วันนี้มาเขียนเล่าเรื่อง... การตามหาหนังสือเรื่องต่างๆ ของนักเขียนที่ไร้นามอยากจะบอกว่า "นี่ไงใช่เลย" คือ Isaac Asimov (นิยายแนว Science-Fiction)
เริ่มจากปี 1997 ไร้นามต้องไปฝึกงานที่อเมริกา (Silicon Valley) หลายเดือน ก่อนไปคุณหวานใจตอนนั้นส่งหนังสือมาให้สามเล่มบอกว่าให้เอาไปอ่านแก้เหงา... หนังสือเหล่านั้นคือ The Foundation Trilogy (ชุดสถาบันสถาปนา)
Foundation (1951)
Foundation and Empire (1952)
Second Foundation (1953)
ด้วยความที่เป็นคนอ่านหนังสือเร็วจึงอ่านทั้งสามเล่มจบในอาทิตย์แรกที่ไปฝึกงาน และใช้เวลาที่เหลือตามหาอีกสี่เล่มที่เหลือ... แรกๆ ก็ไปเดิน The borders แถวที่พักแล้วก็ได้
Prelude to Foundation (1988)
Forward the Foundation (1993)
แต่ก็หาที่เหลือไม่ได้ซักที จนไปเจอ
Foundation's Edge (1982)
ที่ร้านหนังสือเก่าบนถนน University Avenue (ย่านหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย Stanford << สมัยไปเตร็ดเตร่แถวนั้นบ่อยๆ เพราะอยากเข้าด้วยความที่มหาลัยสวยมาก)
แต่ก็หา Foundation Series เล่มสุดท้ายไม่เจอ... จนกระทั่งต้องกลับมาเมืองไทย, search บน net แล้วก็เจอ...
Foundation and Earth (1986)
ไม่ใช่จาก Amazon แต่จากร้านหนังสือมือสองร้านแรก จำได้ว่าค่าส่งแพงกว่าค่าหนังสืออีก แถมโอนเงินไปแต่โดนหลอกไม่ได้หนังสือ แต่ยังไม่เข็ด ก็ตามหาต่อไปจนเจอร้านที่สองโอนเงินไป แล้วเค้าก็ส่งมาให้อย่างดี ตอนได้หนังสือจำได้ว่าดีใจสุดๆ เพราะหายากมากในตอนนั้น (แต่สมัยนี้หาง่ายแล้ว เพราะเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ไปเดิน Asia Book สาขา Siam Paragon ก็เจอมันวางขายอยู่ปกใหม่เอี่ยมเลย)
นอกจากนี้ก็มีเล่มที่ขนมาจากอเมริกาอีก จากร้านหนังสือเก่าบ้าง ร้าน The Borders บ้าง Barnes and Nobels บ้างดังนี้
Fantastic Voyage I (1966)
The Gods Themselves (1972)
Nemesis (1989)
Gold
Magic
แล้วก็มาตามหาที่เมืองไทยต่อได้ดังนี้ (ส่วนใหญ่ได้จาก Asia Book ซึ่งสมัยก่อนต้องไปที่เพนเนนซูล่า หรือไม่ก็ร้านหนังสือต่างประเทศแถวๆ สีลม บางทีฟลุ๊กๆ ก็ได้จากดอกหญ้า)
ถ้าใครยังไม่เคยอ่าน ขอแนะนำแนวเบาๆ แบบ Robots Series ก่อน เป็นแนวนักสืบ... สนุกที่สุดที่อ่านก็คือ Foundation Series ที่นำเอาวิทยาศาสตร์ การเมือง จิตวิทยา ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ มาผสมกันจนต้องอึ้ง... รู้สึกทึ่ง Asimov ที่สุดก็คือ The God Themselves (แนว Abstract แปลกมากๆ)... ชอบไอเดียที่สุดก็ Fantastic Voyage Series แล้วก็ที่ร้องไห้เยอะที่สุดตอนอ่ารนคือ The Positronic Man (ถึงตอนนี้ยังไม่กล้าดู The Bicentennial Man ที่เค้าเอามาสร้างเป็นหนังเลยเพราะกลัวผิดหวัง << แต่ตอนดู I, Robot นี่ไม่ผิดหวังนะคะ เพราะตอนอ่านเฉยๆ เทียบกับ Asimov เรื่องอื่น พอดูเป็นหนังออกมาเลยรู้สึกว่าดี)
โดยเฉพาะที่ R. แดเนียล โลดแล่นอยู่ในหลายเรื่อง แล้วก็พบสายบางๆ แห่งความสัมพันธ์หลักเหตุผล (Three law of robotics + the zeroth law) ของนิยายแนวอาซิมอฟเนี่ยค่ะ เจ๋งที่สุดแล้ว
--- เป่าจิน ---
ตอนนั้นซื้ออะไรน้า... The End of Ethernity หรือเปล่าจำได้ว่าไปบังคับให้น้องแยมอ่านด้วย (อิอิ)
--- คุณฝันหวาน ---
เรื่องอ่านภาคภาษาอังกฤษไร้นามก็มีปัญหาค่ะ คือเรื่อง Lord of the rings หลับแล้วหลับอีก (ทั้งๆ ที่ชอบ) กว่าจะเข็นให้ตัวเองอ่านจบสามเล่มได้นี่เหนื่อยสุดๆ เลยค่ะ (เป็นเรื่องนึงในไม่กี่เรื่องที่รู้สึกว่าดูหนังมันส์กว่าเยอะ)
อืมมม ของ Asimov เหรอ เราเคยมีอยู่เล่มนึงนะ จำได้ว่าตอนนั้นได้เป็นหนังสือแถมมาจาก Asia Book สาขาสยาม ดิสคอฟเวอรี่ เรื่อง The End of Ethernity นี่แหละ แล้วก็ไม่เคยหยิบขึ้นมาอ่านเลย จนเอาไปแลกหนังสือวีรกรรมทำเพื่อเงิน เล่ม 3 กับเพื่อน แหะ แหะ
The End of Ethernity สนุกนะ (เริ่มยั่ว) เป็นเรื่องเกี่ยวกับกระแสเวลาหลายๆ กระแส แล้วก็... (ไม่บอก อิอิ) มาอ่านกะเราก็ได้ เล่มนี้ไม่มอมเท่าไหร่ (ไม่ใช่หนังสือเก่า)
ฝันดีครับ