Cause it's a bittersweet symphony, this life
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

ไม่ว่าอะไรก็ตาม

ไม่ว่าอะไรก็ตาม


ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาบอกเรา
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาทำ
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาสอนเรา
สิ่งที่เราเชื่อต่างหาก ที่เป็นความจริง


ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาใช้เรียกเรา
ไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างไรก็ตาม
ไม่ว่าเขาจะพาเราไปทางใดก็ตาม
เราจะหาทางกลับของเราเจอได้เอง

ฉันไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ฉันเชื่อ
ฉันไม่สามารถเป็นในสิ่งที่ฉันไม่ใช่
ฉันรู้ ว่าฉันจะรักตลอดไป
ฉันรู้...ไม่ว่าอะไรก็ตาม

หากน้ำตาสามารถเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะได้
หากกลางคืนสามารเปลี่ยนเป็นกลางวันได้
หากคำอธิษฐานของเราได้รับคำตอบ
เมื่อนั้นเราคงได้ยินเสียงของพระเจ้า


และฉันจะรักษาให้เธอปลอดภัยและแข็งแกร่ง
เป็นที่พักพิงจากพายุ
ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ที่ไร้ค่า
ความฝันก็สามารถเกิดขึ้นได้

ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาบอกเธอ
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาทำ
ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เขาสอนเธอ
สิ่งที่เธอเชื่อต่างหาก คือความจริง

ไม่ว่าใครก็ตามที่ตามฉันมา
ไม่ว่าทางใดก็ตามที่เขาได้นำไป
ไม่ว่าเขาจะตัดสินเราอย่างไรก็ตาม
ฉันจะเป็นทุกๆคนที่เธอต้องการ

แม้ว่าดวงอาทิตย์จะไม่ส่องแสง
หรือแม้ว่าท้องฟ้าจะมืดหม่น
ไม่ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไรก็ตาม
แต่ชีวิตฉันได้เริ่มต้น...กับเธอ

ฉันไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่ฉันเชื่อ
ฉันไม่สามารถเป็นในสิ่งที่ไม่ใช่
ฉันรู้ว่ารักนี้จะคงอยู่ตลอดไป
และนั่นคือทั้งหมดที่สำคัญในตอนนี้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม







...............
ไม่แปลจะดีกว่านะ
พอดีวันนี้อยู่ๆก็มาซาบซึ้งกับเนื้อหาเพลงนี้เอามากๆ
คือเป็นเพลงที่ซาบซึ้งกับเนื้อหาทุกครั้งที่ฟังเลยจริงๆ
บวกกับทำนองเพลงที่เราว่ามันซึ้งมากๆ

แล้วเราว่าเพลงนี้เป็นเพลงสากลที่ฟังออกง่ายมากเลย
เลยอยากจะลองแปลดู
พอลองพิม
นึกถึงตอนแปลเคส
เทอมนี้มีวิชานึง จารย์ให้แปลเคสเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
รวมๆกัน เป็นร้อยหน้า ก็ช่วยๆกันแปลกันหลายคน

ด้วยความที่แปลประโยคต่อประโยคเลย
แล้วมันมีปัญหาที่เกิดขึ้นกับทุกคนเลย
ก็คือ เรียบเรียงให้เป็นถาษาไทยไม่ได้ ทั้งที่เข้าใจหมดทุกคำ
คือ อย่างเราเอง เราต้องเปิด dict ทุกคำเลย แม้แต่คำง่ายๆ
เช่น rate เงี้ย คือมันต้องหาคำที่เหมาะกับนำไปใช้ในบริบทนั้นๆ
ซึ่งพอแปลออกมาแล้วมันแปลกๆมากเลย
ไม่ใช่ว่าแปลผิดแบบอ่านไม่เข้าใจ
ก็คืออ่านประโยคนั้นที่แปล ก็เข้าใจนะ
แต่ภาษาอังกฤษมันสื่อได้เข้าใจ ตรง และชัดเจนกว่ามาก
มีปัญหาเรื่องการเรียบเรียงจริงๆ

อย่างที่แปลเพลงเมื่อกี๊ก็มีหลายประโยค
ยกตัวอย่างเช่น

i know this love's forever
that's all that matters now no matter what
ฟังภาษาอังกฤษแล้วเข้าใจดี แล้วมันก็ซาบซึ้งมากกก
แบบ โห คิดได้ไง
พอแปลมาแล้วเป็น
ฉันรู้ว่ารักนี้จะคงอยู่ตลอดไป
และนั่นคือทั้งหมดที่สำคัญในตอนนี้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม
โห ไม่ซึ้งเท่าเลย
แปลตรงๆออกมาเป็นภาษาไทยเลย มันจะไม่ได้ feel อย่างแรง
ถ้าตัดนู่นเพิ่มนี้ให้ได้ feel มันก็ไม่เหมือนประโยคที่เค้าให้มาแล้วอ่ะ
ต้องเห็นภาษาอังกฤษ(เนื้อเพลง)แล้วจะซาบซึ้งกว่ามาก









ที่พูดมาทั้งหมดคือจะบอกว่าคืนนี้ดื่มด่ำไปกับเพลงนี้มาก
จำได้เลยว่าฟังครั้งแรก ตอนป6
จากเทป sound track หนัง notting hill
เพราะตอนนั้นบ้าเพลง when you say nothing at all ยิ่งกว่าอะไรดี
เป็นเพลงสากลเพลงแรกๆเลยแหละ ที่เราเริ่มชอบและฟังอย่างจริงจัง
ได้ฟังมาจากไหนไม่รู้ ลืม
แล้วจำได้ว่าที่บ้านมีเทป
บ้ามากๆ ตอนนั้น คนรอบตัวจะรู้ดีเลย
ให้แม่ปริ๊นเนื้ออกมาแล้วนั่งฟังทั้งวันทั้งคืน

แล้วในเทปนั้นอ่ะ มันมีเพลงนี้ด้วย
ก็เปิดไปฟังโดยบังเอิญนะ ไม่ได้รู้จักมาก่อนหรอก
แต่ที่กดไปฟังเพราะสนใจ
เพราะเรารู้ว่าวงนี้(เคย)ดังมากๆๆ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเพลงของวงนั้นเลย
ก็เลยอยากรู้ว่าเพลงของเค้าเป็นไง
ก็เรียกว่า ไม่เชิง เป็นเพลงแรกของ boyzone ที่รู้จักหรอก
เพราะเพลงอื่นๆก่อนหน้านั้นก็เคยได้ยินมาบ้าง
เรียกว่าเป็นเพลงแรกที่รู้จักชื่อเพลงของวงนี้ละกัน

พอฟังครั้งแรก โห เพราะมากกกกก
ทำให้ไม่ผิดหวังกับเทปนั้นจริงๆ มีเพลงเพราะๆหลายเพลงมาก
แล้วเราจะพูดกะเพื่อนหลายคนมากๆเลย
ว่าเพลงนี้ มีสองตรง ที่เราชอบวิธีการร้องของเค้ามากเลย
คือคำว่า i ในท่อน i'll be everyone you need
กับคำว่า i ในท่อน i can't deny what i believe ตอนหลังสุด
เฮ้อ อยากจะเล่าเกี่ยวกับรายละเอียดตอนเริ่มรู้จักเพลงต่างๆ
เพราะเราบ้าเพลงมากๆเลยแล้วก็จำได้หมด
แต่ละเพลง ฟังครั้งแรกช่วงไหน บ้าขนาดไหน
ฟังเพลงเพราะๆอย่างนี้กี่ครั้งก็หลุุดเข้าไปในโลกๆนึงทุกครั้งเลย
แบบดื่มด่ำกับเพลงเกินเหตุ

ช่วงหลังๆไม่ค่อยได้ฟังเพลง pop ง่ายๆสไตล์นี้เท่าไหร่
เพราะเริ่มสนใจเพลงยุค 60 70 80 มากขึ้น
ก็จะต่างไปจาก pop ยุค 90 คนละแบบเลย

พอกลับมาฟังอีกที วันนี้
หลังจากไม่ได้ฟังมานานมากกกกกก
ทำให้คิดถึงช่วงเวลานั้นมากๆเลย ช่วงเวลาบ้าเพลงสุดๆ
ยิ่งกว่าตอนนี้
เพลงพวกนั้นทำให้เราดิ่มด่ำได้มากกว่าเพลงเก่าๆนะเราว่า
เพราะมันมีความโรแมนติกมากขึ้น
อย่าง truly madly deeply เงี้ย โรแมนติกมากๆเลย
แค่ทำนองก็โรแมนติกแล้ว มาดูเนื้อก็ยิ่งใช่
พูดอีกก็คิดถึงช่วงมต้นแฮะ
ไปฟังต่อก่อนเดี๋ยวคนหาว่าบ้า




 

Create Date : 14 มกราคม 2552
0 comments
Last Update : 14 มกราคม 2552 2:54:31 น.
Counter : 1404 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


puppypat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Stand by me, nobody knows the way its gonna be
Friends' blogs
[Add puppypat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.