Bloggang.com : ไร้นาม : จำตัวเองได้

จำตัวเองได้

ก่อนเข้าเรื่อง ขอเกริ่นก่อนละกันนะคะ ว่าวันนี้ทำอะไรมาบ้าง :)

วันนี้ออกไปเดินเล่นที่ Central World (พอดีมีเพื่อนใจดีช่วยส่งข่าวมาว่ามีนิทรรศการน่าสนใจ) กับน้องชาย แต่เดินได้ไม่นาน น้องชายก็ป่วยขึ้นมา (ปวดท้อง) เลยรีบกลับกัน (ตอนแรกกะว่าถ้ามีเวลาเหลือจะไปแวะบ้านอารีย์ซักหน่อยระหว่างทางกลับ แต่ก็ไม่ได้แวะ เพราะเรื่องสุขภาพน้องสำคัญกว่า) ระหว่างทางนั่งรถ Taxi ก็นึกภาวนาในใจขอให้น้องหาย ประมาณว่าขอให้ผลบุญที่ทำมาช่วยให้น้องหายปวด (คือน้องชายไร้นามเคยผ่าตัดลำไส้มาก่อนด้วยโรคลำไส้กลืนกันเอง พอปวดท้องทีก็เลยน่าเป็นห่วง) พอกลับบ้านน้องก็ดูอาการดีขึ้น แต่ตอนนี้ต้องเฝ้าดูอาการไว้ก่อน

เข้าเรื่อง... ตั้งแต่เมื่อวานถึงวันนี้ตอนเช้านั่งอ่านหนังสือ "ใต้ร่มโพธิญาณ" ของหลวงพ่อชา พออ่านถึงบทสุดท้ายก็แอบนั่งร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร... ไม่ใช่ร้องไห้เพราะเสียใจ แต่ร้องไห้เพราะ "จำตัวเองได้"... ไร้นามแต่เดิมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ (หลายประเภท) และหนึ่งในนั้นคือหนังสือธรรมะ จำได้ว่าอ่านหนังสือธรรมะมาตั้งแต่เด็กๆ เริ่มจริงจังก็สมัยมัธยม จนตอนอยู่มหาวิทยาลัยปีสี่เคยไปสมัครขอเข้าค่ายไปปฏิบัติธรรมที่วัด แบบกินอยู่หนึ่งเดือนตอนปิดเทอมเลยทีเดียว (แต่ไม่ได้ไป เพราะอยู่ๆ ก็ป่วยหนัก <= ขนาดถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินก่อนไปซักหนึ่งอาทิตย์ซะงั้น)

ตอนเด็กๆ ไม่ได้รู้จักความทุกข์อะไร ช่วงนั้นก็ยังคบกับคุณแฟนคนแรกอยู่อย่างดี แต่เหมือนมีจริตที่ชอบทางนี้พอควรกระมัง แต่พอร่างกายป่วยหนักรักษาตัว แล้วต่อมาได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ และเลิกกันกับแฟนคนแรกด้วยเหตุผลธรรมดาคือเราไปกันไม่ได้ ช่วงนั้นก็ชีวิตวุ่นวายพอควรจนไม่ได้มีเวลามาศึกษาเรื่องของ "จิตใจ"... จนกระทั่งไร้นามได้มีโอกาสกลับมาเมืองไทยครั้งแรก (ตอนเรียนปริญญาเอกปีหนึ่ง) เพื่อมาตามหารุ่นพี่เคมบริดจ์คนหนึ่งที่คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำเสมอมา ที่บ้านพาไร้นามไป "ศาลาลุงชิน" และไร้นามก็ได้พบกับอาจารย์สอนเจริญสติ (คุณดังตฤณ)

กลับไปอังกฤษไร้นามก็ตั้ง web ลานธรรม เป็นหน้า default เอาไว้ (เปิดอ่านทุกวันเวลากลับจาก lab) แล้วก็ฝึกรู้ดูตน นั่ง/นอนสมาธิ ทุกคืน เวลาติดก็จะโทรศัพท์ทางไกลข้ามโลกไปคุยกับพี่ดังตฤณบ้าง ว่าติดอยู่ที่ตรงไหนอย่างไร (ซึ่งได้รับคำแนะนำที่ดีเรื่อยมา) สมัยนั้นไร้นามนอกจากจะเรียนและทำสมาคมนักเรียนไทยฯ แล้ว ว่างๆ ไร้นามก็จะไปช่วยสมาคมพุทธศาสนา (ของนักเรียนเคมบริดจ์ <= ไม่อยากจะบอกว่ามีแต่ฝรั่ง) ทำกิจกรรมต่างๆ เช่นจัดทริปไปวัดอมราวดีของพระอาจารย์สุเมโธ (ลูกศิษย์ฝรั่งองค์แรกของหลวงพ่อชา) ช่วงนั้นมีความสุขและสนุกกับการศึกษาหนังสือธรรมะภาษาอังกฤษ และปรัชญาต่างๆ รวมถึงของศาสนาอื่น (เช่นอ่าน Zen, Tao Te Jing, Bible, คัมภีร์อัลกุลอ่าน, รุไบยาต หรือแม้กระทั่งหนังสือจิตวิทยาของ Fraud)

เวลาผ่านไปรวดเร็วถึงสองปี โชคชะตา (หรือผลกรรม?) ไร้นามก็ได้พบกับแฟนคนที่สองและก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรีบปั่นงานให้จบปริญญาเอกให้ทัน ทำงาน ไปเรียนนิติฯ จนไร้นามลืมเลือนการ "ทำการบ้าน" (ปฏิบัติ) ไปเลย เนื่องจากแฟนคนใหม่ของไร้นามเป็นคนไม่ค่อยสนใจด้านนี้เท่าใดนัก และเวลาก็ผ่านมารวมห้า-หกปีได้กระมัง จนถึงเมื่อเดือนที่แล้วที่ได้เลิกขาดจากกันอย่างจริงจัง เนื่องจากไร้นามได้พบว่าเค้ามีผู้หญิงอีกคนที่คบขนานกันอยู่ (มานานแล้ว?) แล้วไร้นามก็เริ่มว่าง และหยิบหนังสือที่สะสมไว้ (คือสมัยก่อนคิดว่าจะอ่านก็เลยสะสมเอาไว้) กลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง... จุดประสงค์เดิมคือเป็นการ "หาอะไรทำ" เพื่อให้จิตไม่ฟุ้งซ่านมากเกินไปนัก...

หนังสือ "ใต้ร่มโพธิญาณ" เป็นอัตโนประวัติของหลวงพ่อชา สุภัทโท ที่อยากให้ทุกๆ คนได้อ่านเพราะสะท้อนถึงภาพของความเพียร กอปรกับคำสอนที่สร้างปัญญา มีคำพูดมากมายในหนังสือทีน่าประทับใจเช่น "ไม่ดีก็ให้มันตาย ไม่ตายก็ให้มันดี"... อ่านไปก็ทำให้ระลึกถึงตัวเองได้ ภาพเก่าๆ สมัยเป็นเด็กๆ ที่ชอบนั่งอ่านอัตโนประวัติพระอาจารย์ดังๆ หลายๆ ท่านเช่น หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ, หลวงพ่อพุธ ฐานิโย, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล, หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต, etc. และก็จำได้ว่าเด็กๆ ไร้นามมักจะสงสัยเสมอว่าทำไมเราต้องเกิดมาเป็นผู้หญิงนะ จำได้ว่ามักจะรู้สึกอยากเกิดเป็นผู้ชายจะได้บวชให้คุณแม่เกาะชายผ้าเหลืองได้ ฯลฯ

แต่นั่นแหล่ะ "กิเลส" มักจะล่อหลอกให้เราหลง จนบางทีก็ "ติดสุข" หรือออกนอกทิศนอกทางไปได้ง่ายๆ ฉันใดก็ฉันนั้น กว่าจะจำสภาวะจิตใจแต่เดิมของตัวเองได้ ก็เกือบสายไปเสียแล้ว... ครานี้ต้องขอขอบคุณพระอาจารย์อำนาจ โอภาโส ที่เทศน์เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา คำทีว่า "จิตคนเราแต่เดิมนั้นเป็นประภัสสร" (ท่านยกตัวอย่างเทียบกับแก้วใส ก่อนที่คนเราจะเอาอะไรๆ ไปใส่เข้าไป) สะท้อนก้องไปมาอยู่ในใจของไร้นามตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา...

Create Date : 22 มิถุนายน 2551

Last Update : 22 มิถุนายน 2551 18:09:01 น.

8 comments

Counter : 538 Pageviews.

เอามาฝากอีก 3 เล่มค่ะ

โดย: yummycake

วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:19:37:44 น.

โพสต์รูปไม่ได้ ฮือๆๆ

เอาเป็นว่าบอกชื่อให้นะคะ
1 ธรรมะ คือ ธรรมชาติ
2 ฝึกหัดจิต
3 หลวงพ่อชา คุยกับลูกหลาน

โดย: yummycake

วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:19:40:00 น.

มีแฟนก็อยากจะมีความสุข

เรียนก็อยากจะจบ

ทำงานก็อยากจะได้เงินเยอะๆ

กิเลสทั้งนั้น

กิเลส ใช่จะเลวร้ายทั้งหมด อยู่ที่ควบคุมให้อยู่ในกรอบ เป็นคนไม่มีกิเลส เป็นคนได้ยาก

ขอบคุณที่นำธรรมมาฝาก จ๊ะ

โดย: บ้าได้ถ้วย

วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:19:43:23 น.

อนุโมทนาจ้ะ...ธรรมะคุ้มครองนะ ^.^

โดย: Ja~ IP: 203.113.0.205 วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:23:28:35 น.

แวะมาอ่านค่ะ...
อนุโมทนาสาธุ ด้วยคนค่ะ ....

และก็แวะมาส่งเข้านอนค่ะ พักผ่อนมากๆ นะคะ
ตื่นมาจะได้สดชื่น สดใส นะคะ คุณไร้นาม

โดย: naragorn

วันที่: 22 มิถุนายน 2551 เวลา:23:57:09 น.

อื่มมม .... พอลองย้อนกลับขึ้นไปอ่านอย่างละเอียดอีกรอบ
มีชื่ออาจารย์ หลายท่านเลยค่ะ ที่คุณไร้นามเล่ามา
NaraGorn เคยได้ยินจากการแนะนำของเพื่อนๆ ทางธรรมะ
เมื่อประมาณ ช่วงเกือบสองปีมาแล้ว
เพราะในช่วงนั้นมีเรื่องราวสับสนอะไรนิดหน่อย
เลยเข้าหาทางธรรมะ เพื่อฝึกจิต ฝึกสติ อยากให้มีสมาธิอ่ะค่ะ

แต่ก็ยังไปไม่ถึงไหนเลยค่ะ (เพราะตัวเองไม่ได้ปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง แหะๆๆ )

ของคุณไร้นาม ทั้งอ่าน ทั้งปฎิบัติละเอียดจังค่ะ.....
ขอบคุณสำหรับเรื่องที่แบ่งปันค่ะ

~*~...ราตรีสวัสดิ์ค่ะ...~*~

โดย: naragorn

วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:0:26:18 น.

//gotoknow.org/blog/kelvin/189033

ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ :
เมื่อราวๆ ต้นปีนี้ พี่เพิ่งแปลหนังสือชื่อ Quantum and the Lotus เสร็จ ไอ้ Quantum อะไรนี่ก็แทนวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ ส่วน Lotus ก็แทนพุทธศาสนาน่ะครับ ตอนนี้กำลังผ่านตาบรรณาธิการอยู่

จะมาบอกว่าหนังสือเรื่อง Quantum and the Lotus ก็น่าอ่านนะครับ

//www.google.co.th/books?id=ZLUHAAAACAAJ&dq=editions:ISBN1400080797&hl=en

โดย: กวินทรากร

วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:18:42:14 น.

--- คุณ yummycake ---

ขอบคุณที่ให้รายชื่อหนังสือมาอีก 3 เล่มนะคะ (มีหนังสือให้ตามล่าหาอ่านแล้ว เย้ๆ)

--- คุณบ้าได้ถ้วย ---

จริงค่ะ บางทีกิเลสก็เป็นแรงผลักดัน
แต่คงต้องฝึกให้รู้ว่าเป็นกิเลส เวลาพลาด
จะได้พูดกับตัวเองได้ว่า 'ไม่เป็นไรนะ'

--- Ja~ ---

จ้า :)

--- คุณ naragorn ---

เออ... เป็น "ทั้งอ่าน" อย่างเดียวดีกว่าค่ะ ยังไม่ได้ปฏิบัติอะไรจริงจัง
ต้องขอบคุณ คุณ naragorn ที่มาอยู่เป็นเพื่อน เสมอๆ นะคะ

--- คุณกวินทรากร ---

หาอะไรดีๆ มาให้อ่านเรื่อยเลยนะคะ ช่วงนี้ใครแนะนำอะไรอ่านหมดนะเนี่ย
(หาอะไรทำอยู่เรื่อยๆ แก้ฟุ้งซ่าน)

โดย: ไร้นาม

วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:19:04:55 น.