พระพิษณุโลกสองแคว
เมืองพระพิษณุโลกสองแคว
DIM do it myself
เฟินของผม
เที่ยวไป ถ่าย(รูป)ไป
สิงหาคม 2553
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
30 สิงหาคม 2553
เมืองพระพิษณุโลกสองแคว 2
เมืองพระพิษณุโลกสองแคว 2
เมืองพระพิษณุโลกสองแคว
เมืองพระพิษณุโลกสองแคว 2
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ศูนย์รวมศรัทธาแห่งนครสองแคว
เมื่อวานได้เกริ่นถึงชื่อในอดีตที่มากมายของเมืองพิษณุโลกไปแล้ว วันนี้ผมจะมาแจกแจงที่มาของแต่ละชื่อให้ทราบกัน เริ่มกันตั้งแต่สมัยสุโขทัยที่มีชื่อเมือง "สองแคว" และ "สรลวงสองแคว" ปรากฏอยู่บนศิลาจารึกอยู่หลายหลักชื่อ "สองแคว"นั้นมีที่มาจากลักษณะภูมิประเทศของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำ2สาย คือแม่น้ำน่านหรือแควใหญ่ ไหลผ่านด้านตะวันตก และแม่น้ำแควน้อยไหลผ่านด้านตะวันออกของเมือง จึงทำให้กลายเป็นเมืองที่มีแม่น้ำเป็นปราการธรรมชาติถึง2ด้าน จนสมัยอยุธยา ได้มีการขุดคูชักน้ำจากแม่น้ำน่านทางด้านเหนือเข้ามาใช้ในเมืองจนทำให้แม่น้ำไหลเปลี่ยนเส้นทาง คูน้ำได้ขยายใหญ่กลายเป็นแม่น้ำที่ไหลผ่ากลางเมืองดังเช่นในปัจจุบัน เป็นที่มาของสมญานามที่เรียกว่า"เมืองอกแตก"นั่นเอง ส่วนแม่น้ำแควน้อยก็เปลี่ยนเส้นทางไหลวกมาทางทิศตะวันตกมารวมกับแม่น้ำน่านที่ต.ปากโทกเหนือเมืองพิษณุโลกขึ้นไปประมาณ7ก.ม.
ส่วนชื่อ เมือง "สรลวงสองแคว" หรือ สระหลวง สองแคว นั้นปรากฏอยู่ในจารึกหลักที่2 วัดศรีชุม ที่กล่าวถึงพ่อขุนศรีนาวนำถมว่าได้ปกครองเมืองสระหลวง สองแคว และสุโขทัย ศรีสัชนาลัย จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าสระหลวง กับสองแควนั้นเป็นเมืองคู่แฝด เช่นเดียวกับสุโขทัย ศรีสัชนาลัย แม้กระทั่งในสมัยพ่อขุนรามคำแหง และสมัยพระมหาธรรมราชาลิไท ก็ยังปรากฏชื่อเรียก เมืองสระหลวง สองแคว อยู่ คูกับชื่อ สองแควที่ใช้เรียกมาแต่แรกสร้าง แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเมืองสระหลวงนั้นเป็นเมืองใดกันแน่
เมือง "ทวิสาขนคร" นั้น ปรากฏใน ตำนาน ชินกาลมาลีปรณ์ ใช้เรียกชื่อเมืองนี้ ซึ่ง ชื่อ "ทวิสาขนคร" ก็หมายถึงเมืองที่มีแม่น้ำ2สายนั่นเอง
เมืองโอฆบุรี เมืองจันทบูรณ์ ตามตำนานพงศาวดารเหนือนั้นกล่าวว่าพระศรีธรรมไตรปิฎกเจ้าเมืองเชียงแสนได้ส่งทหาร2นายคือ จ่านกร้อง(ชื่อโรงเรียนเก่าผมเอง)และจ่าการบุญ ไปสำรวจหาทำเลสร้างเมืองใหม่เพื่อที่จะให้พระโอรสไปครอง จนจ่าทั้งสองได้มาถึงที่นี่เห็นว่าเป็นชัยภูมิที่ดีจึงกลับไปกราบทูลให้เจ้าเมืองทรงทราบ พระองค์เห็นดีด้วยจึงสั่งให้จ่าทั่งสองลงไปคุมงานก่อสร้างเมืองใหม่จนสำเร็จ ทั้งสองแข่งกันสร้างเมืองใหม่ โดยจ่านกร้องสร้างเมืองโอฆบุรีฝั่งตะวันตก จ่าการบุญสร้างเมืองจันทบูรณ์ฝั่งตะวันออก เมื่อสร้างเสร็จ พระศรีธรรมไตรปิฎก ก็เสด็จลงมา โปรดให้สร้างวัดประจำเมืองให้หล่อพระพุทธรูป พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาดาขึ้น เป็นตำนานการสร้างพระพุทธชินราชนั่นเอง
จนมาถึงสมัยอยุธยา ได้ปรากฏชื่อ "เมืองชัยนาท" ใช้เรียกในสมัยที่เจ้าสามพระยามาเป็นอุปราชครองเมืองพิษณุโลก ซึ่งแต่เดิมเชื่อกันว่าเป็นจ.ชัยนาทในปัจจุบัน แต่ได้มีการสืบค้น ศึกษากันแน่ชัดแล้วว่า เมืองชัยนาท ที่เจ้าสามพระยามาครองนั้นคือเมืองพิษณุโลก ไม่ใช่ จ.ชัยนาทแต่อย่างใด
มาถึงสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระองค์ ได้ขึ้นมาครองเมืองพิษณุโลก เพื่อยันศึกจากล้านนา เมืองพิษณุโลกสมัยนั้นจึงกลายเป็นราชธานีควบคู่ไปกับกรุงศรีอยุธยายาวนานถึง 25 ปี ในสมัยดังกล่าวได้มีการสร้าง บูรณะปฏิสังขรณ์ วัดวาอารามมากมายพระราชวัง รวมถึงกำแพงเมืองให้สมกับที่เป็นราชธานีที่พระมหากษัตริย์ทรงประทับ ด้วยข้อมูลข้างต้นจึงมีข้อสันนิษฐานว่า ชื่อเมือง "สองแคว" ได้มีการเปลี่ยนให้เป็น "พิษณุโลก" ในสมัยของพระองค์
ส่วนชื่อ เมือง "พิษณุโลกสองแคว" กับ "พระพิษณุโลกสองแคว" นั้น ได้มีการเรียกกันในชั้นหลัง โดยนำชื่อสองแควมาเป็นชื่อสร้อย อาจจะเป็นเพราะความคุ้นเคยในชื่อเดิม จึงนำมาต่อท้ายชื่อที่ตั้งใหม่เพื่อจะได้ไม่สับสน ดังเช่นในภาพยนตร์เรื่อง สุริโยไท กับตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ที่เรียกเมืองพิษณุโลก ว่า เมืองพิษณุโลกสองแคว
เป็นไงครับแต่และชื่อ มีที่มาน่าสนใจมั้ย ผมว่าพิษณุโลกเป็นเมืองที่มีชื่อเรียก มากที่สุดในประเทศไทยแล้วมั้ง ถ้าใครทราบว่าจังหวัดไหนมีชื่อเรียกมากกว่านี้ก็มาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
ปล. เมื่อวานเป็นการทดลองทำบล็อกครั้งแรก แต่มีหลายคนสนใจเข้ามาอ่านด้วย ดีใจนะครับ(เรตติ้งดี)อิอิ...
ก็ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับ ยังมีเรื่องราวน่าสนใจอีกมากมายที่อยากจะเล่าให้ทุกคนฟัง
Create Date : 30 สิงหาคม 2553
Last Update : 30 สิงหาคม 2553 19:11:21 น.
3 comments
Counter : 8133 Pageviews.
Share
Tweet
ทักทายยามดึกจ้า^^
โดย:
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:21:12:46 น.
เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
โดย: คนพิ'โลก (
kim_tiger
) วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:21:36:31 น.
พิดโลกมีชื่อเรียกมากจริง ๆ
โดย:
ดอกฝิ่นในสายลมหนาว
วันที่: 2 กันยายน 2553 เวลา:6:19:03 น.
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
rabbot
Location :
พิษณุโลก Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ยินดีที่มาเยือน ผมจะพาทุกท่านทัศนาพระพิษณุโลกสองแควนคราในมุมมองใหม่
Webmaster - BlogGang
[Add rabbot's blog to your web]
Bloggang.com