The Counselor's Story ตอนที่ 30 น้ำท่วม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

อาทิตย์ที่ผ่านมาผมได้คุยกับน้องที่ผมส่งไปเรียนที่ Brisbane คนนึง ผมก็เลยถือโอกาสถามสถานการณ์ของออสเตรเลียซะหน่อย

ท่านผู้อ่านที่ติดตามข่าวบ่อย ๆ ก็คงจะทราบกันนะครับ ว่าที่ Brisbane เพิ่งจะน้ำท่วมใหญ่ไปรอบนึง และทางเหนือของรัฐ Queensland ก็น้ำท่วมต่อด้วยไซโคลนถล่ม ก็นับว่าหนักทีเดียวสำหรับออสเตรเลียครับ แต่ด้วยการจัดการและการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าที่ดี ทำให้เหตุการณ์ไซโคลนถล่มไม่ีมีผู้เสียชีวิต ก็โชคดีกันไป

น้องคนนี้เค้าก็บ่น ๆ ให้ผมฟังไปเรื่อยครับ บ้านที่เค้าอยู่น้ำท่วมสูงมาก รถที่เค้าซื้อไว้ใช้ก็จอดแช่น้ำอยู่นั่นแหละ โชคดีที่เป็นช่วงปิดเทอม เค้าบินกลับมาไทย ไม่งั้นก็คงต้องอยู่ว่ายน้ำเล่นที่ Brisbane

จากน้องคนนี้ ทำให้ผมนึกถึงน้องอีกคนนึง ซึ่งจริง ๆ น้องคนนี้ผมก็ไม่ห่วงเค้าเท่าไหร่ ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ต่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ ที่ผมเป็นห่วง(จริง ๆ ต้องบอกว่าหวาดผวา)ก็คือคุณแม่ของน้องคนนี้ต่างหาก ถ้ายังจำกันได้ ก็คือคุณแม่น้องเจนี่ในตอนที่ 3 ของ The Counselor's Story นี่แหละครับ

ตอนที่สถานการณ์น้ำท่วมกำลังแย่มาก ๆ เนื่องจากบางส่วนของเมืองน้ำท่วมสูงทีเดียว แน่นอนครับ คุณแม่ก็โทรหาผมทันที

"น้ำท่วม Brisbane ค่ะ ทำยังไงดีตะ" คุณแม่ถาม
"ตอนนี้ที่อยู่ปัจจุบันของน้องเจนี่อยู่ที่ไหนครับ" ผมถามกลับ

"อยู่ที่ UniLodge ค่ะ ใกล้ ๆ QUT ที่เค้าเรียนเลย"
"ตรงนั้นน้ำไม่ท่วมนะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ"

"แต่เค้าสั่งอพยพนะ เค้าตัดไฟทั้งตึกเลย"
"อืมมมม ก็เป็นไปได้ครับที่เค้าต้องสั่งอพยพ เพราะว่าตรงนั้นมันติดแม่น้ำ มีโอกาสที่น้ำจะท่วมมาถึงตึกได้ครับ"

"นั่นสิคะ ทำไงดีล่ะทีนี้"
"แล้วตอนนี้ติดต่อน้องเจนี่ได้รึยังครับ ถ้ายังไม่ได้ เดี๋ยวผมจะลองพยายามโทรหาดู"

"ลองติดต่อได้แล้วล่ะค่ะ แต่คุยได้ไม่ยาวเท่าไหร่เพราะว่าต้องประหยัดแบต"
"ตอนนี้น้องเค้าอยู่ที่ไหนครับ"

"ก็เป็นศูนย์ที่เค้าให้คนไปรวม ๆ กันไว้อ่ะค่ะ แต่มันแออัดมากไม่ค่อยสะดวก"
"ถ้างั้นก็คงต้องรอดูสถานการณ์ต่อไปล่ะครับ เท่าที่ผมดูแผนที่แนวน้ำท่วมของกรมตำรวจ Queensland แล้วก็ไม่น่าจะหนักหนามาก ที่เค้าสั่งอพยพก็คงเป็นการป้องกันครับ"

"แล้วที่นี้จะทำยังไงต่อดีคะ"
"ก็ต้องฟังประกาศของทางการล่ะครับว่าจะทำยังไงต่อ ไม่ต้องกังวลครับ ศูนย์อพยพของเค้ามีการจัดการที่ดี ค่อนข้างมีระเบียบครับ"

"เห็นเค้าบอกว่าจะไปอยู่บ้านเพื่อนนะ ไปได้มั้ย"
"ผมว่าไม่ควรครับ เราไม่รู้ว่าสถานการณ์น้ำจะเป็นยังไง อยู่ในศูนย์อพยพน่าจะปลอดภัยที่สุดแล้วล่ะครับ"

"งั้นเหรอ แล้วที่นี้จะทำยังไงต่อดีคะ"
"ก็ต้องฟังประกาศของทางการล่ะครับว่าจะทำยังไงต่อ ไม่ต้องกังวลครับ ศูนย์อพยพของเค้ามีการจัดการที่ดี ค่อนข้างมีระเบียบครับ"

"ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คนมันเยอะ กลัวจะไม่ปลอดภัย แล้วจะทำัไงต่อดี"
"ก็ต้องฟังประกาศของทางการล่ะครับว่าจะทำยังไงต่อ ไม่ต้องกังวลครับ ศูนย์อพยพของเค้ามีการจัดการที่ดี ค่อนข้างมีระเบียบครับ"

"รบกวนช่วยติดต่อไปทางนู้นอีกแรงด้วยแล้วกันนะคะ"
"ได้ครับ ผมจะพยายามเท่าที่ทำได้ ณ เวลานี้ครับ"

"ขอบคุณค่ะ"
"สวัสดีครับ"

สรุป ๆๆๆๆๆ

ก่อนที่นักเรียนของผมจะบิน ผมจะทำการอบรม pre-departure ให้เด็กผมทุก ๆ คนครัีบ จริงอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียปลอดภัยกว่าประเทศไทยประมาณ 100กว่าเท่าได้ แต่มันไม่มีที่ไหนในโลกที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกครับ อย่างน้ำท่วมครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 120 ปีได้ และที่ผ่านมา รัฐบาลของรัฐ Queensland ประกาศ Water Restriction Level 6 มีผลบังคับใช้ในเขตรัฐ Queensland ทั้งหมดมาเป็นเวลานานมากกกกกก มันก็เลยกลายเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้

ดังนั้นแล้ว น้อง ๆ ที่ไปเรียนเมืองนอก ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม เวลาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ ให้คอยฟังประกาศของทางการไว้ครับ วิทยุตัวเล็ก ๆ ที่ใส่ถ่านนี่แหละครับ คืออุปกรณ์ที่อาจจะช่วยชีวิตเราได้ในยามฉุกเฉิน ของกินง่าย ๆ ที่สามารถพกพาได้สะดวก ไฟฉาย ฯลฯ พวกนี้ซื้อติดบ้านไว้หน่อยก็ดีครับ เหมือนจะฟังดูเว่อร์ แต่บางครั้งก็จำเป็นครับ สำคัญอีกเรื่องก็คืออย่าตื่นเต้นเกินเหตุจนไม่กล้าไปไหนเลยนะครับ

สำหรับคุณแม่น้องเจนี่ท่านนี้ก็ประมาณว่า พยายามอยากจะให้ผมทำอะไรซักอย่างให้ได้ ซึ่งผมก็ไม่รู้จะทำยังไงจริง ๆ อยากจะบอกคุณแม่ว่า ถ้าทำได้ผมก็อยากจะบินไปอุ้มน้องเค้ากลับมาส่งคุณแม่ด้วยตัวเองเลยทีเดียว

อะไรอีกดีล่ะนึกไม่ออกแระ เอาเป็นจบดื้อ ๆ แบบนี้เลยแล้วกันครับ

Create Date : 05 มีนาคม 2554 Last Update : 5 มีนาคม 2554 23:33:40 น. Counter : 715 Pageviews.		6 comments
Share Tweet