เคยมีคนบอกว่าบนท้องฟ้านั้นไม่มีอะไรแน่นอน มีความแปรปรวนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอบางวันก็สดใส วันนี้แดดออก พรุ่งนี้ฝนก็อาจจะตก หากเปรียบกับมนุษย์ก็คงเหมือนกับความรู้สึกของเรา ที่บางวันมีความสุขเหลือเกิน แต่วันต่อมา เรากลับเศร้าหมองจนคิดไม่ออกว่าเคยมีความสุขมากขนาดไหนเมื่อความมืดปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า หลายครั้งที่เราได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ท้องฟ้าที่สดใสนั้นจะกลับมาอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน ไม่ว่าท้องฟ้าจะเป็นอย่างไรเราก็สามารถมีความสุขกับความแปรปรวนนั้นได้ วันที่ฝนตก เราอาจมีความสุขกับการเล่นน้ำฝนวันที่เหน็บหนาวเราอาจจะมีความสุขกับการได้รับประทานเครื่องดื่มร้อนๆหรือว่าที่ร้อนจนเหงื่อเต็มกาย เราก็ยังมีความสุขกับการได้ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ
ในวันที่เรารู้สึกเสียใจ ต่อให้ท้องฟ้าสวยงามขนาดไหนเราก็ไม่สามารถเห็นความงามของบนนั้นได้ เพราะเรามัวแต่อยู่กับความเสียใจของตัวเองโดยไม่สนใจว่าข้างบนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น แต่ในวันที่เรามีความสุขมีความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรัก ไม่ว่าท้องฟ้าจะเป็นสีอะไร มีฝน หรือพายุมากมายขนาดไหน เราก็ยังสามารถที่จะชื่นชม สามารถมองเห็นความมหัศจรรย์ของสิ่งที่เกิดขึ้นบนนั้นได้ เข้าใจถึงความไม่เคยหยุดนิ่งของธรรมชาติเปรียบเสมือนแต่ละช่วงอารมณ์ความรู้สึกของคนเรา ที่มีเสน่ห์ในตัวมันเอง เราแค่มองยิ้มรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และต้องหาเสน่ห์ของความรู้สึกนั้นให้ได้
เราไม่จำเป็นต้องผลักใสอารมณ์หรือความรู้สึกที่เราไม่ต้องการเพราะในบางครั้งมันก็เหมือนวันที่ฝนตก ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ ฝนตกได้ก็สามารถหยุดได้ท้องฟ้าที่มืดมิดก็สามารถกลับมาสว่างสดในได้เพียงแค่เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับวันที่ฝนตกให้ได้ ในวันที่ฝนตก ถนนลื่นพื้นแฉะ ไม่ได้ดั่งใจเรา แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เหล่าต้นไม้กำลังงอกเงยจิตใจเราก็เช่นกัน ในบางครั้งเราก็ต้องการความเศร้า ความโกรธ ความน้อยใจและความคิดถึง เพื่อเข้ามาสร้างความงอกเงยภายในจิตใจซึ่งในระหว่างนี้เราต้องเรียนรู้ที่จะไม่นำอารมณ์ดังกล่าวไปทำร้ายผู้อื่น เรายังคงต้องการสิ่งเหล่านี้เพื่อการเจริญเติบโตเช่นเดียวกับต้นไม้
Create Date : 10 ธันวาคม 2561 |
|
0 comments |
Last Update : 13 ธันวาคม 2561 22:19:42 น. |
Counter : 400 Pageviews. |
|
|
|