|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
... สิ้นสุด ...
ปี 2551 ไม่ได้เขียนเรื่องสั้นซักกะเรื่อง เพราะตั้งชื่อ Blog ว่า เรื่องสั้น ... วันว่าง พอมันไม่ว่างก็เลยไม่ได้เขียนซักที สงสัยต้องเปลี่ยนชื่อ Blog ว่า เรื่องสั้น ... ต่อให้ไม่ว่างก็ต้องเขียน ^ ^" จะได้มีเขียนออกมาบ่อย แฮะ แฮะ
เรื่องนี้ได้รับเกียรติให้ร่วมสนุกกับ Blog ลายปากกา ที่มีนักเขียนรับเชิญหลายท่านไปร่วมสร้างสรรค์ผลงาน โดย แต่ละคนจะได้รับหัวข้อไม่เหมือนกัน ทาง Blog จะลงของแต่ละนักเขียน คนละอาทิตย์ พุทราไม่ใช่นักเขียน เป็นแค่ ... นักอยากจะเขียน ก็ได้ลงเหมือนกัน ... ดีใจ ^ ^
ถ้าสนใจอ่านงานหลายๆแนว เชิญเข้าไปเยี่ยมชมที่ Blog ลายปากกาได้เลยนะคะ ที่
ลายปากกา
เรามาเริ่มเรื่องของพุทราเลยนะคะ ^ ^
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
เปลวเทียนสีส้มไหวระริก ส่องแสงสลัวรางจากเชิงเทียนนับสิบที่วางอยู่ทุกมุมของห้องรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ที่เป็นเพียงพื้นที่ส่วนหนึ่งของห้องชั้นบนสุดในอาคารที่พักอาศัยทันสมัยใจกลางเมือง
ร่างแบบบางในชุดราตรีสีเลือดหมู นั่งอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะอาหารตัวยาวรูปทรงล้ำสมัยบอกรสนิยมของผู้ใช้งานมันได้เป็นอย่างดีที่สามารถรับรองผู้มาเยือนได้ถึงสิบคน หล่อนเอนกายพิงพนักด้วยท่าทีผ่อนคลาย ชายกระโปรงผ้าซาตินเนื้อลื่นระพื้นหินแกรนิตที่ขัดเป็นมันวาว สะท้อนล้อแสงเทียน
นิ้วเรียวยาวประดับไว้ด้วยเล็บซึ่งถูกแต่งแต้มเคลือบสีทับทิมไว้อย่างประณีตวนไล้ไปรอบริมขอบแก้วไวน์เนื้อดี ก่อนที่หญิงสาวจะยกขึ้นเพื่อละเลียดไวน์สีคล้ำเข้ม สายตาทอดมองออกไปยังท้องฟ้ายามราตรีที่ห่มคลุมด้วยหมู่เมฆจนไม่เห็นแม้แต่ศศิธรที่เคยฉายแสงนวลกระจ่างทาบทอผืนฟ้า
หญิงสาวซึมซับสัมผัสจากการเกาะกุมของมือหนา...มือที่เธอรัก... ดวงตากลมโตหวานเศร้าจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขาที่ไม่สื่อความหมายใด...นอกเสียจากความว่างเปล่า
นานแค่ไหนที่เขาและเธออยู่ร่วมกันมาในฐานะสามี ภรรยา ... 7 ปีแล้วซินะ สมองนึกทบทวนความทรงจำ ... 7 ปี ที่ระยะห่างระหว่างเขาและเธอค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนยากจะประสาน
รอยร้าวมันเริ่มต้นที่ไหน..อย่างไร...เธอหาคำตอบให้ตัวเองมาตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่เขาขอแยกกันอยู่
.... หนึ่งเดือนที่เธอจมอยู่กับคำถามที่ไม่มีคำตอบ คำถามที่ดังก้องอยู่ในสมอง เฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นเสียงกรีดร้องระงม แม้อยู่ในห้วงนิทรา
เธอไม่เข้าใจ...รู้เพียงแค่ว่า ในหัวใจของเธอเต็มไปด้วยความรักที่มีให้กับคนเพียงคนเดียว ตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันแรกที่เธอรัก..จนถึงวันนี้ ความรักนั้นก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
และวันนี้..คงเป็นวันสิ้นสุดความเป็นสามีภรรยาระหว่างเธอกับเขา ที่เขาเป็นคนเอ่ยปากออกมาก่อน ตั้งแต่วันที่รู้ว่าเขาต้องการหย่า เธอได้แต่เฝ้าภาวนาว่าอย่าให้วันนี้มาถึงเลย ... แต่สุดท้ายก็หนีความจริงไปไม่พ้น
หญิงสาวปลดมือบางออกจากการเกาะกุม
“หิวรึยังคะที่รัก”
ไม่มีคำตอบจากริมฝีปากที่ยังคงปิดสนิท เธอมองนาฬิกาไม้เรือนใหญ่ที่ทำเลียนแบบนาฬิกาโบราณแต่เปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อยทำให้ดูแปลกใหม่ เข็มยาวและเข็มสั้นบอกเวลาที่เลยเวลารับประทานอาหารปกติของชายหนุ่มไปนานพอควร เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อเตรียมอาหารมื้อเย็น อาหารมื้อสุดท้ายที่เธอตั้งใจทำให้กับเขา หัวเข่าของเธอสัมผัสกับขาของชายหนุ่ม
เสียงเสียดสีเบาๆของผ้าซาตินกับผิวเนื้อละเอียดดังเบาๆทุกครั้งที่เธอขยับตัว ร่างบางเคลื่อนผ่านเก้าอี้ทั้งสี่ที่จัดชิดเป็นระเบียบติดกับโต๊ะเพื่อรอแขกสักคนที่อาจจะเข้ามาเป็นสักขีพยานในวันสุดท้ายนี้ แสงจากกลุ่มเทียนไขที่สะบัดไหวไปตามมวลอากาศก่อให้เกิดเงารูปร่างประหลาดทาบไปตามพื้นและผนัง เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นหินดังก้องฝ่าความเงียบไปตลอดทางจากห้องรับประทานอาหารถึงห้องครัว
ความสว่างที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรุงอาหารมื้อสำคัญมื้อนี้ เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ที่เธอและเขาใช้ชีวิตอยู่ในห้องนี้ร่วมกัน หล่อนใช้ครัวนี้ปรุงอาหารให้กับชายคนรัก แม้จะหลับตาก็จดจำได้ว่าสิ่งใดวางอยู่ตรงส่วนไหนของพื้นที่ครัว
หญิงสาวจัดวัตถุดิบที่เตรียมไว้สำหรับค่ำคืนพิเศษค่ำคืนนี้
มือเรียววางตับสดชิ้นโตลงบนเขียง มีดสำหรับแร่เนื้อคมปลาบวาววามยามสะท้อนแสงเทียน มือเปล่าสัมผัสผิวเนื้อเย็นหยุ่น ออกแรงกดยึดชิ้นเนื้อก่อนที่คมมีดบางจะเฉือนลึกเข้าไป เลือดแดงฉานซึมออกมาตามแนวรอยกรีด โลหะคมบางยังคงแทรกต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องออกแรงมาก จนกระทั่งชิ้นเนื้อหลุดแยกออกจากกัน เพียงครู่เดียวเธอก็ได้ตับชิ้นสวยในจำนวนที่ต้องการ รอยตัดเรียบบ่งบอกความคมของเครื่องมือที่ใช้งานได้เป็นอย่างดี หญิงสาวโยนตับที่เหลือทิ้งลงในถังขยะอย่างไม่ใยดี
... ทำไมเธอต้องสนใจ ในเมื่อมื้อนี้เป็นมื้อสุดท้าย...
ก้อนเนื้อสีแดงเข้มอีกก้อนยังรออยู่ นิ้วเรียวกระชับก้อนเนื้อที่ใหญ่กว่ามือเธอเล็กน้อยวางลงแล้วบรรจงฝังโลหะคมบางเฉียบเพื่อเลาะหลอดเลือดใหญ่ที่ยังแทรกตัวอยู่กล้ามในเนื้อหัวใจ เส้นเลือดที่เคยส่งเลือดไปหล่อเลี้ยงก้อนอวัยวะให้เต้นไปตามจังหวะของความรู้สึก
มีดชำแหละแหวกเปิดหัวใจทุกห้อง พบเพียงเลือดที่ยังค้างอยู่ข้างใน และ ความว่างเปล่า เธอเลือกห้องที่มีผนังหยุ่นหนาที่สุด แร่เป็นชิ้นพอคำเพียงไม่กี่ชิ้น ก่อนจะส่งที่เหลือลงไปรวมกับตับ
...เธออดแปลกใจไม่ได้ว่า...ทำไมมื้อสุดท้ายถึงเลือก “หัวใจ” บางทีอาจจะเป็นเพราะว่า เธออยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในนี้ ทำไมใครๆถึงว่ามันมีอิทธิพลต่อความรู้สึกได้มากมายนัก จากที่เคยรักกันมาเป็นเกลียดจนทนที่จะอยู่ร่วมกันไม่ได้
หัวใจถูกทอดด้วยไฟปานกลางพอสุก ถูกตักไปวางพักไว้ในจานรองกระดาษซับน้ำมัน ผักสดใหม่ถูกจัดวางไว้บนจานราดด้วย Balsamico Dressing ก่อนจะวางทับด้วยหัวใจ...หัวใจที่เธอตัดด้วยความประณีต... ราดด้วยซอสรสชาติหวานอมเปรี้ยวจากจากเนื้อพีช น้ำตาล และ น้ำส้มเชอร์รี่ แบบที่เธอชอบ น้ำซอสสีน้ำตาลอ่อนเนื้อข้นวามวาวในแสงเทียนไหลย้อยไปตามแรงดึงดูดของโลกหยดแล้วหยดเล่าไม่ต่างจากหยาดน้ำตาของเธอ
... หญิงสาวเลือกทำเมนูหัวใจก่อนตับ เพราะอยากให้อาหารจากตับสุกใหม่ๆ พร้อมเสิร์ฟให้กับคนที่เธอรัก ที่กำลังจะทิ้งเธอไป
ตับชิ้นหนาพอคำถูกนำมาทอดในกระทะโดยไม่ใส่น้ำมัน เธอเติมเกลือและพริกไทยเล็กน้อย รอดูผิวตับตึงตัวพอสุกจึงตักออก มือเรียวหยิบขวดจูรองซ็ง(Jurancon) dessert wine ที่สามีมักออกปากชมเสมอ เมื่อเวลาเธอใช้มันประกอบอาหาร น้ำสีขาวจากขวดไหลรวมกับน้ำมันจากตับที่ยังคงค้างอยู่ในกระทะเพื่อทำซอสราด หล่อนจัดเรียงแอปเปิ้ลและองุ่นที่ผัดกับเนย น้ำตาลและผงเครื่องเทศลงในจานเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ร่างบางค้อมตัวลงเพื่อวางจานเซรามิกเนื้อละเอียดสีขาวให้กับชายหนุ่ม ก่อนที่หญิงสาวจะเดินผ่านแถวเก้าอี้ซึ่งเรียงรายอยู่รอบโต๊ะจนถึงที่นั่งหัวโต๊ะฝั่งตรงกันข้ามที่เธอนั่งอยู่จนถึงเมื่อครู่
“ลองชิมดูซิคะ ฉันทำแบบที่คุณเคยชอบ” เสียงหญิงสาวที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากสั่นเครือ แม้ว่าจะเพียงแผ่วเบา แต่ท่ามกลางความเงียบสงัดของห้อง เสียงนั้นก็ดังก้องไปทั่ว
...และคำตอบ..ก็กลับมาเพียงความเงียบเช่นเดิม ไม่ต่างจากชั่วโมงก่อน...หล่อนกล้ำกลืนน้ำตาให้กลับลงไปอย่างเงียบเชียบ เสียงช้อนส้อมเพียงคู่เดียวกระทบกันเบาๆ
ความหวานชุ่มแผ่ซ่านไปทั่วลิ้น รสชาติของลูกพีชทำให้เธอสดชื่นขึ้น แต่เมื่อมองร่างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ หญิงสาวก็นิ่งไป เธอเบือนหน้าเล็กน้อยจ้องมองเข้าไปในดวงตาที่มองกลับมาอย่างไร้ความรู้สึก ภาพแสงสีทองอาบไล้ใบหน้าได้รูปที่ในอดีตเคยเป็นของเธอคนเดียวพร่าเลือนด้วยม่านน้ำตา ริมฝีปากเม้มแน่นสั่นระริก น้ำตาพร่างพรูหยดแล้วหยดเล่าที่ตกต้องผืนผ้าสีแดงเข้มจนกลายเป็นวงสีคล้ำดำ ร่างบางสั่นกระตุกก่อนจะลุกขึ้นกวาดทุกอย่างบนโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าลงบนพื้น
“ทำไมล่ะ ทำไม ฉันไม่ดีกับคุณตรงไหน ทำไมคุณถึงปฏิเสธฉัน” เสียงสูงเกรี้ยวกราด ร่างบางกำมือแน่น ไม่สนใจความเสียหายที่เกิดขึ้นรอบตัว
“ทำไมคุณถึงไม่รักฉัน ทำไมต้องทิ้งฉันไป” คำถามที่เฝ้าหลอกหลอนเธอตลอดเวลาหลุดออกมาจากริมฝีปากด้วยน้ำเสียงที่ไม่ปิดบังอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงจนยากจะระงับ
นานหลายนาทีกว่าจะเปลี่ยนจากเสียงโหยไห้ปานแทบขาดใจ เหลือเพียงเสียงสะอึกสะอื้นที่ดังก้องไปทั่วห้อง เสียงร้องไห้ที่ดังเพียงประหนึ่งเสียงกระซิบแขวนลอยอยู่ในอากาศส่งผ่านความเจ็บปวดดั่งหัวใจแหลกสลายแทรกซึมไปทั่วทุกอณูของห้อง สติที่หลุดหายไปพร้อมกับพายุอารมณ์เมื่อครู่กลับมาหาเธออีกครั้ง แม้สายตายังเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาแต่เธอสังเกตเห็น ดวงตาเหม่อลอยจากพื้นที่มองตรงมาที่เธอ ร่างบางทรุดลงนั่งกับพื้น มือเรียวทั้งสองข้างสัมผัสผิวเนื้อที่เคยอบอุ่นแต่บัดนี้เย็นเยียบ
“ขอโทษนะคะ ฉันทำให้คุณตกใจรึเปล่าคะที่รัก” เล็บสีแดงสดสอดสางเข้าไปในกลุ่มผมสีดำขลับเพื่อจัดผมที่ยุ่งเหยิงจากการกระแทกเมื่อครู่ หล่อนยิ้มน้อยๆทั้งน้ำตา ก่อนจะยกศีรษะของเขาขึ้นจากพื้นมากอดไว้ในอ้อมอก แนบพวงแก้มสีระเรื่อฝาดกับเส้นผมดำกระด้างน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าตกลงบนศีรษะของชายหนุ่ม เปลวเทียนไหวระริกสะท้อนบนดวงตาไร้ชีวิต ทำให้ดวงตานั้นประหนึ่งเสมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“ไม่ต้องกลัวนะคะที่รัก ฉันจะไม่ทำรุนแรงกับคุณแบบนี้อีก” หญิงสาวค่อยๆประคองตัวเองขึ้นวางศีรษะของเขาลงบนโต๊ะ ก่อนจะก้มลงเก็บท่อนแขนซีดขาวที่กระเด็นตกไปไม่ห่างจากโต๊ะ มือเรียวสัมผัสฝ่ามือสากก่อนจะยกขึ้นแนบแก้ม น้ำตาที่ยังไม่เหือดแห้งหลั่งไหลออกมาอีกครั้ง ท่อนแขนอบอุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยโอบประคองเธอไว้บัดนี้ไร้ไออุ่นอยู่ในอ้อมกอดของเธอ ก่อนที่เธอจะวางอวัยวะส่วนนั้นไว้ข้างศีรษะเมื่อครู่
ร่างบางทรุดตัวลงบนเก้าอี้ มือเรียวสัมผัสหลังมือของชายหนุ่มที่วางอยู่บนโต๊ะด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะจิบไวน์จากแก้วใบใหม่ มีรอยยิ้มบางประดับไว้ที่มุมปาก
“วันนี้คุณอาจจะคิดว่าเป็นวันสิ้นสุดระหว่างเรา เป็นวันสิ้นสุดของคุณ ... แต่ไม่ต้องกลัวนะคะ การสิ้นสุดสิ่งหนึ่งก็เป็นการเริ่มต้นอีกสิ่งหนึ่ง ตั้งแต่นี้เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป หัวใจของคุณ....เลือดของคุณ...จะไหลเวียนอยู่ในร่างกายของฉันไปตราบลมหายใจสุดท้าย” แสงเทียนสะบัดไหวเงาบนเสี้ยวหน้าที่กำลังยิ้มดูบิดเบี้ยว นิ้วเรียวลากไล้ไปตามสันจมูกที่เมื่อชั่วโมงก่อนยังมีลมหายใจ
“เราคงต้องออกเดินทางกันแล้วล่ะค่ะ” เสียงหวานละมุมพูดกับชิ้นส่วนของคนรักเมื่อเข็มสั้นและเข็มยาวของนาฬิกาเรือนใหญ่บนผนังทับกันสนิทพอดี
เรียวแขนบางโอบกระชับศีรษะอย่างทะนุถนอม ก่อนจะใส่ลงไปในโถแก้วเนื้อหนาอย่าเบามือ “ทนอึดอัดนิดนะคะที่รัก” เสียงอ่อนโยนปลอบประโลมคนที่เธอรัก ก่อนจะปิดฝาโถแก้วแล้วประคองใส่ลงในกระเป๋ากันกระแทกอย่างระมัดระวัง
แสงนวลตาทำให้เกิดเงาสีดำทอดยาวบนกำแพงห้องอาหารอีกครั้ง... ... ริมฝีปากแดงสด ประทับลงบนหลังมือหนาที่เคยกุมมือเธอไว้ .... นิ้วเรียวสัมผัสแขนที่เคยมอบอ้อมกอดอบอุ่นให้กับเธออย่างอ่อนโยน...
...ริมฝีปากนุ่ม กดแนบลงบนท่อนขาแข็งแรง ที่เคยค้ำจุนยามเธออ่อนแรง...
ร่างโปร่งก้าวเท้าอย่างไม่รีบร้อน มือไล้ไปบนผิวโต๊ะเย็นเยียบเรียบรื่น จนถึงอีกฝากหนึ่งของโต๊ะตัวยาว
...เรียวปากบาง มอบรอยจูบลงบนไหล่หนาสมส่วน ... ไหล่ที่เธอเคยพักพิงและคิดจะฝากชีวิตไว้ตราบนิรันดร์
สายตาของหญิงสาวสะดุดกับโพรงขนาดใหญ่ที่แผ่นอกและช่องท้อง ในบรรยากาศท่ามกลางแสงนวลสลัวเห็นเหมือนเป็นเพียงปานสีดำขนาดใหญ่เท่านั้น
หญิงสาววางกระเป๋าใบใหญ่ลงข้างตัวแต่มืออีกข้างยังคงกระชับกระเป๋าใบเล็กแน่น กวาดสายตามองห้องที่ครั้งหนึ่งเคยอวลอุ่นไปด้วยความทรงจำที่มีค่า ก่อนจะปิดประตูลง ทิ้งมวลอากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นเลือดคาวคลุ้งไว้เบื้องหลัง
* * * * * * * * * * END * * * * * * * * * *
Create Date : 13 มกราคม 2552 |
Last Update : 13 มกราคม 2552 8:30:12 น. |
|
3 comments
|
Counter : 894 Pageviews. |
|
|
|
โดย: bondsp วันที่: 13 มกราคม 2552 เวลา:8:40:52 น. |
|
|
|
โดย: พี IP: 124.157.233.8 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:21:07 น. |
|
|
|
โดย: ออม IP: 124.157.233.8 วันที่: 6 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:22:35 น. |
|
|
|
| |
|
|
เจี๋ยว..