เดินหลงทางมาดาวโลก
※ ข้าว ชาวนา และห่วงโซ่ของหนี้สิน





เมื่อวานอ่านนิตยสาร สารคดี ฉบับเดือนกันยายน
ในบทความ [ข้าวไทย ในวิกฤตอาหารโลก]
วลี ห่วงโซ่ของหนี้สิน โดดจากหน้าหนังสือมาเตะลูกตา
และสะกิด "ต่อมเฮ้อ" เข้าอย่างจัง

ต่อมเฮ้อ ...อะไร?
มันเป็นต่อมที่ทําให้เกิดการหลั่งสารจี๊ดปวดใจ
..สารที่กระตุ้นให้อยากยกกําปั้นขึ้นถามผู้บริหารประเทศ
ว่าทําไมปล่อยให้ปัญหาสะสมพอกพูนมานานขนาดนี้

เรื่องปัญหาหนี้สินชาวนาไม่ใช่เรื่องใหม่
แต่ที่รุกเข้ามาเรื่อยๆคือการครอบงําของบริษัทยักษ์ใหญ่


เป๋อเพิ่งได้อ่านเรื่อง พันธุ์ข้าวลูกผสม เป็นครั้งแรก
เมล็ดข้าวลูกผสมจะถูกคัดพันธุ์มาอย่างดี
มันจะแข็งแรง และให้ผลผลิตที่มากกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไป
แต่ ..มันต้องการปุ๋ยและสารเคมีอีกสารพัดในปริมาณมาก
และเมล็ดที่ได้ก็ไม่สามารถมาใช้เป็นเมล็ดพันธุ์ของครั้งต่อไปได้
ซึ่งก็หมายถึง
ขายข้าวได้เท่าไหร่ ก็ต้องโยกกลับมาเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงตาม
เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยากําจัดแมลง ...ทุกอย่างต้องซื้อ
สารเคมีที่ใช้ ก็จะทําให้ดินเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ
ปูปลาที่เคยอยู่ในท้องนา ก็อยู่ไม่ได้
(หรือได้ก็คงกลายพันธุ์เป็นปูสี่ตาปลาสามหัว)


แล้วถ้าเจอคราวเคราะห์
ฝนฟ้าไม่อํานวยหรือเกิดโรคระบาด
.... ต่อมเฮ้อทํางานหนักอีก

เห็นข่าวนํ้าท่วมทุ่งนาที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวแล้ว
...อยากร้องไห้
เรื่องไม่ใช่เกิดครั้งแรก
และถึงจะไม่สามารถรู้ชัดว่านํ้าจะมาเมื่อไหร่
แต่ก็น่าจะรู้ว่าจะมาทางไหน
เราไม่มีทางป้องกันเลยหรือ?


อาจจะเป็นคําถามโง่ๆ จากคนไม่รู้เรื่องนํ้าเรื่องนา
แต่เราก็เชื่อว่า ปัญหา... ป้องกันได้




สารจี๊ดปวดใจหลั่งให้ชาวนาไทยแล้ว
คิดเลยไปถึงชาวนาญี่ปุ่น
เคยอ่านว่ารัฐบาลเค้าจะช่วยเหลืออย่างดี
ทั้งในการพยุงราคา และกีดกันสินค้าราคาถูกจากต่างชาติ
เดี๋ยวนี้ยังเป็นแบบนั้นรึเปล่าไม่รู้





ข้าวญี่ปุ่นสองยี่ห้อนี้
เจอที่งานอาหารญี่ปุ่นที่อิเซตัน
ถุงนึงประมาณ 2 โล
ทายซิคะ ว่าเท่าไหร่

เฮอะๆๆ 750 กะ 850 บาทเจ้าค่ะ








ห้อยท้าย
ใครไปงานหนังสือ ลองแวะไปซุ้มนิตยสาร สารคดี ดูนะคะ
อยากให้อาหารสมองดีๆ ยืนหยัดอยู่ได้ในสังคมไทย















Create Date : 10 ตุลาคม 2551
Last Update : 10 ตุลาคม 2551 13:27:01 น. 40 comments
Counter : 741 Pageviews.

 
เอาภาพดีมากๆมาฝากขออภัยที่ต้องผูกลิงค์
เพราะภาพมังใหญ่...แต่รับประกันความชุ่มชื่นในใจ
ถ้าได้ดูงับ
อยากเห็นภาพนี้ทุกที่ในหัวใจคนไทย คลิกเยยรับรองว่ายิ้มได้


โดย: พลังชีวิต วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:10:02:20 น.  

 
นี่คือ เมืองไทย !!!

ชาวนาไม่ต้องลืมหูลืมตา

ว่าแต่ เป๋อ วันนี้ฉันเขียนบล็อกถึงแฟน ไปอ่านหน่อยนะ ฉันอยากจะบอกโลกว่า ฉันรักแฟนฉันแค่ไหน

เอารูปแฟนฉันมาลงด้วยนะ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:10:46:58 น.  

 
สงสารชาวนา.... TT_TT


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:11:57:12 น.  

 
วันนี้ไม่ว่างนะเนี่ย ยังยุ่งเรื่องของชาวบ้านไม่เสร็จเลย แต่มาตอบก่อน

เจ๊ไม่มีที่นาหรอก แต่แม่เจ๊มีนิดหน่อย ไม่ได้ทำเอง แต่ให้คนอื่นทำ แล้วเค้าก็แบ่งข้าวให้แล้วแต่ว่าปีนั้นจะได้มากได้น้อย ปีไหนน้ำท่วมก็ไม่ได้เหมือนกัน

ส่วนเป๋ออยากถามอะไรเกี่ยวกับการทำนาเพิ่มเติมก็ถามได้ เจ๊จะไปถามสามีแม่บ้านให้ เพราะที่บ้านเค้าทำนาเป็นอาชีพหลักเหมือนกัน

ปัญหาเรื่องข้าว-เรื่องชาวนาไทย ที่เป๋อปวดจี๊ดๆๆอยู่น่ะ สำหรับเจ๊คิดว่าน่าจะแบ่งเป็นสองส่วนนะ

บอกไว้ก่อนว่านี่คิดตามประสาโง่ๆแบบเจ๊ ไม่ได้อ้างอิงเอกสาร หลักฐาน หรืออะไรทั้งสิ้น ผิดถูกไม่รู้ เพราะนี่คือ"ความเห็น" ของเจ๊คนเดียว

-ส่วนแรก ความช่วยเหลือจากรัฐบาล
เจ๊ว่ารัฐให้ความช่วยเหลือผิดวิธีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน พักหนี้เกษตรกร

เรื่องพวกนี้ไม่ได้ช่วยให้เกษตรกรไทยลืมตาอ้าปากได้จริงๆหรอก เพราะแม้หลักการจะดี แต่ผู้รับความช่วยเหลือ นำความช่วยเหลือไปใช้ผิดประเภท ปัญหาหนี้สินก็จะยังคงอยู่ตลอดไป ไม่มีวันหมดแน่นอน

สำหรับเจ๊ สิ่งรัฐบาลน่าจะทำแบบจริงจังคือเรื่องราคาข้าว ทำยังไงให้ข้าวไทยมีราคาสูงกว่านี้ โดยที่ชาวนาได้รับผลประโยชน์จากราคาข้าวที่สูงขึ้นจริงๆ

ที่ผ่านมาช่วงที่ขึ้นราคาข้าวจากราคากก.ละ 17 เป็น 35 บาท คนที่รวยคือโรงสีข้าว เพราะชาวนาไม่มีข้าวเหลือแล้ว ขายเกลี้ยงไปตั้งแต่หมดฤดูเก็บเกี่ยว (เหลือไว้แค่พอกินทั้งปี)

เจ๊เคยถามแม่บ้านว่าทำไมไม่เก็บไว้บ้าง ทำไมถึงต้องขายหมด แม่บ้านบอกว่า เก็บไว้ไม่ได้ เพราะไม่มีสถานที่เก็บที่ดีพอ มักจะมีหนูหรือสัตว์อื่นๆไปทำความเสียหาย
((อันดับแรกเลย รัฐควรสร้างยุ้งฉางดีๆที่ป้องกันสัตว์พวกนี้ให้ชาวบ้านก่อน))

หรือไม่อีกที เก็บไว้นาน มันจะกลายเป็นข้าวเก่า ขายไม่ได้ราคา(เค้าว่างั้น)

-ส่วนที่ 2 ตัวเกษตรกรเอง
หิวข้าวแล้ว ไปหม่ำก่อนนะเดี๋ยวมาใหม่


โดย: พจมารร้าย วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:12:57:10 น.  

 
^
^

อิอิอิ พี่พจร่ายยาวเลย คริคริ


emoemoemo



พี่เป๋อครับ
การเมืองทุกวันนี้
มัน "ฉ้แฉลได้แนบเนียน" ขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น และฝ่ายรัฐบาล

emo





โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:13:06:08 น.  

 
^
^
ขอบคุณเจ๊พจ ที่มาช่วยส่องไฟให้อีกดวงค่ะ



โดย: เป๋อน้อย วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:13:40:18 น.  

 
^
^
จิ้มพุงพ่อหมิงหมิง
นั่นยังสั้นไปย่ะ ยังไม่จบ


ต่อๆๆ ทีนี้พูดถึงส่วนที่ 2

ตัวเกษตรกรเอง ทุกวันนี้เค้าชินกับความสะดวกสบายที่ต้องใช้เงินแลกมา เพราะฉะนั้นทุกอย่างคือค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วค่าใช้จ่ายที่ว่า บางทีก็ต้องกู้ยืมมา แล้วถ้าเกิดฝนฟ้าไม่เป็นใจ น้ำท่วม ฝนแล้ง หมายถึงขาดทุนย่อยยับ

-ค่าจ้างรถไถนา อันนี้เจ๊เห็นด้วย เป็นเจ๊ก็คงไม่ไถเอง555

-ค่าปุ๋ย(เห็นบ่นกันว่าแพงมากๆแต่ก็ต้องใช้) เจ๊ก็คิดอยู่ว่าถ้าเจ๊จะทำนาจริงๆ คงลองทั้งใส่ปุ๋ยและไม่ใส่ ทำบัญชีค่าใช้จ่ายให้ละเอียด แล้วเอามาเปรียบเทียบกันว่าผลผลิตที่มากขึ้นจากการใส่ปุ๋ย มันคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหรือเปล่า
แต่ชาวนาเค้าไม่มีโอกาสมานั่งทดลองแบบนั้น ต้องใส่ปุ๋ยอย่างเดียว เพราะกลัวไม่ได้ผลผลิต (อันนี้ก็เข้าใจได้ แต่เจ๊ก็ยังไม่ค่อยเห็นด้วยอยู่ดี)

-ค่าจ้างดำนา ถ้าเจ๊ทำเอง เจ๊จะตัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ทิ้ง ถ้าดำเองไม่ได้ เจ๊ก็จะหว่านเอา ถึงแม้วิธีหว่านจะได้ผลผลิตน้อยกว่า แต่ถ้าเกิดน้ำท่วมขึ้นมา เราก็จะไม่ขาดทุนมาก

-ค่าจ้างรถหรือคนเกี่ยวข้าว (ส่วนนี้ทุกคนยินดีจ่าย เพราะแปลว่ากำลังจะได้ขายข้าวแล้ว เย้ๆๆๆ)


อีกอย่าง ปัญหาที่ตัวเกษตรกร(บางคน) ก็คือไม่มีวินัยในการใช้จ่าย
ถ้างกเหมือนเจ๊ทุกคน รับรองว่าไม่จน ก๊ากกกกกก


เขียนครบยังไม่รู้ คิดออกแค่นี้แหละ คิดได้อีกจะมาบอกใหม่

ป.ล. ย้ำอีกทีว่าทั้งหมดนี้ พจมารร้ายนั่งเทียนเขียนเองล้วนๆ ไม่ได้มาจากประสบการณ์แต่อย่างใด เกษตรกรตัวจริงท่านไหนมาอ่านเข้าโปรดอย่าด่าอีชั้นนะคะ


โดย: พจมารร้าย วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:13:50:18 น.  

 
emoemo




อ่านแล้วก็ปลงซะ...อย่าไปคิดมากซาซ่า
รัฐบาลไทยไม่เคยตั้งใจที่จะช่วยเหลือภาคเกษตรกรอย่างจริงจังหรอก
กลัวชาวนาฉลาดแล้วจะกดหัวไว้เป็นทาสไม่ได้
รัฐเขาอุ้มแต่เศรษฐี..เถ้าแก่
บริษัทนั้นจะล้ม
สถาบันการเงินนี้จะเซ
โผกันเข้าไปอุ้ม
ใช่..มันเป็นเศรษฐกิจของชาติ
แต่ลืมไปรึป่าว
หากไม่มีชาวนา หรือว่าชาวนาเลิกทำนากันหมดประเทศ
จะเอาอะไรกินกัน



จากลูกชาวนา ที่ปัจจุบันลุงจวบเลิกทำนาไปทำอย่างอื่น
แล้วหันมาซื้อข้าวกินแทน...ถูกกว่าลงทุทำเองอีก
ไม่เหนื่อย..ไม่กลุ้ม...


โดย: big-lor วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:13:55:16 น.  

 









โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:14:01:48 น.  

 
เพียงแค่ คิดถึงการ์ตูนเรื่องนี้เท่านั้นแหละครับ



โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:15:26:44 น.  

 
จริงๆนะ ผมหละเกลียด
ทุนนิยมแบบรังแก คนด้อยอำนาจกว่าจังอ่า


โดย: REX-REX วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:16:15:42 น.  

 
หาเรื่องมาให้ลูกชาวนาเครียดอีกละ..emoแค่เรื่องทุกวันนี้ก็เต็มหมองแล้วเนี่ย emo

.......................

คิดถึงตอนตัวอะไรร้อง ก็ยังดีกว่าไม่คิดถึงเลยอ่ะ ดีใจแระ emo


โดย: pataramin วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:16:54:30 น.  

 
เดี๋ยวลองหา สารคดี มาอ่านมั่งค่ะ
ชีวิตชาวนาที่คนทั้งประเทศต้องพึ่งพาอาศัยเค้าวันละ 3 มื้อ
ตลอด อายุขัย 60 ปี
ทำไมถึงได้เป็นอาชีพที่มีแต่ความทุกข์ก็ไม่ทราบ

น่าจะรวย แต่กลับจน ทั้งปี ทั้งชาติ


โดย: Shallow Grave วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:18:16:17 น.  

 
ถ้าบ้านเราข้าวแพงขนาดนั้น

ต้องหันไปกินเผือกกินมันแทนแล้วล่ะค่ะ..อะมิตตะพุทธ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 10 ตุลาคม 2551 เวลา:21:57:28 น.  

 
Thanking for making me smile na krub


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:9:18:03 น.  

 
ตอนที่ทำร้านอยู่ เครียดตอนที่ข้าวขาดตลาด
ราคาพุ่งปรี๊ด ตราฉัตรเขียวจาก86บาทขึ้นเป็น160บาท

ที่เคยรู้มารัฐบาลญี่ปุ่นเขาอุ้มชาวนานะ
อาจารย์เคยบอกชาวนาญี่ปุ่นรวย ไม่เหมือนบ้านเรา
จนทั้งชาติ

เมื่อวานไม่ยอมไป นั่งฟังเขาคุยขำมากกกกกกกกกemoemo


โดย: kai (aitai ) วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:14:01:24 น.  

 


จากบล็อก.....

มีความสุข นะครับ


โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:14:29:24 น.  

 
เนี้ยะ เคยเบื่อวิชาชีพที่ทำอยู่ จนคิดอยากจะกลับบ้านไปเป็นชาวนา ปลูกข้าวขาย

ไปไถนาเองด้วย แว้ก ไม่ใช่ๆๆๆๆ

แต่ตอนนี้ไม่คิดแล้วค่ะ กลัวพ่อแม่ด่า(ไอ้ลูกบ้า)



โดย: patra_vet วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:18:42:02 น.  

 

ขอชัดๆอีกทีจิคะ ว่าซื้อมาหรือเกิดในยุคนั้น?



โดย: เป๋อน้อย 7 ตุลาคม 2551 14:14:13 น.
อยากดีดหูคน ยังม่ายได้แก่จะหน่อย


โดย: REX-REX วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:7:35:33 น.  

 
สวัสดีครับพี่เป๋อน้อย

ผมก็เป็นลูกหลานชาวนาไทยคนนึ่งนะครับ ปัญหาเื่รื่องข้าวไทย

เป็นปัญหาระดับชาติ ผมอยากให้ชาวนาไทยรวยเหมือนชาวนา

ญี่ปุ่นจัง ผมทำงานด้านการท่องเทียว และที่พัก เห็นเค้ามา

เที่ยวใช้จ่ายเงินกันอย่างมีความสุข แตกต่างกับชาวนาไทย

ขายข้าว เสร็จนายทุน(นิยม) พ่อค้า(ปุ๋ย) คุณป้า(เจ้าหนี้)ต่างก็

มารอแล้ว ขายข้่าวได้ 6 เกวียน เกวียนละ 8,200 ได้เงิน

49,200 บาท (สี่หมื่นเก้าพันสองร้อยบาทถ้วน)

ค่านายทุน(นิยม)+โรงสีข้าว 10,XXX บาท

ค่าปุ๋ย + สารเคมี 10,XXX บาท

ค่าเช่าที่ทำนา+เงินกู้ยืม 20,XXX บาท

อื่นๆ 5,XXX บาท

คงเหลือ 4,200 บา่ท

จะพอกินไหมเนี้ยทำนาแทบตาย ผลกำไรเหลือ 4,200 บาท

บ้างรายไม่เหลือ และยังอาจจะติดลบอีก แต่ผมก็ยังเห็น

ยายผม น้าชาย น้าสาวของผม ก็ยังทำนาอยู่

ซึ่งที่นา ของ ยาย ที่ น้าๆ ทำอยู่ อยู่จังหวัด พิจิตร

ผมขอร้อง ยายและน้าๆ ว่า อย่าใส่สารเคมี ลงในนา และ

พยายามเลี้ยงปลาในคันนาจะเป็นรายได้เสริม เค้าก็ทำนะ

และก็ไม่ทำให้ดินเสียด้วย ส่วนปลาพอโตมันก็ออกลูก

ตัวขนาดกำลังดีก็นำไปกิน เหลือก็แบ่งเพื่อนบ้าน มากเกิน

ก็จับขาย ถ้าชาวนาไทย ไม่ต้องทุกคนก็ได้ แค่บ้างส่วน

ที่ส่งเสียลูกหลานมาเรียนกันถึง กรุงเทพฯ และได้ลูกหลาน

นำหลัก คำสอบของ พ่อหลวงนำไป แนะนำแนะแนวให้

คนในครอบครัวได้ดำเนินการทำตามคำสอบของพ่อหลวง

ผมบอกได้เลยว่า ชาวนาไทย จะดีขึ้น



โดย: รอวันที่จะโดนทิ้ง วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:10:19:28 น.  

 
emoซาแดงว่าไม่อยู่ล่ะสิวันนี้อ่ะ คลานหนีไปทำนาดีกว่า emo

ลืมถาม คิดถึงเค้าป่าว..อิอิemo


โดย: pataramin วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:17:18:38 น.  

 
^
^
อย่างที่อีตารอวันฯว่าแหละ ลงทุนเยอะ ถ้าน้ำไม่ท่วม ก็เหลือกำไรไม่กี่บาท (ยังไม่รวมค่าจ้างดำนาด้วยซ้ำ)

ลืมไป แม่บ้านเจ๊บอกว่า เค้าไม่มีค่าใช้จ่ายตรงเมล็ดพันธุ์ข้าวนะ เค้าใช้เมล็ดพันธุ์ที่เก็บเกี่ยวได้จากปีที่แล้วอ่ะ

คงไม่ได้ใช้เมล็ดพันธุ์ลูกผสมจอมเขมือบอย่างที่เป๋อว่า


โดย: พจมารร้าย วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:8:02:44 น.  

 
บอกข่าวดี พิจิตรน้ำท่วม คิดเอ่ย บ้านญาติแก่ปลาไปหมดแล้วมัง


โดย: สวนสน612 วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:13:16:31 น.  

 
หวายยยยยยยยยยยยย ไปแอบดูเค้าหากระไดแถวบลอกไหนละเนี้ยะ หุหุหุ


โดย: patra_vet วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:13:38:16 น.  

 
สาหวัดดีค๊า คุณเป๋อ เเละสหายทั้งหลายของคุณเป๋อ ฝากเนื้อฝากตัว เเต่ยังไม่ฝากใจด้วยคนน๊าคร๊า เเต่เรายังทำblog ไม่เป็นอะ ไม่ต้องเเอบดูนะว่าเป็นใครน๊อ....เป็นคนชอบฝันหวาน (เป๋อรู้ดี)เเต่ไม่เคยได้หวาน..5555++......คิดถึงเป๋อเลยหาทางมาเจอจนได้ ...มาสอนเล่นblogเร็ว



โดย: Sea Water วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:14:58:17 น.  

 
แกะยันต์ออกยัง..emo


โดย: pataramin วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:15:43:18 น.  

 
emo555+ เม้นท์ได้แย้วววว..emoคิดถึงอ่ะemo


โดย: pataramin วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:15:49:38 น.  

 
อ่าว พันธุ์ข้าวที่ปลูกๆกันไม่ได้เอามาจากรัฐฯเหรอ แล้วพันธุ์ข้าวเหล่านั้น
ไม่ได้พัฒนามาจากการวิจัยของภาครัฐฯเหรอ?


ส่วนเรื่องใครจะมาฮุบจะมาครอบงำนี่ถ้ารัฐฯไม่ยอม ไม่เห็นด้วยมันก็
ทำกันไม่ได้ง่ายๆหรอก


โดย: ST.Exsodus วันที่: 13 ตุลาคม 2551 เวลา:20:45:27 น.  

 
^
^
วี๊ดวิ้ว ...ต้อนรับคนชอบฝันหวาน (แต่มาดเจ้าแม่) emo


โดย: เป๋อน้อย วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:9:43:59 น.  

 
อาโหลเป๋อ เจ๊ไปตักบาตรมาล่ะ เอาบุญมาขวากนะ


โดย: พจมารร้าย วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:10:20:59 น.  

 
"เดี๋ยวเราก็จะไปเที่ยว ..กะเพื่อนที่กําลังจะหย่า"

อืมๆ เป็นคู่ที่เหมาะดีครับ คนร้าง(ลา) กับ คนบนคาน เนี่ย อิ อิ


แบบนี้น่าหาที่นอนที่อยู่ข้างๆห้องน้ำนะครับ จะได้ฟังเสียงน้ำไหล
ทั้งวันทั้งคืน


แล้วจะไปเที่ยวแถวไหนเหรอครับ ผมจะได้เลี่ยงไม่ไปแถวนั้น :p


โดย: ST.Exsodus วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:11:08:44 น.  

 
วันนี้อารมณ์ยังดีอยู่ แต่เปื่อยนิดๆอ่ะemoอ่ะให้เป๋อ..emo


โดย: pataramin วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:11:12:22 น.  

 
emoemoemoemo


โดย: big-lor วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:12:52:04 น.  

 
emo


โดย: คนไม่เจียม.. วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:13:45:09 น.  

 
น่านดิ เสียดายไม่ได้เจอ
นี่ไง งานกฐินไปกันป่าว
แต่ถ้าไม่สดวกก็ฝากปัจจัยได้จ้ะ
แล้วแต่ศรัทธาemoemo


โดย: kai (aitai ) วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:13:54:51 น.  

 


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:14:14:18 น.  

 
คุยเรื่องศ.ก หรือเกษตรกรรมไม่ค่อยเป็นนะเป๋อ

เป็นแต่เรื่องเบาๆ...เป็นต้นว่า...

ชอบกินข้าวญี่ปุ่นมากเลย
แต่ที่บ้านไม่มีหม้อหุงข้าว

ก็เลย...ชอบซื้อข้าวที่เค้าขายเป็นแพ็คจากอิเซตัน
ซึ่งก็ยังไม่ค่อยอร่อยเหมือนตอนกินที่ญี่ปุ่น..
สงสัยอันนั้นกินบรรยากาศไปด้วย...


โดย: ทากชมพู วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:18:23:42 น.  

 
เขาเรียกชาวนาว่าเป็น กระดูกสันหลังของชาติ
เจอมรสุมทีเลยเหลือแต่กระดูกจริงๆ ไม่มีใครพยายามช่วยเหลือจริงจังให้มีเนื้อมีหนังบ้าง


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:20:11:41 น.  

 
อย่าไปฟังนะเป๋อ

มีคนใส่ร้ายอ้าย


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:8:46:30 น.  

 
emoมาให้เห็นเฉยๆ ไม่มีไร..emo


โดย: pataramin วันที่: 15 ตุลาคม 2551 เวลา:10:06:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เป๋อน้อย
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]







Imagination was given to man
to compensate him for what he is not;
a sense of humor
to console him for what he is.

~ Francis Bacon







มาเล่นกันเถอะ









The Salads http://www.dexclub.com/download.php





เจ้าตัวหัวเขียว
กระต่ายตัวกวน
The Salads
X
X
X
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
10 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เป๋อน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.