Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Pre-competition

จำได้ว่าครั้งแรกที่สมัครเรียนว่ายน้ำให้เป็นครั้งแรกคือที่เมืองไทย ตอนที่ตองตังอายุได้เพียง 4 ขวบ
พาไปเรียนที่บาราคูดัสคลับที่สุขุมวิท ตอนช่วงกลับเมืองไทย เป็นคอร์ส 10 ชม. เรียนเดี่ยว เรียนเพื่อให้ได้ทักษะ เพื่อให้สามารถว่ายน้ำแบบถูกต้อง เพื่อที่จะเป็นกีฬาที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับปอด

การว่ายน้ำเป็นกีฬาชนิดเดียวเท่านั้นที่จะช่วยให้ปอดที่มี dysplasia ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ปอดต้องทำงานก่อนเวลาอันสมควรจากการถูกบังคับให้ถุงลมโป่ง ด้วยการใช้สาร surfectant และกระตุ้น สืบเนื่องมาจากการคลอดก่อนล่วงหน้าค่อนข้างเยอะมาก นั่นคือเนื้อปอดบางส่วนโดยเฉพาะส่วนล่างไม่โป่งจึงไม่สามารถใช้งานได้ ผลคือ ประสิทธิภาพของปอดจะน้อยกว่าระดับปกติ

กีฬาที่ทำให้ต้องออกกำลัง แม้เพียงการวิ่งเล่น ก็ทำให้ตองตังไออย่างมาก และมีอาการหอบ ที่มิได้เกิดจากการแพ้แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะปอดไม่สามารถรับออกซิเจนได้ในปริมาณที่ร่างกายต้องการในขณะออกกำลังกาย เรียกว่า ตั้งแต่อายุที่เริ่มวิ่งได้ อาการหอบเหล่านี้ก็ปรากฎขึ้นทันที

ดังนั้นหมอจึงกำชับว่า เมื่ออายุครบ 5 ขวบแล้ว ขอให้พาตองตังไปเรียนว่ายน้ำแบบเป็นกิจลักษณะ

แต่ในเมื่อมีโอกาสกลับเมืองไทยในครั้งนั้น ก็เลยพาตองตังไปสมัครเรียนเสียเลย ได้มากได้น้อย อย่างน้อยก็ขอให้เริ่มเลย ไม่ต้องรอให้ถึง 5 ขวบ
แต่ที่อายุเท่านั้น การต้องเรียนแบบเป็นจริงเป็นจัง ก็ไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับเด็ก 4 ขวบเลย
ทั้งงอน ทั้งทำเจ้าอารมณ์กับครูฝึก ทุกวันที่กลับมาจากเรียนว่ายน้ำ ตองตังจะร้องไห้ บอกแม่ว่า ไม่อยากไปเรียนแล้ว ทั้งหนาว ทั้งต้องทำอะไรที่ครูบอก ที่ไม่อยากทำเลย
และการเรียนครั้งนั้น ทำให้ตองตังดำน้ำได้เป็นอย่างดี ต้องขอบคุณครูฝึกมาก ที่อดทนพยายามสอนให้ตองตังเริ่มเรียนว่ายน้ำ ไม่เลิกลาไปเสียก่อน

และแม่เองก็ดีใจที่ไม่ยอมใจอ่อนสงสารลูก เล่าให้อาม่าฟัง อาม่าก็สงสารหลาน บอกว่ายังเล็กอยู่เลย จะไปบังคับมันทำไม น่าจะรอให้มันโตก่อนแล้วค่อยเรียน
ถ้าใจอ่อนยอมให้ตองตังเลิกเรียนในตอนนั้น ก็คงไม่สามารถสร้างความมีวินัยในการฝึกกีฬาแบบเอาจริงเอาจังได้

หลังจากนั้นจึงมาเข้าคอร์สต่อที่ฝรั่งเศส กับเขตที่ไม่ไกลบ้านนัก และทุกๆ ครั้งที่กล้บไทย ก็จะพาลูกไปเข้าคอร์สตัวต่อตัวกับครูฝึกว่ายน้ำที่เมืองไทยทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นที่กรุงเทพฯ หรือที่บ้านต่างจังหวัด

ปีนี้ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว ตองตังได้เปลี่ยนกลุ่มเรียนว่ายน้ำของเขตใกล้บ้าน เจ้าตัวไม่มีความสุขเท่าไรนัก บ่นว่า ไม่ได้เรียนรู้อะไร ทุกๆ ครั้งไปเรียน เหมือนไปกระโดดเล่นๆ ในสระ ไม่ได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ อะไร และที่สำคัญท่าที่ว่ายได้อยู่แล้ว ก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย

จนกระทั่งวันนึง เจ้าตัวอยู่ในสระ และเกาะขอบสระร้องไห้ บอกครูฝึกว่า ไม่ว่ายต่อแล้ว ถามว่าทำไม ได้คำตอบว่า
"ตองตังเสียใจ เพราะตองตังไม่ก้าวหน้าเลย นักเรียนก็เยอะ ว่ายชนกัน"

ครูฝึกท่าจะเห็นกิริยา เลยคุยกัน ได้ข้อสรุปว่า จากความเห็นของครู ตองตังมีรูปร่างสูงใหญ่และความตั้งใจในการฝึกเมื่อเทียบกับอายุที่ 6 ขวบ แล้ว ใครๆ จะนึกว่าอายุ 8-10 ขวบกันทั้งนั้น ทำให้ไม่มีความสุขในการเรียนกับเด็กอายุเท่ากัน ทั้งเป็นเพราะ ทักษะดีกว่า และความมีวินัยที่สูงกว่า
ครูถามว่า "ปกติตองตังมีทัศนคติแบบนี้หรือเปล่า คือไม่พอใจเวลาทำได้ไม่ดี และอยากทำให้ดี"

พอได้คำตอบว่า ใช่ มักเป็นอย่างนี้เสมอ จนบางทีต้องให้ลดๆ ลงบ้าง เพราะเขาจะเข้มงวดและตั้งกฎเกณฑ์กับตัวเองมากเกินไป
ครูจึงบอกว่า แต่นี่เป็นลักษณะที่ดีในการจะฝึกแบบเป็นนักกีฬา ถ้าเขาสนใจ ครูฝึกอยากให้ตองตังไปอยู่ในกลุ่ม pre-competition นั่นคือ ทางชมรมว่ายน้ำจะมองดูว่า เด็กคนไหนที่มีลักษณะที่พร้อม ทั้งทางร่างกาย (สูงใหญ่) ทั้งจิตใจ (ไม่ยอมแพ้ ต้องการพัฒนา) และที่สำคัญ คือ ผลการเรียนต้องอยู่ในเกณฑ์ดี นัยว่าการมาฝึกกีฬา จะไม่ทำให้การเรียนเสียนั่นเอง
จากนั้นจับเด็กที่เข้าข่ายนี้ มาเข้ากลุ่มฝึกด้วยกัน เป็นการฝึกเพื่อส่งเด็กเข้าแข่งขัน

ฟังแล้ว ก็ต้องบอกว่าดีใจ ที่ครูฝึกมาถามว่า จะอนุญาตให้ตองตังไปเข้ากลุ่มดังกล่าวนี้ได้หรือไม่ จึงได้ตอบไปแค่ว่า ไม่ได้หวังว่า ลูกจะต้องว่ายเก่งมากๆ เพียงแต่ว่า ถ้าเขาชอบ และเขาต้องการพัฒนา มันจะตอบสนองต่อความต้องการของเขา เพราะเขาไม่ต้องการลงสระแค่เพียงเล่นน้ำเท่านั้น แต่เขาต้องการว่ายน้ำแบบเป็นการเล่นกีฬาจริงๆ

ปัญหาคือ ในตอนนี้ระหว่างการรอเข้ากลุ่มดังกล่าว ถ้าจะจับไปอยู่กับกลุ่มเด็ก 8-10 ขวบ ก็จะฝึกแบบหนักแบบนั้นไม่ได้ เพราะแรงจะไม่พอ แต่ถ้าปล่อยให้อยู่กับกลุ่มเดิม ความน่าเบื่อจะทำให้ตองตังไม่อยากลงสระ
แต่ในที่สุดทางออกคือ ครูฝึกให้ไปอยู่รวมกับกลุ่มเด็ก 8-10 ขวบอยู่ดี แล้วรอดูว่าจะเป็นอย่างไร

เมื่อไปลองดูแล้ว 3 ครั้ง ครูฝึกจึงมายืนยันว่า ต้องการให้ตองตังเข้ากลุ่ม pre-competition ซึ่งประกอบไปด้วยเด็ก 3 คน (ที่เขาสอดส่องมาได้จากทั้งหมด 80 กว่าคน) เกิดปี 1999, 2000 และ 2001 นั่นคือตองตังอายุน้อยที่สุด

กลุ่ม pre-competition นี้ จะเริ่มการฝึกตั้งแต่เดือนกันยายนหน้าเป็นต้นไป

หน้าที่ที่จะต้องทำตอนนี้ คือ จะต้องพยามหาวิธีการบอกตองตังอย่างไร ว่าต่อไปจะต้องฝึกในกลุ่มเพื่อไปแข่งขัน เพราะเจ้าตัวยังไม่รู้ ที่ยังไม่บอกเป็นเพราะ ตองตังพูดเสมอว่า เขาต้องการพัฒนา แต่ไม่ใช่เพื่อไปแข่ง
เหมือนว่าเล่นดนตรี แต่ไม่ใช่เพื่อเล่นโชว์บนเวที (ร้องไห้ทุกครั้งที่มี audition)
เล่นปิงปองก็เช่นกัน พอครูฝึกลงทะเบียนให้ไปแข่ง ในกลุ่มจิ๋วสุด พอไปถึงที่แข่งก็ร้องไห้ บอกว่าไม่เอา ไม่แข่ง คือไม่ยอมที่จะแข่ง มากกว่าที่จะแข่งแล้วให้รู้ว่าเราจะแพ้หรือชนะ

จึงทำให้คิดว่า คงต้องรอให้สภาพจิตใจของเขาพร้อมสำหรับการยอมรับว่า การเล่นกีฬานั้น ถ้าเราเล่นดี เราอาจจะลองลงแข่ง ถ้าเราพร้อม เพื่อที่จะได้เอามาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอีก

ตอนนี้จึงกำลังรออยู่ การเข้ากลุ่ม pre-competition จึงยังเป็นความลับอยู่ และในอีกไม่กี่วัน เราก็จะได้รับจดหมายเป็นทางการตอบรับว่าตองตังจะเป็นหนึ่งในกลุ่มนี้


Create Date : 29 มีนาคม 2551
Last Update : 30 มีนาคม 2551 17:22:16 น. 1 comments
Counter : 776 Pageviews.

 
ตองตังเก่งจังเลยค่ะ มีวินัยในตัวเองสูง มีความตั้งใจที่จะทำให้ได้ และรู้ว่าถ้าทำจะต้องได้อะไรที่มีประโยชน์ และก้าวหน้า เก่งๆๆๆๆ


โดย: แม่อุ๊ (cha-Aerng ) วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:17:51:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

พธูไทย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




บล็อกนี้เปิดไว้เพื่อเก็บสิ่งที่เขียนจากที่ต่างๆ เอามารวมๆ กัน
ไม่ได้เข้าบล็อคบ่อยๆ มาดูเฉพาะตอนที่จะเขียนอะไร
ดังนั้นถ้าใครมาเยี่ยมชมหรือเขียนถามอะไรเอาไว้ จะไม่เคยตอบ
เพราะกว่าจะตอบมันนานมาก และผู้ถามคงจะลืมไปแล้วว่าถามอะไร
Friends' blogs
[Add พธูไทย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.