The Counselor’s Story ตอนที่ 7 ว่าด้วยเรื่องของวีซ่า

ในตอนที่แล้วเราก็รับ offer กันไปแล้ว หลังจากที่รับ offer จ่ายตังค์งวดแรกไปแล้ว เราก็จะได้ ใบ Confirmation of Enrolment (COE) มาซึ่งมันคือใบยืนยันการลงทะเบียนเรียนครับ สามารถใช้เป็นใบเสร็จได้ด้วยว่าเราจ่ายจริงนะ ใช้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ Immigration ได้ในกรณีมีปัญหาอะไรขึ้นมาครับ

การทำวีซ่านักเรียนออสเตรเลียทุกวันนี้จะไม่มีการเอาพาสปอร์ทไปแปะหน้าวีซ่าเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ จะมีระบบที่เรียกว่า eVISA ก็ไม่รู้จะเรียกเป็นภาษาไทยว่ายังไงดี เอาเป็นว่ามันคือระบบการยื่นวีซ่าระบบใหม่ล่าสุดของออสเตรเลียก็แล้วกัน ไม่มีสัมภาษณ์ ไม่ต้องพิมพ์ลายมือ ไม่ต้องแปะโป้ง พิจารณาจากเอกสารอย่างเดียว เอกสารพร้อม ตรวจร่างกายผ่าน ก็ใช้เวลาไม่เกิน 10 วันครับ วีซ่าก็จะออกมาเท่าระยะเวลาที่เราไปเรียนทั้งหมด เรียน 1 ปีได้ 1 ปี เรียน 5 ปีได้ 5 ปี

แต่ว่า เอกสารที่ต้องใช้มันไม่ใช่แค่ COE น่ะสิ มันต้องมีอย่างอื่นด้วย อะไรบ้าง ตามมาเลยครับ
1. form 157A แบบฟอร์มวีซ่า
2. COE รู้จักกันไปแล้ว
3. รูปถ่ายขนาดเดียวกับในพาสปอร์ท 3 รูป ถ้าเป็นไปได้เวลาถ่ายให้บอกช่างที่ร้านว่า ขอโฟกัสใบหน้า 70% ช่างภาพเค้าน่าจะเข้าใจนะ
4. พาสปอร์ทที่มีอายุเหลือครอบคลุมการเดินทางไปเรียนทั้งหมด ทำใหม่ได้ทันทีถ้าเห็นว่าใกล้หมดอายุแล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ครับ
5. ทรานสคริปต์ที่เรียนจบการศึกษาสูงสุดตัวจริง
a. ถ้าเคยไปเรียนที่ออสเตรเลียมาก่อนให้นำ Certificate of Attendance มาด้วย
6. form 54 ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัว
7. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของนักเรียน
8. สำหรับนักเรียนที่อายุ 18 ปี ต้องมีฟอร์ม 1229 และ/หรือ declaration form พร้อมด้วยสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้านของบิดามารดา สำเนาสูติบัติของนักเรียน และเอกสารยืนยันเรื่องที่พักและผู้ปกครองซึ่งสถาบันออกให้
9. หลักฐานอื่น ๆ หลังจากจบการศึกษา
a. ใบรับรองการทำงานจากทุกที่ที่เคยทำ ระบุให้ละเอียดถึงวันเริ่มงาน และวันที่สิ้นสุดการทำงาน และอัตราเงินเดือน
b. ถ้ามีเรียนเพิ่มเติมให้นำหลักฐานต่าง ๆ เช่นประกาศนียบัติมายื่นด้วย
c. กรณีที่ไม่ได้ทำงานเกินกว่า 1 ปี ต้องมีจดหมายรับรองด้วยว่าระหว่างที่อยู่ว่าง ๆ ใครเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องกินอยู่ และเค้าคือใคร
d. ถ้าเคยถูกปฏิเสธวีซ่ามาก่อน ให้นำจดหมายที่ระบุเหตุผลในการถูกปฏิเสธในครั้งนั้นมายื่นด้วย
10. หลักฐานทางการเงิน
a. ทำได้สองอย่างคือให้เอาสมุดเงินฝากของบัญชีที่จะใช้ยื่นไปถ่ายเอกสารย้อนหลัง 6 เดือน ก่อนถ่ายเอกสารให้อัพเดทให้เรียบร้อยก่อน หรือให้ธนาคารออกเป็นหนังสือรับรองเงินฝากโดยระบุให้ละเอียดว่า ใครเป็นเจ้าของบัญชี มีเงินคงเหลือในบัญชีนี้เท่านี้ ฝากเงินตั้งแต่วันนี้ถึงปัจจุบัน
b. จดหมายรับรองการเป็นผู้สนับสนุนทางการเงิน กรณีที่ผู้สนับสนุนไม่ใช่บิดามารดา
c. สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของผู้สนับสนุนทางการเงิน
d. กรณีที่ใช้บัญชีที่เป็นชื่อบริษัทในการยื่น ให้แนบเอกสารทะเบียนการค้าที่ระบุว่าใครเป็นผุ้มัอำนาจสั่งจ่ายมาด้วย
11. เอกสารยืนยันว่าพ้นพันธะทางทหารแล้ว
12. ค่าธรรมเนียมวีซ่า 450AUD หรือ 14500บาท

ขออธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับเอกสารนะครับ

Form 157A และก็ form 54 ไม่ต้องไปพยายามหาที่ไหนครับ พี่ ๆ counselor เค้าจะเตรียมไว้ให้ ไม่ต้องกังวล หลักฐานทางการเงินก็อย่างที่บอกครับ ทำได้สองอย่าง บัญชีที่ใช้ยื่นดีที่สุดก็จะเป็นบัญชีออมทรัพย์หรือบัญชีอะไรก็ได้ที่สามารถเบิกถอนได้ทันที บัญชีที่ไม่สามารถเบิกถอนได้ทันทีต้องรอ 3 เดือน 6 เดือน จะถือ่าติดพันธะ ไม่สามารถใช้ยื่นวีซ่าได้ครับ สำหรับค่าธรรมเนียมวีซ่าให้จ่ายเป็นบัตรเครดิตนะครับ ในหน้าเกือบสุดท้ายของของ form 157A จะมีช่องให้กรอกรายละเอียดของบัตรเครดิตครับ ก็ตามนั้นเลย

เอาเอกสารทั้งหมดไปให้พี่ ๆ counselor ได้เลยครับ แล้วก็ปล่อยเรื่องวุ่น ๆ ที่เหลือให้พวกเค้าจัดการเองน่ะแหละ น้อง ๆ นักเรียนก็แค่กลับมาอีกทีในวันรุ่งขึ้นเพื่อรับแบบฟอร์มตรวจสุขภาพและพาสปอร์ทคืน เพราะว่าในการตรวจสุขภาพจะต้องเอาพาสปอร์ทไปโชว์ด้วย คราวนี้มาถึงเรื่องสำคัญ การตรวจสุขภาพของวีซ่านักเรียน ถ้าเป็นผู้ชายก็ไม่มีปัญหาอะไรเท่าไหร่ ถ้าเป็นผู้หญิงนี่สิ ถ้าเป็นช่วงวันแดงเดือด อย่าเพิ่งไปตรวจนะครับ ต้องรอให้หมดจริง ๆ ซะก่อนแล้วค่อยไป ไม่งั้นล่ะก็ เรื่องสั้นขนาดยาวล่ะครับ

ในการตรวจสุขภาพที่ดูน่าตื่นเต้นหน่อยก็มีเอกซเรย์ปอดกับตรวจปัสสาวะ ก็ไม่มีอะไรครับ ถ้าปอดอยู่ครบสองข้าง ไม่มีจุด ปัสสาวะไม่มีสีม่วง ก็เป็นอันใช้ได้ นอกนั้นก็ตรวจทั่ว ๆ ไป ขำ ๆ ไม่มีอะไร ผลตรวจสุขภาพก็ไม่ต้องไปรอรับครับ โรงพยาบาลจะส่งเข้าสถานทูตให้เอง โรงพยาบาลในกทม.ที่ไปตรวจได้มีสามที่ครับคือ BNH รพ.กรุงเทพ และมงกุฏวัฒนะครับ สำหรับในต่างจังหวัดให้คลิกข้างล่างครับ
//www.immi.gov.au/contacts/overseas/t/thailand/panel-doctors.htm

หลังจากที่เสร็จทุกอย่างนี้แล้วก็รอครับ รอฟังข่าวดีอย่างเดียวเท่านั้น

จบตอนครับ ผมว่าคงจะครบแล้วล่ะไม่น่าจะตกหล่นอะไรแล้ว ครั้งหน้าผมจะพูดถึงสารพัดสารพันปัญหาหลังจากที่บินไปแล้วนะครับ คอยติดตามนะครับ

Create Date : 04 สิงหาคม 2551 Last Update : 4 สิงหาคม 2551 14:33:26 น. Counter : 763 Pageviews.		3 comments
Share Tweet