Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
เทปบันทึกม้วนนั้น....(ต่อ)

เมื่อวานนั่งมองเทปม้วนนั้น แล้วทำใจอยู่สักพักพร้อมชั่งใจไปด้วยว่า จะเปิดฟังอีกดีไหม รู้ทั้งรู้ว่าคนที่พูดอัดเทปมาให้เหล่านั้น ใช่ใครที่ไหน เป็นพี่น้อง แม่และยาย ตลอดจนหลานๆ ที่เมืองไทยทั้งสิ้น

ตอนที่ได้ฟังเทปนี้เป็นครั้งแรกนั้น อยู่ที่อเมริกากำลังเรียนอยู่ อีกไม่นานจะกลับเมืองไทยแล้ว...

คิดไปแล้ว ความทรงจำสมัยเก่าๆ มันถูกรื้อฟื้นขึ้นมาไกลกว่า 10 ปี ว่าแล้วก็นั่งคิดถึงเรื่องเก่าๆ วัยเยาว์ คิดถึงแม่ตอนที่ตัดผมให้ทุกครั้ง น่าจะเป็นเพราะเป็นเพียงช่วงเวลาเดียวที่รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดแม่มากที่สุด

เนื่องจากในบรรดาพี่น้อง 6 คน ฉันเป็นคนเดียวที่อาผ่อหรือยายเป็นคนเลี้ยง ดูแลทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่าง เหมือนอย่างที่ฉันดูแลลูกของฉันในตอนนี้ ความผูกพันธ์ระหว่างฉันและยายจึงมีความพิเศษ เพราะยายเป็นทั้งแม่ที่มีความเข้มงวด และเป็นทั้งยายที่รักอย่างตามใจชนิดที่พี่น้องคนอื่นพาลหมั่นไส้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแอบซุกเงาะหรือลำไยเอาไว้ในตู้กับข้าวส่วนตัว ไม่ให้ใครกิน นอกจาก "อาพาธูของอาผ่อ" การแอบให้เงินครั้งละ 10-20 บาท เอาไว้ใช้ซื้อขนมที่อยากกิน

ก่อนนอนทุกคืน ฉันจะอ่านหนังสือให้อาผ่อฟัง ถ้าถามว่านิสัยรักการอ่านนี่ได้มาแต่หนใด เห็นทีว่าต้องตอบว่าอาผ่อเป็นแน่แท้ อาผ่อชอบฟังเรื่องที่ฉันอ่าน ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนหรือหนังสือความรู้รอบตัวต่างๆ
"อาผ่อม่ายล่ายเรียงหนังสือ อ่างม่ายออก ลื้ออ่างให้ฟังหน่อย"

ถึงอาผ่อไม่เคยเรียนหนังสือ แต่ก็ทำให้ฉันแปลกใจเป็นนิจ เพราะอาผ่อบวก-ลบ คูณ-หารเลขได้อย่างคล่องแคล่ว
"อาพาธูเรียงหนังสือให้เก่งๆ นะ อาผ่อตายไป ลื้อจะได้ไม่ลำบาก หางานทำได้ ดูสิ อย่างอาผ่อลังบากชิกหาย ชากนี้ หนังสือก็ไม่ล่ายเรียง ผัวก็ไม่ลี อาผ่อต้องหนีมาอยู่เมืองไทย เลี้ยงลูกคนเดียว ไปทำงานซักผ้า...ฯลฯ"

ทุกครั้งอาผ่อจะเล่าซ้ำๆ ซากๆ เรื่องชีวิตที่ผ่านมา และย้ำให้ตั้งใจเรียน ให้เลี้ยงตัวเองให้ได้ อย่าไปหวังพึ่งใคร
"พ่อแม่มี ไม่ใช่ตัวเองมี ลูกมี ผัวมี สู้ตัวเองมีเงินในกระเป๋าตัวเองไม่ได้ จำเอาไว้นะอาพาธู"

วันหนึ่งจำได้แม่นว่าฉันอยู่ ป. 4 อาผ่อถามว่าอยากทำอะไรเมื่อโตขึ้น ตอบไปว่า อยากเป็นครู อาผ่อบอกให้ตั้งใจเรียน จะเป็นครูต้องเรียนเก่งๆ
"อยากไปเรียนเมืองนอกด้วยนะ อาผ่อ จะมีหวังหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"อาพาธู...ลื้อนี่ใจร้ายนะ"
"ใจร้ายอะไร ก็หนูอยากเรียนให้สูงๆ ไง เป็นครูก็ต้องเก่งๆ ไม่ใช่หรือ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่า จะเป็นครูโรงเรียนประถมนี่ ต้องไปเรียนต่อเมืองนอกไหมนะ แต่หนูอยากไปเรียนเมืองนอกเลย เหมือนในละครไงอาผ่อ อย่างชายกลางน่ะ ก็กลับมาจากเมืองนอก"
"ใจร้ายจริงๆ อาผ่อเลี้ยงลื้อมา พอโตเลี้ยว ลื้อก็จะทิ้งอาผ่อไป ไม่คิกเลยนะว่าอาผ่อจะเสียใจไหม"
"ไปเรียน แล้วก็กลับมาไงอาผ่อ"
"อาผ่อก็แก่ตายไปแล้ว ลื้อจะล่ายมาดูตอนอาผ่อตายไหม"
"อาผ่อ ไม่พูดนะ ไม่เอา หนูไม่ชอบเลยว่า อาผ่อชอบพูดเรื่องตายๆ อยู่เรื่อย อย่างนี้ก็ไม่อยากไปเรียนแล้วนะ"

ถึงทุกวันนี้ ยังจำได้เสมอว่า "พธู ลื้อใจร้ายนะ"... ใครพูดคงไม่เสียใจ เท่ากับคนที่เรารักมากที่สุดเป็นคนพูด


ฉันเปิดกล่องเทป ตัดสินใจอยากฟังเนื้อหาข้างในที่พอจำได้เลือนลางว่า มีบุคคลหลายคนพูด จริงสิเกือบ 11 ปีแล้ว เทปคงยังไม่ยืดไปเสียก่อน

เสียงพี่สาวคนโตเป็นคนเริ่มพูด
"... วันนี้ วันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537 พวกเราอยู่ที่บ้านกัน เจ๊และน้องๆ อยากคุยกับพธู พวกเราคิดถึงพธูมากนะ อากาศหนาวไหม เป็นอย่างไรบ้าง ระวังสุขภาพด้วยนะ ยิ่งไม่สบายบ่อยอยู่ด้วย วันก่อนเขียนจดหมายไป แต่ไม่มีใครตอบ ย้ายบ้านหรือเปล่า..."
เสียงพูดชะงักไป พร้อมที่เสียงเด็กร้องกรี๊ดดังๆ ขึ้นมา และเสียงอึกทึกของคนรอบๆ ฟังไม่รู้เรื่องนัก

"...พธูได้ยินไหม นั่นเสียงน้องเพ้นท์ มันดื้อมากเลยนะ พูดก็ไม่ฟัง พวกเราทุกคนคิดถึงพธูนะ ไม่รู้ว่าที่เมืองนอกคนเขาอยู่กันอย่างไร เอาละ เดี๋ยวให้ทุกๆ คนมาพูดนะ เออ... นี่มาม้ากำลังผัดน้ำพริกอยู่ จะส่งไปให้พร้อมกับเทปนี่แหละ เอ้า... ใครจะพูดต่อ มาเร็วๆ เอาใครดี"
เสียงพี่สาวถามคนรอบข้าง ได้ยินน้องสาวบอกว่า "เอาอาผ่อ อาผ่อมาพูดเร็ว พูดกับพธูน่ะ คิดถึงไม่ใช่หรือ พูดเลย มาเร็วๆ"

"หา...อาราย อาพาธูกลับมาแล้วเรอะ อยู่ตรงไหน พูดอาราย"
ฉันกดปิดเทปทันที นั่นเป็นเสียงอาผ่อจริงๆ ฉันหยิบกระดาษทิชชูไม่ทัน น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมา อย่างชนิดที่ไม่ได้ร้องไห้แบบนี้มานานหลายปีแล้ว ถ้าไม่นับเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

"อย่าร้องไห้นะ อาพาธู ร้องมากๆ แล้วตามองไม่เห็นเหมือนอาผ่อนะ"
ตอนเด็กๆ ฉันขี้ร้องมาก อะไรๆ ก็ร้อง จะดีใจ เสียใจ ทุกๆ อารมณ์ถูกปลดปล่อยออกมาด้วยการร้องไห้ อาผ่อเป็นต้อหินมานานหลายสิบปี เจ้าตัวเล่าว่า ตั้งแต่แอบหนีสามีที่มีเมียน้อย หอบลูกน้อยวัย 2 ขวบขึ้นเรือล่องทะเลมาประเทศสิงคโปร์ แล้วเลยต่อมาประเทศไทยเข้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่อายุแค่ 24 ปีเท่านั้น แล้วร้องไห้ทุกวัน จนตาพร่าไปมองอะไรไม่ชัดนัก กว่าจะยอมไปหาหมอที่ศิริราชก็เมื่ออายุได้ 78 ปีแล้ว เมื่อมีหมอท่านหนึ่งบอกว่า จริงๆ ถ้าได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วก็น่าจะมองเห็นได้ ตอนนั้นตาข้างหนึ่งบอดมืดมิดไปอย่างใช้การไม่ได้แล้ว และด้วยความที่อายุมากแล้ว ตาอีกข้างก็มีต้อเล่นงานเช่นเดียวกัน ถ้ายอมรับการผ่าตัดเพื่อลอกเอาต้อออกก็จะพอเห็นเงาคนลางๆ ได้และจะได้พอช่วยตัวเองได้บ้าง... อาผ่อจึงยอมตกลงรับการผ่าตัด เพราะไม่ชอบที่จะเป็นภาระแก่ลูกหลานที่ต้องมาคอยพยุงเวลาเดินไปไหนมาไหน

แต่อาผ่อไม่เคยจำฉันไม่ได้ แม้เงาของฉันแต่ไกล อาผ่อก็รู้ว่า นี่คือหลานที่เลี้ยงมากับมือตั้งแต่อ้อนแต่ออก...

อาผ่อสามารถเดินเหินอย่างแข็งแรง จนอายุได้ 84 ปีที่ร่างกายเริ่มอ่อนแอจากความชราภาพ นอนเตียงนานมากขึ้น ในที่สุดเมื่อหกล้มกระดูกสะโพกหักได้รับการผ่าตัด อาผ่อไม่ได้เดินอีกเลย ต้องย้ายไปนอนพักที่โรงพยาบาล

ขณะนั้นฉันยังทำงานที่หาดใหญ่ ได้รับโทรศัพท์จากคนข้างบ้านบอกว่าให้รีบกลับบ้านทันที อาผ่ออาการหนักมาก หลานนั่งรถมารับที่สนามบิน ถามอะไรก็ไม่บอก บอกคนขับรถข้างบ้านที่อาสามารับว่าให้ไปที่โรงพยาบาลเลย หลานก็บอกว่าให้กลับบ้านก่อน

กลับถึงบ้าน ไม่มีใครอยู่ นอกจากพี่เลี้ยงเด็ก
"เจ๊ เจ๊ เดี๋ยวไปที่วัดเลยนะ เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ทุกคนอยู่ที่วัดแล้ว"


นั่งเขียนบันทึกนี้ไป ตัวเทปยังอยู่ในเครื่องเล่น ทำใจอีกสักพัก ว่าจะไปเปิดฟังต่อ...
"อาพาธู...ลื้อนี่ใจร้ายนะ... ลื้อจะล่ายมาดูตอนอาผ่อตายไหม"


Create Date : 08 กันยายน 2548
Last Update : 10 ตุลาคม 2548 22:35:13 น. 12 comments
Counter : 514 Pageviews.

 
เศร้าจัง แล้ว ก็คิดถึงตัวเองด้วย จะมีใครมาดูเราตอนนั้นหรือเปล่า คิดไปตามประสาคนอยู่คนเดียว เนาะ


โดย: พิพพ์ IP: 58.10.220.51 วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:19:15:05 น.  

 
อ่านแล้วคิดถึงแม่จัง วันที่จะเดินทางออกจากบ้านครั้งสุดท้าย แม่บอกว่า "แม่คงได้เห็นหน้าหนูครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะลูก หนูกลับมาอีกที แม่คงไม่อยู่แล้ว"

ตอนนั้นไม่ชอบเลยที่แม่พูดเป็นลาง ยังปลอบแม่ว่า เราต้องได้เจอกันอีกสิ..นะแม่นะ..แต่แล้วสิ่งที่แม่พูดก็เป็นความจริง..

เดี๋ยวนี้ได้แต่เจอแม่ในฝัน ฝันถึงแม่ทีไร ตื่นมาจะจำได้แม่นทุกที แต่เวลาตื่นถ้าคิดถึงแม่ทีไรก็อดที่จะร้องไห้ไม่ได้ทุกทีเหมือนกัน


โดย: Northernlife IP: 69.159.8.22 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:1:26:55 น.  

 
ชอบทุกเรื่องที่คุณพธูเขียน อ่านแล้วได้อารมณ์ตามเลยค่ะ
ได้ข้อคิด ได้ความรู้ ได้อะไรหลายๆอย่าง
ถ้าเข้าพันทิพ ต้องแวะมา update ที่นี่ด้วย
แฟนประจำ


โดย: Huiling IP: 202.5.83.52 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:14:58:04 น.  

 
หวัดดีครับ..

มาเยี่ยมครับผม..

อืม..น้ำเสียงของเรื่อง ดูเศร้า...แต่ได้คิดอะไรตามไปด้วยนะครับ..


โดย: กุมภีน วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:20:44:15 น.  

 
พี่พธูครับ
ทำไก่ร้องไห้อีกแล้วเหมือนกันนะครับ

คุณตาเพิ่งเสียไปเหมือนกันครับ
คุณตาอายุ 99 ปีแล้ว
ท่านจากไปเพราะชราภาพครับ
แต่จริงๆ แล้วก็มีเหตุเริ่มมาาหลังจากหกล้ม เพราะว่าหลังจากนั้นแล้วท่านก็ไม่ยอมเดินอีกเลย อาการก็แย่ลงไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีกระดูกหรืออะไรหักเลย

ไก่ไม่ได้กลับไปหาดใหญ่นานมากแล้ว สองปีเห็นจะได้
แม่โทรมาบอกว่าให้กลับไปหาเขาสักครั้ง
วันที่กลับไป เห็นท่านแล้วก็น้ำตาไหล ไก่อยู่ที่นั่นวันเดียวก็กลับมาทำงานกับเรียนต่อที่กรุงเทพอีก
ต่อมาอีกแค่สองวันก็ต้องกลับไปงานศพท่าน

อ่านที่พี่เขียนมาแล้วมันก็สะท้อนใจนะครับ
เผลอทำให้น้ำตากับภาพความจำเก่า ๆ มันกลับมาอีกครั้ง

ไม่ไหวแล้วละครับ ขอไปล้างหน้าเช็ดน้ำตาก่อน
คิดถึงทั้งคุณตา คุณยาย แล้วก็อากง อาม่า มากที่สุดเลย


โดย: ไก่ IP: 203.156.6.109 วันที่: 10 กันยายน 2548 เวลา:1:33:40 น.  

 
อืมมม..เราก็เรียกยายว่าอาผ่อค่ะ


โดย: ลิน IP: 203.188.37.201 วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:12:51:34 น.  

 
เศร้า ซึ้ง สะลด หดหู่ ใจหาย ตั้งสติ พบกับวันใหม่


โดย: ฟองเซ IP: 82.121.11.39 วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:19:46:48 น.  

 
คุณพธู เล่าเรื่องสะเทือนอารมณ์ ได้กินใจ ด้วยนะคะ นึกว่าจะถนัดแต่....เอ่อ.....เอ่อ...เล่าเรื่อง ทำอาหาร ค่ะ

อ่านแล้ว ดีจัง...ความรัก ที่ได้รับจากอาฝ่อ สืบทอด มาถึง ตัวตองตัง อย่างไม่ต้องสงสัย

ดีใจ ที่ได้เข้ามาอ่าน ค่ะ




โดย: สำราญใจ IP: 202.156.2.210 วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:15:44:15 น.  

 
จีนแคะใช่ไหมเนี่ย..อาผ่อ นะ
อาผ่อเราเพิ่งเสียไปเมือวันพุธที่แล้วด้วยอายุ 91
...รอดูหวยงวดนี้ละกัน


โดย: หลานอาผ่อ IP: 203.107.205.161 วันที่: 25 กันยายน 2548 เวลา:22:21:36 น.  

 
อ่านแล้วน้ำตาจะไหลตาไปด้วยเลยค่ะ คิดถึงอาม่าของเราขึ้นมาทันที เราเองก็โตมากะอาม่าเหมือนกัน ตอนท่านจะเสียก็ใกล้ๆ กับช่วงเดือนกุมภาฯ นี้แหละค่ะ จำได้ว่าหลานคนอื่นๆ เข้าไปหาท่าน แต่ท่านจำได้ เรากลับจากทำงานที่กรุงเทพฯ แบบบินด่วนกลับมาเลยทีเดียว เดินเข้าไปหาท่าน ท่านจำได้ทันที ซึ้งใจและดีใจมากๆ ท่านถามประโยคสุดท้ายกับเราเป็นภาษาจีนเหมือนที่เคยว่า "อาฮ้ง..กินข้าวหรือยัง" เฮ้อ ..คิดแล้วก็ใจหายค่ะ


โดย: ktycoons วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:12:28:54 น.  

 
อาผ่อเลี้ยงเรามาเหมือนกัน เมื่อเช้าได้ข่าวว่าอาผ่อเข้าโรงพยาบาล ปวดท้อง สงสารมาก แต่เค้าอยู่ต่างจังหวัดไปเยี่ยมลำบาก เราไม่ได้โทรหาเค้านานแล้ว คิดถึงมาก อาผ่อบอกทุกคนเสมอว่าเราไม่ใช่หลาน แต่เป็นลูกคนเล็กของอาผ่อ เราปลื้มใจมากเลย ก่อนจากกันวันนั้น อาผ่อดึงเราไปหอมแก้มแล้วก็น้ำตาไหล คิดถึงผ่อมากนะ หายเร็ว เร็วนะครับ


โดย: หลานชายอาผ่อ IP: 119.31.20.221 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:38:04 น.  

 
อ่านแล้วลำคอตีบตันไปหมด น้ำตาซึมค่ะคุณพธู


โดย: yinnerella วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:37:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พธูไทย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บล็อกนี้เปิดไว้เพื่อเก็บสิ่งที่เขียนจากที่ต่างๆ เอามารวมๆ กัน
ไม่ได้เข้าบล็อคบ่อยๆ มาดูเฉพาะตอนที่จะเขียนอะไร
ดังนั้นถ้าใครมาเยี่ยมชมหรือเขียนถามอะไรเอาไว้ จะไม่เคยตอบ
เพราะกว่าจะตอบมันนานมาก และผู้ถามคงจะลืมไปแล้วว่าถามอะไร
Friends' blogs
[Add พธูไทย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.