BlogGang.com : : ย่าชอบเล่า : พระมหากัสสปเถระ

พระมหากัสสปเถระ

พระมหากัสสปเถระ

เดิมท่านชื่อ “ปิปผลิ” เป็นลูกของ กบิลพราหมณ์ ผู้ร่ำรวยแห่งแคว้นมคธ เมื่ออายุได้20ปี พ่อแม่ได้หมั้นหญิงสาวที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และรูปสมบัตินามว่า “ภัททกาปิลานี” เป็นบุตรสาวของโกลิยพราหมณ์มาแต่งงานกับท่าน

เมื่อท่านทราบก็ได้เขียนจม บอกความในใจให้กับหญิงสาวทราบว่า” พี่นี้ไม่มีความประสงค์จะครองเรือนขอให้น้องไปหาคนที่เหมาะสมแต่งงาน ส่วนตัวพี่ขอบวช” ฝ่าย “ภัททกาปิลานี” ก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ทั้ง 2ฝ่ายต่างเขียนจมบอกความในใจ แล้วให้คนรับใช้คนสนิท ถือจม ไปให้แต่ละฝ่าย

แต่เมื่อคนรับใช้ทั้ง2พบกัน ก็แอบเปิดจมอ่านแล้ววางแผน เขียนจมฉบับใหม่ ว่า ” พี่ดีใจมากที่จะได้แต่งงานกับน้องฯลฯ" จมทั้ง2ฉบับโดนแก้ไข แล้วก็ถูกนำไปให้แต่ละฝ่าย ทำให้ ทั้ง ปิปผลิ และ ภัททกาปิลานี เลยต้องจำใจแต่งงานกัน(แสบจริงๆ คนรับใช้ อิอิ)

หลังแต่งงานทั้ง 2ใช้ชีวิตคู่ไม่เหมือนคนอื่น ถึงแม้จะนอนเตียงเดียวกันแต่นอนคนละข้าง และตรงกลางเตียงมีแจกันดอกไม้ตั้งคั่นกลาง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันไม่เคยถูกเนื้อต้องตัว จึงทำให้ทั้ง2ไม่มีบุตร

ต่อมาเมื่อบิดามารดา ทั้ง2ฝ่าย เสียชีวิต ทั้ง 2สามีภรรยา ก้มีอายุมากขึ้นและไม่มีบุตรหลาน และได้ครอบครองมรดกมหาศาลของ 2ตระกูล จึงต้องดูแลกิจการทั้งหมด ทั้ง2 เมื่อออกตรวจงาน ก็เห็นคนงานเอาข้าวออกมาตาก แล้วเห็น นกมาจิกหนอนที่ กินข้าวอยู่ ก็รู้สึกสงสาร และคิดว่า " การใช้ชีวิตเป็นผู้ครองเรือน ต้องทำบาปกรรม ทั้งๆที่ไม่ตั้งใจ "

ทั้ง2เลยตกลงกันว่าจะออกบวช (ตรงกับที่ใจต้องการมาตั้งแต่แรก) ทั้ง2 ปลงผม แล้วครองผ้ากาสาวพัสตร์ อธิษฐานจิตขอให้บรรลุพระอรหันต์ แล้วออกเดินร่วมทางกันจนมาถึง ทาง 2แพร่งแห่งหนึ่ง พระมหากัสสปะ เดินไปทางขวา ส่วนนางภัททกาปิลานี เดินแยกไปทาง ซ้าย(นี้แระที่เรียกว่า "จากกันด้วยดีจริงๆ" ว่าไม๊?

)

พระมหากัสสปะ เดินไปพบพุทธองค์ เลยเข้าบวชเป็นศิษย์พุทธองค์ ส่วนนางภัททกา เข้าไปบวชในสำนัก ปริพาชก (เพราะในเวลานั้น พุทธองค์ยังไม่ได้ให้ผู้หญิงบวช) แต่ต่อมาเมื่อ พระนางปชาบดีโคตมี ได้บวชเป็น ภิกษุณี นางภัททกาก็ได้เข้ามาบวช ในสำนักของพระเถรี ได้ศึกษา บำเพ็ญเพียรจนบรรลุ พระอรหันตผล

พระมหากัสสปะ หลังบวชไม่นานก็เป็นพระอรหันต์ และเป็นพระที่ชอบปลีกวิเวก อยู่ในป่า และมักน้อย จนเมื่อพุทธองค์ ปรินิพพาน ก็ได้ออกเดินทางไปงานศพ และได้ยิน พระวัยชรา นามว่า สุภัททะ กล่าวกับพระอื่นว่า “พุทธองค์ตายก็ดีแล้ว จะเสียใจไปทำไม จะได้ไม่มีใครมาเข้มงวดกับพวกเรา”

พระมหากัสสปะฟังแล้วจึงได้ดำริให้มีการปฐมสังคายนา ในถ้ำสัตตบรรณคูหา แห่งภูเขาเวภารบรรพต กรุงราชคฤห์ มีพระเจ้าอาชาตศัตรู เป็นองค์ศาสนูปถัมภ์ (คือ หาข้าวหาน้ำอำนวยความสะดวกทุกอย่างให้พระอรหันต์) ทำอยู่7 เดือน จึงสำเร็จ

หลังจากทำปฐมสังคายนาแล้ว ท่านพักอยู่ที่เวฬุวันมหาวิหาร จนอายุได้ 120 ปี 1วันก่อนที่ท่านจะนิพพานท่านได้ ไปทูลลาพระเจ้าอาชาตศัตรู และให้โอวาทแก่ลูกศิษย์ ให้ตั้งใจปฎิบัติธรรม ทำความเพียร อย่าประมาท จากนั้นท่านได้พาลูกศิษย์ ไปถึงเขา กุกกุฎสัมปาตบรรพต แสดงอิทธิปาฎิหาริย์ ทำให้ภูเขา 3 ลูกรวมเป็นลูกเดียว ซึ่งใน1 ในนั้น มีภูเขาเวภารบรรพต สถานที่ทำปฐมสังคายนารวมอยู่ด้วย

ณที่นั้น ท่านก็ดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพาน และท่านยังอธิษฐาน ขอให้สรีระของท่านยังคงสภาพเดิม ไม่สูญสลาย จนกระทั่ง พระศรีอริยเมตไตร จะนำพาหมู่ภิกษุสงฆ์มายังเขาแห่งนี้ แล้ว ยกสรีระของท่านวางบนพระหัตถ์ขวาชูขึ้นประกาศสรรเสริญคุณของท่าน แล้ว เตโชธาตุ(ไฟ) ก็จะเกิดขึ้น เผาร่างของท่านใน มือของ พระศรีอริยเมตไตรพุทธเจ้านั้นเอง....

****************

ครั้งหนึ่งฉันได้ไปวัดนิกายของมหายานจากไต้หวัน เขาอธิบายธรรมะให้ฉันฟังว่า พระพุทธเจ้าได้แต่งตั้งให้พระมหากัสสปะ เป็นผู้นำศาสดา ฉันถามว่า รู้ได้ไงว่าท่านแต่งตั้ง เขาบอกว่า พระพุทธเจ้าได้ยกบริขารของพระองค์ให้พระมหากัสสปะ นั้นคือหมายถึงการแต่งตั้ง ฉันพยักหน้าหงึกๆๆ ( เขาทำหน้าดีใจที่ได้ สอนธรรมะให้คนที่ไม่รู้เรืองแบบฉัน

)

"แล้วไงต่อค่ะ " (ชักสนุกแระ อิอิ

) เขาเล่าต่อว่า" การสืบทอด ผู้นำพุทธศาสนาได้ตกทอดมาจนถึง ท่านอาจารย์ชายหญิง 2 ผัวเมีย ชาวไต้หวันเป็นผู้นำ ท่านผู้นำจะพาพวกเราไปเกิดใหม่ในยุค พระศรีอาร์ย ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป"

ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมนิกายไต้หวันจึงคิดเช่นนี้จน กระทั่งได้มาอ่านประวัติพระมหากัสสปะ จึงเข้าใจว่าเขาผูกโยงกันเช่นนี้เอง แต่ฉันก้ยังเชื่อแบบเถรวาท(ของเก่า ที่ว่าให้พระธรรมเป็นศาสดาต่อจากพุทธองค์ อยู่ดีนั่นแระ!!!) แต่นิกายและลัทธิใดจะยึดถือยังไง ก็ขอให้ยึดถือในการทำความดี ฉันก็โมทนาด้วยค่ะ....

ย่าชอบเล่า

“สพฺพทานํ ธมฺมทานํ ชินาติ การให้ธรรมะชนะการให้ทั้งปวง"

*****************

Create Date : 07 มกราคม 2552

Last Update : 25 มกราคม 2552 20:24:26 น.

24 comments

Counter : 559 Pageviews.

อนุโมทนาครับ

โดย: วอนเทวา

วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:17:36:02 น.

คุณย่าหลินกลับมาแล้ว ดีใจจัง

ท่านทั้งสองใจตรงกันแต่แรกแท้ๆ

แต่มีดันมีอุปสรรคเสียเวลาไปตั้งหลายปี

งงๆ กับนิกายไต้หวันแฮะ

แต่เห็นด้วยกับคุณหลินอยู่ดี

ว่าพระธรรมคือตัวแทนศาสดา

คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ

โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife

) วันที่: 25 มกราคม 2552 เวลา:23:48:46 น.

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ซินนี้เกียงคง ซินนี้เพ่งอัง ซินนี้ตั่วถั่ง

สวัสดีปีใหม่ ขอให้เจริญรุ่งเรือง มีสุขภาพแข็งแรง
ปลอดภัยจากอันตราย และโรคภัยไข้เจ็บ ธุรกิจก้าวหน้า กำไรงดงาม
……………………………….

ถือโอกาสมาส่งเข้านอน หลับสบาย ฝันดี มีความสุขนะคะ

โดย: ร่มไม้เย็น

วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:0:47:06 น.

คุณย่าหลินนนนนนนน

กลับมาแล้วเหรอค้า เป็นยังไงมั่งจ๊ะย่า
เดี๋ยวหนูแวะมาอ่านเรื่องพระมหากัสสปะนะคะ
ตอนนี้มาสวัสดีก่อนด้วยความคิดถึงจ้ะ

โดย: discipula

วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:7:06:14 น.

ขอให้ย่าหลินมีอังเปาใหญ่ๆ เฮงๆ รวยๆ ค่ะ

โดย: I_sabai

วันที่: 26 มกราคม 2552 เวลา:8:08:15 น.

เพิ่งอ่านวันนี้เอง เอ
แล้วหน้านี้หลุดเราได้ไง

โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส

วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:52:47 น.

03 รวมดอกไม้

มาเยี่ยมคนไข้พร้อมมีดอกไม้สวยเป็นของฝากค่ะ

ไม่สบายเป็นอะไร ปวดหัว เป็นไข้ หรืออันหยัง
ตอนนี้ค่อยยังชั่วหรือยัง
โทษทีที่ถามเป็นปืนกล ก้อตั่วเจ๊ห่วงหลินนี่นา

เข้ามาอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจนะเนี่ย…เลยพอรู้เรื่องไปด้วย
แท้งส์หลาย …. แท้งส์หลายเด้ออออออออออ

รักษาสุขภาพนะน้องนะ

โดย: ร่มไม้เย็น

วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:52:16 น.

อ่านไปเพลินไปกับเสียงเพลงๆอะไรคะ

อ่านชื่อเพลงไม่ออกค่ะ

โดย: superss

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:1:38:52 น.

สวัสดีครับคุณย่า

อาการของสายตาคุณย่า
ฟังแล้วน่าทึ่งนะครับ
ผมชอบจังครับ
ที่พอเรานิ่ง
เราจึงได้เห็นว่าอะไรเกิดขึ้นกับสังขารเราบ้าง

ทุกวันนี้เราหายใจทิ้งกันโดยไม่ทันฉุกคิดด้วยซ้ำ

แต่อย่างไร
ก็ขอให้สายตาของคุณย่ากลับมาดีขึ้นในเร็ววันนะครับ

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า

) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:47:44 น.

ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ หายไวไวนะคะ เป็นกำลังใจให้คะ

โดย: กัญจนา

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:28:47 น.

ทักทายยามเช้าครับ
ย่าหลินพักผ่อนเยอะๆนา

โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:03:42 น.

แวะมาหาคุณย่าฯค่ะ
ไม่ได้แวะมนาน คงไม่ลืมกันนะคะอิอิ

โดย: อาลีอา

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:03:45 น.

สวัสดีค่ะย่า
ใช่ค่ะพระอาจารย์ปราโมทย์ อยู่ที่สวนสันติธรรม ชลบุรีค่ะ
ถ้าย่าสนใจลองโหลดมาฟังได้ค่ะ
//wimutti.net/pramote/
ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับขาหมูนะคะ เดี๋ยวต้องไปบอกแม่ไว้ละ ^^

โดย: nanida

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:32:08 น.

สวัสดีครับป้า

โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:49:17 น.

แวะมารับความรู้ค่ะ

ดูแลสุขภาพนะคะ

โดย: รัชชี่ (รัชชี่

) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:22:50 น.

แวะมาส่งเข้านอนค่ะคุณย่าฯ

ฝันดีนะคะ

โดย: อาลีอา

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:26:51 น.

สวัสดีค่ะย่าหนูหลิน
แม่มอมพลาดอะไรไปหรือเปล่าคะเนี่ย

ตาย่าเป็นอะไรคะ แล้วใช้คอมได้เหรอคะ แม่มอมเคยเป็นค่ะ ปกติตาแห้ง แล้วก็กลายเป็นตาแฉะ หมอห้ามเล่นคอมเลย ดีนะตอนนั้นยังไม่ทำบล็อก

หายเร็วๆ นะคะ รออ่านตอนต่อไปค่ะ

โดย: momster

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:52:43 น.

ฟังเพลงบล็อกนี้เพลินเลย
ตะกี้ที่อัพบล็อกก็เปิดแบบวนไปเรื่อยๆแล้วอัพไปเรื่อย ได้สมาธิดีจังเลยละ
ย่าหลินมาอัพได้เหรอ แล้วตาเป็นยังไงบ้าง ใช้น้ำตาเทียมช่วยด้วยหรือเปล่า ตอนที่หมูทำเลสิค หมอให้หยอดตา เวลาหยอดแล้ว สบายตาจัง ไม่แห้ง สดชื่นเลยนะ

โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:51:04 น.

รถหมูทำพลาสปอร์ตตอนไปเวียงจันทร์นะครับ
ทำที่ขนส่งหนองคายสะดวกที่สุด
แค่เอาเล่มทะเบียนไป เขียนใบคำร้อง
เสียตังค์ค่าทำ 200 บาท รอประมาณ 10-15 นาทีก็เสร็จ
หมูเคยมาต่อที่ขนส่งหมอชิต โดนไป 2 ชม.กว่า เข็ดเลย
ใช้ข้ามไป สปป.ลาวได้ทุกด่านเลย

โดย: วันที่ท้องฟ้าแจ่มใส

วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:07:45 น.