เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเนื้องอกมดลูก
ปัจจุบันผู้หญิงจำนวนมากที่มีความผิดปกติของประจำเดือน การตรวจพบถุงน้ำ หรือเนื้องอกใน ระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงมีากขึ้นทุกวัน การไปตรวจสุขภาพ และตรวจภายในจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่คนรัก สุขภาพควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ เมื่ออายุย่างเข้าเลข 3 ซึ่งก็ไม่ควรกังวลอะไรมากเพราะหากพบความ ผิดปกติเกิดขึ้น และได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ โอกาสหายก็มีมาก สำหรับบางคนก้อนเนื้อที่ตรวจพบก็อาจจะ ไม่ใช่เนื้อร้าย เนื้องอกมดลูก( fibroids หรือ myoma uteri) เป็น ปัญหาที่พบได้บ่อยมาก และสามารถรักษาให้หายได้ เนื้องอกมดลูก เกิดจากเซลล์กล้ามเนื้อของผนังมดลูกที่เจริญมากกว่าปกติ จนกลายเป็นก้อนกลมอยู่ในผนังมดลูก
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเนื้องอกชนิดนี้มักจะไม่เป็นเนื้อร้าย และไม่ทำให้เกิดอันตรายอะไร ตอนเริ่มแรกเนื้องอกมักมีขนาดเล็กเท่าเม็ดถั่ว แล้วค่อยๆ โตขึ้นช้าๆไปเรื่อยๆ
ตลอดช่วงวัยเจริญพันธุ์ บางคนอาจไม่ต้องรับการรักษาใดๆ เพียงแต่คอยตรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงของเนื้องอกให้สม่ำเสมอก็เพียงพอ แต่บางคนก็จำเป็นต้องรับการรักษาหากเนื้องอกโตมาก หรือทำให้เกิด อาการผิดปกติ เนื้องอกมดลูกมักพบได้บ่อยในสมาชิกครอบครัวเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทำไมผู้หญิงบางคน เป็นเนื้องอกมดลูก ขณะที่บางคนไม่เป็น
อาการที่ชวนสงสัย: คนที่มีเนื้องอกมดลูกบางคนอาจไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เลยก็ได้ แต่ เนื้องอกที่โตอยู่ในมดลูกของคุณ อาจทำให้เกิดอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น ประจำเดือนที่มากหรือนานหรือบ่อยผิดปกติ ปัสสาวะลำบาก ท้องอืดหรือท้องผูก รู้สึกปวดหรือหน่วงในท้องน้อย ปวดปัสสาวะบ่อยๆ ปวดหลัง ภาวะมีบุตรยาก คนส่วนน้อยมากที่หากไม่ได้รับการตรวจพบว่ามีเนื้องอกมดลูก แล้วเนื้องอกเจริญมากขึ้นจนทำให้เกิดปัญหาร้ายแรง เช่น กลายเป็นเนื้อร้าย
รักษาได้หลากหลายวิธี: เนื้องอกมดลูกในแต่ละคนไม่จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีเดียวกัน การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ จำนวน, ขนาด, ตำแหน่ง และความเร็วในการโตของเนื้องอก และยังขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาด้วย ปัจจุบันมีทางเลือกในการรักษาหลายวิธี ซึ่งคุณหมอจะให้คำปรึกษาแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณได้ หลังจากที่ได้ตรวจอย่างละเอียดแล้ว ตรวจอะไรกันบ้าง ในขั้นตอนการตรวจวินิจฉัย คุณหมอจะถามประวัติอาการของคุณ และตรวจภายในด้วย
นอกจากนี้ คุณหมออาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมด้วยวิธีการอื่นๆ เพื่อให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขนาดและตำแหน่งของก้อนเนื้องอกมดลูกที่มีอยู่ การตรวจภายใน จะบอกได้ถึงรูปร่างลักษณะ, ขนาดโดยรวม, ความเรียบของผิวนอก รวมทั้งอาการเจ็บปวดของมดลูกได้ หากคุณมีปัญหาเลือดออกผิดปกติด้วย คุณหมอก็จะตรวจดูผนังช่องคลอดและปากมดลูกว่ามีการอักเสบติดเชื้อ หรือรอยแผลหรือไม่ และคุณหมอจะทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกที่เรียกว่า Pap smear ไปในคราวเดียวกันด้วย และเนื่องจากก้อนเนื้องอกมดลูกอาจซ่อนอยู่ในผนังด้านหลังของมดลูกได้ ดังนั้นคุณหมออาจต้องตรวจทางทวารหนักด้วยก็ได้
นอกจากนี้การตรวจอื่นๆ ที่ใช้กันบ่อย คือ การตรวจด้วยเครื่องตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง หรืออัลตร้าซาวนด์ (Ultrasound)
สามารถทำได้เร็ว ง่าย และไม่เจ็บปวด ส่วนการส่องกล้องตรวจเข้าในโพรงมดลูก (Hysteroscopy) และการส่องกล้องตรวจทางหน้าท้อง (Laparoscopy) จะต้องใช้เครื่องมือผ่านเข้าไปในร่างกายเพื่อตรวจ หากพบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ก็ไม่ต้องตกใจ คุณกับคุณหมอควรจะปรึกษาร่วมกันในการเลือกทางรักษา โดยทั่วไปถ้าหมอแน่ใจว่าไม่ใช่เนื้อร้ายจะแนะนำให้เฝ้าติดตามเนื้องอกไปเรื่อยๆ ก่อน, ในบางรายอาจพิจารณาให้ตัดก้อนเนื้องอกออก หรือตัดเอาตัวมดลูกออกไปเลย ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการของคุณขนาด และผลกระทบของก้อนเนื้องอก รวมทั้งความเร็วที่เนื้องอกโตมากขึ้น ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจตัดมดลูกออก คุณจะต้องคำนึงถึงโอกาส และความต้องการมีบุตรในอนาคตของคุณเองด้วย
แต่ที่แน่ๆ ไม่ว่าจะเลือกวิธีใดรักษาต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียให้ดีถี่ถ้วนเสียก่อน ติดตามความเปลี่ยนแปลงของเนื้องอกไปก่อน โดยการตรวจภายในหรืออัลตร้าซาวนด์เป็นระยะๆ สม่ำเสมอ วิธีนี้จะเหมาะในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดเล็ก หรืออายุคุณใกล้จะถึงวัยหมดประจำเดือน เพราะในช่วงวัยหมดประจำเดือนนั้น เนื้องอกมักจะเล็กลงได้เองเนื่องจากระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการเจริญของเนื้องอกนั้นมีระดับลดลง หากคุณใช้ยาฮอร์โมนอยู่ ต้องเฝ้าติดตามเนื้องอกอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ
ที่มา ladinaclub
Create Date : 11 มกราคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 22 พฤษภาคม 2552 2:56:19 น. |
Counter : 726 Pageviews. |
|
|
|