....ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน......
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
27 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

การสร้างบ้านแบบจ้างบริษัทสร้าง




ข้อดี และ ข้อด้อย

ในการว่าจ้าง บริษัท รับสร้างบ้าน โดยทั่วไป

ข้อดี

1. ในภาพรวมแล้วบริษัทรับสร้างบ้าน มีความน่าเชื่อถือกว่าผู้รับเหมา

2. มีบริษัทรับสร้างบ้านที่มีชื่อเสียง ให้เลือกหลายบริษัทฯ

3. มีแบบบ้านมาตรฐานให้เลือกมากมาย

4. หากไม่พอใจแบบบ้านมาตรฐาน มีหลายบริษัทฯ ที่มีการออกแบบบ้านให้ใหม่ โดยบางบริษัทฯไม่คิดเงินค่าใช้จ่ายในการออกแบบ หากว่าเจ้าของบ้านไม่พอใจ หรือตกลงราคากันไม่ได้

5. เจ้าของบ้านสามารถที่จะรู้ ขนาดบ้าน รูปร่างหน้าตาบ้าน รวมทั้งเห็นแบบบ้านนั้นๆ ที่สร้างไปแล้วจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร (ในกรณีที่เลือก แบบบ้านมาตรฐาน)

6. เจ้าของบ้านสามารถที่จะรู้ราคาค่าก่อสร้าง และ รายการวัสดุก่อสร้าง ได้ทันที (ในกรณีที่เลือก แบบบ้านมาตรฐาน)

7. สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ไม่มีค่อยปัญหาเรื่องงบบานปลาย ถ้าเจ้าของบ้านไม่เปลี่ยนแปลงอะไรในกรณีที่วัสดุขึ้นราคา เจ้าของบ้านก็ไม่ต้องกังวลใจอะไร เพราะตกลงราคากันไว้ชัดเจนแล้ว

8. มีบริการครบวงจร อาทิ ติดต่อหน่วยงานราชการ สถาบันการเงิน มีแบบบ้านให้เลือก และ ทำการก่อสร้างให้ มีสถาปนิก และ วิศวกร ครบ
มีสถาปนิก วิศวกร โฟร์แมน ฝ่ายบริการลูกค้า ไว้คอยบริการเจ้าของบ้าน ในขณะที่ ผู้รับเหมาส่วนใหญ่ไม่มี

9. สร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกเหมือนว่าจ้างผู้รับเหมา เขามีสต็อควัสดุที่ใช้ก่อสร้างและเครื่องมือก่อสร้างต่างๆครบ

10. มีผลงานก่อสร้างให้ดู หลายหลัง ทั้งหลายชื่อผู้ว่าจ้าง สถานที่ตั้งให้เราไปดูผลงานได้ทั้งของจริงและรูปภาพ

11. ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการทิ้งงาน

12. มีการรับประกันการก่อสร้าง หากบ้านที่สร้างมีปัญหา สามารถที่จะเคลม กับบริษัทรับสร้างบ้านได้แต่ก็ต้อง จี้ตามกันหน่อยเ รื่องงานแก้ เพราะไม่ได้เงิน ล่าช้า แต่ก็แก้ไขให้ (เฉพาะบางบริษัทเท่านั้น ไม่ได้กล่าวรวม บริษัทที่ดีๆเขาก็มี ) แต่ก็มีปัญหาให้ได้ยินกันบ่อยทั้งทางโครงการบ้านจัดสรรหลายแห่งทั้งในก.ท.ม และต่างจ.ว และบริษัทรับสร้างบ้านที่ ดังๆก็เคยมี ให้ได้ยิน แล้วข่าวก็เงียบ เลยไม่รู้ว่าแก้ไขอย่างไรกันบ้าง ลองเปิดหาดูในเน็ตแต่ ที่บริษัทที่ใส่ใจดีๆเขาก็มีเยอะ แต่ราคาที่สร้างก็อาจจะสูงตามไปด้วย มีผู้คุมงาน ทั้ง วิศวกรโยธา หรือมีโฟร์แมน คอยเฝ้างานอีกที รวมทั้งเครื่องไม้-เครื่องมือที่ทันสมัย ความปลอดภัยของหน้างาน งานจึงมีคุณภาพ แต่นั่นก็รวมถึงรายจ่ายตามขึ้นมาอีกบ้างตามสมควร แต่เชื่อมั่นกับงานได้เลยการันตรีคุณภาพเ พราะมาดูแลสั่งงานเอง ****************ต่างจากผู้รับเหมา เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ให้เงินหมดแล้ว ไม่รู้จะไปตามตัวที่ไหน ......................ปุ๋ยกะแมงปอ.....ขอเสริมแนะนำ....เรื่องนี้....หากใช้วิธีนี้แบบเรา..เราควรจะรู้ทันไว้นิด.. ( หากบ้านเกิด ปัญหาจากผู้รับเหมา เราขอแนะนำ วิธีแก้ คือเราต้องทำสัญญากันอีก 1 ฉบับว่าจะต้องเหลือเงิน จากค่าว่าจ้างทั้งหมด แล้วหักออก 10 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ทำหนังสือสัญญาแต่แรก ว่าค่าว่าจ้างทั้งหมดเท่าไหร่ หักไว้เลย 1 ปี หรือ 6 เดือน ก็แล้วแต่ตามที่เราจะตกลงกันได้ให้อยูได้ทั้ง2 ฝ่าย ถ้าเกิดมีปัญหาภายหลัง เขาก็จะได้แก้ไข ปัญหาให้เสร็จ เป็นค่าค้ำประกัน เมื่อครบกำหนด เราก็ให้เขา ถ้าไม่เกิดปัญหาอะไรมันก็น่าจะสบายใจ มันขึ้นอยู่ที่เราต่อรองเขา เท่านั้นเอง เงินก็ของเราถ้าเขาอยากได้ มันก็น่าจะมีกฎระเบียบกันหน่อย เพื่อความสบายใจของทั้ง2ฝ่ายฝ่ายเรา จะเสียเปรียบมากกว่า เพราะอย่างน้อยๆ ให้ผ่านหน้าฝนซักครั้งเพราะปัญหาบ้านส่วนใหญ่จะเกิดหน้าฝนเยอะ เช่น น้ำซึมจากหลังคา ฝ้าโดนน้ำเสียหาย ระบบท่อน้ำต่าง ตันบ้าง ห้องน้ำมีกลิ่นย้อนบ้าง หน้างต่างมีน้ำซึมเข้ามาได้บ้าง อ่างอาบน้ำรั่วบ้าง จิปาถะ แต่ถ้าให้ถึงโครงสร้าง ก็ต้องนานหน่อย 1 ปี ถึงจะเริ่มเห็น พวกรอยร้าว ถ้าทำไม่ได้ ก็หาช่างคนอื่น ดังที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ได้เอาเปรียบพวกเขาเลย แต่กันตัวเองออกจากการถูกคนอื่นเอาเปรียบ เท่านั้นเอง ).......ปุ๋ยกะแมงปอ****************

13. ในกรณีที่วัสดุขึ้นราคา เจ้าของบ้านก็ไม่ต้องกังวลใจอะไร เพราะตกลงราคากันไว้ชัดเจนแล้ว

ข้อด้อย


1. ราคาค่าก่อสร้าง สูงกว่าผู้รับเหมา 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นอย่างต่ำๆเท่านั้นเอง เพราะจริงๆแล้วสูงกว่าช่างรับเหมาทั่วไปค่อนข้างเยอะ

2. บริษัทรับสร้างบ้านได้เปรียบเจ้าของบ้าน ในขั้นตอนทำสัญญา กล่าวคือ บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่ จะเซ็นต์สัญญากับลูกค้า โดยเอกสารสำหรับเซ็นต์สัญญา จะมีแค่ตัวสัญญา มีแบบบ้าน (แบบพรีรีม) และมี รายการวัสดุ โดยไม่มีพิมพ์เขียวหรือแบบก่อสร้าง และยังไม่มีรายการประกอบแบบก่อสร้างในขั้นตอนการทำสัญญา มีแค่หน้าตาแบบบ้าน ผังหรือแปลนในบ้าน พ.ท.ใช้สอย ต่างๆ ช่วงนี้เขาก็อาจจะมีบริการเสริม เพื่อจูงใจ เช่น เพิ่มแต่งบ้านให้บ้าง เช่นแต่งด้วยหินทราย ที่เสาหน้าบ้านบ้าง ทำโน่น ทำนี่ จิปาถะเพื่อเป็นข้อเสนอ ให้เรา ทั้งที่จ่ายเงินเท่าเดิมแต่ดูเหมือนจะทำให้เพิ่มอีกหลายอย่าง

3. เมื่อ ยังไม่มีพิมพ์เขียว , ยังไม่มีรายการประกอบแบบก่อสร้าง มีแต่รายการวัสดุก่อสร้างที่เขียนไว้ไม่ชัดเจน คุณภาพของบ้านในส่วนที่สามารถระบุได้ในเอกสาร 3 ชิ้นข้างต้น จึงยังไม่ได้ถูกกำหนดอย่างแท้จริง

4. แต่ขั้นตอนของการทำสัญญา เจ้าของบ้านต้องจ่ายเงิน ประมาณ 10-15% ของราคาบ้าน จึงจะได้รับแบบก่อสร้าง ภายหลังจากเซ็นต์สัญญา ตรงนี้แหละ ที่ผมพูดว่าบริษัทรับสร้างบ้าน ได้เปรียบเจ้าของบ้าน เพราะมีโอกาสที่จะลดต้นทุน เพื่อทำกำไรให้มากขึ้นได้ ถ้าบริษัทรับสร้างบ้านรายนั้น นิสัยไม่ดี *** ***(ต้องเรียนว่าแบบก่อสร้างนั้น เป็นตัวหนึ่งที่กำหนดคุณภาพของบ้าน ซึ่งช่างก่อสร้างจะต้อง สร้างบ้านให้ได้คุณภาพตามที่กำหนดไว้ในแบบ ต้นทุนค่าก่อสร้าง จะมากหรือน้อยลง ในขั้นตอน ของการทำแบบ ก่อสร้างสามารถกำหนดได้ครับเพราะเขาเขียนแบบให้เราเอง เราไม่ทันก็เหมือนดูดี ไม่ต้องเสียค่าเขียนแบบให้เลยฟรี จริงๆแล้วนั่นแหละคือขั้นตอนหมกเม็ดขั้นแรก และสำคัญมากด้วย )*******

5. บริษัทรับสร้างบ้าน บางแห่ง เมื่อรับงานจาก เจ้าของบ้านมาแล้ว
ไปจ้างเหมาช่วง กับผู้รับเหมา อีกทอดหนึ่ง ซึ่งผู้รับเหมาช่วงก็ต้องการกำไร เช่นกัน สมมุติว่า ถ้าคุณจ้าบริษัทรับสร้างบ้าน ราคา 100 บาท บริษัทรับสร้างบ้านไปจ้างผู้รับเหมา ราคา 80 บาท ผู้รับเหมาเมื่อรับงานก็ต้องมีกำไรของ ตัวเองอีกทอดหนึ่ง (ประมาณ 10% ) เท่ากับว่าเจ้าของบ้านต้องจ่ายเงินในส่วนที่เป็นกำไร สองต่อนั่นเอง แล้ววิธีไหนละที่จะทำให้เขาได้กำไรเพิ่มขึ้น ลดต้นทุนสร้างบ้านให้เรางัยเป็นวิธีเดียว แต่เราจ่ายแพงเท่าเดิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย แต่โดนเขารังแกโดยที่เราไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลย ถ้าเขาทำเนียนก็รอดไป ถ้าเขาทำไม่เนียนเราเห็นชัดเขาก็แก้ไขให้ แบบขอไปที เวลาผ่านไปไม่นานแล้วปัญหาก็จะตามมาภายหลังอีกครั้ง มันจะฟ้องแล้วว่างานที่ทำไม่ได้คุณภาพ

6. ความทั่วถึงในการควบคุมงาน ในกรณีบริษัทฯ รับสร้างบ้านมีงานมาก การดูแลอย่างใกล้ชิดหรือเฝ้าหน้างานเลยของผู้คุมงานจะไม่ค่อยอยู่เฝ้าการ มาดูงานความเรียบร้อย ให้ได้ตามที่กำหนด แล้วก็สั่งงาน แล้วก็ไปหลังอื่นต่อยุ่งตลอด ทิ้งไว้แต่คนงานแล้วก็ตามดูเป็นระยะส่วนบริษัทที่รับงานก่อสร้างไม่มากนัก ส่วนใหญ่ มักจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ แต่บางรายงานที่เยอะมาก บางรายมีถึง 30 – 40 หลังเพราะในส่วนใหญ่จะสร้างบ้านแค่บางฤดู เช่น ฤดูร้อนซึ่งผลกระทบความเสียหายจะมีค่อนข้างน้อยกว่าฤดูอื่นๆ ย่อมมีผลกระทบแน่นอนถ้าเราสร้างกับบริษัทที่ มีงานเยอะ ว่ามีความทั่วถึงแค่ไหน เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขามีการเยอะหรือเปล่า เพราะนั่นคือฤดูเก็บเกี่ยวเม็ดเงินของเขาเลยก็ว่าได้

7. ออกแบบบ้านของบริษัทรับสร้างบ้านมีข้อจำกัดมากว่าสถาปนิก ทำให้แบบบ้านที่ออกมาไม่หวือหวา สู้งานที่บริษัทสถาปนิก ออกแบบมาไม่ได้ ผมมีเหตุผลประกอบ ดังนี้ครับ

7.1 แบบบ้านที่ออกแบบโดยบริษัทรับสร้างบ้าน มีข้อจำกัดที่ต้องระวังไม่ให้ราคาต่อตารางเมตรสูงเกินไป เพราะลูกค้าในขั้นตอน นี้ยังไม่ได้เลือกบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ทำให้ต้องตัดทอน ลูกเล่นต่างๆ ของบ้านออกไป เพราะว่าลูกเล่น เหล่านั้นทำให้บ้านสวยขึ้นก็จริง แต่ก็จะไปทำให้ ราคาต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้เกิดผลกำไรลดลง

7.2 การออกแบบ ที่ทำให้ราคาต่อตารางเมตร ไม่สูงกว่าคนอื่น อีกวิธีหนึ่งก็คือ การกำหนดระยะห่าง ระหว่างเสา ไม่ให้ห่างกันเกิน 4.5 เมตร เพราะถ้าห่างเกิน 4.5 เมตร ต้นทุน ในการทำโครงสร้าง จะเพิ่มขึ้น เพราะต้องขึ้น และคานจากแค่ธรรมดาต้องเปลี่ยน ใช้คานใหญ่ขึ้นนี่ราคาต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกมากเลย และยังไปมีผลทำให้อย่างอื่นต้องเพิ่มตามไปอีก เช่นต้องเพิ่มขนาดของเสาเข็มให้ใหญ่ขึ้นด้วย และเหล็กก็ต้องเพิ่มขาดตามกันเป็นทอดๆ กำไรก็เลยลดลง ลูกเล่นดังกล่างจึงถูกตัดออก ในขณะที่สถาปนิกที่ออกแบบโดยตรง ไม่มีข้อจำกัดเรื่องดังกล่าวข้างต้น คำนึงถึงความถูกต้อง ความสวยงามของเจ้าของบ้านพอใจ ความเหมาะสมตามความเป็นจริง ( เช่นความสูงของบ้านหรือระยะห่างระหว่างชั้นถ้าทำสูงเช่นแบบบ้านเรา หน้าต่างก็ต้องกว้างขึ้นตามไปด้วยให้เหมาะสมกัน ) และปลอดภัย ไม่มีการเหตุผลใดๆที่จะต้อง ลดแบบให้ประหยัดลดมาตรฐานลงให้ต่ำ นั่นก็ตือความรับผิดชอบต่องานที่ระบุไว้ทุกอย่าง ทั้งชื่อ ใบอนุญาติประกอบการที่มีอยู่ไม่ให้เกิดความเสียหายจากสมาคมที่ให้ใบรับรอง ที่อยู่ ทั้งที่บ้าน และบริษัทที่ทำอยู่ (ถ้าอยู่ในรูปบริษัท) สถาปนิกจึงใส่ใจรายละเอียด ลูกเล่นให้สวยงามได้ไม่มีข้อจำกัด





ขอบคุณเว็บ //www.selectcon.com/lungtom_3.asp ค่ะและขออนุญาติและอธิบายบางส่วนที่สำคัญเพิ่มเติมมา ณ ที่นี้ค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ



จากเจ้าของบ้านถึง..เพื่อนสมาชิกจุดประสงค์เพื่อเป็นข้อมูลเท่านั้น



วิธีที่บ้านเราใช้สร้างบ้าน โดยประมาณเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างบ้าน

1. ศึกษาภูมิอากาศ เพื่อวางแผนบ้าน ด้านไหนร้อน ด้านไหนไม่ร้อน ควรศึกษาจากบ้านที่ลดโลกร้อน หรือบ้านหารสอง มีประโยชน์จริงๆ เขาจะบอกทิศทางลม และการโคจรของดวงอาทิตย์ทั้งปีด้านไหนร้อนมากควรใช้สอยเป็นห้องอะไร ด้านไหนมีลมเกือบทั้งปีควรใช้เป็นห้องอะไร

2. ออกแบบห้องต่างๆกันเอง โดยคร่าวๆ ว่าห้องไหนอยู่ด้านไหน เช่น ด้านที่ร้อนน่าจะทำห้องน้ำให้แดดส่องเป็นการฆ่าเชื้อโรค และทำให้ห้องน้ำไม่ชื้นเป็นเวลานาน

3. ดูรูปร่างหน้าตาบ้าน จากตัวอย่างที่เราชอบ มา1ตัวอย่างพร้อมทั้ง
กำหนดวัสดุที่ใช้สร้างเอง เราสามารถเข้าไปดูข้อดี ข้อด้อย แล้วเราก็กำหนด เช่น เราเลือกใช้อิฐมวลเบา ข้อดีก็มีข้อด้อยก็มี เพราะวัสดุทุกอย่าง มีให้เลือกตามการใข้งานของเรา ราคาตอนนี้ถ้าเทียบกันแล้วก็พอๆกัน หมายถึง ต้องรวมการฉาบและก่อด้วย เพราะเทียบราคาต่อก้อนราคาจะต่างกัน ลองศึกษาดูได้ เช่นก่ออิฐแดงก้อนเล็กปูนก่อก็ต้องใช้เยอะทำให้ใช้ปูนก่อมาก ด้านไหนอยู่ทิศร้อนไม่อยากให้ร้อนต้องก่อเบิ้ล โครงสร้างก็ต้องหนักเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว เหล็กก้ต้องใหญ่ขึ้นรวมไปถึงคานก็ต้องหนาขึ้น ข้อดีการใช้งานแข็งแรงแน่นไม่เป็นโพลงกลวงเหมือนอิฐมวลเบา อยู่ที่เราว่าใช้งานขนาดไหนชอบอย่างไร เท่านั้นเอง

4. ออกแบบรายละเอียดย่อย เพิ่มเติม เช่น ห้องที่มีผนังติดทิศตะวันตกมีแดดทั้งวันถ้ามีหน้าต่างก็หมายถึงรับแดดตลอดถ้าไม่มีหน้าต่าง2ด้านอากาศก็ไม่ถ่ายเท เท่าที่ศึกษามาลมถ้ามีทางเข้า แล้วต้องมีทางออก ถึงมีลมผ่านตลอดอากาศจะถ่ายเทได้ดี เลยออกแบบหน้าต่างทิศนี้ เป็นบานเลื่อนเล็กๆ ข้อดีของหน้าต่างที่อยู่สูงๆ มีเยอะเหมือนกันไม่ต้องมีเหล็กดัด สร้างบ้านจำไว้อย่างมี หน้าต่างมาก กันสาดมาก ก็เป็นทางเข้าของโจรขโมยมาก ตามไปด้วยเช่นกัน หน้าต่างทิศห้องนอนเด็กอยู่สูง ลองเข้าไปดูในห้องนอนเด็กนะค่ะ
และออกแบบที่วางของใส่ของหรือที่เราเรียกว่าเคาน์เตอร์ทั้งในห้องน้ำ ในห้องครัว ที่ล้างจาน ที่วางเตาแก๊ส
หรือก่อที่นั่ง เคาน์เตอร์ลอยใต้หน้าต่าง เราก็จะระบุไปเลย เพราะเราต้องใช้งานอยู่แล้ว
เพื่อประหยัดงบประมาณในการแต่งบ้านทีหลัง เพราะถ้ามีการก่อสร้าง
เพิ่มเติมนอกแบบช่างจะมีการคิดราคาเพิ่มทีหลังได้อีก

5. ระบุรายละเอียดความกว้างห้องห้องต่างๆ หรือ กำหนดพื้นที่ใช้สอยของห้อง การใช้งานมันขึ้นอยู่กับคนในบ้านเท่านั้น เรารู้ว่าต้องการใช้สอยมากน้อยแค่ไหนสถาปนิกจ้างเขาออกแบบบ้านเลยเขาก็ทำได้ ตามที่เขาเรียนจบมา แต่การใช้งานเราน่าจะศึกษากันเอง เช่น ห้องนั่งเล่นเราชอบอยู่ด้วยกันทั้งครอบครัวเช้า-เย็น ก็น่าจะอยู่ทิศเหนือนะเพราะ อากาศดีแทบทั้งปีมีลมตลอด เป็นต้น

6. กำหนดความสูงของตัวบ้าน เพื่อให้ตัวบ้าน ไม่ร้อน โปร่ง ไม่คับแคบเบื่อความอึดอัดเพราะเรารักที่จะอยู่บ้านตลอด เราก็อยากอยู่อย่างมีความสุขตลอดวัน ไม่ต้องหันไปเพิ่งแอร์ หรือเดินห้าง เพราะที่บ้านมันร้อนเลยเบื่อบ้าน เมื่อคิดเช่นนั้นระยะห่างระหวางชั้น จึงสูงจากพื้นชั้นล่าง -พื้นชั้นบนค่อนข้างที่จะโปร่ง เราก็ รู้ว่าทำแล้วมันทำให้เปลืองขึ้นเยอะน๊ะ แต่ถ้าถามว่าคุ้มมั้ย เราว่าเราคุ้มน๊ะ เพราะว่าเราคงสร้างได้แค่ครั้งเดียว เราก็ยอมเพื่อความสุขตลอด พอมามีเงินอีกทีรื้อระบบออกแล้วก็มาแก้ไขใหม่ก็คงไม่ได้แล้วคิดว่าคุ้มเราทำเลย
7. นำแบบโดยคร่าวๆ ไปให้สถาปนิกออกแบบให้ ซึ่งแบบที่ได้เกือบ 50หน้า รายละเอียดเยอะมาก มาตรฐานต้องมาก่อนไม่มีการลด สเปควัสดุ นั่นก็คือย่อมได้สเปคเกรดที่ดีเท่านั้นเขาจะออกแบบโดยไม่คำนึงถึงราคาอยู่แล้ว เหล็กต้องเป็นเหล็กแบบไหน ขนาดเท่าไร มีสัญญาลักษณ์ อะไร ถึงจะหมายถึงเป็นเหล็กตามแบบควบคุม และมีคุณภาพสูง ปูนโครงสร้างควรใช้ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปูนฉาบเป็นแบบไหน เคยไปดูแบบบ้านที่รับสร้างบ้าน ไม่มีความชัดเจนเลย ในเรื่องของวัสดุ บอกแต่ทั่วๆไปเช่น ใช้อะไรก่อสร้าง พื้นใช้อะไรปู สุขภัณฑ์ยี่ห้ออะไร ประตูหน้าต่างแบบไหน สีของยี่ห้ออะไร เขาก็เอาที่มันมีให้ดูทุกช่องออกทีวีบ่อยๆมาล่อ แต่โครงสร้างละเหล็กแบบไหน เสาต้นเล็กแค่ไหนเขาไม่บอกหรอก บางคนไม่รู้เขาจ้างช่างมาทำเขาก็ไม่รู้จริงๆ ยิ่งเป็นผู้หญิงยิ่งแล้วใหญ่ เหมือนเราตอนยังไม่เคยคิดสร้างบ้าน ย้งไม่เคยศึกษายอมรับว่าไม่รู้เรื่องพวกนั้เลย ผู้ว่าจ้างก็เลยเป็นไก่อ่อนให้พวกรู้มาก มีแต่หน้าที่จ่ายเงินกับเลือกวัสดุทั่วไปเท่านั้นคิดไม่ถึงว่ามันจะมี การหมกเม็ดอยู่ในโครงสร้างซึ่งนั่นก็คือ จำนวนเงินที่มากมาย ซึ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขานำเสนอ ของมียี่ห้อให้นั้นมันเกินคุ้มจริงๆ เพราะเมื่อมีครอบครัวทุกคน ก็อยากมีบ้านทุกคน ด้วยความไม่มีเวลาสร้างเอง ต้องทำงาน และดูแลครอบครัว และไม่เคยเรียนหรือไม่เคยมีประสบการณ์ เลยเป็นช่องทางให้กับผู้รับเหมา หรือบริษัท ที่ไม่ซื่อสัตย์ เป็นช่องทางทำกิน และมีรายได้จำนวนมาก อยากจะแนะนำ ให้ลองศึกษากันนิด จะได้ไม่เสียใจภายหลัง หรือมีญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ในวงการนี้ลองหาคำแนะนำหรือ ให้เขาดูแล หรือเสียเงินจ้างมาดูแลตอนสร้างเลยน่าจะดี เพราะถ้าเขาเดินทางสายงานนี้มาเขาจะรู้เรื่องนี้มากกว่าเรา นี่เป็นคำแนะนำ เพราะถ้าทำแบบเราไม่มีเวลา ไม่มีคนเฝ้า ไม่ศึกษา ทำไม่ไหวหรอก สั่งของแต่อย่างเดียวโทรเช็คเป็นสิบร้านแล้ว และต้องเช็คหน้างานด้วยว่าทำงานเรียบร้อยดีมั้ย ไอ้ที่เรียบร้อยและดีเขาต้องดูกันตรงไหนถึงจะทราบ รวมถึงเทคนิคต่างๆที่ทำให้บ้านไม่เกิดปัญหา เช่น การติดกรงไก่ หรือตาข่าย ทุกมุมของตัวบ้าน กันบ้านมีรอยร้าว การบ่มเสา ใช้เวลานานเท่าไร การทำความสะอาดไม้แบบ การใช้ลูกหนุนวางไว้หนุนเหล็กเพื่อไม่ให้เหล็กติดพื้นไม้แบบก่อนเทปูนทำคาน เพื่อไม่ให้เหล็กโผล่มานอกปูที่เท อายุของปูนผสมแล้วต้องรีบใช้ไม่ให้เกินกี่ชั่วโมง ไม้แบบนอกจากทำคามสะอาดก่อนต้องรดน้ำให้เปียกเพื่อไม่ให้ดูดน้ำปูน และเสาที่บ่มพลาสติกไว้ใช้เวลากี่วันและมีคุณภาพดีต้องดูจากดูได้จากตรงไหนถึงจะรู้ว่างานที่ทำดีมีคุณภาพ หรือการฝากเหล็กตามผนังบ้านต่างๆกันร้าว การปั่นหรือแทงปูนระหว่างการเทปูนเพื่อไล่โพรงอากาศ การทาสีรองพื้นใช้เวลานานแค่ไหน ทากี่รอบถึงจะดี ถ้ามีเวลาก็จะเล่าวันหลังถ้าถามก็ให้คำตอบได้ เพราะว่าพอจะรู้พอสมควรแล้วตอนนี้ ทำได้แต่ก็ต้องบอกว่าเหนื่อยและที่สำคัญ เราจะเดินตามช่างไม่ได้ ต้องเดินนำก้าวเขาอย่างน้อย1ก้าวก็ยังดี ไม่งั้นเราไม่ทันเขาหรอก ถ้าช่างดีมีข้อแนะนำดีๆ ก็ดีไป ถ้าเขาไม่แนะนำเราก็จะไม่รู้ นั่นคือเราต้องรู้ทัน และรู้ก่อนเสมอ อย่างน้อยวันต่อวัน เพราะงานสร้างบ้านใช้เวลานาน เราก็ศึกษาไปทีละขั้น รวมทั้งเทคนิคดีๆ ดูปัญหาหลังอื่นแล้วมาทำอย่างไรไม่ให้บ้านเรามีปัญหา แต่ก็ต้องเตือนเพื่อนๆนิดหนึ่งที่ต้องใช้บริษัทสร้าง เนื่องจากภาวะแวดล้อม ศึกษา ว่าบริษัทที่เราว่าจ้งเคยมีปัญหามามากน้อย แค่ไหน บริษัทที่ดีเขาก็มีเยอะศึกษา สอบถามหลายๆปาก หลายๆแห่ง เรื่องดีไม่ดี-ปากต่อปากไวกว่าโฆษณา อย่าถามแค่บริษัทเดียว เพราะแต่ละบริษัท เขาจะโชว์แต่ตัวอย่างบ้านที่เสร็จ และสวยงาม เท่านั้นเหมือนๆกันทุกบริษัท บ้านที่สร้างแล้วมีปัญหากัน เขาไม่เอามาโชว์หรอก คิดให้รอบคอบคุยรายละเอียด กับเขาให้ดีๆ มีเวลาก็ศึกษาซักนิดให้พอรู้คร่าวๆ ก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย

8. เช็คงบประมาณว่ามีเท่าไหร่ ก็ออกแบบตามงบ อะไรควรทำไม่ควรทำถ้าอะไรทำแล้วแพงก็ตัดออก แต่ถ้าแพงแล้วคุ้มก็เก็บไว้ ทางสถาปนิกก็จะแนะนำอีกทีหรือ ขอคำแนะนำจากเขาได้


เมื่อได้แบบบ้านมาแล้วสิ่งที่ต้องทำ



1. ตรวจสอบว่าถูกต้อง ตามที่ต้องการหรือเปล่า

2. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง เขาก็จะทำจนเราพอใจ

3. หาผู้รับเหมาที่จ้างเหมาแต่ค่าแรง ซึ่งจะต้องตามดูตามหน้างานที่กำลังก่อสร้าง ดูฝีมือ ต่อรองราคา หาช่างหลายๆเจ้าโดยช่างจะนำแบบเราไปตีราคา แล้วจะมาบอกเราอีกทีประมาณ3-4วัน ถ้าพอใจก็คุยรายละเอียดต่างๆ ทั้งเรื่องแบบ ทั้งเรื่องความเรียบร้อยของงาน เรื่องเงิน และทำสัญญา ในการจ่ายเงินแต่ละครั้งควรมีใบเสร็จ และการเซ็นต์รับทุกครั้ง

4. จ้างเหมาจ่ายเงินทีละขั้นตามงวดงาน ไม่จำเป็นต้องให้ช่างคนเดียวทำทั้งหลัง แยกออก ทำทีละขั้นตอน ถ้าไม่ดีหยุดแค่งานจุดนี้ได้ หาช่างใหม่

5. ควบคุมดูแลหน้างานด้วยตัวเอง ต้องศึกษางานก่อสร้างให้ดี ว่าเทคนิคงานก่อสร้างที่ทำให้บ้านดีมีอะไรบ้าง ต้องสั่งช่างให้ทำ ถ้าเราไม่รู้ เขาไม่แนะนำเราหรอกเพราะลดต้นทุนค่าแรงของเขา

6. ดูรายละเอียด ความเรียบร้อยของหน้างาน รวมทั้งการเก็บรักษาวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้าง ทำที่เก็บให้เรียบร้อย เช่น ปูนต้องเก็บในที่ไม่มีอากาศเย็น หรือถูกน้ำ เหล็กต้องคุมพลาสติกเก็บ ก่อนใช้เหล็กต้องทาสีกันสนิม2รอบ เป็นต้น

7.เช็คราคาวัสดุก่อสร้างจากราคากลาง เช่นบริษัทที่ผลิต ใหญ่ๆที่มีอยู่เราใช้ตามสมุดหน้าเหลืองและทางอินเตอร์เนต แล้วหาตัวแทนจำหน่าย ในเขตที่เราอยู่ ไม่ควรซื้อร้านย่อยๆทั่วไปราคาจะแพงมาก เช็คหลายๆร้านบางอย่างบางร้าน ก็มีวัสดุที่เหมือนกันราคาต่างกัน เพราะถ้าเขาเป็นตัวแทนของวัสดุนั้นโดยตรงราคาก็จะต่ำกว่าร้านอื่นแต่ละที่เป็นตัวแทนต่างสินค้ากันก็อาจจะมีสินค้าบางตัวที่ราคาต่ำกว่าก็เจออย่างนี้หลายร้านเหมือนกัน

8. เลือกวัสดุที่มีคุณภาพเกรดเอเท่านั้น นั้นย่อมหมายถึง ความมั่นคง แข็งแรง และไม่มีปัญหาตามมาทีหลัง

9.ถ้าจุดไหนมีปัญหาเช่น บ้านเรามีปัญหาช่างเหล็กโครงหลังคา เมื่อเสร็จแล้วก็หาช่างที่จ้างมามุงหลังคาแต่ปัญหาก็เกิดช่างบอกมุงไม่ได้ผิดแบบ ช่างเหล็กก็ยืนยันว่าถูกแบบ..เราก็ปีนไม่วัดไม่ไหว..จริงๆ เถียงกันอยู่นั่น ต้องหาตัวกลางที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ คือ..
วีธีแก้......ของเราก็คือ..เข้าไปคุย(แอบคุย)กับร้านที่เป็นตัวแทนขายหลังคามุงกระเบื้องใหญ่ๆทั่วๆไปเขาก็จะมีทีมมุง ถามหาช่างมุงที่มีฝีมือซักคน ให้มาทำงานนอกเวลา เราก็จ่ายค่าเสียเวลาตามสมควรเพื่อความสบายใจ 1000บาท เพื่อเช็คให้เรา ว่ามันเกิดอะไรขึ้น สรุปช่างมุง มันหลอกเราว่าผิดแบบ แล้ว ก็จะแก้แบบให้โดยขอเงินเพิ่ม(ใช้คำด่าอะไรดีช่วยคิดที.........)

10. แนะนำว่าทางเราควรใช้วัสดุที่ขายส่งดีกว่าร้านทั่วไปราคาต่างกันเท่าตัวหรือเกิน ของเราได้ของที่เครืออุบลเป็นส่วนใหญ่เพราะราคามาตรฐานขึ้นลง
ตามกฏหมาย ช่างเป็นโชคดีของเรา สร้างตอนเหล็กลงแบบสุดๆ แต่ร้านปลีกย่อยเราเข้าไปเช็คราคาซื้อเขาบอกว่าลดราคาไม่ได้ เพราะตอนซื้อไว้เป็นราคาแพง ก็ต้องขายตามราคาเดิม ไม่งั้นเขาขาดทุน แต่ทำไมเราเช็คและซื้อที่ดูโฮมโคราชเขาลดตามคำสั่งลดได้ ดูเป็นแนวทางนะค่ะ


......หวังว่าคงจะเป็นแนวทางให้กับเพื่อนสมาชิกได้ตามสมควรนะค่ะและต้องข้ออภัย สำหรับข้อมูลที่โดนพาดพิงถึง สำหรับผู้ประกอบการและบริษัท รวมถึงผู้รับเหมา และยังรวมไปถึง ผู้ใช้แรงงานขอให้ผู้ที่มีความซื่อสัตย์ในอาชีพของตนเองไม่คดโกง จงมีความเจริญก้าวหน้าทั้งหน้าที่การงาน การเงินก็ไหลมาเทมานะค่ะ

จาก ผู้หญิงสร้างบ้าน พ่อบ้านทำงานต.จ.ว แค่หาเงินกลับมาวันหยุดก็มีเวลาน้อยแล้ว ไม่เป็นไร ผู้หญิงก็ทำได้จะแบ่งเบาภาระนี้เองช่วยกันทำเพื่อบ้าน และ ครอบตรัวของเรา ทำด้วยใจ และความตั้งใจไม่ว่าหญิงหรือชายถ้ามุ่งมั่นที่จะทำก็ย่อมทำได้ ติดขัดตรงไหนเรามาช่วยกันแสดงความคิดเห็น บางทีก็ช่วยโทรด่าช่าง ก็มี เราด่าเดี๋ยวโดนเตะแน่ๆ แค่ผู้หญิงรู้มากอย่างเดียว จู้จี้จุกจิกสั่งมากก็พอแรงแล้วเดี๋ยวจะกลายเป็นมากเรื่อง ก็โยนให้แมนๆเขาคุยกันน่าเกรงขามมากกว่า เป็นอย่างที่ว่าจริงๆบางครั้งแค่คำพูดของผู้ชายครั้งเดียว ก็ดีกว่าเราจะไปวุ่นวายสั่งเขาทำหลายๆครั้งมันไม่ศักดิ์สิทธิ์ พูดกันครั้งเดียว รีบทำ ก็เป็นอีกวิธีที่เราต้องทำ ช่วยหาข้อมูลให้อีกแรงหาคนเดียวบางทีสมองอยู่ๆไม่สั่งงานคล้ายกับเหนื่อย หรือเจอปัญหาตรงหน้ามากๆเคลียดด้วย แล้วก็ไปไม่เป็นซะงั้น 2 หัวย่อมดีกว่าหัวเดียวเสมอ แต่ถึงแม้จะไกลกันก็ไม่ได้เป็น อุปสรรคเลยช่วยหาที่สั่งของเช็คร้าน เช็คราคาช่วย ถึงจะไกลแต่ เทคโนโลยีสมัยนี้ช่วยได้เยอะ ทั้งโทรศัพท์ ทั้งอินเตอร์เน็ต รวมทั้งคนใกล้ชิด ที่เคยเตินผ่านมา(สร้างมาก่อน) โดยส่วนใหญ่เขาเต็มใจที่จะบอก และให้คำแนะนำ และคอยเตือนไม่ใช่เกิดปัญหาเหมือนกับที่เขาเคยเจอ เป็นข้อระวังที่ดีมาก ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างบ้านหลังนี้ มา ณ. ที่นี้ค่ะ




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2553
5 comments
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2556 13:36:52 น.
Counter : 4264 Pageviews.

 

มีประโยชน์

 

โดย: tanara 30 สิงหาคม 2553 0:00:26 น.  

 

ข้อมูลเยี่ยมากๆครับ มีการเปรียบเทียบชัดเจนเลย ...

 

โดย: Thandagra 6 กันยายน 2553 16:37:03 น.  

 


ขอบคุณที่แวะมาติ-ชม นะค่ะ
เอาบ้านแบบดิบๆ สไตส์ปูนเปลือยมาให้ชมเพิ่มแวะไปชมนะค่ะ

 

โดย: ปุ๋ยกะแมงปอ 7 กันยายน 2553 20:05:40 น.  

 

มีข้อมูล ดีมากเลยค่ะ กำลังจะสร้างบ้านพอดี ที่โคราช ไม่ทราบว่าจะแนะนำได้ไหมค่ะ เรามีแบบบ้านแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรับเหมาดี หรือบริษัทสร้างเลย มีบริษัทหนึ่งที่เสนอราคามา ประมาณ 3.8 ล้านบาท วัสดุเกรด A ทั้งหมดส่วนบุคคลริษัทต้นแบบเสนอมา 4.5 ล้านบาท บ้าน 315 ตรม. แบบ Contemporary วัสดุ พรีเมี่ยม เราจึงตัดสินใจไม่ได้ ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ รู้จักบริษัท Assishouse. ไหม เขารับจ้างอยู่แถบ นครสวรรค์ น่าเชื่อถือหรือเปล่า มีจริงไหม ดีไหม เขามีแบบบ้านราคาถูกมากแต่ ไม่เป็นของตัวเอง คือ เหมือนลอกเอาแบบบ้านมาจากบริษัทอื่ๆ และก็มี ผลงานน้อยมาก รบกวนเพื่อนๆ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ

 

โดย: คนโคราช IP: 217.81.44.120 3 ธันวาคม 2554 16:22:02 น.  

 

อีกครั้งนะคะ รบกวนเพื่อนๆ พี่ๆ แนะนำด้วยค่ะ เพราะจะสร้างต้นปีหน้าแล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ เอาแบบตรงๆ เลลนะคะ แบบบ้านเราได้จาก m2 con แต่เขาสร้างแพงมาก และคิดค่าบริการต่างจังหวัดด้วย ส่วน แอสซีสเฮ้า เขาคิด 3.85 ล้านบาท ไม่คิดราคาบริการต่างจังหวัด แต่เราไม่รู้ว่า บริษัทนี้เขามีจริงไหม น่าเชื่อถือขนาดไหน ถ้าใครรู้จักรบกวนแนะนำหน่อยนะคะ เป็นบ้านหลังแรกค่ะ อยากสร้างให้คุณพ่อกับคุณแม่ สองตายายอาศัย ขอบคุณค่ะ

 

โดย: คนโคราช IP: 217.81.44.120 3 ธันวาคม 2554 17:31:37 น.  


ปุ๋ยกะแมงปอ
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ปุ๋ยกะแมงปอ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.