สำหรับหน้านี้ผมขอเขียนเป็นภาษาไทยน่ะครับเพื่อง่ายต่อการเข้าใจและง่ายต่อการเขียน(สำหรับผมเอง) คือผมขออธิบายกรอบของเนื้อหาให้ฟังก่อนน่ะครับ สำหรับข้อมูลที่ผมจะให้ก็เป็นอาไรที่จำเพาะสำหรับการสมัครหลักสูตรปริญญาโทภาคภาษาอังกฤษครับ และข้อมูลที่ผมให้จะเป็นข้อมูลการสมัครของมหาวิทยาลัย Tsinghua University ครับ ระเบียบการสมัครก็อาจแตกต่างไปสำหรับมหาวิทยาลัยอื่นน่ะครับ  เอาว่าเหมือนมาเป็นตัวอย่างให้เทียบเคียงล่ะกันน่ะครับ

        ยังไงผมแนะนำบล๊อกอื่นๆอีกที่ข้อมูลครบถ้วนมากมาก ผมใช้เป็นฐานข้อมูลตอนผมเตรียมตัวสมัครด้วยครับ : เป็นบล๊อกของคุณโบว์ครับ//www.bloggang.com/viewdiary.phpid=beauhlinglings&group=3&month=07-2012&date=04v  และของบล๊อกคุณ φείβλαςφείβλας ： //ikamiso.exteen.com/20111124/entry

  ผมเรียนวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีชีวภาพมาผมคิดว่ามานยังกว้างอยู่ เรยตัดสินใจเรียนปริญญาโทครับ และในช่วงนั้นพี่สาวเรียนภาษาจีนอยู่ที่จีน เค้าก็แนะนำว่าลองมาที่นี่ไหม ผมก็คิดพิจารณาอยู่สักพักผมก็เกิดความคิดว่าอืมเกิดมาเป็นลูกหลานคนจีนทั้งที แต่ผมก็พูดภาษาจีนไม่ได้น่ะครับ ไปเอาความเป็นจีนใส่ตัวบ้างก็ดี

       หลังจากที่ผมคิดได้แล้วผมก็เข้าไปลองดูหลักสูตรวิชาที่เปิดสอนในเว็บ www.cucas.edu.cn ในนั้นก็จะมีบอกรายละเอียดหลักสูตรทั้งแบบสอนด้วยภาษาจีนและภาษษอังกฤษ ข้อกำหนด และค่าใช้จ่ายให้หมดเรยครับ ซึ่งผมก็สนใจหลักสูตร International Master Degree in Environmental Engineering and Management, Tsinghua university ครับ

      สำหรับผู้ที่สนใจทุนรัฐบาลจีน ก็ควรไปติดตามเว็บไซต์มหาวิทยาลัยต่างๆหรือเว็บทางการศึกษาต่างๆ เพราะการสมัครทุนรัฐบาลจีนการติดต่อเอกสาร การส่งเอกสารจะดำเนินการผ่านทางมหาวิทยาลัยโดยตรงที่เราสมัครอย่างเดียวเรย ไม่มีการเกี่ยวข้องกับทางสถานฑูตเรยครับ   

      สำหรับรายละเอียดเอกสารสำหรับการสมัครก็จะประมาณนี้ครับ

เอกสาร ：ใบสมัครที่ได้จากการสมัครออนไลน์พร้อมติดรูป, ใบทรานสคริปต์ผลการเรียนระดับปริญญาตรีและสำเนาใบจบ (ภาษาอังกฤษ), ผลการทดสอบภาษาอังกฤษอาจเป็น Toefl / IELTS ก็ได้ครับ(เฉพาะสำหรับผู้สมัครหลักสูตรการสอนเป็นภาษาอังกฤษ), ใบ recommendation letter จากอาจารย์ ตำแน่งระดับรองศาสตราจารย์ขึ้นไปสองท่าน, Personal information, ใบสมัครทุนการศึกษา( แต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีระเบียบแตกต่างกันน่ะครับ บางที่ก็จะให้ไปกรอกใบสมัครกับเว็บ CSC ในกรณีที่สำหรับทุนรัฐบาลจีน แต่สำหรับของที่มหาลัยชิงหัวเค้าก็จะให้ใบนี้มาให้เรากรอกว่าจะสมัครอะไรบ้าง ทุนของเขต ทุนของเมือง ทุนรัฐบาล), statement of purpose

เอกสารเพิ่มเติม：เนื่องจากผมไปเช็คดูและพบว่าการสมัครทุนรัฐบาลจีนต้องมีการส่งเอกสารเพิ่มเติมด้วยอาทิเช่น Research plan, ใบตรวจสุขภาพ ( แต่ของมหาลัยชิงหัวจะบอกไว้ว่ายังไม่ต้องส่งมาเพราะอาจไม่ต้องใช้ บางคนอาจยื่นขอทุนรัฐบาลจีนไปแต่อาจไม่ได้การเสนอชื่อ แต่ถ้าได้รับการเสนอชื่อ ทางมหาลัยก็จะมาแจ้งเราให้ไปตรวจสุขภาพครับ)

ช่วงเวลา ：ของแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะต่างกันออกไปครับ แต่ผมคิดว่าบางมหาวิทยาลัยก็จะเปิดรับสมัครเร็วมากและก็หมดเขตเร็วมาก อย่างเช่นของ Tsinghua university ช่วงเวลาคือประมาณ เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ครับ

ในส่วนตอนไปน่ะครับจะพูดถึงส่วนของขั้นตอนการสมัคร

ขั้นแรก ผมคิดว่าน่าจะเป็นเหมือนกันหลายๆมหาลัยน่ะครับ นั่นก็คือการไปกรอกใบสมัครออนไลน์ในช่วงที่ทางมหาลัยเปิดรับสมัครครับซึ่งหลังจากกรอกเสร็จ ก็ต้องรอให้ทางมหาลัยคอนเฟริม์หลังจากนั้นก็ไปเตรียมเอกสารอย่างอื่นให้เรียบร้อยเพื่อส่งเอกสารทั้งหมดไปที่คณะครับ ขอย้ำว่าเช็คเอกสารดีดีน่ะครับว่าครบเรียบร้อยไหม การเรียงเอกสารเรียบร้อยดีไหม

ขั้นสอง รอเช็คการส่งเอกสารว่าถึงที่คณะรึเปล่า ตอนของผมใช้บริการของ Fedex ครับประมาณสามสี่วันก็จะขึ้นในสเตตัสว่าทางคณะได้รับเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนั้นทางคณะก็ไม่ได้ตอบกลับมาบอกทันที ผมรอไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ผมก็ส่งเมลล์ไปถามทางคณะว่าได้รับจดหมายรึยัง เค้าก็บอกมาว่าได้รับเรียบร้อยแล้วให้รอกระบวนการพิจารณา

ขั้นสาม เราก็ต้องคอยเช็คในระบบออนไลน์ที่เราสมัครไปน่ะครับว่าเค้าอัพเดตสเตตัสอะไรไหม

ขั้นสี่ เป็นช่วงการรอแล้วครับ รอผลการรับเข้าเรียนและรอผลการสมัครทุนรัฐบาล ：ซึ่งตอนของผมน่ะครับ หมดเขตสมัครตอนปลายกุมภาพันธ์ซึ่งวันที่

11/03/2013 - ทางบัณฑิตวิทยาลัยก็ส่งเมลล์มาบอกว่าทามหาลัยได้เสนอชื่อผมสำหรับการคัดเลือกรับทุนรัฐบาลจีนครับ ซึ่งเค้าให้ผมไปตรวจสุขภาพเพื่อประกอบเป็นเอกสารการสมัคร (ซึ่งตอนนั้นเหมือนจะมีปัญหาเพราะเค้าเพิ่งทราบว่าผมมาเรียนภาษาจีนที่ปักกิ่งอยู่ครับ เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าอาจมีผลกระทบต่อเงื่อนไขการรับทุน แต่สุดท้ายเค้าก็โอเคให้ไปตรวจโรงพยาบาลในปักกิ่งครับ)ซึ่งจากที่ผมถามทางบัณฑิตวิทยาลัยเค้าก็บอกว่า ทางคณะรับเรียบร้อยแล้วครับ แต่ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร ณ ตอนนั้นเพราะทางคณะไม่ได้บอกเอง

9/04/2013 - ทางคณะก็ส่งเมลล์มาบอกว่ารับเข้าเป็นนักศึกษาปริญญาโทเรียบร้อยแล้วให้รอรับเอกสารทางการที่จะออก เดือนมิถุนายน

5/06/2013 - ทางบัณฑิตวิทยาลัยก็ส่งมาบอกว่าได้รับทุนการศึกษาเรียบร้อยแล้วให้รอรับเอกสารทางการที่จะออกเดือนมิถุนายน

ขั้นห้า คือไปรับเอกสารทางการจากทางบัณฑิตวิทยาลัยครับ ก็จะเป็นเอกสารที่ให้เราเอาไปทำวีซ่า และรายละเอียดเกี่ยวกับการรายงานตัว การเข้าหอ และการใช้ชีวิตในวิทยาเขตมหาวิทยาลัยครับ

ส่วนนี้น่ะครับก็จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารที่ใช้ในการสมัครครับ ผมไม่ได้เขียนหมดทุกเอกสารน่ะครับเขียนเฉพาะอันที่สำคัญน่ะครับ

 อันแรกน่ะครับ ใบrecommendation letter จากอาจารย์ตำแน่งรองศาสตราจารย์ขึ้นไป บางมหาวิทยาลัยอาจไม่เข้มงวดน่ะครับลองเช็คถามดูอีกทีนึงครับ ผมแนะนำว่าให้เลือกขอจากอาจารย์ที่เราทำโปรเจ็คด้วยหรืออาจารย์ที่สนิทครับเพราะท่านจะสามารถให้รายละเอียดตัวเราได้ดีครับ ทั้งนี้จุดสำคัญที่ผมเน้นคือเรื่องเวลาการนัดรับใบครับ อาจารย์บางท่านงานยุ่งมากอาจต้องเผื่อเวลาให้ท่านนานนานครับ และหลังจากที่บอกอาจารย์ไปแล้วก็ไปตามถามท่านบ้างน่ะครับ อาจารย์บางท่านอาจลืมครับ ผมแนะนำว่าให้เตรียมใบข้อมูลตัวเราซึ่งอาจเป็นใบ CV พร้อมกับใบข้อมูลของคณะที่เราสมัครไว้ให้อาจารย์ครับเพื่อที่ท่านจะได้ใช้ประกอบการเขียนครับ

อันสอง ใบ personal statement ความเข้าใจของผมคือให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวของเราเองครับ ผมเลยทำเป็นใบ CV ไปเรยครับ พยายามใส่ไปให้หมดเรยน่ะครับ รางวัล โครงงาน การฝึกงานต่างๆ แต่บางคนอาจรวมใบนี้เข้าไปอยู่ในใบ statement of purpose ไปเรยก็ได้ครับโดยเป็นการย่อประวัติส่วนตัวไปใส่เอาไว้ แต่ความคิดผมผมว่าแยกใบออกมาเรยดีกว่าครับเพราะว่าเป็นการแจงรายละเอียดที่ดีและก็เราไม่ต้องกังวลว่าถ้านำไปรวมกันแล้วรายละเอียดจะยาวมากครับ

อันสาม ใบ statement of purpose ครับ เป็นใบที่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุผลว่าทำใมเราถึงสมัครเรียนที่คณะนี้ครับและสำหรับการสมัครทุน ในใบนี้เราก็สามารถใส่ไปได้ว่าทำใมเราถึงเหมาะสมกับการได้รับทุนการศึกษาครับ ผมแนะนำให้เริ่มร่างเหตุผลต่างๆออกมาให้ชัดก่อนครับแล้วค่อยมาร่างรูปแบบครับ

ตัวอย่างของผมน่ะครับ เริ่มแรกผมเริ่มด้วยการเล่าประวัติเล็กน้อยเพื่อที่จะให้ทางคนอ่านเข้าใจว่าตัวผมมีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ดี จากนั้นผมก็ยกเหตุการณ์ที่นำพาให้ผมตัดสินใจเรียนปริญญาโทด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งก็เป็นการแทรกเหตุผลต่างๆด้วยน่ะครับ หลังจากนั้นก็ลงท้ายด้วยการบอกเหตุผลว่าทำใมผมถึงเหมาะแก่การได้รับทุนการศึกษาครับ

เอกสารสี่ research plan ครับเป็นเอกสารที่จำเป็นต่อการสมัครทุนรัฐบาลจีนครับ แต่ผมไม่แน่ใจน่ะครับว่าสำหรับการสมัคร ทุนเขต ทุนของมหาวิทยาลัยจำเป็นหรือไม่ แต่แนะนำว่าทำไปไว้ก่อนดีกว่าครับ เอกสารอันนี้ ความคิดผมว่ายากสุดแระครับ วิธีที่ผมทำน่ะครับเป็นตามนี้

   ขั้นแรก ผมไปหาก่อนครับว่าอาจารย์ที่คณะนั้นท่านทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องอะไรบ้างครับ หาอันที่ผมสนใจออกมาครับ เราก็จะได้ออกมาเป็นหัวจ้อกว้างๆ

   ขั้นสอง จากนั้นเราก็มาอ่านข้อมูลในฐานข้อมูลวิจัยต่างๆเยอะๆครับ เพื่อหาหัวข้อที่ละเอียดลงไปอีกครับ พยายามให้เป็นหัวข้อที่แปลกใหม่แล้วก็มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทยครับ

   ขั้นสามเริ่มร่างเนื้อหาได้เลยครับ องค์ประกอบก็จะมี

Background = ที่มาและความสำคัญ, Aims = จุดประสงค์โครงงาน , Advantages = ประโยชน์ที่ได้รับ, Scope of the research = ขอบเขตของเนื้อหาโครงงาน , Methodology = วิธีการ , Summary = สรุปโครงการ

สำหรับรายละเอียดชัดเจนว่าแต่ละเอกสารจะจัดหน้ายังไง รูปแบบเป็นแบบไหน และจะเรียงยังไงนั้นแนะนำให้เข้าไปโหลดไฟล์บทความของคุณ tomimoto //www.thaichinese.net/tcforum/frame.php?frameon=yes&referer=http%3A//www.thaichinese.net/tcforum/viewthread.php%3Ftid%3D785

ปล * ผมคิดว่ารายละเอียดไม่ต้องแน่นมากก็ได้น่ะครับขอให้แค่อ่านแล้วเข้าใจโดยรวมก็พอครับ เพราะเค้ามีการกำหนดความยาวว่าไม่เกินสองหน้ากระดาษครับ