Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 กรกฏาคม 2550
 
All Blogs
 
3. เผชิญหน้า

เมื่อแยกจากคิลที่หน้าห้องสมุดเฟรินเดินกลับมาที่ห้อง ปล่อยตัวให้กระแทกลงบนความอ่อนนุ่มของเตียง แล้วปล่อยให้ความคิดล่องลอยไป

‘ทำไมคาโลถึงไม่พูดกับเรา’

‘บางทีเรื่องที่เรนอนเล่าให้ฟังคงเป็นเรื่องจริง’

--------------------------------------------------------

สัปดาห์แรกของการเปิดเทอม

“ไม่คิดเลยว่าปิดเทอมที่ผ่านมาจะได้ไปเที่ยวปราสาทของเรนอน” มาทิลด้าเอ่ยขึ้นในห้องพักผ่อนรวมของหอพักหญิง

“เอ๋..เธอสองคนนัดกันเหรอ ทำไมไม่บอกให้ฉันรู้บ้าง ฉันจะได้ไปด้วยคน” แองเจลีน่าพูดขึ้นอย่างแปลกใจ

“ไม่ได้นัดกันหรอกพอดี เสด็จแม่ของฉันพาลูกพี่ลูกน้องฉันไปพบกับคิงบาโลน่ะ ฉันเลยไปด้วย”

“น่าแปลก แม่เธอพาลูกพี่ลูกน้องเธอไปทำไม กะจะไปยึดเมืองของคาโลมันรึไง” เฟรินพูดแทรกขึ้นบ้าง

“จะบ้าเหรอ ใครเค้าจะพาลูกสาว กับ ลูกพี่ลูกน้องของลูกสาวไปบุกยึดเมืองอื่นกัน” แองเจลีน่าพูด อดส่ายหน้าด้วยความระอาไม่ได้ เมื่อไหร่สาวน้อยหน้าหวานคนนี้จะทำตัวให้สมกับเป็นผู้หญิงซะที ไม่ต้องขนาดสมกับเป็นเจ้าหญิงก็ได้

“ก็อาจจะยึดได้ก็ได้” เฟรินหลิ่วตามีเลสนัย

“ทำยังไงเหรอ” เรนอนถามด้วยสีหน้าสงสัย

“...” เฟรินยังคงกอดอกยักคิ้ว ยิ้มยั่วอย่างเป็นต่อ

“บอกมานะเฟริน อย่ามัวทำเป็นเล่น” มาทิลด้าเริ่มทนไม่ไหวกับมาดกวนประสาทของเจ้าหญิงแห่งความมืดคนนี้

“ก็ใช้เสน่ห์ยึดไง” เฟรินรีบเฉลยก่อนที่จะโดนรุม

“เจ้าบ้าเฟริน” แองเจลีนาคว้าคทาคู่มือ เริ่มต้นวิ่งไล่เฟรินอีกครั้ง สร้างเสียงหัวเราะให้สมาชิกในห้องที่เหลือ

“โอ้ย...ยย อย่าตีซิ เดี๋ยวนี้ฉันเป็นผู้หญิงเหมือนเธอแล้วนะ” เฟรินเอามือกุมหัวที่โนเป็นลูกมะนาวจากคทาของแม่มดสาว

“ดีแต่เล่น ระวังเถอะ นายรู้มั้ยว่าลูกพี่ลูกน้องของมาทิลด้าไปพบคิงบาโลทำไม?” แองเจลีนาพูดแบบหอบๆ หลังจากวิ่งไล่เฟรินไปหลายรอบ

“เออ..นั่นซิ ไม่รู้แฮะ” เฟรินพูดพร้อมกับมองหน้ามาทิลด้า กับ เรนอนสลับกัน

“ให้ฉันเดานะ คงจะเกี่ยวข้องกับ ตำแหน่งคู่หมั้นของคาโลล่ะมั้ง” มาทิลด้าตอบ

“ก็อาจจะเป็นไปได้นะคะ เพราะทุกครั้งที่เจ้าชายคาโลกลับไป หญิงจะเห็นเจ้าหญิงจากหลายเมืองมาเข้าพบท่านลุงบาโร บางครั้งหญิงก็ร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยค่ะ”

“ถ้ามันเป็นอย่างมาทิลด้าคิด นายจะทำยังไง” แม้ว่าเพิ่งจะวิ่งไล่กันมา แต่แองเจลีนาก็อดเป็นห่วงสาวน้อยที่ปากมีปัญหาคนนี้ไม่ได้

“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกน่า เป็นห่วงตัวเองเถอะ จะมีคนสนใจแม่มดสาวมือหนักรึเปล่าน้า”

“นายเฟริน” ก่อนที่แองเจลีน่าจะวิ่งไล่จับเฟรินมาลงโทษ โทษฐานที่ปากเสีย เจ้าตัวร้ายก็เผ่นแผล้วออกจากห้องไปเรียบร้อย ไม่เห็นฝุ่น

----------------------------------------------------

มาถึงวันนี้ เรื่องคู่หมั้นของคาโลที่เรนอนเล่าคงเป็นเรื่องจริง บางทีคาโลอาจจะรู้สึกว่าเธอไม่เหมาะสมกับเขาแล้วก็ได้

เฟรินแนบหน้ากับหมอนเพื่อกลบเสียงสะอื้น เธอไม่คิดมาก่อนว่าจะรู้สึกผิดหวังและเสียใจได้มากขนาดนี้

“เป็นอะไรตาโหลเชียว เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ” คิลถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เมื่อพบหน้าเฟรินที่โรงอาหารดรากอนในเช้าวันรุ่งขึ้น

“ไม่รู้ซิ ฉันก็ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไร บางทีอาจจะแค่แป๊บเดียว” เมื่อคืนนี้เฟรินปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้เวลา จนกระทั่งผล็อยหลับไป

ทั้งสองเหลือบไปเห็นคาโลเดินเข้ามาพร้อมกับคนของคิงบาโร

“ถ้านายจะไปนั่งกับหมอนั่นก็ได้นะ เพราะฉันว่าจะอิ่มแล้วล่ะ” เฟรินพูดหลังจาก มองตามร่างสูงสง่าด้วยความหวังว่าดวงตาสีฟ้าคู่นั้นจะหันมามองเธอบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผล

“ฉันไม่ไปนั่งกับมันหรอก เมื่อคืนฉันไปคุยกับมันเรื่องนาย มันบอกว่า อย่ายุ่งเรื่องของมัน น่าโมโหมั้ยล่ะ” คิลพูดด้วยอารมณ์ที่ยังโมโหไม่หาย

“...” เฟรินได้แต่ก้มหน้า นิ่งเงียบ

“ให้ตายเถอะว่ะ เฟริน คนเดิมที่ฉันรู้จักหายไปไหนฟะ วู้...เซ็งไปนั่งที่อื่นดีกว่า นั่งนี่ก็กินข้าวไม่ลง”

คิลหยิบถาดเตรียมย้ายที่นั่ง เพราะรู้ว่าเฟรินคงอยากอยู่คนเดียวมากกว่าเวลาเช่นนี้ แต่เค้าก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้

“ฉันว่า ถ้าเป็นเฟรินคนเดิม เค้าต้องหาทางให้ได้คุยกับคาโลตรงๆได้แน่ เพราะหมอนั่นจ้าวแผนการจะตายไป” คิลแกล้งพูดลอยๆเผื่อว่าจะเรียกสติของสาวน้อยที่ในตอนนี้ เขารู้สึกว่าเป็นสาวน้อยเต็มตัว ให้เลิกเศร้าแล้วคิดหาแผนการดีๆเพื่อแก้ปัญหานี้ให้ได้

หลังมื้อเช้าเฟริน กลับมาที่ห้องส่วนตัวอีกครั้ง เนื่องจากสอบเสร็จหมดทุกวิชาแล้ว เพื่อรวบรวมความกล้า สำหรับแผนการคืนนี้

เธอต้องขอบคุณคำพูดของคิลที่เตือนสติของเธอ ให้เลิกเศร้าแล้วหาทางแก้ปัญหา อย่างน้อยถ้าได้รู้ว่า ต้นเหตุที่ทำให้คาโลเมินเธอขนาดนี้คืออะไร ก็ยังดี ถ้าอะไรจะเกิดเธอก็ต้องทำใจยอมรับความจริงให้ได้

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

คาโลเดินกลับหอพักหลังจากเวลาห้องสมุดปิดเล็กน้อย อีก 2 วัน เขาต้องกลับไปยังคาโนวาล เขายังนึกวิธีการดีๆที่จะทำให้เสด็จพ่อของเขายอมรับเฟรินยังไม่ได้ เขาจึงได้แต่ถอนหายใจเพื่อระบายความอัดอั้นในใจออกมา หวังว่ามันจะช่วยลดความหนักใจลงได้บ้าง

เมื่อเขาปิดประตูห้องลง แล้วเดินเข้าไปภายในห้อง ในความมืดที่ครอบคลุม เขารู้สึกว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังเขา แต่เนื่องจากผู้บุกรุกไม่ได้ปิดบังกลิ่นอาย ทำให้คาโลรู้ได้ทันทีว่า แขกยามวิกาลของเขา คือ สาวน้อยที่เขาคิดถึงอยู่ตลอดเวลา

แสงสว่างปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันด้วยอำนาจเวทมนต์ของทายาทแม่มดสโนแลนด์ ขับไล่ความมืดให้หายไป

“สวัสดีคาโล” เฟรินยืนอยู่ระหว่างคาโลกับประตูห้อง เพราะเธอไม่ต้องการให้เขาหนีเธอไปอีก

“ฉันรู้ว่านายไม่อยากคุย ไม่อยากเจอหน้าฉัน แต่ฉันขอเวลาแค่ 5 นาที ได้มั้ย ฉันจะไม่เข้าใกล้นายมากกว่านี้ เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งไล่ฉันเลยนะ”

ดวงตาสีฟ้าเย็นชาของคาโล จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลที่บัดนี้มีน้ำใสๆคลออยู่

“ฉันไม่รู้ว่าทำอะไรให้นายโกรธ หรือรังเกียจ บอกฉันได้มั้ย”

“เฮ้อ....ออ.. ฉันไม่ได้โกรธนาย”

เขาอยากจะอธิบายให้สาวน้อยตรงหน้าให้เข้าใจ แต่คำบอกเล่าอาจจะนำความทุกข์ใจให้เธอมากยิ่งขึ้นก็ได้

“งั้นนายคงรังเกียจ ฉันเข้าใจแล้ว คงเหมือนที่นายเคยพูดว่า ขโมยก็เป็นได้แค่ขโมยวันยังค่ำ ไม่มีทางเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงได้ นายอยากจะเลิกกับฉัน แต่นายไม่กล้าบอกฉันใช่มั้ย”

“...” คาโลเงยหน้าขึ้นสบตา ไม่เข้าใจกับคำพูดของสาวน้อย

“ไม่ต้องกังวลนะ ถ้านายต้องการอย่างนั้น ฉันแค่ต้องการคำยืนยันจากนาย ฉันไม่อยากจะเก็บความสงสัยไปตลอดทั้งปิดเทอม แล้วฉันจะบอกพ่อของฉัน ว่าฉันเป็นคนขอเลิกกับนายเอง ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่ให้เกิดสงครามงี่เง่านั่นอีก” เฟรินพยายามที่จะรักษาเสียงไม่ให้สั่น เธอไม่รู้ว่ามันเหมือนกับที่ซ้อมที่ห้องมาตลอดทั้งวันมั้ย เพราะตอนนี้ความเจ็บปวดและความเศร้ามันทำให้เธอชาไปทั้งตัว เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังยืนอยู่บนพื้นหรือไม่

“ใครบอกเธอเรื่องนี้” คาโลเห็นหยาดน้ำตาที่ไหลจากดวงตาสีน้ำตาลคู่งาม อย่างไม่ขาดสาย ระยะห่างของทั้งคู่ถูกลบให้หมดไปทันที ชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนแนบแน่น

“ฉันไม่เคยคิดเรื่องที่จะเลิกกับเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ใครพูดอะไรให้เธอไม่สบายใจเหรอ” คาโลคลายวงแขน เลื่อนมือใหญ่ทั้งคู่ของเขากุมใบหน้านวล แล้วบรรจงใช้นิ้วโป้งค่อยๆเช็ดน้ำตาจากดวงตาทั้งสองข้างให้สาวน้อย เขาไม่คิดว่าการเงียบ และ การหลบหน้าจะทำให้สาวน้อยเจ็บปวดได้มากขนาดนี้ สาวน้อยที่เขาเคยคิดว่าคงไม่มีอะไรทำให้หล่อนหวั่นไหวหรือซึมเศร้าได้

“...” เฟรินได้แต่ส่ายหน้า เนื่องจากเธอพยายามกลั้นเสียงสะอื้นอยู่อย่างสุดความสามารถ

“เฟรินอย่าร้องไห้อย่างนี้ซิ ฉันใจไม่ดีเลย อยากให้เธอรู้ไว้นะ ว่าไม่ว่าวันไหนๆ ฉันก็รักเธอเหมือนเดิม” แค่เห็นน้ำตา ร่างบางที่สั่นน้อยๆ จากการกลั้นเสียงสะอื้นในอ้อมแขน ปราการน้ำแข็งในหัวใจของเขาก็ละลาย

เขาช้อนคางสาวน้อยในอ้อมแขน แล้วบรรจงจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผาก จุมพิตซับน้ำตาให้ที่เปลือกตาทั้งสองข้าง ก่อนจะเลื่อนจงไปประทับริมฝีปากร้อนบริเวณแก้ม ก่อนที่เลื่อนประทับริมฝีปากกับริมฝีปากแดงเรื่อชุ่มชื้น ร่างในอ้อมแขนดิ้นรนเล็กน้อย เมื่อรู้ตัวว่าจะถูกเอาเปรียบ ร่างสูงจึงเพียงแค่ประทับริมฝีปากอย่างแผ่วเบาเพียงชั่วเสี้ยววินาที

เมื่อคาโลมองหน้าธิดาแห่งความมืดผู้ครอบครองหัวใจของเขาที่ยังอยู่ในอ้อมแขนอีกครั้ง ดวงหน้าที่เคยขาวนวล บัดนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ดูน่ารัก น่าแกล้งยิ่งนัก

คาโลปล่อยร่างเล็กในวงแขนให้เป็นอิสระ เปลี่ยนมากุมมือเรียวเล็กคู่นั้นไว้อย่างทนุถนอมแทน

“อย่าคิดมากนะ”

“ก็จะไม่ให้คิดมากได้ยังไง ก็นายหลบหน้าฉันตลอดเลย ไม่พูดกับฉันด้วย แล้วเรนอนก็เล่าให้ฉันฟังเรื่องที่พ่อนายจะหาคู่หมั้นให้นาย ซึ่งฉันรู้ดีว่าในรายชื่อที่เจ้าหญิงที่พ่อนายเลือกไว้ให้ไม่มีทางมีชื่อฉันอยู่”

“ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องกังวลหรอก ฉันแค่เครียดๆนิดหน่อยน่ะ”

“มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย ฉันอาจจะช่วยนายได้นะ” ดวงตาสีน้ำตาลมองชายหนุ่มตรงๆ ด้วยความจริงใจ

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็แค่สรุปรายงานเหมือนเคยนั่นแหละ” คาโลลูบศีรษะสาวน้อยร่างเล็ก

“สบายใจขึ้นรึยัง” คาโลยิ้มให้เฟรินอย่างอ่อนโยน ด้วยรอยยิ้มที่เฟรินรู้สึกว่า รอยยิ้มแบบนี้ที่เป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น

“อืม แต่นายไม่มีอะไรให้ฉันช่วยจริงๆนะ” ตัวป่วนเริ่มป่วน เมื่อกลับมาสบายใจอีกครั้ง

“งั้นกลับห้องมั้ย ฉันเดินไปส่ง” คาโลแบมือ เพื่อรอให้สาวน้อยวางมือของเธอบนมือของเขา

“ก็ดี เดินผ่านสวนนะ”

“ทำไม มันมืดออก”

“ฉันไม่อยากให้ใครเห็นฉันตาบวมแดงแบบนี้ ไม่กลัวใครว่านายรังแกฉันรึไง” เฟรินพูดพร้อมหลิ่วตาล้อเลียนตามถนัด เมื่อกลับมาร่าเริงอีกครั้ง

“เฟริน” คาโลได้แต่ปราม เมื่อปากของสาวน้อยเริ่มมีปัญหาอีกแล้ว

บรรยากาศในสวนยามค่ำคืน เงียบสงบ พระจันทร์ดวงโตที่ทอแสงกระจ่างอยู่บนท้องฟ้า ยิ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ลึกลับของธิดาแห่งความมืดให้มากขึ้น ทั้งคู่เดินจูงมือกัน ผ่านต้นไม้ที่ถูกตัดเล็มไว้เป็นแนวอย่างคุ้นเคย ลมที่พัดเบาๆ เหมือนกับช่วยพัดพาความขุ่นข้องหมองใจของเฟรินเมื่อครู่ให้หายไป

“มีอะไรเหรอคาโล ถึงหยุดเดิน”

“เมื่อกี้ฉันบอกรักนายไปแล้ว แต่นายยังไม่ได้บอกฉันเลยว่า ยังรักฉันเหมือนเดิมรึเปล่า” แม้ว่าจะมีเพียงแสงจันทร์แต่เขาก็เห็นได้ชัดว่าดวงหน้าที่เขาเห็นเพียงเสี้ยวเดียวนั้นมีสีเข้มขึ้น

“ว่าไง บอกฉันหน่อยสิ เฟริน” คาโลเดินอ้อมมาดักหน้า

“ไม่เห็นจะต้องถามเลยนี่นา” เฟรินส่งค้อนให้ร่างสูงที่บัดนี้มายืนขวางทาง

“อยากได้ยินจากปากด้วย” มือใหญ่ยกขึ้นมาจับไหล่บางทั้งสองข้างไว้ ทำให้แม่จอมกะล่อนไม่สามารถหลบไปไหนได้อีก แล้วคาโลก็ก้มหน้าให้อยู่ในระดับเดียวกับหล่อน

“ก็ได้ ... ฉันรักนาย” แม้ว่าคำบอกรักจะแผ่วเผา แต่มันก็ดังก้องในหัวใจของคาโล



Create Date : 11 กรกฎาคม 2550
Last Update : 11 กรกฎาคม 2550 13:52:28 น. 5 comments
Counter : 769 Pageviews.

 
อ้าว! หาไหงคืนดีกันง่ายๆเลยล่ะครับ ทีรอบของผมยังต้องง้อเป็นเดือนกว่ายัยนั่นจะใจอ่อน พ่วงท้ายด้วยจูบอีกสองสามรอบ แต่ผมว่าดีแล้วล่ะครับที่คาโลพูดออกไปแบบนั้นจะได้ไม่ทำให้ลำบากใจเกินกว่าที่จิตใจของเค้ามันจะรับไหว


โดย: ยามปลายลมหนาว IP: 125.25.193.227 วันที่: 19 มกราคม 2551 เวลา:20:44:19 น.  

 
-*-.. ประสบการณ์โชกโชนเลยเนอะ ยามปลายลมหนาว 555+
- -* ลินว่าคาแรกเตอร์มันแปลกๆ แต่การใช้ภาษาดีมากอ่ะค่ะ
* *


โดย: องค์หญิงลิน IP: 203.156.28.158 วันที่: 24 มีนาคม 2551 เวลา:17:34:57 น.  

 
+++ สวัสดีค่ะ คุณยามปลายลมหนาว

เอ่อ คืนดีกันง่ายๆดีแล้วล่ะค่ะ อย่าเล่นตัวมาก พุทราเขียนไม่ออกแล้ว ^ ^"


+++ สวัสดีค่ะ คุณองค์หญิงลิน

ขอโทษอีกครั้งเรื่องคาแรกเตอร์ ขอบคุณนะคะที่บอกว่า ภาษาดีมาก .. ตอนนี้พุทรากำลังมีปัญหาเรื่องภาษาอย่างรุนแรง T_T


โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้ วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:22:03:46 น.  

 
หวาน-หว๊าน เหอๆๆ แต่ก็สา-หนุก-ดี-น้า
หวานแบบน้ำตาลเล้ยยยยยยยยยยยยย
เราก็ชอบนะ เฟริน+คาโล
ฮิๆๆๆ


โดย: นานา IP: 58.8.90.114 วันที่: 31 มีนาคม 2552 เวลา:14:38:59 น.  

 
ทำไมมันเป็นแบบนี้!!!!!ไม่เข้าใจอ่ะ


โดย: บลูเบอรี่สีเงิน IP: 203.156.26.227 วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:34:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่ก้อนหินที่อยากบินได้
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอมี Blog กับเค้าด้วยคนนะคะ ^ ^

Friends' blogs
[Add แค่ก้อนหินที่อยากบินได้'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.