Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
... สิ้นสุด ...

ปี 2551 ไม่ได้เขียนเรื่องสั้นซักกะเรื่อง เพราะตั้งชื่อ Blog ว่า เรื่องสั้น ... วันว่าง พอมันไม่ว่างก็เลยไม่ได้เขียนซักที สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อ Blog ว่า เรื่องสั้น ... ต่อให้ไม่ว่างก็ต้องเขียน ^ ^" จะได้มีเขียนออกมาบ่อย แฮะ แฮะ

เรื่องนี้ได้รับเกียรติให้ร่วมสนุกกับ Blog ลายปากกา ที่มีนักเขียนรับเชิญหลายท่านไปร่วมสร้างสรรค์ผลงาน โดย แต่ละคนจะได้รับหัวข้อไม่เหมือนกัน ทาง Blog จะลงของแต่ละนักเขียน คนละอาทิตย์ พุทราไม่ใช่นักเขียน เป็นแค่ ... นักอยากจะเขียน ก็ได้ลงเหมือนกัน ... ดีใจ ^ ^

ถ้าสนใจอ่านงานหลายๆแนว เชิญเข้าไปเยี่ยมชมที่ Blog ลายปากกาได้เลยนะคะ ที่

ลายปากกา


เรามาเริ่มเรื่องของพุทราเลยนะคะ ^ ^

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เปลวเทียนสีส้มไหวระริก ส่องแสงสลัวรางจากเชิงเทียนนับสิบที่วางอยู่ทุกมุมของห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ที่เป็นเพียงพื้นที่ส่วนหนึ่งของห้องชั้นบนสุดในอาคารที่พักอาศัยทันสมัยใจกลางเมือง

ร่างแบบบางในชุดราตรีสีเลือดหมู นั่งอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะอาหารตัวยาวรูปทรงล้ำสมัยบอกรสนิยมของผู้ใช้งานมันได้เป็นอย่างดีที่สามารถรับรองผู้มาเยือนได้ถึงสิบคน หล่อนเอนกายพิงพนักด้วยท่าทีผ่อนคลาย ชายกระโปรงผ้าซาตินเนื้อลื่นระพื้นหินแกรนิตที่ขัดเป็นมันวาว สะท้อนล้อแสงเทียน

นิ้วเรียวยาวประดับไว้ด้วยเล็บซึ่งถูกแต่งแต้มเคลือบสีทับทิมไว้อย่างประณีตวนไล้ไปรอบริมขอบแก้วไวน์เนื้อดี ก่อนที่หญิงสาวจะยกขึ้นเพื่อละเลียดไวน์สีคล้ำเข้ม สายตาทอดมองออกไปยังท้องฟ้ายามราตรีที่ห่มคลุมด้วยหมู่เมฆจนไม่เห็นแม้แต่ศศิธรที่เคยฉายแสงนวลกระจ่างทาบทอผืนฟ้า

หญิงสาวซึมซับสัมผัสจากการเกาะกุมของมือหนา...มือที่เธอรัก...
ดวงตากลมโตหวานเศร้าจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขาที่ไม่สื่อความหมายใด...นอกเสียจากความว่างเปล่า

นานแค่ไหนที่เขาและเธออยู่ร่วมกันมาในฐานะสามี ภรรยา ... 7 ปีแล้วซินะ สมองนึกทบทวนความทรงจำ ... 7 ปี ที่ระยะห่างระหว่างเขาและเธอค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนยากจะประสาน

รอยร้าวมันเริ่มต้นที่ไหน..อย่างไร...เธอหาคำตอบให้ตัวเองมาตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่เขาขอแยกกันอยู่

.... หนึ่งเดือนที่เธอจมอยู่กับคำถามที่ไม่มีคำตอบ คำถามที่ดังก้องอยู่ในสมอง เฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นเสียงกรีดร้องระงม แม้อยู่ในห้วงนิทรา

เธอไม่เข้าใจ...รู้เพียงแค่ว่า ในหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความรักที่มีให้กับคนเพียงคนเดียว ตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันแรกที่เธอรัก..จนถึงวันนี้ ความรักนั้นก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

และวันนี้..คงเป็นวันสิ้นสุดความเป็นสามีภรรยาระหว่างเธอกับเขา ที่เขาเป็นคนเอ่ยปากออกมาก่อน ตั้งแต่วันที่รู้ว่าเขาต้องการหย่า เธอได้แต่เฝ้าภาวนาว่าอย่าให้วันนี้มาถึงเลย ... แต่สุดท้ายก็หนีความจริงไปไม่พ้น

หญิงสาวปลดมือบางออกจากการเกาะกุม

“หิวรึยังคะที่รัก”

ไม่มีคำตอบจากริมฝีปากที่ยังคงปิดสนิท เธอมองนาฬิกาไม้เรือนใหญ่ที่ทำเลียนแบบนาฬิกาโบราณแต่เปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อยทำให้ดูแปลกใหม่ เข็มยาวและเข็มสั้นบอกเวลาที่เลยเวลารับประทานอาหารปกติของชายหนุ่มไปนานพอควร เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อเตรียมอาหารมื้อเย็น อาหารมื้อสุดท้ายที่เธอตั้งใจทำให้กับเขา หัวเข่าของเธอสัมผัสกับขาของชายหนุ่ม

เสียงเสียดสีเบาๆของผ้าซาตินกับผิวเนื้อละเอียดดังเบาๆทุกครั้งที่เธอขยับตัว ร่างบางเคลื่อนผ่านเก้าอี้ทั้งสี่ที่จัดชิดเป็นระเบียบติดกับโต๊ะเพื่อรอแขกสักคนที่อาจจะเข้ามาเป็นสักขีพยานในวันสุดท้ายนี้ แสงจากกลุ่มเทียนไขที่สะบัดไหวไปตามมวลอากาศก่อให้เกิดเงารูปร่างประหลาดทาบไปตามพื้นและผนัง เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นหินดังก้องฝ่าความเงียบไปตลอดทางจากห้องรับประทานอาหารถึงห้องครัว

ความสว่างที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรุงอาหารมื้อสำคัญมื้อนี้ เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ที่เธอและเขาใช้ชีวิตอยู่ในห้องนี้ร่วมกัน หล่อนใช้ครัวนี้ปรุงอาหารให้กับชายคนรัก แม้จะหลับตาก็จดจำได้ว่าสิ่งใดวางอยู่ตรงส่วนไหนของพื้นที่ครัว

หญิงสาวจัดวัตถุดิบที่เตรียมไว้สำหรับค่ำคืนพิเศษค่ำคืนนี้

มือเรียววางตับสดชิ้นโตลงบนเขียง มีดสำหรับแร่เนื้อคมปลาบวาววามยามสะท้อนแสงเทียน มือเปล่าสัมผัสผิวเนื้อเย็นหยุ่น ออกแรงกดยึดชิ้นเนื้อก่อนที่คมมีดบางจะเฉือนลึกเข้าไป เลือดแดงฉานซึมออกมาตามแนวรอยกรีด โลหะคมบางยังคงแทรกต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก จนกระทั่งชิ้นเนื้อหลุดแยกออกจากกัน เพียงครู่เดียวเธอก็ได้ตับชิ้นสวยในจำนวนที่ต้องการ รอยตัดเรียบบ่งบอกความคมของเครื่องมือที่ใช้งานได้เป็นอย่างดี หญิงสาวโยนตับที่เหลือทิ้งลงในถังขยะอย่างไม่ใยดี

... ทำไมเธอต้องสนใจ ในเมื่อมื้อนี้เป็นมื้อสุดท้าย...

ก้อนเนื้อสีแดงเข้มอีกก้อนยังรออยู่ นิ้วเรียวกระชับก้อนเนื้อที่ใหญ่กว่ามือเธอเล็กน้อยวางลงแล้วบรรจงฝังโลหะคมบางเฉียบเพื่อเลาะหลอดเลือดใหญ่ที่ยังแทรกตัวอยู่กล้ามในเนื้อหัวใจ เส้นเลือดที่เคยส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงก้อนอวัยวะให้เต้นไปตามจังหวะของความรู้สึก

มีดชำแหละแหวกเปิดหัวใจทุกห้อง พบเพียงเลือดที่ยังค้างอยู่ข้างใน และ ความว่างเปล่า เธอเลือกห้องที่มีผนังหยุ่นหนาที่สุด แร่เป็นชิ้นพอคำเพียงไม่กี่ชิ้น ก่อนจะส่งที่เหลือลงไปรวมกับตับ

...เธออดแปลกใจไม่ได้ว่า...ทำไมมื้อสุดท้ายถึงเลือก “หัวใจ” บางทีอาจจะเป็นเพราะว่า เธออยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนี้ ทำไมใครๆถึงว่ามันมีอิทธิพลต่อความรู้สึกได้มากมายนัก จากที่เคยรักกันมาเป็นเกลียดจนทนที่จะอยู่ร่วมกันไม่ได้

หัวใจถูกทอดด้วยไฟปานกลางพอสุก ถูกตักไปวางพักไว้ในจานรองกระดาษซับน้ำมัน ผักสดใหม่ถูกจัดวางไว้บนจานราดด้วย Balsamico Dressing ก่อนจะวางทับด้วยหัวใจ...หัวใจที่เธอตัดด้วยความประณีต... ราดด้วยซอสรสชาติหวานอมเปรี้ยวจากจากเนื้อพีช น้ำตาล และ น้ำส้มเชอร์รี่ แบบที่เธอชอบ น้ำซอสสีน้ำตาลอ่อนเนื้อข้นวามวาวในแสงเทียนไหลย้อยไปตามแรงดึงดูดของโลกหยดแล้วหยดเล่าไม่ต่างจากหยาดน้ำตาของเธอ

... หญิงสาวเลือกทำเมนูหัวใจก่อนตับ เพราะอยากให้อาหารจากตับสุกใหม่ๆ พร้อมเสิร์ฟให้กับคนที่เธอรัก ที่กำลังจะทิ้งเธอไป

ตับชิ้นหนาพอคำถูกนำมาทอดในกระทะโดยไม่ใส่น้ำมัน เธอเติมเกลือและพริกไทยเล็กน้อย รอดูผิวตับตึงตัวพอสุกจึงตักออก มือเรียวหยิบขวดจูรองซ็ง(Jurancon) dessert wine ที่สามีมักออกปากชมเสมอ เมื่อเวลาเธอใช้มันประกอบอาหาร น้ำสีขาวจากขวดไหลรวมกับน้ำมันจากตับที่ยังคงค้างอยู่ในกระทะเพื่อทำซอสราด หล่อนจัดเรียงแอปเปิ้ลและองุ่นที่ผัดกับเนย น้ำตาลและผงเครื่องเทศลงในจานเป็นขั้นตอนสุดท้าย

ร่างบางค้อมตัวลงเพื่อวางจานเซรามิกเนื้อละเอียดสีขาวให้กับชายหนุ่ม ก่อนที่หญิงสาวจะเดินผ่านแถวเก้าอี้ซึ่งเรียงรายอยู่รอบโต๊ะจนถึงที่นั่งหัวโต๊ะฝั่งตรงกันข้ามที่เธอนั่งอยู่จนถึงเมื่อครู่

“ลองชิมดูซิคะ ฉันทำแบบที่คุณเคยชอบ” เสียงหญิงสาวที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากสั่นเครือ แม้ว่าจะเพียงแผ่วเบา แต่ท่ามกลางความเงียบสงัดของห้อง เสียงนั้นก็ดังก้องไปทั่ว

...และคำตอบ..ก็กลับมาเพียงความเงียบเช่นเดิม ไม่ต่างจากชั่วโมงก่อน...หล่อนกล้ำกลืนน้ำตาให้กลับลงไปอย่างเงียบเชียบ เสียงช้อนส้อมเพียงคู่เดียวกระทบกันเบาๆ

ความหวานชุ่มแผ่ซ่านไปทั่วลิ้น รสชาติของลูกพีชทำให้เธอสดชื่นขึ้น แต่เมื่อมองร่างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ หญิงสาวก็นิ่งไป เธอเบือนหน้าเล็กน้อยจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่มองกลับมาอย่างไร้ความรู้สึก ภาพแสงสีทองอาบไล้ใบหน้าได้รูปที่ในอดีตเคยเป็นของเธอคนเดียวพร่าเลือนด้วยม่านน้ำตา ริมฝีปากเม้มแน่นสั่นระริก น้ำตาพร่างพรูหยดแล้วหยดเล่าที่ตกต้องผืนผ้าสีแดงเข้มจนกลายเป็นวงสีคล้ำดำ ร่างบางสั่นกระตุกก่อนจะลุกขึ้นกวาดทุกอย่างบนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าลงบนพื้น

“ทำไมล่ะ ทำไม ฉันไม่ดีกับคุณตรงไหน ทำไมคุณถึงปฏิเสธฉัน” เสียงสูงเกรี้ยวกราด ร่างบางกำมือแน่น ไม่สนใจความเสียหายที่เกิดขึ้นรอบตัว

“ทำไมคุณถึงไม่รักฉัน ทำไมต้องทิ้งฉันไป” คำถามที่เฝ้าหลอกหลอนเธอตลอดเวลาหลุดออกมาจากริมฝีปากด้วยน้ำเสียงที่ไม่ปิดบังอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจนยากจะระงับ

นานหลายนาทีกว่าจะเปลี่ยนจากเสียงโหยไห้ปานแทบขาดใจ เหลือเพียงเสียงสะอึกสะอื้นที่ดังก้องไปทั่วห้อง เสียงร้องไห้ที่ดังเพียงประหนึ่งเสียงกระซิบแขวนลอยอยู่ในอากาศส่งผ่านความเจ็บปวดดั่งหัวใจแหลกสลายแทรกซึมไปทั่วทุกอณูของห้อง สติที่หลุดหายไปพร้อมกับพายุอารมณ์เมื่อครู่กลับมาหาเธออีกครั้ง แม้สายตายังเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแต่เธอสังเกตเห็น ดวงตาเหม่อลอยจากพื้นที่มองตรงมาที่เธอ ร่างบางทรุดลงนั่งกับพื้น มือเรียวทั้งสองข้างสัมผัสผิวเนื้อที่เคยอบอุ่นแต่บัดนี้เย็นเยียบ

“ขอโทษนะคะ ฉันทำให้คุณตกใจรึเปล่าคะที่รัก” เล็บสีแดงสดสอดสางเข้าไปในกลุ่มผมสีดำขลับเพื่อจัดผมที่ยุ่งเหยิงจากการกระแทกเมื่อครู่ หล่อนยิ้มน้อยๆทั้งน้ำตา ก่อนจะยกศีรษะของเขาขึ้นจากพื้นมากอดไว้ในอ้อมอก แนบพวงแก้มสีระเรื่อฝาดกับเส้นผมดำกระด้างน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าตกลงบนศีรษะของชายหนุ่ม เปลวเทียนไหวระริกสะท้อนบนดวงตาไร้ชีวิต ทำให้ดวงตานั้นประหนึ่งเสมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

“ไม่ต้องกลัวนะคะที่รัก ฉันจะไม่ทำรุนแรงกับคุณแบบนี้อีก” หญิงสาวค่อยๆประคองตัวเองขึ้นวางศีรษะของเขาลงบนโต๊ะ ก่อนจะก้มลงเก็บท่อนแขนซีดขาวที่กระเด็นตกไปไม่ห่างจากโต๊ะ มือเรียวสัมผัสฝ่ามือสากก่อนจะยกขึ้นแนบแก้ม น้ำตาที่ยังไม่เหือดแห้งหลั่งไหลออกมาอีกครั้ง ท่อนแขนอบอุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยโอบประคองเธอไว้บัดนี้ไร้ไออุ่นอยู่ในอ้อมกอดของเธอ ก่อนที่เธอจะวางอวัยวะส่วนนั้นไว้ข้างศีรษะเมื่อครู่

ร่างบางทรุดตัวลงบนเก้าอี้ มือเรียวสัมผัสหลังมือของชายหนุ่มที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะจิบไวน์จากแก้วใบใหม่ มีรอยยิ้มบางประดับไว้ที่มุมปาก

“วันนี้คุณอาจจะคิดว่าเป็นวันสิ้นสุดระหว่างเรา เป็นวันสิ้นสุดของคุณ ... แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ การสิ้นสุดสิ่งหนึ่งก็เป็นการเริ่มต้นอีกสิ่งหนึ่ง ตั้งแต่นี้เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป หัวใจของคุณ....เลือดของคุณ...จะไหลเวียนอยู่ในร่างกายของฉันไปตราบลมหายใจสุดท้าย” แสงเทียนสะบัดไหวเงาบนเสี้ยวหน้าที่กำลังยิ้มดูบิดเบี้ยว นิ้วเรียวลากไล้ไปตามสันจมูกที่เมื่อชั่วโมงก่อนยังมีลมหายใจ

“เราคงต้องออกเดินทางกันแล้วล่ะค่ะ” เสียงหวานละมุมพูดกับชิ้นส่วนของคนรักเมื่อเข็มสั้นและเข็มยาวของนาฬิกาเรือนใหญ่บนผนังทับกันสนิทพอดี

เรียวแขนบางโอบกระชับศีรษะอย่างทะนุถนอม ก่อนจะใส่ลงไปในโถแก้วเนื้อหนาอย่าเบามือ
“ทนอึดอัดนิดนะคะที่รัก” เสียงอ่อนโยนปลอบประโลมคนที่เธอรัก ก่อนจะปิดฝาโถแก้วแล้วประคองใส่ลงในกระเป๋ากันกระแทกอย่างระมัดระวัง

แสงนวลตาทำให้เกิดเงาสีดำทอดยาวบนกำแพงห้องอาหารอีกครั้ง...
... ริมฝีปากแดงสด ประทับลงบนหลังมือหนาที่เคยกุมมือเธอไว้ .... นิ้วเรียวสัมผัสแขนที่เคยมอบอ้อมกอดอบอุ่นให้กับเธออย่างอ่อนโยน...

...ริมฝีปากนุ่ม กดแนบลงบนท่อนขาแข็งแรง ที่เคยค้ำจุนยามเธออ่อนแรง...

ร่างโปร่งก้าวเท้าอย่างไม่รีบร้อน มือไล้ไปบนผิวโต๊ะเย็นเยียบเรียบรื่น จนถึงอีกฝากหนึ่งของโต๊ะตัวยาว

...เรียวปากบาง มอบรอยจูบลงบนไหล่หนาสมส่วน ... ไหล่ที่เธอเคยพักพิงและคิดจะฝากชีวิตไว้ตราบนิรันดร์

สายตาของหญิงสาวสะดุดกับโพรงขนาดใหญ่ที่แผ่นอกและช่องท้อง ในบรรยากาศท่ามกลางแสงนวลสลัวเห็นเหมือนเป็นเพียงปานสีดำขนาดใหญ่เท่านั้น

หญิงสาววางกระเป๋าใบใหญ่ลงข้างตัวแต่มืออีกข้างยังคงกระชับกระเป๋าใบเล็กแน่น กวาดสายตามองห้องที่ครั้งหนึ่งเคยอวลอุ่นไปด้วยความทรงจำที่มีค่า ก่อนจะปิดประตูลง ทิ้งมวลอากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นเลือดคาวคลุ้งไว้เบื้องหลัง


* * * * * * * * * * END * * * * * * * * * *


Create Date : 13 มกราคม 2552
Last Update : 13 มกราคม 2552 8:30:12 น. 3 comments
Counter : 894 Pageviews.

 
อ่านแล้วไม่อยากแต่งงาน อ่ะ
เจี๋ยว..


โดย: bondsp วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:8:40:52 น.  

 
รักทุกคนเลย


โดย: พี IP: 124.157.233.8 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:21:07 น.  

 
รักทุกคนน่ะค่ะ


โดย: ออม IP: 124.157.233.8 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:22:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แค่ก้อนหินที่อยากบินได้
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ขอมี Blog กับเค้าด้วยคนนะคะ ^ ^

Friends' blogs
[Add แค่ก้อนหินที่อยากบินได้'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.