|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
4. คำขอร้องของเฟริน
แม้ว่าเฟรินจะสบายใจแล้ว แต่ความสงสัย และกังวลใจในคำตอบของคาโลยังคงอยู่
“คาโล มันเครียดเรื่องอะไร ฉันว่าต้องไม่ใช่เรื่องรายงานอะไรนั่นหรอก เพราะนายคิดดูซิ ปกติก็ทำทุกปี ตั้งแต่ปี 2 แล้ว ประสบการณ์สูงขนาดนี้แล้ว ยังต้องกลุ้มใจอะไรอีก นายว่างั้นมั้ย?” เฟรินพูดพร้อมกับตักอาหารจากจานที่ 3 เข้าปาก
“พอสบายใจ ก็กลับมาจ้อเชียวนะ” คิลพูดอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้
“แล้วตกลงนายคิดว่ายังไงล่ะ” เฟรินเร่งขอความเห็นจากคิล
“เออ... ฉันเห็นด้วยกับนาย แล้วไง ในเมื่อมันไม่บอก แล้วนายจะช่วยอะไรได้”
“นายก็ช่วยฉันคิดหน่อยซิ ว่าฉันจะไปสืบความลับยังไงดี”
“นี่แม่คุณ นอกจากจะเป็นขโมย เป็นเจ้าชาย เจ้าหญิง หมา แล้วนี่ยังจะเป็นนักสืบอีกเหรอ” คิลพูดยิ้มๆ
“เออ...ช่วยฉันหน่อยน่า นายเคยบอกว่า อยู่กับฉันแล้วไม่เบื่อไม่ใช่เหรอไง” เฟรินพูดต่อรอง แม้ว่าเธอจะเชื่อยังไงเพื่อนคนนี้ก็ยอมช่วยเธอในท้ายที่สุด
“เอาเป็นว่า นายลองช่วยเหลือตัวเองไปก่อนแล้วกันนะ ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยว่าง ฉันต้องวางแผนสำหรับไปเที่ยวบ้านเรนอนแบบแนบเนียนก่อน”
“เฮ้ย... ทำไมทิ้งกันอย่างเนี้ย”
“ก็เรื่องนายกับคาโลมันเรียบร้อยแล้วนี่หว่า ของฉันยังเลย” คิลพูดพร้อมกับลุกขึ้น เก็บถาดอาหารเรียบร้อยก่อนที่จะมุ่งหน้าเดินไปหากลุ่มของเรนอนที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยกันอยู่ที่สนาม
หลังจากอาหารมื้อเช้า และงีบตอนสายผ่านไป สมองเฟรินก็กลับมาทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้งเพื่อหาทางในการล้วงความลับที่ซ่อนอยู่ของคาโล
“ต้องสืบจากคนที่อยู่กับคาโลบ่อยๆ”
“มันก็เป็นเรา กับ เจ้าคิลน่ะซิ แล้วมีคนอื่นอีกมั้ยน้า”
“ต้องสืบจากคนที่มีแนวโน้มว่าจะให้ความร่วมมือกับเรา”
“อืม...มมม มันก็เจ้าเดิม คิลอีกแล้ว”
“เอ...มีคนอื่นอีกมั้ยน้า”
แล้วสมองของเฟรินก็สว่างวาบขึ้นมาทันที บางทีแม้ว่าจะไม่ใช่คนก็อาจจะช่วยเราได้ หล่อนเริ่มแผนการทันที
“พี่ผีสาว มาหาเฟรินหน่อยซิคะ” เฟรินกระซิบเสียงอ้อน เผื่อว่าพี่ผีสาวที่เป็นคู่ปรับกับเธอเรื่อยมาจะยอมมาหา
“นะค้า ... พี่ผีสาว มาหาเฟรินหน่อยซิคะ เฟรินมีเรื่องอยากให้พี่ช่วย เกี่ยวกับคาโลน่ะ...”
ยังไม่ทันที่เฟรินจะพูดจบประโยค พี่ผีสาวจากคทาพิพากษา ก็ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าเฟริน
“มีอะไรคะ นายหญิงน้อย มีธุระอะไรก็รีบๆหน่อยนะคะ พี่แอบหนีนายท่านมา”
“ขอรบกวนเรื่องเดียวค่ะ คือ พักนี้คาโลกลุ้มใจเรื่องอะไรอยู่เหรอคะ” เฟรินส่งคำถาม พร้อมส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุด เป็นมิตรที่สุดให้กับพี่ผีสาว
“...”
“ทำไมเงียบไปล่ะคะพี่ หรือว่าพี่ไม่ทราบ” เฟรินประท้วงเมื่อได้รับความเงียบเป็นคำตอบ
“พี่ทราบซิคะ ว่าท่านคาโลกลุ้มเรื่องอะไร และก็ทราบว่านายท่านไม่ต้องการให้นายหญิงน้อยทราบ” ผีสาวประท้วงเสียงสูง ด้วยความไม่พอใจ เมื่ออีกฝ่ายมากล่าวหาว่าเธอไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวนายท่านที่เธอเคารพและรัก
“ช่วยรบกวนบอกนิดนึงก็ได้ค่ะ เฟรินอยากช่วยท่านคาโลจริงๆค่ะ” เฟรินพยายามพูดหวานต่อไป เผื่อว่าความลับจะแพร่งพรายออกจากปากโปร่งใสนั้นบ้าง
“จริงๆ ท่านคาโลก็ไม่อยากบอกเพราะกลัวนายหญิงน้อยกังวลใจค่ะ แต่พี่ไม่เห็นด้วย เพราะเรื่องนี้ถ้าได้รับความร่วมมือกับนายหญิงน้อยด้วย เรื่องจะมีโอกาสสำเร็จได้ง่ายขึ้น”
“เรื่องอะไรล่ะคะ ถ้าเฟรินช่วยได้ เฟรินจะช่วยเต็มที่เลยค่ะ” เฟรินมั่นใจแล้วว่าพี่ผีสาวต้องบอกความลับให้เธอรู้แน่ๆ
“จะเรื่องอะไรซะอีกละคะ ก็เป็นเรื่องที่นายหญิงน้อยก็ทราบดีอยู่แล้วน่ะค่ะ”
“เรื่องคู่หมั้นของคาโลใช่มั้ย” เฟรินตอบเสียงแผ่ว
“ใช่ค่ะ ไม่น่าเชื่อว่านายหญิงน้อย จะความรู้สึกเร็วขึ้นกว่าเดิม ตอนแรกฉันคิดว่านายหญิงน้อยจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวเรื่องนี้ซะอีก” แม้ว่าจะเป็นผีก็ยังไม่วายประชดประชัน แต่เมื่อหันกลับมา พบกับหน้าที่สลดลงอย่างเห็นได้ชัดของเฟริน เธอก็อดสงสารไม่ได้
“ท่านคาโลน่ะ กลุ้มใจว่าจะทำอย่างไร ให้ทางท่านพ่อยอมรับในตัวนายหญิงน้อยในฐานะคู่หมั้นของท่าน แม้ว่าท่านพ่อของท่านจะทราบดีก็ตามว่าท่านคาโลกับนายหญิงน้อยมีใจให้กันตั้งแต่สงครามใหญ่ครั้งนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะยอมรับได้ง่ายๆ อีกทั้งประชาชนทั้งประเทศจะยอมรับธิดาแห่งความมืดรึเปล่า ก็ยังเป็นคำถามที่ยังไม่มีใครตอบได้”
“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”
“สำหรับเรื่องหนทางว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ก็ขึ้นกับนายหญิงน้อยแล้วล่ะค่ะ แต่อย่าลืมที่รับปากกับพี่ไว้แล้วนะคะว่าจะช่วยนายท่านเต็มที่”
“ฉันรักษาสัญญาแน่นอน”
“ได้ยินอย่างนี้ ฉันก็เบาใจ เพราะถ้านายหญิงน้อยตั้งใจทำเองโดยไม่มีใครบังคับแล้วล่ะก็ คงสำเร็จได้ไม่ยาก ฉันคงต้องขอตัวก่อนนะคะ หายมานาน เดี๋ยวนายท่านจะจับได้”
“ขอบคุณมากค่ะพี่ผีสาว”
ร่างโปร่งใส เบาบาง หายวับไปตรงหน้า ทิ้งไว้แต่ความหนักอึ้งของปัญหาที่เฟรินต้องขบคิด
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
วันสุดท้ายของเทอม เป็นวันที่คึกคักไม่แพ้วันเปิดเรียน เพราะนักเรียนแต่ละคนต่างหาซื้อของฝากกลับบ้านจากตลาดนัดที่มาตั้งข้างโรงเรียน และลานหน้าโรงเรียนที่เคยเป็นลานโล่ง เต็มไปด้วยสัตว์พาหนะมากมาย เช่น มังกร 7หัว ม้ามีปีก สฟิงค์ ที่เตรียมมารับลูกหลานพระราชาและคหบดีจากประเทศต่างๆ สำหรับพวกนักเรียนที่อยู่ปีสูงๆ มักจะกลับกันเอง รวมทั้งคาโล เฟริน และคิล
รถเทียมม้าสง่างาม 5 ตัว หยุดลงที่ริมฝั่งแม่น้ำ สาวน้อยร่างบางในชุดทะมัดทะแมงกระโดดลงจากรถม้า พร้อมกับชายหนุ่มรูปงาม คาโลช่วยหยิบสัมภาระของเฟรินลงจากรถ ซึ่งมีเพียงดาบผ่าปฐพี และถุงผ้าใบเก่าเพียง ใบเดียว
คาโลยืนส่งเฟรินที่ริมแม่น้ำแลนติส เหมือนทุกเทอมที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะมีแหวนที่ได้จากกษัตริย์เดมอส ที่สามารถเข้าออกดินแดนปิศาจเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เขาก็แทบไม่ได้ไปเหยียบดินแดนนั้นอีกหลังจากไปแก้คำสาปให้เฟริน และ สงครามครั้งนั้น เนื่องจากราชกิจมากมายของเสด็จพ่อทำให้เขาต้องรีบกลับไปช่วยแบ่งเบาภาระในยามที่ประเทศกำลังฟื้นตัวจากสงครามครั้งใหญ่
ลมจากแม่น้ำทำให้ผมสีน้ำตาลสลวยที่มัดไว้เพียงหลวมๆ ปลิวมาระแก้มเนียน คาโลเกลี่ยปอยผมนุ่มของร่างเล็กที่ยืนตรงหน้ากลับไปทัดหู
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า เห็นเงียบๆไป” คาโลเอ่ยถามสาวน้อยเบื้องหน้าด้วยความห่วงใย เพราะ เสียงของเฟรินที่มักชวนเขาคุย ทำให้เขารู้สึกระยะทางจากโรงเรียนมายังท่าน้ำริมแม่น้ำแลนติสสั้นกว่าปกติ
“ไม่มีอะไรหรอก นายไม่ต้องห่วง” เฟรินส่งยิ้มสดใสกลับมาให้ชายหนุ่มที่ห่วงใยเธอเสมอ
แม้ว่าเขาอยากจะยื้อเวลาแห่งการลาจากให้นานออกไปเท่าไร แม้ว่าเขาอยากจะดูแลสาวน้อยตรงหน้าไม่อยากให้ห่างกายของเขาสักนาที แต่เขาทำได้เพียงแค่ถ่ายทอดความห่วงใยผ่านทางสายตาและความอบอุ่นจากมือที่ยังคงเกาะกุมไว้ให้เธอเท่านั้น
“ดูแลตัวเองดีๆนะ แล้วเจอกันเปิดเทอม”
“อืม นายก็ด้วยนะ แล้วเจอกัน”
เมื่อคาโลปล่อยมือเฟริน เธอโบกมือเป็นสัญญาณ มังกรบินที่มารออยู่ที่ฝั่งตรงข้ามก็บินข้ามแม่น้ำมาร่อนลงข้างๆ สาวน้อยกระโดดขึ้นมังกรอย่างคล่องแคล่ว เพียงไม่นานมังกรก็ทะยานขึ้นฟ้าบินลับหายไป
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ทันทีที่มังกรบินแตะถึงพื้นปราสาทแห่งเดมอส เฟรินก็กระโดดลงจากหลังมังกรด้วยความคล่องแคล่ว สร้างความใจหายใจคว่ำให้แก่เสนาบดีร่างจิ๋ว โคมุท
“กระหม่อมทูลเจ้าหญิงหลายครั้งแล้ว ว่ารอให้มังกรเก็บปีกให้เรียบร้อยก่อนค่อยลง เมื่อไหร่เจ้าหญิงจะทรงเชื่อล่ะพระเจ้าค่ะ”
“เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นแหละ ขอโทษที ตอนนี้ฉันกำลังรีบ”
แล้วเธอก็เริ่มทำตามสัญญาที่ให้ไว้
“ท่านอา ... ท่านอาอยู่มั้ยคะ”
“เดี๋ยว เดี๋ยว เจ้าหญิง รอกระหม่อมด้วย” โคมุท พยายามอย่างยิ่งที่จะวิ่งตามเจ้าหญิงคนสำคัญแห่งดินแดนปิศาจให้ทัน แต่ก็..ไม่ทัน เสียงวิ่ง เสียงตะโกน ดังก้องไปทั่วปราสาท ทำให้เหล่าข้าราชบริพารน้อยใหญ่รับรู้การมาของเจ้าหญิงเฟลิโอน่าไปโดยปริยาย เจ้าหญิงที่แสนร่าเริง เฉลียวฉลาดในการแก้ปัญหาและทันคน หลายปีที่ผ่านมาทำให้ไม่มีใครไม่ตกหลุมรักเจ้าหญิงองค์นี้
“อาอยู่นี่ เรียกเสียงดังเชียว เมื่อไหร่หลานจะเรียบร้อยบ้าง” แม้ว่าคำพูดจะเป็นการตำหนิ แต่รอยยิ้มอ่อนโยนที่มอบให้ ทำให้เฟรินรู้ว่าท่านอาของเธอใจดี
“กระหม่อมมีเรื่องจะปรึกษาท่านอา”
“เรื่องอะไรหรือ หลานทำเหมือนเป็นเรื่องเร่งด่วน” แม้ว่าจะระคายหู กับคำสรรพนามแทนตัวเองของหลานสาว แต่หล่อนก็เลือกที่จะมองข้ามไปบ้าง
“เรื่องด่วนมาก กระหม่อม คือ...กระหม่อมอยากให้ท่านอาช่วยใช้เวทย์มนต์ทำให้กระหม่อมกลายเป็นเจ้าหญิง แบบที่....เหมาะกับฐานะเจ้าหญิงน่ะกระหม่อม” เฟริน เลือกปรึกษาท่านอา ที่เป็นนักพัฒนาบุคลิกภาพตัวยง ที่อดทนกับเธอปีแล้วปีเล่า ด้วยอยากเห็นเธอเป็นเจ้าหญิงที่สง่างามไม่น้อยหน้าอาณาจักรอื่นๆ แต่ก็...ไม่เคยสำเร็จ
“... เราคิดจริงๆเหรอ ว่าจะตบตาแม่มดแห่งสโนว์แลนด์ได้”
“...ท่านอาทราบ...”
“มีอะไรเกี่ยวกับหลานรักของอา แล้วอาจะไม่ทราบ” หล่อนลูบศีรษะเฟรินเบาๆ
“... ก็..กระหม่อมกลัวไม่ทัน แล้วก็กลัวพลาดด้วยน่ะ ท่านอา” เฟรินไม่แปลกใจเลยที่ท่านอาของเธอรู้ล่วงหน้าว่าในเรื่องนี้ จริงๆเฟรินเองก็ไม่คิดว่าจะตบตาแม่มดแห่งสโนว์แลนด์ท่านแม่ของคาโลได้ แต่ที่ปรึกษาประเด็นนี้ก่อนก็เผื่อว่า จะมีวิธีที่ง่ายกว่าที่จะฝึกทโมนอย่างเธอให้เรียบร้อยและเป็นกุลสตรี
“ไม่ใช่ว่าเราขี้เกียจหรอกเหรอ” แม่มดแห่งแสงจันทร์พูดดักคอหลานรัก ซึ่งแทงใจดำเฟรินอยู่ไม่น้อย
“ไม่ ... กระหม่อมอยากให้ท่านอาช่วยจริงๆ” เฟรินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
แม่มดแห่งแสงจันทร์ ผู้ที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มองลึกเข้าไปในดวงตาของหลานสาว ประกายตาแน่วแน่จากดวงตาสีน้ำตาลที่ขี้เล่นอยู่เป็นนิจ บัดนี้ฉายแววจริงจัง จนคนมองต้องใจอ่อน
“ยังมีเวลา อีกประมาณเดือนกว่าๆ ถ้าหลานสัญญาจะเชื่อฟังและปฏิบัติตามโดยไม่ดื้อ ไม่เถียง ไม่หนีเรียนแบบที่แล้วๆมา อาจะช่วย” ทั้งๆที่หล่อนเองก็พยายามตัดใจกับเรื่องนี้แล้ว เมื่อมีโอกาสเหมาะที่เจ้าตัวสมัครใจเช่นนี้ หล่อนก็ต้องรีบขอคำสัญญาที่หนักแน่นจากหลานสาว
“กระหม่อมสัญญา....แต่ที่ท่านอาว่าจะช่วย ท่านอาจะช่วยกระหม่อมอย่างไร”
“อ้าว...ก็สอนให้หลานเป็น อย่างที่หลานต้องการไงล่ะ เฟลิโอน่า .... เริ่มจากอย่างแรก เรียกแทนตัวเองว่า “หญิง” ไม่ใช่ “กระหม่อม” แล้วต้องลงท้ายด้วยเพคะด้วย ทำได้มั้ย”
“... เอ่อ...หญิง...ทำได้...เพคะ” กว่าเฟรินจะเปล่งคำพูดที่ทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้แบบนี้ออกไปได้ ก็เล่นเอาเธอทำสีหน้าไม่ค่อยถูกเอาซะเลย
“สำหรับงานที่ได้รับมอบหมายจากท่านพ่อของหลาน อาว่าให้โคมุทรับหน้าที่ดูแลต่อไปก่อนแล้วกัน เพื่อให้หลานมีเวลาเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่”
“กระหม่อม...เอ้ย...หญิงอยากจะดูแลงานในส่วนที่รับผิดชอบด้วย...เพคะ..ท่านอา สำหรับเรื่องเวลาเรียน....เรียนเฉพาะเวลากลางคืนได้มั้ยท่านอา....เพคะ” เธอไม่อยากให้โคมุทดูแลงานในส่วนของเธอต่อ เพราะเหตุผลของปิศาจ ช่างแตกต่างจากสามัญสำนึกของมนุษย์ค่อนข้างมากอยู่ เธอไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นในภายหลัง
“จะไหวเหรอ”
“ไหวแน่นอนกระหม่อม...เอ้ย...เพคะ เริ่มคืนนี้เลยนะ....เพคะ”
“ใจร้อนจริงๆ ได้ซิจ้ะ”
“เอ่อ...คือว่า เรื่องนี้ท่านอาอย่าบอกท่านพ่อได้มั้ยกระหม่อม....เอ้ย....เพคะ”
“ทำไมล่ะ อายเหรอ ท่านพี่ไม่ทรงว่าอะไรหลานหรอก แต่เพื่อความสบายใจของหลาน อาไม่บอกก็ได้จ้ะ ตอนนี้เพิ่งมาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนดีมั้ย เราจะเริ่มกันหลังมื้อเย็นแล้วกันนะจ๊ะ”
“เพคะท่านอา” เฟรินยิ้มให้ท่านอา ก่อนจะขอตัวแยกไป
Create Date : 30 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 30 สิงหาคม 2550 10:32:28 น. |
|
5 comments
|
Counter : 710 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เจมส์สุดหลอ่ IP: 125.24.78.165 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:14:42:48 น. |
|
|
|
โดย: เป้ด IP: 125.24.78.165 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:14:44:30 น. |
|
|
|
โดย: ยามปลายลมหนาว IP: 125.25.193.227 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:20:51:32 น. |
|
|
|
โดย: บลูเบอรี่สีเงิน IP: 203.156.26.227 วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:38:59 น. |
|
|
|
| |
|
|