทำลงไป เพื่อให้โกมันได้เข้ามาเรียน
พี่อาร์ม พี่อาร์ม เสียงมันร้องเรียกผมจากหน้าห้อง ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาเปิดประตู
เข้ามาก่อน ผมทิ้งตัวลงไปบนที่นอนเช่นเดิม
มันเดินเข้ามาในห้องผม ทุกซอกทุกมุมในห้องมันคุ้นเคยดี เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่มันมา เวลามันว่างมันชอบมาฟังเพลงดูทีวีในห้องผมเป็นประจำอยู่แล้ว ผมได้แต่มองมันด้วยรอยยิ้ม ไม่เคยถือวิสาสะ ก้าวล้ำในตัวมันเลยสักครั้ง
จะเที่ยงแล้วพี่ ตื่นได้แล้ว มันมาดึงแขนผมให้ลุกจากเตียงเหมือนเด็ก ๆ ที่อ้อนอยากให้ผมพาออกไปเที่ยว
อีกหน่อย เมื่อคืนดึกมาก ผมไม่ได้ปด เพราะเมื่อแยกจากมันแล้ว ผมไปนั่งต่อที่ร้านอีกร้าน มันมีเรื่องให้ผมคิดมากมาย
ผมถามตัวเอง . . . รักโกมั้ย
. . . รัก . . .
. . . คือคำตอบ
รักแบบไหน ?
. . . อย่าถามได้มั้ย รักคือรัก ไม่อยากตอบ ไม่อยากรู้อะไรมากกว่านี้
เห็นมั้ย ผมมันคนขี้ขลาดมาแต่ไหนแต่ไร ผมไม่กล้าตอบ ผมกลัวหัวใจตัวเอง ทั้ง ๆ ที่ผมก็รู้นะ ตอนนี้ผมรักมันมาก มากกว่าความเป็นพี่เป็นน้องเสียอีก แต่ผมยังปฎิบัติตัวเช่นเดิม ผมกลัวด้วยมั้ง กลัวว่าหากผมบอกมันไปในตอนนี้
ผมเสียมันไปแน่ ๆ . . .
มันรับสภาพได้หรือ ในเมื่อมันมองผมเป็นพี่ชาย เป็นพี่ที่ดีของมัน แล้วจู่ ๆ หากผมเปลี่ยนสถานะ มันรับไม่ไหวหรอก แล้วมันอาจเดินหนีจากผมไปเลยก็เป็นได้ ผมจะทนได้หรือ ถ้ามันเดินจากผมไป
ผมโง่เอง . . . ที่ไม่บอกไปตั้งแต่วันนั้น
ผมปล่อยให้วันเวลามันร้อยถัก ผูกมัด พันแน่น เป็นความรักเต็มหัวใจ เป็นความผูกพันฝังลึก แล้วเมื่อถึงวันของการลาจาก . . .
ผมตัดสินใจแล้วพี่ ผมต้องไปเรียน มันลงมานอนใกล้ ๆ ผม เมื่อเห็นว่า ไม่สามารถดึงผมให้ลุกแบบที่มันต้องการได้
อืม ผมตอบรับมัน เพราะได้ยินไม่ชัด
ห๊า . . . ผมผงกคอดูมัน เมื่อสมองผมคิดทวนสิ่งที่มันบอก มันมีทั้งอารมณ์ดีใจ และตกใจคละเคล้ากันไป
ได้ยินไม่ผิดหรอกน่าพี่อาร์ม มันยิ้มกว้าง
อย่ามาทำเป็นเล่น
ผมพูดจริง ๆ นะพี่ ผมไม่เคยมั่นใจอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย
อะไรดลใจว่ะ
ความรักมั้งพี่ ผมมองหน้ามันอีก อดดีใจไม่ได้ มันรักผมหรือ มันถึงได้พูดกับผมแบบนี้
อย่ามาตลก
จริง ๆ พี่ ที่พี่ถามผมคราวก่อนโน้นจำได้มั้ย
ถามไรว่ะ ผมมองหน้ามัน พูดกันเป็นร้อยเรื่องใครจะไปจำได้หมด ผมน่ะมีเรื่องมาคุยกับมันได้ร้อยแปด แต่มันจะมีเรื่องคุยกับผมบ้างมั้ยนี่สิน่าคิด
ที่ถามว่า สิบปีข้างหน้าทำไร ห้าปีทำไรไง ผมคิดนะพี่ ผมคิดมาตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อคืน ผมถึงแน่ใจ ว่าผมต้องเรียนต่อ
อือ
อย่าทำเป็นเล่นไป การเรียนมันต้องใช้เงินเยอะนะ สงสารคนส่งด้วย
ผมรู้พี่ ผมถึงบอกพี่ไง ผมอยากเรียนต่อเพราะความรัก
จะบอกรักกรูเหรอ บอกมาตรง ๆ ก็ได้ ไม่ต้องอ้อมค้อมขนาดนั้นก็ได้ กรูนะรับได้ รอให้มรึงบอกรักมานานแร่ะ มรึงเฉไปเรื่อย . . . ไอ้ความคิดชั่ว ๆ ในหัวทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
พี่อยากให้ผมเรียน พี่คอยสอนผม พี่อาร์มรู้มั้ย ไม่เคยมีใครสอนผม บอกผม ให้ผมเรียนต่อเลย พ่อกับแม่ยิ่งแล้วใหญ่ ตามใจไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน จนพี่เข้ามาในชีวิตผม พี่พูดแต่เรื่องเรียน พูดจนผมต้องคิด มันพูดยาว ผมนอนตะแคงมองมองมัน มันนอนหงายมองเพดาน
ผมยิ้ม . . . อย่างน้อยสิ่งที่ผมพูด ก็เข้าไปอยู่ในความรู้สึกของมัน
ดีแล้วล่ะ
ผมรักแม่ . . . รักแม่นะพี่อาร์ม
สาดดดดดดดดดดดดดดด ไม่ช่กรู ที่แท้มรึงพูดมาทั้งหมดนี่มรึงรักแม่ เล่นเอาทำหัวใจกรูพองโตคับอกตั้งนาน
ดีมากเลยโกเมศวร์ ไม่มีใครรักและให้อภัยเราได้ทุกเรื่องเท่ากับพ่อ กับแม่หรอก ผมขานชื่อมันเต็ม ๆ ก่อนยิ้ม ยินดีกับมันด้วย
พี่อาร์ม . . . มันเรียกแล้วหันมานอนตะแคงมองหน้าผม จนผมหลบแทบไม่ทัน ไม่อยากให้มันรู้สายตาผมจ้องมองมันอยู่
หือ
แม่จะดีใจมั้ยถ้าผมเรียนต่อ
แน่นอนที่สุด ป้าภายินดีเป็นที่สุด ผมยิ้ม
แต่แม่ต้องหาเงินส่งผมอีก แววตามันกังวล
ก็ใช้ประหยัดสิ อีกอย่างกู้เรียนได้นี่ เดี๋ยวนี้มีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา มีทั้งค่าเทอมค่าหอ ค่ากิน เรียนจบค่อยใช้ทุนคืน
จริงดิ๊ ผมไม่เห็นรู้เรื่อเลย
ผมยิ้มเจือสงสารมัน นี่มันจะรู้อะไรบ้าง ชีวิตคนต่างจังหวัด มีอีกมากมายที่ข่าวสารเข้าไม่ถึง ผมยิ้มกับมันเอ็นดูในความไร้เดียงสาของมัน
จะเรียนไหน . . . เชียงใหม่เหรอ
ไม่รู้
หรือกรุงเทพฯ ผมดูหยั่งท่าทีมัน เห็นมันเงียบ
กรุงเทพฯ ก็ดีนะ สังคมมันกว้าง มีโรงเรียนเยอะ จะเรียนตอนไหนก็ได้ มีทั้งภาคเช้า ภาคค่ำ เสาร์อาทิตย์ สะดวกเวลาไหนก็เรียนเวลานั้น เคยเข้ากรุงเทพฯยัง
ครั้งเดียวเอง นานมากแล้วด้วย
เอางี้ เดี๋ยวหลังสงกรานต์พี่เข้ากรุงเทพฯ ไปกับพี่ก่อนมั้ย ลองไปดูว่าชอบมั้ย ถ้าชอบก็หาที่เรียน ถ้าไม่ชอบก็กลับมาเรียนเชียงใหม่
เอางั้นหรือพี่ กรุงเทพฯ ก็ดีนะ เชียงใหม่ใกล้บ้านเดี๋ยวพอไปเรียน ไป ๆ มา ๆ ไม่อยากกลับไปเรียนอีก กรุงเทพฯ ไกลดี ปิดเทอมค่อยกลับ พี่ว่าดีมั้ย มันถามผม ผมก็ต้องว่าดีสิครับ อยากอยู่ใกล้ ๆ มันอยู่แล้วนี่
แล้วแต่สิ โกเป็นคนเรียน
งั้นผมเลือกกรุงเทพฯ ดีกว่า ตอนนี้ผมรู้แล้ว ผมจะเรียนต่อที่ไหน เรียนอะไร เหลือแค่ มันทำหน้าเศร้า
อะไรเหรอ ผมนึกไปถึงเมียมัน ท่าทางมันจะยังมีห่วง
แม่
ทำไม ผมงง ไม่ใช่สิ่งที่ผมคิด
พี่พูดกับแม่ให้หน่อยนะ บอกแม่ว่าผมอยากเรียนต่อ ผมไม่กล้า นะพี่อาร์มมนะ พี่ไปพูดแม่ต้องยอมแน่ ๆ ช่วยผมนะพี่อาร์มนะ มันเขย่าแขนผมเหมือนเด็ก ๆ
นึกว่าเรื่องอะไร ได้สิ ผมยิ้ม ทุกอย่างมันลงตัวอยู่แล้ว
พี่อาร์มใจดีจัง ถ้าผมมีพี่แบบพี่อาร์มนะผมรักตายเลย
ผมยิ้ม หากหัวใจผมเศร้า
. . . ถ้าผมมีพี่แบบพี่อาร์มนะผมรักตายเลย . . .
เสียงนี้มันก้องอยู่ในหัวผม มันคอยเตือนให้ผมรู้ เส้นทางของผมและของมัน ไม่ใช่เส้นทางเดียวกัน
แล้ว . . .
ถ้ากรูไม่ใช่พี่มรึงนี่ มรึงรักกรูไม่ได้ใช่ไหม กรูก็เป็นแค่คนนอกสายเลือด ผมมองหน้ามัน รู้สึกวังเวงขึ้นมาจับใจ
เออ พี่อาร์ม ถ้าผมไปอยู่กรุงเทพฯ พี่จะมาหาผมมั้ย
มาสิ มาหาจนกว่าอาร์มไม่อยากเห็นพี่นั่นแหละ ผมรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ
หาก . . .
. . . มันต้องการผม
ผมจะอยู่เคียงข้างมัน . . .
. . . ไม่หนีหาย
แต่ . . .
ถ้ามันไม่ต้องการผมแล้ว ผมจะไม่รีรอที่จะเดินออกไปจากชีวิตของมัน จะไปให้ไกลสุดขอบฟ้า ไม่มีวันที่มันจะได้เจอหน้าผมอีกแน่ ๆ . . .
. . . ผมสัญญา
สัญญา . . .
มันจะไม่ได้เจอหน้าผมเด็ดขาดชั่วชีวิตของผม
ดูพูดเข้า เอ หรือผมจะไปอยู่กับพี่อาร์มดี ให้ผมไปอยู่ด้วยได้มั้ยพี่อาร์ม
ได้ . . . ก็ได้
เย้ ดีจริง ผมรักพี่จังพี่อาร์ม มันดีใจเหมือนเด็กได้ของถูกใจ มันโผมากอดผมเอาไว้
อ้อมแขนมันครั้งแรก . . .
ผมกอดมันตอบน้ำตาคลอเบ้า ก่อนไหลอาบร่องแก้มช้า ๆ ผมดีใจนะ ที่มันกอดผม แม้จะคนละแบบกับที่ผมต้องการ มันกอดผมเพราะมันคิดผมคือพี่ แล้วผมล่ะ เห็นมันเกินน้องมานานขนาดไหน อ้อมกอดแรกมันอบอุ่น แม้ไม่ใช่แบบที่ผมคิด
แต่ . . .
มันก็ชดเชยทดแทนกันได้มิใช่หรือ ?
Create Date : 10 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 10 ธันวาคม 2552 1:52:52 น. |
|
4 comments
|
Counter : 704 Pageviews. |
|
|