ย้อนรอยชีวิต ศึกษาแนวความคิด และเส้นทางชีวิต ของ ปรีดี พนมยงค์(6) ปรีดี กับ สงครามโลกครั้งที่ 2 เช้า วันที่ 8 ธันวาคม 2484 กองทัพญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่อ่าวไทยพร้อมกัน 6 จุด ทูตทหารญี่ปุ่นในเมืองไทยยื่นคำขาดกับรัฐบาล ขอให้กองทหารเดินทัพผ่านประเทศไทย ภายในวังสวนกุหลาบ-ทำเนียงรัฐบาลในเวลานั้น ครม.ประชุมกันอย่างเคร่งเครียด และแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ที่นำโดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เห็นด้วยว่าควรร่วมมือกับญี่ปุ่น อีกฝ่ายคือนายปรีดีคัดคานอย่างรุนแรง เสนอว่าต้องสู้กับญี่ปุ่นที่ละเมิดอธิปไตยไทย แต่ท้ายที่สุดนายปรีดีแพ้เสียงข้างมาก ไทย-ญี่ปุ่นเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรร่วมทำสงครามกับต่อหน้าพระแก้วมรกต ในวันที่ 11 เดือนเดียวกัน นายทหารญี่ปุ่นบุกเข้าวังสวนกุหลาบอีก ครั้ง เพื่อบีบให้จอมพล ป. ปลดนายปรีดีให้พ้นไปจากคณะรัฐบาล ผลสุดท้ายนายปรีดีก็หลุดพ้นจากอำนาจการเมือง ไปดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ 25 มกราคม 2485 รัฐบาลไทยภายใต้การนำของจอมพล ป. ได้ประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ฝ่ายอังกฤษประกาศสงครามตอบโต้ ขณะอเมริกามิได้ประกาศสงครามด้วย โดยถือว่าไทยถูกญี่ปุ่นรุกราน อย่างไรก็ตามนายปรีดีในฐานะผู้สำเร็จราชการฯ ไม่ยอมลงนามในประกาศสงครามฉบับนั้น เดินทางหลบไปอยู่อยุธยา แม้เจ้าหน้าที่เอาหนังสือไปให้เซ็น แต่นายปรีดียืนกรานไม่ยอมลงนาม ด้วยเหตุผลสำคัญที่ว่า ถ้าลงนามไปแล้วก็ยากี่จะให้ประเทศสัมพันธมิตรเชื่อในปฏิบัติการของขบวนการ เสรีไทย ในฐานะตำแหน่งผู้สำเร็จราชการฯ นายปรีดีย้านมาอยู่ที่ทำเนียบท่าช้าง คอยประสานกับทุกฝ่าย ตั้งแต่พระบรมวงศานุวงศ์ ทหาร ตำรวจ นักศึกษา พ่อค้า กรรมกร ชาวนา และชาวไทยในต่างประเทศ จัดตั้งขบวนการเสรีไทย มี "รูธ" เป็นหัวหน้า ตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ทำเนียบท่าช้างและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อภารกิจปลดปล่อยประเทศจากการยึดครองของญี่ปุ่น นายปรีดีเริ่มติดต่อกับประเทศสัมพันธมิตร แรกส่งนายจำกัด พลางกูร ลักลอบเข้าจีนเพื่อจะส่งข่าวไปอเมริกาหรืออินเดีย ใหรับทราบว่าไทยมีขบวนการเสรีไทยที่ไม่ยอมรับการประกาศสงครามของรัฐบาล แต่ยายจำกัดไปสิ้นชีพที่จีนเสียก่อน นายปรีดีจึงส่งพลพรรคหลายคนออกนอกประเทศ จนสามารถติดต่อกับอังกฤษและอเมริกาได้สำเร็จ ทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรรู้ว่ามีขบวนการกู้ชาติ เช่นเดียวกับที่นายพลชาร์ลส์ เดอโกล ได้จัดตั้งชบวนการใต้ดินในฝรั่งเศส เพื่อต่อต้านทหารเยอรมัน เสรี ไทยต้องประชุมลับ ส่งข่าวทหารญี่ปุ่นทางวิทยุ แอบพบกับฝ่ายพันธมิตรในประเทศ แอบฝึกอาวุธให้กับพลพรรคเสรีไทยทั่วประเทศ แต่การเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความยากลำบาก ไหนต้องระวังเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ตลอดจนสายลับและทหารญี่ปุ่น ที่คอยสะกดรอยตามนายปรีดีและพลพรรคตลอดเวลา นาย ปรีดีต้องทำงานสองบทบาทตลอดระยะเวลาสามปีกว่าของสงครามมหาเอเชียบูรพา เป็นทั้งหัวหน้าเสรีไทยและเป็นผู้สำเร็จราชการฯ โดยถือความลับสุดยอดเป็นหัวใจของการปฏิบัติงาน แม้กระทั่งพลพรรคเสรีไทยเองต่างไม่รู้ว่ามีใครบ้างที่เป็นพวกเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ภารกิจทุกอย่างบรรลุเป้าหมาย ม.จ. ศภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัตน์ เชษฐาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีพระบรมราชชนนี ซึ่งเป็นเสรีไทยในอังกฤษเคยกล่าวไว้ว่า " ข้าพเจ้ารู้สึกว่า หลวงประดิษฐ์ทำงานในการต่อต้านครั้งนี้ ด้วยความพยายามเต็มกำลังความสามารถ อดทน มิได้เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย มิได้เห็นแก่ตัว และภยันตรายที่จะมาถึงตน จนพวกเราทั้งหลายที่เข้ามาจากต่างประเทศพากันร้องขอหลายครั้งหลายคราว ให้เตรียมการที่คิดจะป้องกันตัวเองเสียบ้าง มิฉะนั้นการงานของประเทศจะเสียหมด ถ้าหลวงประดิษฐ์เป็นอะไรไป..." พฤษภาคม 2488 นายปรีดีได้แจ้งให้ฝ่ายสัมพันธมิตรทราบว่า เสรีไทยจำนวน 8 หมื่นคนทั่วประเทศพร้อมจะลุกฮือขึ้นต่อต้านทำสงครามกับญี่ปุ่นอย่างเปิดเผย แต่ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ขอร้องให้ชะลอแผนนี้ไว้ก่อน ด้วยเหตุผลทางแผนยุทธศาสตร์ของฝ่ายสัมพันธมิตร ในที่สุดญี่ปุ่นก็ยอมแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข ในวันที่ 15 ส.ค. 2488 หลังจากเครื่องบินของสหรัฐอเมริกาไปทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมื่องฮิโรซิมา และนางาซากิ หลัง ญี่ปุ่นยอมจำนน รัฐบาลเจียงไคเซ็คคิดจะส่งกองทัพจีนมาปลดอาวุธทหารญี่ปุ่น ในเขตสยามเหนือเสนขนานที่ 16 ขึนไป คือเหนือจังหวัดตาก ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด ขณะใต้เส้นขนานที่ 16 เป็นหน้าที่ของทหารอังกฤษและอเมริกา ฝ่ายไทยเกรงว่าถ้าเป็นแบบนี้ ประเทศอาจถูกแบ่งแยกเป็นสอง เพราะว่ากลุ่มคนจีนโพ้นทะเลคลั่งชาติมีอยู่จำนวนไม่น้อย อาจก่อเหตุความวุ่นวายจนถึงขั้นกบฏ นายปรีดีจึงได้โทรเลขแจ้งไปยังรัฐบาลอเมริกาว่า เสรีไทยพร้อมจะปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นเอง อเมริกาเข้าใจเหตุผลของนายปรีดี จึงไม่ยอมให้จีนเข้ามายุ่ง และมีคำสั่งให้ทหารญี่ปุ่นยอมจำนนต่อลอร์ด เมาท์ แบตเทน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดฝ่านสัมพันธมิตรภาคเอเชียอาคเนย์ ส่วนทหารจีนได้รับมอบหมายให้ปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นทางตอนเหนือของอินโดจีนเท่า นั้น กระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษได้มอบหมายให้ลอร์ด เมาท์ แบตเทน ส่งสารส่วนตัวไปมายังนายปรีดี เพื่อให้รีบออกแถลงการณ์ ปฏิเสธการประกาศสงครามระหว่างไทยกับสหรัฐและอังกฤษ ดังนั้นในวันที่ 16 สิงหาคม 2488 นายปรีดีฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก็ได้ประกาศสันติภาพ มีสาระสำคัญว่า การประกาสสงครามของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ต่อสหรัฐและอังกฤษเป็นโมฆะ....... ความสำเร็จในการรักษาเอกราชและอธิปไตยของไทยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลอดจนเกียรติภูมิเกียรติศักดิ์ของประเทศซึ่งนานาชาติให้การยอมรับในครั้ง นั้น ไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์ หรือมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยช่อยเหลือ หรือดลบันดาลให้เกิดขึ้น หากมาจากความกล้าหาญ และกล้าเสี่ยงตายของขบวนการเสรีไทยทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งมีนายปรีดีเป็นหัวหน้า ลอร์ด เมาท์ แบตเทน เคยกล่าวชื่นชมนายปรีดี ในงานเลี้ยงรับรองในฐานะแขกของรัฐบาลอังกฤษเมื่อปี 2489 ง่า " หลวงประดิษฐ์มนูธรรม เป็นบุรุษผู้มีบทบาทอันน่าตื่นเต้นคนหนึ่งแห่งสงครามในเอเชียอาคเนย์ เป็นที่ทราบกันว่า ในระหว่างสงครามนั้น ไม่มีการกล่าวถึงชื่อเขาอย่างเปิดเผย และเรื่องราวทั้งหลายทั้งปวงเกี่ยวกับตัวเขาก็ถือว่าเป็น "ความลับสุดยอด" แม้กระทั่งทุกวันนี้ คนอังกฤษส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยทราบเท่าใดนัก ถึงพฤติกรรมอันอาจหาญที่เขาได้กระทำสำเร็จมาแล้ว และภยันตรายอันใหญ่หลวงที่เขาต้องเผชิญมาตลอดระยะเวลาสามปี นับว่าเป็นสิ่งน่าพรั่นพรึงอย่างยิ่ง แต่ก็อาศัยความมีวินัยของเขาเอง ประกอบกับที่เขาได้ชักจูงบรรดาผู้คนที่เชื่อถือในตัวเขาให้ปฏิบัติตามนั่น เอง ทำให้ประสบชัยชนะในท้ายที่สุด เขาไม่เคยทำให้เราผิดหวัง...." - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - ข้าพเจ้าเป็นเพียงผู้คัดลอก ท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถอ่านต้นฉบับ โดยคุณเหยี่ยวเหินฟ้า ได้ที่ //www.sameskybooks.org/board/index.php?s=ecfa7bbefefd776d1f06182817bd6372&showtopic=25885&st=0 Create Date : 18 มิถุนายน 2552 Last Update : 18 มิถุนายน 2552 11:22:06 น. 0 comments Counter : 1463 Pageviews. Share Tweet ชื่อ : Comment :   *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก