...ความรู้สามารถเรียนทันกันได้...
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2559
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 มิถุนายน 2559
 
All Blogs
 
เมื่อเกมเปลี่ยน



updated: 31 พ.ค. 2559 เวลา 21:30:00 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คอลัมน์ Market-Think โดย สรกล อดุลยานนท์

 

ผมเพิ่งได้สัมผัสรถเทสลาแบบ "ตัวจริง-เสียงจริง" เมื่อวันก่อน

"ตัวจริง" เพราะเป็นรถจริง ๆ ที่มีนักธุรกิจคนหนึ่งนำเข้ามาในเมืองไทย

เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาดก็เลยอยากรู้ว่า "เทสลา" นั้น ระบบการทำงานเป็นอย่างไร

วิธีการง่าย ๆ ก็คือ นำเข้ารถจากฮ่องกงมาทดลองใช้จริง

"ตัวจริง" ของรถสวยมากครับ

ส่วน "เสียงจริง" นั้น พูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำ

เพราะ "เทสลา" เสียงเงียบมากครับ

แทบไม่ได้ยินเสียงรถเลย

ความน่าสนใจของ "เทสลา" อยู่ที่เป็นรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานขับเคลื่อน

ไม่ได้ใช้น้ำมัน

และสามารถวิ่งได้ประมาณ 300 กว่ากิโลเมตร

รถยนต์ที่ใช้น้ำมันใช้ชิ้นส่วนประมาณ 2,000 ชิ้น

แต่ "เทสลา" ใช้ชิ้นส่วนแค่ 18 ชิ้น

จุดเปลี่ยนที่ทำให้โลกหันมาจับตามอง "รถยนต์ไฟฟ้า" อยู่ที่การผลิตแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง ในต้นทุนที่ต่ำลงเรื่อย ๆ

มีคนบอกว่า ตอนที่โลกเปลี่ยนจากใช้ "รถม้า" มาใช้ "รถยนต์"

บังเอิญ "รถยนต์" ที่ค้นคิดขึ้นมาเป็นรถที่ใช้น้ำมัน

กระแสทั้งหมดก็มุ่งไปที่เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน

ไม่มีใครสนใจ"แบตเตอรี่"

พัฒนาการของ "แบตเตอรี่" จึงช้า เพราะคนคิดแต่เรื่องเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน

แต่พอวันหนึ่งมีคนสนใจพัฒนา "รถยนต์ไฟฟ้า"

พัฒนาการเรื่อง "แบตเตอรี่" จึงเกิดขึ้น

"อีลอน มัสก์" คือ ผู้บุกเบิกเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ถามว่า บริษัทรถยนต์ทั้งหลายทำไมไม่มีใครคิดเรื่องนี้

ตอบง่าย ๆ ว่า เขาคงคิดอยู่แล้ว

ถ้า "โตโยต้า" ทำรถไฮบริดได้ ก็แสดงว่าเขาสนใจเรื่อง "รถไฟฟ้า"

เพราะ "ไฮบริด" คือ รถที่ผสมผสานระหว่างการใช้น้ำมันกับไฟฟ้า

เพียงแต่ผ่านเครื่องยนต์แบบเดิม

ที่มีชิ้นส่วน 2,000 ชิ้น

มีคนบอกว่า บางที "โตโยต้า" อาจจะคิดเสร็จแล้วก็ได้

เพียงแต่ว่าในทางธุรกิจ โมเดลธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า คือ หอกที่ทิ่มแทงตัวเอง

เพราะเป็นโมเดลที่ฆ่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

ถ้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเร็วมากเท่าไรธุรกิจเดิมก็ตายเร็วเท่านั้น

เรื่องอะไรเขาจะทำ

อย่าลืมว่าโครงสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นใหญ่โตมโหฬาร

ถ้า"รถยนต์ไฟฟ้า" ที่ใช้ชิ้นส่วน 18 ชิ้นมาเมื่อไร

พังกันเป็นแถบแน่นอน

ที่น่าจับตามองคือ ตอนนี้ "จีน" กำลังบุกธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอย่างหนัก

เพราะนี่คือ "โอกาส"

ถ้าสู้ในเกมเดิม คือ รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน

เขาคงสู้ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา หรือเยอรมันไม่ได้

แต่ถ้าเกมเปลี่ยน เกิดสนามใหม่คือ รถยนต์ไฟฟ้า

แบบนี้ทุกคนเท่าเทียมกัน

เพราะเริ่มต้นใหม่เหมือนกันหมด

กลายเป็นว่าใครที่มีธุรกิจเดิมใหญ่เท่าไรจะเสียเปรียบทันที

"ความใหญ่"ของธุรกิจเดิมคือ "จุดอ่อน"

เพราะไม่กล้าเปลี่ยน

กลัวจะเสียตลาดเดิม

แต่คนที่เริ่มต้นใหม่ ไม่มี "สัมภาระ" อะไร สามารถเดินหน้าได้เต็มที่

ไม่ใช่เพียงแค่ "จีน"

แต่หมายถึงกลุ่มธุรกิจที่มีเงินและเทคโนโลยีอย่างกูเกิล แอปเปิล หรือไมโครซอฟท์

เขาสามารถข้ามสายพันธุ์สู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้ทันที

ยิ่งเห็นกราฟตัวเลขต้นทุนแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว

ผมเชื่อว่าค่ายรถยนต์ในปัจจุบันคงเริ่มพลิกดูกรณีศึกษาที่คลาสสิกมากของวงการธุรกิจโลกเรื่องนี้

การล่มสลายของ"โกดัก" ครับ

ทำอย่างไรจะไม่เป็น "โกดัก" ของวงการรถยนต์


ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat





Create Date : 03 มิถุนายน 2559
Last Update : 3 มิถุนายน 2559 18:28:28 น. 0 comments
Counter : 737 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Querist
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add Querist's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.