เคล็ดลับ...ขจัดคราบพรม
วิธีทำความสะอาดที่ง่ายและแพร่หลายที่สุด คือการดูดฝุ่อย่างสม่ำเสมอ หากคิดจะทำความสะอาดพรมทั้งผืน ซึ่งถือเป็นเรือ่งใหญ่ แนะนำให้ส่งบริษัทโดยเฉพาะดีกว่า แต่ถ้าเป็นรอยเปือ้นเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำได้ด้วยตัวเองดังนี้ คะสำหรับ....รอยเปื้อนทั่วไป.....ให้ใช้ผ้าที่ซับน้ำได้ดี อย่าถูหรือขยี้ เพราะจะทำให้บริเวณนั้นเกิดความเสียหายได้แต่ถ้า พรม มีกลิ่นอับ ให้ใช้เบคกิ้งโซดาโรยลงไปให้ทั่ว ทิ้งไว้หนึ่ง ชม. แล้วดูดฝุ่นออกให้เกลี้ยงจะทำให้กลิ่นค่อยๆ จางลง แต่ถ้ายังมีกลิ่นอยู่ ให้โรยข้าวโอ๊ตทิ้งไว้อีก 1 ชม. เพราะข้าวโอ๊ต จะช่วยดูดซับกลิ่นได้ หลังจากนั้นค่อยดูดฝุ่นออก กลิ่นอับจะค่อยๆ จางหายไป และปัญหาสำคัญอีกอย่างหนึ่งของ พรม คือรอยเปื้อนตรงรอยวางเฟอร์นิเจอร์ ---ทำความสะอาดโดยวางก้อนน้ำแข็งไว้ตรงรอยนั้น จนกว่าน้ำแข็งจะละลายจากนั้นให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดซ้ำอีกทีหากทำผงแป้ง หรือส่วนประกอบอาหารชนิดผงอื่นๆ หกลงบนพรม ให้ใช้เครือ่งดูดฝุ่นดูดออก จากนั้นให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำครึ่งต่อครึ่ง เช็ดลงบนรอยเปื้อนนั้น น้ำและน้ำยาล้างจานจะค่อยๆ ทำให้ผงแป้งนั้นลอยตัวขึ้นจากเนื้อพรม แล้วจึงใช้ผ้าแห้งซับให้สะอาด รอยเปื้อนจากสนิม----ต้องทำความสะอาดทันทีที่เห็น ห้ามปล่อยไว้นาน เพราะสนิม จะฝังตัวลงกับเนื้อพรม ควรใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรด เช่น น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว เช็ดรอยเปื้อนออกรอยเปื้อนจากไวน์ หรือน้ำผลไม้---- ต้องรีบลงมือทำความสะอาดเป็นการด่วน ให้ใช้คลับโซดา หรือน้ำยาล้างจานชนิดอ่อนซับออก หรือจะลองใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แทน ก็ดูเป็นมืออาชีพดี ทำซ้ำสักสองสามครั้ง จนกว่ารอยเปื้อนจะจางไป รอยเปื้อนจากน้ำมัน----ทำความสะอาดได้โดยการใช้น้ำยาดูดซับน้ำมัน เช่น เบคกิ้งโซดา หรือแป้งเด็ก เริ่มจากโรยแป้งบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้หนึ่งคืน จากนั้นให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดแป้งออก รอยเปื้อนจะถูกแป้งดูดซับและหลุดออกมาตอนดูดฝุ่น เหลือเพียบคราบรอยน้ำมัน จากนั้นให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาซักผ้านำมาซับออกอีกที นอกจากรอยเปื้อนจะจางแล้ว ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำยาซักผ้า ที่ให้ความรุ้สึกเหมือนใหม่อีกด้วย