ไม่ขาดทุนก็เท่ากับชนะ
ไม่ขาดทุนก็เท่ากับชนะ จากหนังสือ The Perfect Speculator . ขอยกตัวอย่างง่ายๆ สมมุติเรามีเงินในบัญชีเพื่อใช้ในการเก็งกำไร $100,000 ต่อมาเราขาดทุนต่อเนื่องจนเหลือเงิน $66,666 ซึ่งหมายความว่าจากนี้ต่อไปเราต้องทำเงิน $33,333 เพื่อให้ทุนกลับไปเท่าเดิม ซึ่งการที่เราจะทำเงินจากที่มีอยู่ $66,666 ให้ได้กำไร $33,333 นั่นหมายความว่าต้องทำเงินให้ได้ถึง 50% เลยทีเดียว . จึงเป็นงานที่หนักมิใช่น้อยถ้าหากเราปล่อยให้ตัวเองขาดทุนไป 33% แล้วเพิ่งคิดจะเอาคืน เพราะสิ่งแรกที่เราต้องทำให้สำเร็จก่อนก็คือป้องกันไม่ให้ตัวเองขาดทุน!! แล้วจากนั้นก็ต้องพยายามทำกำไรสะสมให้ได้ถึง 50% ซึ่งบอกเลยว่ามันเป็นงานยักษ์หนักหนาสาหัสเอามากๆ . ในอีกด้าน, ถ้าราขาดทุนไปแค่ 5% เงินทุนก็จะลดจาก $100,000 เหลือ $95,000 จากนั้นแค่เราทำกำไรให้ได้ $5,000 จาก $95,000 ก็จะได้ทุนกลับมาเท่าเดิม ซึ่งมันง่ายกว่ากันเยอะเลย . การไม่ขาดทุน, มันช่วยให้คุณไม่เสียเวลาชีวิตไปกับความทุกข์ทรมาณ, ทำงานหนัก, เจ็บปวด และนอนไม่หลับ . แนวคิดพื้นฐานของการหยุดการขาดทุน แบ่งเป็นสองเป้าหมาย - เป้าหมายแรกคือการปกป้องเงินทุนของเรา ส่วนนี้ใครๆก็พูดถึงอยู่แล้ว - เป้าหมายที่สองสิ่งที่สำคัญมาก คือมันบ่งบอกว่าตัวเราคิดผิด เมื่อราคาหุ้นลงมาชนกับจุดหยุดขาดทุนหลายครั้งเข้า, มันเป็นการส่งสัญญาณจากตลาดว่าเราได้ตีความตลาดและทิศทางของราคาหุ้นผิด . การคิดไปเอง,เป็นความผิดพลาดที่มีราคาแสนแพงที่แม้แต่นักลงทุนแก่ประสบการณ์ก็ยังตกหลุมเดิมอยู่บ่อยๆ มันเป็นเรื่องง่ายที่จะหาเหตุผลเข้าข้างตนเองเพื่อยืนยันว่ามุมมองของเราถูกต้อง แต่ตลาดก็คือสิ่งที่ไม่มีใครสามารถบังคับมันได้ ตลาดเป็นเหมือนภาพลวงตา ใครบางคนคิดว่าเห็นน้ำในทะเลทราย-หากเขากระหายมากๆ ดังนั้นอย่าพยายามคิดเข้าข้างตัวเองจนลืมความจริง . ไม่ขาดทุนก็เหมือนกับได้ชัยชนะ เป็นเรื่องที่พูดง่าย แต่ทำยาก จึงไม่แปลกที่เราจะหานักเก็งกำไรที่ประสบสำเร็จยั่งยืนในตลาดได้น้อยเหลือเกิน
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2559 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2559 14:04:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 805 Pageviews. |
|
|