[BEAUTY BIBLE] รวมศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับแฟชั่นและเครื่องสำอางค์ ที่สาวๆมักเข้าใจผิด และใช้กันผิดๆ
1. ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่อินเทรนด์สุดๆ แฟชั่นสุดยอดดดดด
คนไทยหลายๆคนมักจะพูดว่า in trend หรือ fashion กัน ซึ่งจริงๆแล้ว ถ้าไปพูดว่า She is very in trend หรือถ้าจะพูดว่า ฉันชอบแฟชั่นของคนนั้นจัง เช่น I love her fashion .. ฝรั่งงงแน่ๆค่ะ ..
เราสามารถพูดได้โดย เปลี่ยนจากคำว่า in trend เป็น fashionable ที่มีความหมายว่าสมัยนิยม,ทันสมัยนั่นเอง
เช่น
- She is very fashionable, She is a fashionable person
หรือจะยังใช้คำว่า in trend ก็ได้ แต่เปลี่ยนเป็นคำว่า trendy แทนค่ะ
เช่น She is very trendy นั่นเอง
หรือถ้าจะพูดว่าเราชอบแฟชั่นการแต่งตัวของเขา ก็สามารถพูดได้เป็น
- I love her style. I love the way they dress up ประมาณนี้ค่ะ
ส่วน In trend / Out trend นั้น เป็นการพูดเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาของสิ่งๆนึง ที่เข้ามาและกำลังเป็นที่นิยม หรือช่วงเวลาที่สิ่งนึงกำลังตกสมัย ล้าสมัยออกไปเช่น
Tamagotchi is now out of trend หรือแสลงที่วัยรุ่นชอบใช้กันก็จะเป็น It's outta trend .. ( แต่ไม่สนับสนุนให้ใช้นะค้าา .. ใช้ศัพท์แบบเต็มๆนั่นแหละค่ะ ดีแล้ว รักษาภาษาไว้ดีกว่าค่ะ ) 2. เสื้อผ้าฟิตเกินไป/ เสื้อตัวนี้ใส่พอดีเลย
หลายๆคน หรือแม้กระทั่งออน สมัยที่ไปอยู่ออสใหม่ๆ ก็มักจะพูดผิดค่ะ เช่นไปลองเสื้อผ้าแล้ว แต่เสื้อผ้าตัวเล็กเกินไป .. คนไทยมักจะติดคำว่า ฟิต เช่น This shirt is too fit .. ซึ่งฝรั่งจะงง
เพราะคำว่า fit สำหรับฝรั่งนั้นแปลว่า " พอดี " ค่ะ
ดังนั้นถ้าต้องการจะพูดว่า .. เสื้อตัวนี้พอดีกับตัวฉัน .. เราก็พูดได้ว่า ..
- This shirt fits perfectly on me
หรือถ้าจะพูดว่าเสื้อตัวนี้เหมาะกับฉัน หรือคิดว่าเสื้อตัวนี้เหมาะกับฉัน เราก็พูดได้ว่า
- This shirt suits me. I think, it suits me
หรือถ้าจะพูดว่าเสื้อตัวนี้เล็กไป ใหญ่ไป เราก็พูดง่ายๆเลยค่ะ
- I think it's a little too small, it's a little too big.
ปล. ลืมบอกไปว่าภาษาที่ออนใช้ อาจจะไม่ใช่ proper english แบบ 100% นะคะ เพราะแกรมม่าออนก็ไม่ได้แม่นค่ะ ภาษาพวกนี้เป็นเหมือนภาษาพูดในชีวิตประจำวัน เหมือนกับที่คนไทยใช้ค่ะ ไม่ใช่ภาษาอ่านที่เป๊ะๆ ทุกตัวจากหนังสือค่ะ 3. ฉันชอบแต่งหน้า / ฉันชอบการแต่งหน้าของผู้หญิงคนนั้น
สาวๆบางคนอยากจะพูดว่า " ฉันแต่งหน้า หรือ ฉันชอบแต่งหน้า " แต่บางคนอาจจะไม่รู้ว่าจะพูดยังไง .. ซึ่งฝรั่งใช้คำว่า " wear " แทนคำว่า " แต่ง " ค่ะ
เช่น ..
- I wear make-up to uni everyday - I love wearing make-up
หรือถ้าจะพูดว่า ฉันชอบการแต่งหน้าของผู้หญิงคนนั้น ก็ง่๊ายย ง่ายยยค่ะ
เช่น
- I love her make-up
สั้นๆแต่ได้ใจความค่ะ
ศัพท์ที่ออนใช้วันนี้ ออนเน้นคำง่ายๆค่ะ ไม่สับสน เข้าใจง่าย จำง่าย สามารถจำและนำไปหัดใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพราะออนมองว่าบางคนพยายามใช้ศัพท์ยากๆ เพื่อให้ดูดี ดูเป็นทางการ หรือดูฉล๊าดด ฉลาดดด แต่มันจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าใช้ศัพท์ยากๆ นั้นไม่เป็น ไม่ถูกต้อง .. ตอนออนไปออสใหม่ๆ เพื่อนๆก็จะพูดคำแสลง หรือเรียนรู้คำหยาบกันบ้าง ช่วงแรกๆบอกตรงๆว่าไม่กล้าใช้ นึกสภาพว่าจะไปด่าเค้า แต่พูดผิดนี่อาย ขายหน้าเค้าสุดๆแน่ค่ะ T^T 4. เบส/รองพื้น
คนไทยจะนิยมและติดปากกับคำว่า เบสๆ เวลาไปซื้อเบส หรือสั่งเบส แต่ถ้าจะไปเมืองนอกไปพูดคำว่า เบส อย่างเดียว คนขายอาจจะงงค่ะ เพราะเหมือนกับว่า เบส แปลว่าพื้น, ฐาน อะไรประมาณนั้น ดังนั้นเราควรเรียกชื่อเต็มๆค่ะ
เช่น
ฉันกำลังมองหาเมคอัพเบส
- I'm looking for a make-up base
ฉันอยากได้เมคอัพเบส
- I would like to buy the make-up base
ซึ่งฝรั่งจะไม่ใช้บีบีครีมกันนะคะ .. ส่วนมากจะนิยมใช้รองพื้นกันไปเลยมากกว่า เนื่องจากสภาพอากาศของเค้า ที่ค่อนข้างแห้ง ทั้งร้อนแห้ง และหนาวแห้ง ดังนั้นรองพื้น จะปกปิด และให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำให้หน้าแห้งได้ดีกว่า ..
ส่วนเฉดสี .. เราสามารถใช้ได้หลายคำค่ะเช่น
fair = ขาวมากๆ ( ขาวผิวฝรั่ง ) light = ขาว ( ขาวอาหมวยจีน ขาวอมชมพู medium = ผิวกลางๆ ขาว-เหลือง ( ผิวคนเอเซีย ) dark = ผิวสีน้ำผึ้ง ผิวแทน
แต่ทั้งที้ทั้งนั้น แต่ละแบรนด์ก็มีการวัดสีผิวที่แตกต่างกันออกไปค่ะ ดังนั้นเราควรจะรู้ผิวเรา ว่าประมาณไหนก่อน .. เช่นผิวออน NC 20 ก็เรียกว่า light หรือ light-medium ก็ได้ .. * ที่อเมริกา ส่วนใหญ่เมกอัพเบส จะใช้คำว่า Primer กันค่ะ 5. ผิวแบบไหน, ความต้องการทั่วไป ฯลฯ
ก่อนอื่น ..เวลาเราจะซื้ออะไร พนักงานขายก็มักจะถามข้อมูลของสินค้าที่เราต้องการหา หรือผิวของเรา เพื่อที่จะได้เลือกสินค้าให้เหมาะกับเราให้มากที่สุด ในกรณีที่เราไม่รู้เกี่ยวกับสินค้านั้นๆ
เช่น
คุณกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ประเภทไหน
- What kind of products are you looking for?
ผิวของคุณเป็นแบบไหน
- What is your skin type?
ผิวมัน/ผิวผสม/ผิวแห้ง/ผิวบอบบาง ( ไล่ตามลำดับ )
- Oily skin, Combination skin ( combination มาจากคำว่า combine ที่แปลว่าผสมกัน รวมกันนั่นเอง ), Dry skin, Sensitive skin ตามลำดับนี้เลยค่ะ .. ซึ่งเราควรจะต้องรู้ก่อนว่าผิวของเราเป็นผิวแบบไหนนะคะ จะช่วยให้การเลือกซื้อเครื่องสำอางค์ หรือการใช้สกินแคร์ต่างๆ ง่ายขึ้น และเห็นผลกับเรามากที่สุดค่ะ 6. การเลือกซื้อสินค้าให้เหมาะกับผิว
ผิวมัน ( Oily skin )
ถ้าต้องการหาแป้งควบคุมความมัน เราสามารถใช้คำศัพท์ง่ายๆเช่น oil control powder ก็ได้ แต่คนส่วนมากจะไม่ค่อยใช้กัน ดังนั้นศัพท์ที่ดูวุ่นวายหน่อย แต่ใช้ได้ผลก็จะเป็นคำว่า matte หรือ mattifying powder นั่นเอง
เช่น ..
- I'm looking for a mattifying foundation ( รองพื้น ) หรือ - I would like to buy this matte powder
ส่วนถ้าผิวผสม .. อาจจะยังไม่มีคำที่เฉพาะเจาะจง ( หรือออนไม่รู้ ก็ไม่แน่ใจ T^T ) ส่วนมากออนผิวผสม เวลาออนหาอะไรออนก็จะบอกเค้าไปเลยว่า ..
ฉันผิวผสม ฉันต้องการหาสกินแคร์หรือเครื่องสำอางค์สำหรับผิวผสม เช่น
- My skin is a combination skin - I'm looking for a skincare for a combination skin - I wanna buy a powder for combination skin .. ( เราสามารถอธิบายเพิ่มเติมให้พนักงานเข้าใจได้มากขึ้น )
เช่น
ช่วงทีโซนจะมันระหว่างมัน แต่ส่วนอื่นๆของหน้าจะแห้ง
- around the T-Zone area is quite oily during the day . but the rest of the areas are dry
ผิวแห้ง ( Dry skin )
ส่วนมากคนผิวแห้งจะเน้นพวกครีมที่เนื้อหนักๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่เติมนำให้ผิว เพราะว่าสาวๆผิวแห้งจะมาใช้เจล หรือผลิตภัณฑ์ที่ผสมแอลกอฮอลล์ไม่ค่อยได้ เพราะว่าความชุ่มชื่นจะไม่พอ ..
ดังนั้นถ้าผิวแห้งมากๆ และต้องการเน้นว่า .. ผิวฉันแห้ง ต้องการครีมหนักๆ คำว่าเข้มข้นของภาษาอังกฤษในกรณีพวกครีม หรือของเหลว จะใช้คำว่า " rich "
ในที่นี้ไม่ได้แปลว่ารวยนะค้าาา แต่แปลว่าเข้มข้น ข้น เยอะ หนัก ประมาณนั้นเลย
เช่น ฉันเป็นคนผิวแห้ง กำลังมองหาม๊อยเจอร์ไรเซอร์แบบเข้มข้น
- My skin is very dry/ I have dry skin. I'm looking for a moisturizer, a rich one ประมาณนี้ค่ะ
หรือสำหรับผิวแพ้ง่าย .. คำว่า allergic / allergy จะได้ใช้บ่อยเลยค่ะ
เช่น ผิวฉันแพ้ง่ายมากๆ
- My skin is very sensitive
allergy/allergic แปลว่า แพ้ค่ะ แพ้ที่หมายถึงอาการแพ้ ค่ะ ว่าถ้าจะบอกคำว่า ผิวเราแพ้ง่ายมากๆ หรือโดนอะไรนิดๆหน่อยๆ ก็แพ้ ก็พูดได้ว่า
I get allergic very easy หรือ My skin gets allergic easily
ประมาณนี้ค่ะ .. * ศัพท์ย่อยๆ ภาษาอังกฤษอื่นๆ *
แท็กซี่ = taxi, cab
( ฝรั่งหลายคนเรียกว่า cab ค่ะ .. อ่านว่า แข็ป .. เช่น .. Im getting the cab, I come here by the cab, I'll call the cab to come pick me up )
ถุงพลาสติก ถุงผ้าใส่ของ = shopping bag
( เมืองนอกจะมีพวกถุงผ้าขายที่ซุปเปอร์ค่ะ ไว้สำหรับแม่บ้าที่มาช้อปบ่อยๆ พวกนี้จะใช้ถุงผ้าค่ะ เพราะซื้อครั้งเดียวใช้ได้นานเลยค่ะ ส่วนมากราคาอยู่ประมาณ 99 cents ค่ะ คิดแล้วราคาประมาณ 25-30 บาทไทยค่ะ
รถเข็น = shopping trolley, trolley
( อ่านว่า " ทรอย-ลี่ " หรือ " ช็อปปิ้ง ทรอย-ลี่ " ค่ะ ก็คือรถเข็นในซุปเปอร์ ขนเห็นในห้างนั้นเอง .. )
ถามราคา = how much are they, how much does it cost ฯลฯ
( การถามราคาถามได้หลายแบบมากๆค่ะ แบบง่ายๆก็ how much is this, how much are they แบบยากขึ้นมาหน่อยก็ how much does it cost, how much do they cost หรือถ้าจะถามแบบสุภาพมากๆก็ May I ask .. ขึ้นก่อน แล้วก็ตามด้วยคำถามเลยค่ะ ) Credit จากคุณ: shanny, super sheep //www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q9320385/Q9320385.html
Create Date : 02 มิถุนายน 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 15:14:09 น. |
Counter : 105735 Pageviews. |
|
|
|