|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
ตอนที่ 26 : ขอให้รักของฉัน อยู่กับเธอตลอดไป เล่ม 1 - 3 โดย ภูระริน

26
วันนี้ภูสิตาขับรถออกไปที่บ้านหลังเดิมที่ทั้งสองเคยไปมาแล้ว พอไปถึงก็เห็นปรเมษฐ์นั่งอ่านหนังสือรออยู่ เขาลุกขึ้นแล้วดึงเธอเข้าไปกอดเมื่อหญิงสาวไปยืนอยู่ตรงหน้า ภูสิตากอดตอบก่อนที่ปรเมษฐ์จะหอมที่แก้มเธอเบา ๆ มาเร็วกว่าที่คิดนะ
ไม่ดีหรือไง ? ไม่รู้อะไรซะแล้ว เวลาเราขับรถให้โมรีนั่งไปด้วย โมต้องลงมาอาเจียน เพราะเร็วมาก ๆ
ขี้โม้ล่ะมั้ง ยายโมมันจอมเว่อร์อยู่แล้วนี่ ปรเมษฐ์ดึงเธอลงมานั่งที่ตักอย่างเอ็นดู
ไม่นะคะ เรื่องจริง ขับรถเก่งจริงจริ๊ง หญิงสาวเล่าอย่างเป็นสุข พลางโอบคอชายหนุ่มไว้
เราก็โม้เหมือนตัวนี่แหละ แต่เป็นมอเตอร์ไซด์นะ คันใหญ่มาก ถึงต้องไปนอนยาวอยู่อย่างนั้นไง ระวังตัวด้วย เขาเตือนพลางใช้มือผลักที่หน้าผากเธอเบา ๆ
นี่ยังไม่เลิกทำแบบนี้อีกเหรอ ? ผลักอยู่ได้ เจ็บนะ ภูสิตาดึงมือชายหนุ่มมาแล้วก็ฟาดเบา ๆ หลายครั้งพลางหัวเราะ
ใช่ นี่แม่ให้ไปวัดอีกแล้ว ตาลไม่ได้ไปกราบพระเบสนานหรือยังนะ ? ไปหรือยังเถอะ ? ปรเมษฐ์เปลี่ยนเรื่องพลางดึงเธอลงมาหอมที่แก้มอีกครั้ง
ไม่ได้ไปค่ะ กลัวท่านถาม แล้วเราก็ยังไม่ได้ทำตามสัญญาด้วย เธอผลักหน้าเขาออกเมื่อเขากำลังพยายามจะหอมที่แก้มอีกข้าง พอ ๆ เธอบ่ายเบี่ยง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมจึงต้องปล่อยเลยตามเลย ก่อนที่ภูสิตาจะลงจากตักของเขา แล้วมานั่งที่โซฟาด้วยกัน แต่พรุ่งนี้คงต้องไปแหละ น้านิดาขอให้ไปเป็นเพื่อนค่ะ
ปรเมษฐ์ได้ยินชื่อนี้แล้วก็ยิ้ม ถามอะไรหน่อยสิ ตัวอยากเข้าโครงการดูตัวของพ่อกับน้านิดาไหม ? ชายหนุ่มหัวเราะ หากแต่แววตาดูกังวล
จะเอามาทำไม ?
ก็เผื่อเราไม่รอดตัวจะได้มีทางเลือกไง
ภูสิตาซึมลงทันที อย่ามาพูดเล่น ไม่อยากฟัง
ชายหนุ่มส่ายหน้า พลางกอดเธอมาแนบข้างกายอีกครั้ง ไม่พูดไม่ได้ครับ ในเมื่อเราพร้อมจะยอมรับทุกอย่าง เราก็อยากทำทุกอย่างให้เรียบร้อย จะได้ไม่มีห่วง ไปดูหน่อยไหม คุณเกียรติคุณเกิดอะไรนั่น ? เขาหัวเราะเบา ๆ พลางลูบหลังคนรักอย่างหวงแหน
ไม่เอาค่ะ ถ้าไม่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองต้องการ ตาลก็ไม่เอา
ปรเมษฐ์อมยิ้มพลางผลักเธอเบา ๆ ที่บ่า ไปห่าง ๆ เลย ไปโน่น พูดจาไม่น่าฟังเอาซะเลย ละไว้อยู่นั่นแหละไม่รู้อะไรนักหนา
ทำปากดีไปเถอะ ถ้าเลือกจริง ๆ จะยุ่ง ภูสิตาหน้างอประชดลม ๆ แล้ง ๆ แล้วทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน ตอนนี้ภูสิตาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอมีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก แม้จะรู้ตัวว่าที่ทำอยู่นี้ประหลาดเกินกว่าใครจะเข้าใจได้ แต่เธอรู้ดีว่าขอแค่มีศรัทธาในตัวเองและมีความหวัง ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นในไม่ช้า
เรื่องไปหาผมที่โน่นตาลคงต้องไปกับพระนะ รอให้ท่านสึกออกมา แล้วเราจะได้พบกันนะคะคนดี เราจะไม่เปิดเผยอะไรให้ใครรู้ทั้งนั้น พ่อจะรอตาลอยู่ที่โน่น ชายหนุ่มรวบมือทั้งสองของคนรักเข้าด้วยกัน แววตาของเขาหนักแน่น
แต่ท่านอาจจะจำตาลไม่ได้
น้อยไปสิ ท่านบอกว่าต้องขอบคุณตาลต่างหากที่ช่วยเรา
ยังไงคะ ?
ถ้าคุณไม่แน่จริง คุณก็คงไม่ฝันถึงผมเป็นเรื่องเป็นราวมาตลอดหรอก คุณเป็นคนพิเศษ ชายหนุ่มหอมที่แก้มนวลอีกครั้งอย่างรักใคร่
อ้อ ! เมื่อคืนฝันเห็นบอลเป็นพระเอกลิเกหรือนักรบอะไรสักอย่างด้วยล่ะ บอกว่าชื่อแสงแผนผา เป็นฝันที่ตลกดีนะ
อยู่กับเรายังกล้าฝันถึงผู้ชายคนอื่นอีก ระวังตัวไว้ เขาพูดไม่จริงจังนักเพราะยังหัวเราะร่วน
บ้า ! ก็นั่นมันตัวนี่ หน้าเหมือนกันชัด ๆ ภูสิตาพูดพลางไอออกมาเบา ๆ
ปรเมษฐ์จับที่หน้าผากของคนรัก เป็นไข้หรือเปล่าครับ ? โดนดุแค่นี้ทำใจเสาะ ไข้ขึ้นขึ้นมาเชียว ชายหนุ่มเคาะที่หน้าผากเธอเบา ๆ เพราะเจ้าตัวไม่มีไข้อย่างที่กังวล
ไม่ค่ะ เป็นแบบนี้มาพักหนึ่งแล้ว เหมือนมีอะไรติดคอตลอดเลย ไม่ใช่ก้างด้วย
อีกคนหันหน้ามองซ้ายขวา
หาอะไรคะ ?
หาก้างขวางคอไง เขาหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ภูสิตายิ้มไม่ออกกับมุกตลกฝืด ๆ เธอส่ายหน้า ทำให้ปรเมษฐ์ต้องหยุดหัวเราะทันที
อยากเห็นก้างไหมคะ ? น่าจะไปรออยู่บ้านคุณแล้วนะ วันนั้นท่าทางจะโกรธไม่ใช่เล่น
หญิงน่ะเหรอ ? ไม่เอาครับไม่พูดถึงคนอื่น ผมรักคุณนะ ปรเมษฐ์ดึงหญิงสาวเข้ามาแนบอกทันที ภูสิตาโอบกอดตอบคนรักสงบนิ่ง อะไรรออยู่ข้างหน้าก็จะเดินเข้าไปหา ขอแค่คนนี้คนเดียว ขอให้อยู่ข้าง ๆ อย่างนี้ก็จะไม่กลัวอะไร
น้านิดาไม่ได้พาภูสิตาไปที่วัดใกล้บ้านอย่างที่เธอคิดไว้ แต่ท่านพาเธอออกมาไกลพอสมควร ที่จริงก็เคยผ่านวัดนี้ แต่ไม่เคยไปทำบุญสักที ท่านซื้อเครื่องสังฆทานมาชุดใหญ่ หอบกันพะรุงพะรังทั้งสองคน อีกเงาที่เดินอยู่ข้าง ๆ เธอก็ตามมาด้วย ปรเมษฐ์อยากรู้ว่าน้านิดามาหาอาจารย์ที่ไหน เห็นเอาน้ำมนต์ให้ดื่ม ภูสิตาจึงหายหวัดเป็นปลิดทิ้ง ชายหนุ่มยิ้มเพราะเห็นคนรักทำหน้าตาบอกบุญไม่รับ เพราะถือของหนักไม่ใช่เล่น ครั้นจะช่วยถือ หล่อนก็ฟาดเอา ๆ
ไม่ต้องยุ่ง ! ของทำบุญ ฉันรู้ว่าคุณจะมารอเอาบุญอยู่คนเดียว ภูสิตาบอกเขาในใจเพราะทั้งสองกำลังคุยกันด้วยการใช้อิทธิฤทธิ์ของปรเมษฐ์
ไม่ได้สิ เวลาญาติ ๆ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลนะ ถ้าไม่มีใครไปบอก บางทีก็ไม่ได้นะคุณ ผมถึงมาบอกตัวเองอยู่นี่ไง เขาหัวเราะ
ถ้าน้านิดาไม่ให้แล้วจะหน้าแตก
ปรเมษฐ์ส่ายหน้าพลางอมยิ้มแล้วเดินนำไปทันที
พอเข้าไปถึงก็เห็นพระรูปหนึ่งนั่งขีด ๆ เขียน ๆ อะไรบางอย่างอยู่ พอท่านเงยหน้าขึ้นมาเห็นคุณนิดาก็ยิ้มให้ อ้อ ! เสร็จพอดี
น้านิดาและภูสิตาก้มลงกราบ แต่เงาข้าง ๆ หายไป
ค่ะ มาช้าไปสักนิด พอดีไปซื้อข้าวของมาเยอะแยะไปหน่อย
คนนี้ที่เล่า ใช่ไหม ? ท่านพูดลอย ๆ ในขณะที่ภูสิตาเองก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ค่ะ พามาทำบุญ คุณนิดาหันหน้ามาดูอาการของลูกเลี้ยงเหมือนกัน แม้จะรู้ว่าเจ้าตัวดื้อแสนดื้อ แต่น้ำมนต์คงได้ผล เพราะพอออกปากชวนมาวัด ลูกก็ไม่มีอิดออด
พระท่านไม่ได้พูดอะไรมาก หากแต่นำภูสิตากล่าวบทสวดถวายสังฆทานตามปกติ ท่านวางกระดาษใบเล็ก ๆ ลงที่พื้นและบอกให้หญิงสาวเขียนชื่อคนที่ต้องการอุทิศส่วนกุศลไปให้ ภูสิตาอมยิ้ม แล้วเขียนชื่อมารดาที่ล่วงลับและเจ้ากรรมนายเวรเท่านั้น คนอยู่ข้างนอกรอบุญ คงต้องรอเก้อ จะเอาอะไรนักหนา ! แบ่งให้เจ้ากรรมนายเวรของฉันมั่งเถอะ ยิ่งฝันไม่ค่อยดี นี่ขนาดเจ้าตัวมาอยู่ด้วยทุกวัน ยังฝันแปลก ๆ อยู่อีก
คุณนิดาชะเง้อมาพยายามมองที่กระดาษ แต่ก็ทำไม่นานนักเพราะเกรงใจภูสิตา
เจ้าตัวเขาดื้อมาก แต่เขาเป็นนักปฏิบัติมาก่อน มาตอนนี้ก็จะต้องบำเพ็ญต่อ ที่ร้ายก็รับไป แต่ยังไงก็ห้ามเขาไม่ได้ พระท่านก้มหน้าสำรวมเมื่อกำลังพูดถึงภูสิตา แต่เจ้าตัวดูไม่ได้สนใจนัก คุณนิดารู้ว่าหมายถึงใคร จึงได้แต่พยักหน้า
เขาขอกันมาตั้งนานแล้ว ก็เลยตัดกันไม่ได้ กรรมของทางเรา ต้องทรมานหลายทอดทีเดียว เพราะทำไม่ดีมาเหมือนกัน ต้องให้เขาตัดของเขาเองจึงจะหมดกรรม
ท่านเงยหน้ามองมาที่ภูสิตา อย่าทำให้อีกคนที่รออยู่ผิดหวังนะโยม ปลดโซ่ตรวนให้เขาได้ โยมก็จะสบาย จะได้อย่างที่ขอ เราทำกับเขาไว้ เราก็ต้องชดใช้ให้เขาก่อน แล้วอะไร ๆ ก็จะดีขึ้น หญิงสาวไม่เข้าใจรายละเอียด รับรู้แต่ว่า ตัวเองต้องทำอะไรสักอย่างไว้ ไม่อย่างนั้นชีวิตคงไม่เป็นแบบนี้ การเชื่อในเวรกรรม ไม่ใช่สิ่งที่งมงายเสมอไป หากคนที่รู้ยอมที่จะเข้าใจ มีอีกคนที่รออยู่ด้วยหรือ ? ใครกัน ?
มารดน้ำมนต์หน่อยนะลูก จะได้พ้นเคราะห์ไง ขอโทษนะคะที่ต้องให้พระท่านดูดวงดาวคราวเคราะห์ให้ หนูไม่โกรธใช่ไหมคะตาล ?
ภูสิตาส่ายหน้า อย่าห่วงค่ะ แต่เรื่องรดน้ำมนต์ตาลขอนะคะ ไม่ดีกว่าค่ะ ตาลยังรู้สึกขัด ๆ ในคอ นี่ก็ไม่ได้เปิดแอร์นอนมาหลายคืนแล้วค่ะ เธอจำใจมุสา เพราะตอนนี้ไม่อยากให้อะไรมาขวางทางของเธอทั้งนั้น
ไม่เป็นไร จะเกิดอะไร มันก็เป็นเวรกรรม ไม่ได้อยู่ที่น้ำมนต์นี่หรอก เสียงพระท่านเอ่ยเบาเพราะรู้ในสิ่งที่เจ้าตัวกำลังคิด ภูสิตากำลังปกป้องคนรักของเธอ หญิงสาวมองหน้าท่านแล้วก้มลงกราบท่านแทนคำพูดใด ๆ
ใครบางคนกำลังอมยิ้มอยู่ไม่ไกล ภูสิตาสวยมากและยังฉลาดเป็นที่สุด และดีที่สุดก็คือ หล่อนรักเขา
ตาลพึ่งรู้ว่าน้านิดาเชื่อเรื่องแบบนี้ ภูสิตาพูดเมื่อขับรถออกมานอกวัดแล้ว
เชื่อค่ะ น้าเชื่อว่าทุกคนมีเวรกรรม แต่จะมากจะน้อยก็อยู่ที่เคยทำอะไรไว้ ช่วงนี้ดวงน้องตาลไม่ค่อยดี น้าเป็นห่วงก็เลยอยากพามา อย่าโกรธเลยนะ
ไม่หรอกค่ะ รู้สึกขอบคุณมากกว่า ตาลได้ทำบุญแล้วก็คงโชคดีขึ้น พอสิ้นเสียงก็มีเด็กวิ่งผ่านหน้ารถยนต์ของภูสิตา ทำให้เธอต้องเหยียบเบรกกะทันหัน
ตายแล้ว ! ออกไปดูซิลูก เด็กเป็นอะไรหรือเปล่า อยู่ ๆ ก็วิ่งมา
ภูสิตาไม่พูดอะไร แต่รีบวิ่งลงไปดูทันที
เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ อายุประมาณ 7-8 ขวบ นั่งลูบหัวเข่าตัวเองป้อย ๆ เพราะเจ้าตัวหกล้มไปเอง คงเพราะตกใจนั่นเอง เจ็บตรงไหนบ้างคะน้อง ? ไปหาหมอกันนะคะ เธอเข้าไปจับตามเนื้อตัวของเด็กหญิงเคราะห์ร้ายด้วยความเป็นห่วง
ไม่เป็นไรค่ะ แค่เข่าแตก หนูไม่ทันเห็นรถ ขอโทษจ้ะ
พี่ผิดเอง ไม่เป็นไร บ้านอยู่ไหนคะ ? เดี๋ยวไปส่งนะ ขึ้นรถค่ะ หญิงสาวจับตัวเด็กหญิงให้ลุกขึ้น
อยู่ในวัดจ้ะ หนูเดินกลับไปเองก็ได้ เดี๋ยวแม่ตีหาว่าซน
ภูสิตายิ้มให้ ก่อนจะขับรถกลับไปทางเดิม เพื่อพาเด็กหญิงไปส่งที่วัด
พอไปถึงก็ให้คุณนิดารออยู่ในรถ ภูสิตาคิดว่าเรื่องอย่างนี้ ควรจัดการเองจะดีกว่า เด็กหญิงพาภูสิตาเดินไปที่โรงทานของวัด ที่จัดเป็นครัวไทยอยู่ในนั้น จานชามถูกล้างเก็บทำความสะอาดไว้เป็นอย่างดี พอไปถึงก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนกระต่ายขูดมะพร้าว เนื้อมะพร้าวขาวบริสุทธิ์ค่อย ๆ ร่วงลงมาใส่ถาดสังกะสีลายดอกไม้สีแดง ที่เห็นกันตามวัดทั่ว ๆ ไป แม่ ! พี่เขามาส่ง เด็กหญิงร้องบอกมารดา พอมารดาเงยหน้าขึ้นมา ภูสิตาก็จำได้ทันที อำภาจำเราได้ไหม ? ภูสิตาไง ! เธอพูดอย่างดีใจ อำภาที่ดูทรุดโทรมลงไปเพราะทำงานหนักและมีบุตรแล้ว มองมาที่เธออย่างดีใจไม่แพ้กัน
ตาล ! ดีใจจังเลย ไปยังไงมายังไงเนี่ย ? แล้วลูกเราไปทำอะไรให้ตัว ทำไมมาด้วยกันล่ะ ? ดื้อด้านจริง ๆ แกนี่ อำภารามือจากงานทันที แล้วยกมือขึ้นจะตีที่แขนบุตรสาวด้วยความโกรธ มานี่ซิ ! แกต้องโดนมือแม่ ถึงจะหายดื้อด้านใช่ไหม ?
ภูสิตาดึงตัวลูกสาวของอำภาออกให้ห่างมือมารดาทันที เราขับรถเฉี่ยวเขา ขอโทษด้วยนะอำภา เขาไม่ได้ดื้ออะไรด้วย อย่าว่าลูก ไม่เอาไม่ตีนะภา
หนูไม่เห็นรถเองจ้ะแม่ พี่เขาไม่ผิด
เรียกแม่สิลูก แม่ตาล น้ำเสียงอำภาอ่อนลง
ภูสิตายิ้มให้อย่างโล่งใจ มีลูกแล้ว เป็นอยู่ยังไงบ้าง ? มาทำอะไรที่นี่ ?
หญิงสาวถามพลางนั่งลงที่แคร่ไม้อย่างไม่ได้ระวังว่าจะสกปรกแต่อย่างใด ทำให้อำภาเห็นแล้วดีใจนัก ภูสิตายังเป็นคนใจดีเหมือนเดิม ไม่ได้ถือตัวอะไรเลย
ก็อย่างที่เห็นนี่แหละจ้ะ มีลูกโตขนาดนี้แล้ว แต่พ่อมันไม่เอา ทิ้งไปตั้งแต่เราท้อง เราผิดเอง ริจะมีผัวตั้งแต่ยังเด็ก เขามีคนอื่นอยู่แล้ว แต่เราไม่รู้ รบรากันอยู่พักใหญ่ เราเองก็เห็นใจทางโน้น ก็เลยตัดใจ
แล้วมาอยู่ที่นี่เหรอจ๊ะ ?
ไม่มีที่ไปน่ะ น้องนุ่งก็โต ๆ กันหมดแล้ว จะไปพึ่งพาอาศัยเขาก็ไม่ได้ พอท้องก็ขอมาอยู่ที่วัด ก็อย่างที่ตาลรู้ เราได้เรียนแค่ ป. 6 จะเอาปัญญาไปทำอะไร แล้วยิ่งท้อง อายคนก็อายที่ลูกไม่มีพ่อ ก็เลยขอหลวงพ่อ มาช่วยทำงานในโรงทานหลายปีดีดัก ได้ค่าแรงบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ อยู่กับแม่ชี
ภูสิตามองเห็นสภาพความเป็นอยู่ในครัวนี้แล้วก็เศร้าใจนัก แสงแดดและฝุ่นคงผ่านเข้ามาได้ง่าย ๆ และเพื่อนของเธอต้องอยู่ที่นี่มาเสียหลายปี
ตายแล้ว ! หม้อข้าวเดือดจะดับไฟในเตาหมดแล้ว พอพูดจบอำภาก็กระโดดลงจากแคร่ไม้ที่นั่งกันอยู่ แต่ภูสิตาคิดว่าตัวเองอยู่ใกล้หม้อข้าวมากกว่าจึงอาสา
ไม่ต้อง ๆ เดี๋ยวยกออกให้จ้ะ แล้วเธอลุกขึ้นไปยกหม้อข้าวออกมาจากเตา ด้วยผ้าเช็ดมือที่วางอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น หากแต่พอจับที่หูหม้อ มันก็ลื่นหลุดมือทันที
ตาล ๆ เจ็บไหม ? ลวกตรงไหนหรือเปล่า ไหนดูซิ ?
หม้อข้าวที่ร่วงลงไปที่พื้น ทำให้ข้าวร้อน ๆ กระฉอกออกมาราดเป็นกอง น้ำข้าวที่ต้องเทออกเพื่อให้ข้าวสุกได้เต็มที่ ราดนองพื้น มือไม่เป็นไร แต่ขา... ภูสิตาลูบที่หน้าแข้งของตัวเองป้อย ๆ น้ำข้าวกระฉอกโดนเธอเต็มที่ ร้อนเหมือนไฟ แสบที่สุด
แม่ ๆ นี่ผ้าทาน้ำมัน ลูกสาวของอำภาหยิบเศษผ้านั้นขึ้นมาดู เป็นผ้าที่เอาไว้จุ่มน้ำมันเพื่อใช้ทาใบตองทำขนมนั่นเอง
พี่ผิดเอง อ้อ ! แม่ผิดเองลูก ไม่ทันดู
ไปเด็ดว่านมาลูก เร็วเข้า ! เด็กหญิงวิ่งไปเด็ดว่านหางจระเข้มาให้ 2-3 ใบ เพราะรู้จักมันเป็นอย่างดี พออำภาทำความสะอาดแผลที่โดนลวกด้วยน้ำสะอาดเสร็จแล้ว ก็บีบเอาเมือกใส ๆ ทาที่แผลทันที เย็น ๆ นะ ไม่เจ็บหรอก ไปเก็บมาอีกลูก ให้แม่ตาลเอากลับไปทาที่บ้านด้วย
ไม่ต้องนะจ๊ะ ที่บ้านมี ขอบใจมาก
พอทำแผลเสร็จด้วยฝีมือแม่หมออำภา ภูสิตาก็พูดคุยต่ออยู่อีกไม่นานนัก ก่อนจากกันหญิงสาวควักเงินในกระเป๋ากางเกงให้เพื่อนไป 3 พันบาท ยัดใส่มือแล้วรีบขอตัว ไว้ใช้นะอำภา วันหลังจะแวะมาหา อย่าคิดมาก เราเป็นเพื่อนกัน รับไปนะ
ไม่เอาหรอกตาล อยู่ที่นี่ก็พอกินพอใช้ ไม่เอา
ตัวไม่ใช้ แต่ลูกต้องเรียน เอาไปไม่ต้องพูดอะไรอีก ดูแลตัวเองดี ๆ นะ พอพูดจบภูสิตาก็เดินกะเผลกกลับไปขึ้นรถ พอคุณนิดาทราบก็บ่นไม่หยุด ท่านหัวเสียในเคราะห์กรรมที่ลูกเลี้ยงต้องประสบ ดูเอาเถิดไม่ขับรถชนเด็ก ก็ไปทำหม้อข้าวร้อน ๆ หลุดมือกระเด็นโดนใส่ตัวเองจนได้ จึงขอขับรถแทนลูกเลี้ยงด้วยความเป็นห่วง
Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2564 |
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2564 21:14:08 น. |
|
0 comments
|
Counter : 244 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]

|
คนเขียน..เป็นคนธรรมดา เราเขียนทุกอย่างเพราะอยากเขียนเท่านั้นเอง เป็นงานอดิเรก...ไม่ใช่มืออาชีพ ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|