มิถุนายน 2558

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
กาแฟมีวิตามินและสารต้านอนุมลอิสระ ส่งผลดีต่อร่างกายอย่างไร
 
ชีวิตที่เร่งรีบของผู้คนในยุคปัจจุบัน ก่อนที่จะพุ่งตัวออกจากบ้าน มีบางคนดื่มกาแฟทดแทนอาหารเช้าเนื่องจากสะดวกและรวดเร็วแถมมีความกระชุ่มกระชวยอีกต่างหาก นอกจากความหอมกรุ่น อบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟ ยังเพิ่มความสุนทรีย์รื่นรมย์ในยามเช้าสำหรับหลายคนอีกด้วย


กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากเมล็ด ได้จาก ต้นกาแฟหรือเรียกว่า เมล็ดกาแฟ มีการปลูกต้นกาแฟมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย

เมล็ดกาแฟดิบ ( กาแฟที่ยังไม่ผ่านการคั่ว ) เป็นหนึ่งในสินค้าการเกษตรที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลก กาแฟมีส่วนประกอบสำคัญ คือ คาเฟอีน ซึ่งมีสรรพคุณชูกำลังในมนุษย์

สายพันธุ์ที่มีการปลูกโดยทั่วไปมากที่สุด ได้แก่ Coffea arabica ( กาแฟอะราบิก้า ) และ Coffea canephora ( กาแฟโรบัสต้า ) ซึ่งมีรสเข้มกว่า

สายพันธุ์ดังกล่าวมีความทนทานต่อเชื้อราสนิมใบกาแฟ ( Hemileia vastatrix ) ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

สายพันธุ์กาแฟทั้งคู่มีการปลูกในละตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปแอฟริกา เมื่อสุกแล้ว ผลดังกล่าวจะถูกเก็บรวบรวม นำไปผ่านกรรมวิธีและทำให้แห้ง หลังจากนั้น เมล็ดจะถูกคั่วในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับรสชาติที่ต้องการ และจะถูกบดและบ่มเพื่อผลิตกาแฟต่อไป

ปัจจุบันกาแฟเป็นเครื่องดื่มซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

การดื่มด่ำกับกาแฟคั่วบด เรียกว่า เอสเปรสโซ ( espresso ) หมายถึงกาแฟรสแก่และเข้ม ซึ่งมีวิธีการชงโดยใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด

espresso มาจากภาษาอิตาลี แปลว่า เร่งด่วน เอสเปรสโซเป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดในแถบประเทศยุโรปตอนใต้

มีหลายการศึกษาที่แสดงประโยชน์ของกาแฟ เรามาดูกันเลยนะคะ

ประโยชน์ของกาแฟ
1.ช่วยให้ผู้คนรู้สึกเหนื่อยน้อยลงและเพิ่มพลังงาน เนื่องจากมีสารกระตุ้นที่เรียกว่า คาเฟอีน

2.เพิ่มเผาผลาญไขมัน มีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า คาเฟอีนสามารถเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกายมากถึง 10% และเพิ่มอัตราการเผาผลาญ3-11%

3.คาเฟอีน สามารถเพิ่มระดับความตื่นเต้น ( อะดรีนาลิน คือ ฮอร์โมนที่ออกแบบมาเพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการออกแรงทางกายภาพ ) และปลดปล่อยกรดไขมันจากเนื้อเยื่อไขมัน จึงเป็นส่วนผสมที่สำคัญในอาหารเสริมหรือยาลดน้ำหนัก

4.กาแฟเป็นมากกว่าน้ำสีดำ โดยมีสารอาหารที่สำคัญดังต่อไปนี้
วิตามินบี2 ( riboflavin ) 11% ของ RDA
วิตามินบี5 ( pantothenic acid ) 6% ของ RDA
แมงกานีสและโพแทสเซียม ( manganese&potassium ) 3% ของ RDA
แมกนีเซียมและวิตามินบี3 ( magnesium&niacin ) 2%ของ RDA

5.กาแฟอาจลดความเสี่ยงของเบาหวานชนิดที่2 ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพประมาณ 300 ล้านคนทั่วโลก มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า คนที่ดื่มกาแฟส่วนใหญ่ 23-50% ลดความเสี่ยงโรคนี้

6.ป้องกันโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม

โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทที่พบมากที่สุดและเป็นสาเหตุของภาวะสมองเสื่อมทั่วโลก

โรคนี้มักจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป

โรคอัลไซเมอร์ ไม่มียารักษาให้หายเป็นปกติ เป็นแล้วเป็นเลย จนกว่าจะเสียชีวิต มีบางสิ่งที่จะป้องกันโรคนี้แต่เนิ่นๆคือ การเลือกรับประทานที่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง น้ำมันมะกอก อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป ฯลฯและการออกกำลังกายสม่ำเสมอ

แต่การดื่มกาแฟ ก็มีประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อ มีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า การดื่มกาแฟ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ลง 65%

7.คาเฟอีนอาจลดความเสี่ยงของพาร์กินสัน

โรคพาร์กินสัน เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบมากเป็นอันดับสองรองจากอัลไซเมอร์ เกิดจากการตายของเซลล์ประสาท สร้างโดยโดปามีนในสมอง

โรคนี้ไม่มีทางรักษาให้หายขาดเช่นเดียวกับอัลไซเมอร์

มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การดื่มกาแฟลดความเสี่ยง 32-60% แต่การดื่มกาแฟดีแคฟ ( decaf คือ กาแฟที่ลดระดับของคาเฟอีนให้เหลือน้อยที่สุด ) ไม่มีผลลดความเสี่ยงนี้

8.อาจมีผลในการป้องกันโรคตับ

โรคตับอักเสบหรือโรคไขมันพอกตับ เหล่านี้นานวันเข้าจะนำไปสู่สภาพที่เรียกว่า ตับแข็ง

มีการศึกษา พบว่า คนที่ดื่มกาแฟ 4 ถ้วยต่อวัน ลดความเสี่ยงโรคตับมากถึง 80%

9.กาแฟสามารถต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าและอาจลดความเสี่ยงการฆ่าตัวตาย

อาการซึมเศร้าเป็นโรคทางจิตอย่างรุนแรงที่ทำให้คุณภาพชีวิตลดลง
ในอเมริกามีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 4.1%

มีการศึกษาในประชากร 208,424 คน พบว่า ผู้ที่ดื่ม 4 ถ้วยต่อวัน ลดโอกาสการฆ่าตัวตาย 53%

10.มีความเสี่ยงต่ำของโรคมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งตับและมะเร็งลำไส้ใหญ่

โรคมะเร็งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตของคนทั่วโลก ทุกชาติทุกภาษา ไม่มีข้อยกเว้น โดยมะเร็งตับเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับสาม ในขณะที่โรคมะเร็งลำไส้เป็นอันดับที่สี่

มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การดื่มกาแฟ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งตับ 40%

มีการศึกษาในกลุ่มประชากรจำนวน 489,706 คน แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟ 4-5 ถ้วยต่อวัน ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

11.ไม่ก่อให้เกิดโรคหัวใจและอาจลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
การดื่มกาแฟสามารถเพิ่มความดันโลหิต 3-4 mm/hg เท่านั้น ในความเป็นจริง กาแฟจะก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิตเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป

ควรดื่มปริมาณ 2 ถ้วยต่อวัน จะสามารถป้องกันโรคหัวใจล้มเหลวได้

12.ช่วยลดอาการปวดศีรษะ เนื่องจากคาเฟอีนมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด ซึ่งเป็นผสมในยาแก้ปวดไมเกรนทุกยี่ห้อ ส่งผลให้หลอดเลือดที่ขยายตัวผิดปกติเกิดการหดตัวลงและทำให้อาการปวดศีรษะบรรเทาและหายไปในที่สุด

13.กาแฟเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระตามที่นักวิจัยในสหรัฐอเมริกาที่มหาวิทยาลัยสแครนตัน Jowinson Ph.D.ได้ศึกษาไว้













Create Date : 17 มิถุนายน 2558
Last Update : 17 มิถุนายน 2558 8:47:59 น.
Counter : 1304 Pageviews.

0 comments

แป้งปังปอนด์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?]



เริ่มเขียนblog 20ก.ค55
ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ






หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ


ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด




New Comments
MY VIP Friend