Anne Boleyn เกิดเมื่อช่วงปี 1500 - 1509 แต่ตามประวัติศาสตร์ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเกิดในปีไหนกันแน่คะ
Anne Boleyn เกิดที่เมือง Blickling (Norfolk) ยุคนี้จะเรียกกันว่ายุค Tudor ค่ะ มีพี่สาวชื่อ Mary Boleyn และพี่ชายชื่อ George Boleyn เธอได้ใช้ ชีวิตตอนวัยเด็กอยู่ที่วังของ Archduchess Margaret จนกระทั่งเธออายุได้ 12 -13 ปี และเมื่อน้องสาวของ King Henry VIII ที่ 8 ชื่อ Mary ได้ถูกส่งไปแต่งงานกับ King Louis XII ของฝรั่งเศส แม่ของ Anne Boleyn เธอก็ได้ส่ง Anne Boleyn ตามไปเป็นนางข้าหลวงในวังที่ฝรั่งเศส ซึ่งพี่สาวของเธอ Mary Boleyn ได้ใช้ชีวิตเป็นนางข้าหลวงที่ฝรั่งเศสอยู่ก่อนแล้วแต่ เมื่อ King Louis เสียชีวิตลง Mary Boleyn ก็ได้ตามน้องสาวของ King Henry VIII ที่ 8 กลับมาเป็นนางข้าหลวงในวังที่อังกฤษ แต่ Anne Boleyn ก็ยังคงเป็นนางข้าหลวงของ Queen Claude ราชินีองค์ใหม่ของฝรั่งเศสต่อไปและใช้ชิวิตเป็นนางข้าหลวงไปอีก 6 - 7 ปี ในช่วงที่ Anne Boleyn ใช้ชีวิตอยู่ในวังที่ฝรั่งเศสเธอได้เรียนการพูดภาษาฝรั่งเศส ดนตรี โคลงกลอน และได้มีบทบาทการเปลี่ยนแปลงรสนิยมเสื้อผ้าในวังของฝรั่งเศส
Anne Boleyn ได้กลับมายังประเทศอังกฤษเมื่อปี1521 และได้เข้ามาเป็นนางข้าหลวงของ ราชินี Catherine of Aragon (ภรรยาคนแรกของ King Henry ที่ 8) อยากจะบอกว่า King Henry ที่ 8 มีภรรยาทั้งหมด 6 คนค่ะ ถูกตัดหัวไป 3 คนค่ะ
Anne Boleyn เป็นหญิงงามที่เรื่องชื่อมากในวัง ในยุคของ King Henry เธอได้รับการโหวตจากท่านฑูตว่าเป็นยิ่งงามที่สุดในโลก แต่ ซึ่งตามประวัติศาสตร์หญิงงามในยุค Tudor นั้น เธอมีความงามที่ตรงกันข้ามกับหญิงงามในยุค Tudor ที่กล่าวขานนั้นต้อง ผิวขาว ผมสีทอง ตาสีฟ้า แต่ Anne Boleyn มีผิวสีมะกอก ผมสีน้ำตาลเข้ม ตาสีน้ำตาลเข้ม เล่าถึงเรื่องส่วนตัวของเธอกันมาเยอะแล้วคะ มาฟังกันว่าเธอมีความสำคัญอย่างไรกันบ้างในประวัติศาสตร์อังกฤษกันดีกว่า
ตาม ประวัติศาสตร์แล้ว Mary Boleyn ซึ่งเป็นพี่สาวของเธอนั้นได้เป็นสนมลับของ King Henry ถึง 4 ปีและได้มีลูกถึง 2 คนด้วยกัน นั้นทำให้ครอบครัว Boleynหวัง ให้ Mary Boleyn ขึ้นตำแหน่งเป็นราชินีแทน ราชินี Catherine of Aragon ที่กำลังจะหมดอำนาจและไม่ได้ความรักจาก King Henry อีกต่อไป เหตุเพราะนางไม่สามารถมีลูกชายสืบทอดราชวงศ์ให้แก่ King Henry ได้คะ ด้วยเพราะอายุของนางมากกว่า King Henry หลายปี จริงๆแล้วด้วยเพราะนาง เคยเป็นภรรยาของพี่ชายที่เป็น King องศ์ก่อนที่เสียชีวิตไป แต่ King Henry ได้ไปหลงรักราชินีของพี่ชายและหลังจากที่พี่ชายเสียไป King Henry ก็ได้ Catherine of Aragon มาเป็นราชินีของตนหลังจากรับตำแหน่งพระราชาค่ะ แต่ ความพยายามของครอบครัว Boleyn นั้นดูเหมือนจะไม่เป็นผลสำเร็จ ถึงแม้ว่า Mary Boleyn ได้ให้กำเนิดบุตรชายด้วยแล้ว หลังจากนั้น King Henry ก็เริ่มเบื่อ Mary Boleyn เริ่มไปสนใจ Anne Boleyn ผู้เป็นน้องและ King Henry ได้ให้ Mary Boleyn ติดต่อน้องสาวของตนเองเพื่อเป็นสนมลับของตน King Henry ได้ Anne Boleyn เป็นสนมลับของตนอยู่ประมาณ 5 ปี ซึ่งทุกคนในวังก็คิดว่า King Henry ไม่น่าจะจริงจังกับ Anne Boleyn เหมือนพี่สาวของนาง แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นดังที่คาดไว้ เพระา King Henry ได้แอบแต่งงานอย่างลับๆกับ Anne Boleyn ในวันที่ 25 มกราคม 1533
หลัง จากนั้น 4 เดือน King Henry ได้ยกเลิกการแต่งงานระหว่าง ราชินี Catherine (ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องปกติของศาสนาศริสเตียน ที่ห้ามการหย่าร้าง) และในวันที่ 1 มิถุนายน 1533 Anne Boleyn ก็ได้ขึ้นเป็นราชินีของอังกฤษ King Henry ตั้งความหวังไว้ว่า Anne Boleyn จะมีบุตรชายมาให้ตน ในช่วงที่นางตั้งท้อง King Henry ก็ได้ตั้งชื่อบุตรชายเตรียมไว้ว่า Edward แต่ Anne Boleyn ได้คลอดบุตรเป็นหญิง นามว่า Princess Elizabeth หรือ ราชินี Elizabeth ที่ 1 ที่เราต่างรู้จักกันดี หลังจากนั้นเธอก็ตั้งท้องอีกครั้ง แต่เธอแท้งและเธอได้รับรู้ว่าเป็นบุตรชาย ทำให้ King Henry รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
ไม่นาน King Henry ได้เกิดไปหลงรักนางข้าหลวงส่วนตัวของ Anne Boleyn ชื่อว่า Jane Seymour หลังจากนั้นก็เกิดความวุ่นวายอย่างมากในช่วงที่นางเป็นราชินี นางมีศัตรูเกิดขึ้นมากมาย และ Cromwell ผู้นี้ก็มีความหวังที่ดึงนางลงจากตำแหน่งของการเป็นราชินี และนางก็ได้ ถูกข้อหาลอบฆ่า King Henry โดยร่วมมือกับผู้เกี่ยวข้องในวังอีกหลายคน แล้วยังกล่าวกันว่านางมีชู้เป็นข้ารับใช้หรือเป็นทหารส่วนตัว ซึ่งตามประวัติศาตร์แล้วนางเป็นหญิงที่เลื่องชื่อเรื่องความเจ้าชู้มากค่ะ นาง ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตในวันที่ 19 MAY 1536 โดยการตัดคอ ศพของนางถูกนำไปไว้ที่ Chapel of St. Peter แต่ไม่มีการจารึกนามของเธอลงบนโลงศพ หลังจากนั้นในยุคของ Queen Victoria ได้มีการลงนามชื่อของนางลงบนหินอ่อน
จนกระทั่งบัดนี้ได้มีคนเฝ้ายามในวัง ไม่ก็ที่ Tower of London ได้เห็นผีของนางอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะในวันที่ตรงกับวันที่เธอได้ถูกประหารและในช่วงปีใหม่ บ้างก็มักจะเห็นนางเดินถือหัวหน้าซีดด้วยความโศรกเศร้า บ้างก็เห็นนางเดินอยู่ในวังที่นางเคยใช้ชีวิตอยู่
นี่แหละค่ะนางคือ Anne Boleyn ดอกไม้อังกฤษแสนสวยที่เราต่างชื่นชอบกัน มีภาพวาดของนางมาฝากให้ชมกันด้วยนะคะ
แล้วจะแวะมาเยี่ยมค่ะ
ย่านาง