สวัสดีค่ะ นักอ่านทุกท่าน
บล็อกเมื่อวาน เพื่อน(นิคเนมเพื่อนคนใหม่)ก็ได้ใช้ระบบอัตโนมัติของสมองให้เป็นประโยชน์แล้วนะคะ โดยการเปลี่ยนการเชื่อมโยง จากที่เคยชอบทานซูชิ ก็กลายเป็น เลิกทานซูชิได้ จนเดี๋ยวนี้เห็นซูชิ ก็เฉยๆ ไม่นึกอยากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว (เพราะเห็นทีไร ก็ให้โยงไปเห็นขี้แมวทุกที 555) สำหรับอาหารอย่างอื่น ที่ทานแล้วจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทานมากไม่ดีทั้งหลายนั้น เพื่อนก็จะใช้วิธีเดียวกันเนี่ยแหละค่ะ ทำให้ตอนนี้เห็นอาหารอะไร ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่นึกอยากรับประทานเหมือนก่อน
แต่จะให้ฟันธง ว่าเป็นเพราะเหตุนี้ซะทีเดียวก็กระไรอยู่ บางคนอาจจะไม่เชื่อ ซึ่งความจริง มันก็ไม่ได้มีแค่นั้นหรอกค่ะ
เพื่อนยังได้ทำการอัดเสียงตัวเองลงไป เป็นไฟล์ mp.3 แล้วเปิดฟัง เหมือนกล่อมตัวเอง โดยตั้งใจให้เสียงที่อัดลงไปนั้น ไปเปลี่ยนจิตใต้สำนึกของตัวเองน่ะค่ะ ซึ่งมันเป็นวิธีที่ง่ายแสนง่าย ใครอยากจะนำลองไปทำดูก็ได้นะคะ สิ่งที่เราอัดลงไป ก็มีความว่า
"นับจากนี้ฉันลดความอยากอาหารหวานลงได้เรื่อยๆ" "นับจากนี้ฉันรู้สึกอิ่มทันทีที่กินข้าวเพียงหนึ่งจานในแต่ละมื้อ" "ฉันลดน้ำหนักลงทุกวันๆ" "ฉันต้องผอมให้ได้" "ฉันหุ่นดี" "ฉันกินน้อยลงทุกวัน" "ฉันควบคุมการกินของตัวเองได้" "กินน้อยลงนะ กินน้อยๆ"
ซึ่งข้อความต่างๆ เหล่านี้ก็สามารถพลิกแพลงได้ตามใจค่ะ เพื่อนจะเปิดฟังมันตลอดเวลาที่มีโอกาส โดยเฉพาะตอนเข้านอนและตื่นนอน ก็ฟังเป็นประจำ
จากการทำเช่นนี้ เมื่อวานเพื่อนก็หยุดทานมื้อค่ำได้แล้ว ทานแค่มื้อเย็นเท่านั้น ประโยคที่ว่า "นับจากนี้ฉันรู้สึกอิ่มทันทีที่กินข้าวเพียงจานเดียวในแต่ละมื้อ" มันผุดขึ้นมาในหัว และมันอิ่มจริงๆ ค่ะ ใจมันไม่นึกหาอาหารหวาน ไม่นึกหาขนมมากินเหมือนเมื่อก่อนอีกเลยล่ะค่ะ เมื่อวานมานั่งนึกเล่น ๆ ก็ทำให้รู้ว่า โห...นี่เมื่อก่อน ฉันกินเยอะขนาดนั้นเข้าไปได้ยังไงนะ ตกใจตัวเองเหมือนกัน 
นี่แหละค่ะ เป็นเทคนิค ในการลดน้ำหนักของเพื่อนที่ง่ายแสนง่าย ถ้ามีโอกาส ก็ลองเอาไปทำดูนะคะ แล้วอย่าลืมมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ อิอิ

ท้ายนี้ เพื่อนขอเอาหลักการ "สะกดจิตเพื่อลดน้ำหนัก" มาสำทับอีกที เขาพูดเอาไว้อย่างมีเหตุผลทีเดียวค่ะ ลองอ่านดูนะคะ
"การสะกดจิตเพื่อลดน้ำหนักก็คือการเข้าไปเปลี่ยนความชอบไม่ชอบ เปลี่ยนความอยากไม่อยากของเรา ให้ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นคนไม่ชอบอาหารที่ทำให้น้ำหนักเพิ่ม เปลี่ยนพฤติกรรมที่เวลาเครียดแล้วต้องกิน ให้รู้สึกเฉย ๆ ไม่มีความอยาก หรือให้รู้สึกถึงปริมาณที่พอเหมาะของอาหารแต่ละมื้อที่รับประทานเข้าไป ถ้าเราเรียนรู้การสะกดจิตตัวเองเพื่อลดน้ำหนักได้ เราก็จะสามารถนำมาใช้กับตัวเองได้ทุกวัน ได้ผลดีและเร็วชนิดลดวันลดคืนเชียวนะครับ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เพราะไม่ได้เป็นการใช้ยาหรืออดอาหาร ยังกระปรี้กระเปร่ามีน้ำมีนวลเหมือนเดิม เพราะว่าการสะกดจิตเป็นการเข้าไปเปลี่ยนข้อมูลในจิตใต้สำนึก ทำให้เราไม่ต้องบังคับใจฝืนใจ หรือต้องต่อสู้กับจิตใจตัวเอง เพราะจิตใจของเราได้ถูกกล่อมเสียอยู่หมัดแล้วด้วยการสะกด ฉะนั้นถ้านึกไม่อยากอ้วนอยากจะผอมอยากหุ่นดี จิตใต้สำนึกรับทราบข้อมูลและเปลี่ยนแปลงแก้ไขตัวเองไปแล้ว วันหนึ่งเราจะรู้สึกว่าข้าวที่ต้องกินมื้อละสองจานไม่จำเป็นอีกแล้ว เพราะไม่หิว ไอศกรีมที่ต้องกินทีละมากๆ ไม่ต้องอีกแล้ว เพราะไม่อยาก ก่อนนอนก็จะรู้สึกเฉย ๆ ไม่กระสับกระส่ายทุรนทุรายที่จะต้องหาอะไรมาใส่ท้อง เราจะกินอาหารแต่พอดีพออิ่มเท่านั้นเองครับ
เริ่มด้วยวิธีง่าย ๆ โดยสั่งกับตัวเองทุกเช้าหลังตื่นนอน หรือก่อนที่จะหลับไปในตอนกลางคืน โดยใช้คำพูดในด้านบวก เช่น นับจากวันนี้ฉันลดความอยากอาหารหวานลงได้เรื่อย ๆ หรือ นับจากวันนี้ฉันรู้สึกอิ่มทันทีที่กินข้าวเพียงหนึ่งจานในแต่ละมื้อ
วิธีการนี้เป็นธรรมชาติที่สุด พึ่งตนเองมากที่สุด และไม่ต้องบังคับควบคุมจิตใจให้ทรมาน ร่างกายจะปรับตัวเองให้สมดุล เพราะไม่ใช่เป็นการลดฮวบฮาบ จนหนังที่เคยหุ้มไขมันเอาไว้ต้องเหี่ยวย้วยลงมาเหมือนผ้าม่าน หรือต้องผอมลงแบบปอบหยิบ คือหน้าตาซูบผอมลงไปเหมือนเป็นโรคภูมิต้านทานบกพร่อง โดยเฉพาะประหยัดเงินด้วยนะครับ ประหยัดทั้งขึ้นทั้งล่องเลยทีเดียว ไม่ต้องเสียสตางค์ซื้ออาหารมาก ๆ แพง ๆ ตามใจปาก และไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อยาที่จะต้องมาเอาส่วนดีที่ดีเกินไปของอาหารเหล่านั้นออกจากร่างกาย นึกแล้วเหมือนคนติงต๊องจริง ๆ นะครับ ของหวาน ๆ มัน ๆ อยากจะกิน แต่พอกินเข้าไปแล้วต้องเสียเงินซื้อยามาล้างมันออกไปจากร่างกาย ที่ว่าดูแล้วมันน่ากิน ได้กลิ่นแล้วมันทำให้เกิดความอยาก นั่นเป็นความรู้สึกที่แก้ไขได้ทั้งนั้นครับ ภาษาพระเรียกว่าเป็นอุปทาน เพราะคนผอม ๆ เขาไม่ได้นึกอยากกินอยากสัมผัสเหมือนเรา เมื่อเราอายากจะผอม ก็แค่สะกดจิตตัวเองเพื่อเปลี่ยนนิสัยเปลี่ยนจิตใต้สำนึกให้หันมาทำตัวแบบคนผอมเท่านั้นเองครับ แล้วเราจะผอมวันผอมคืน หุ่นดีได้อย่างใจนึก ดีกว่าซื้อผลิตภัณฑ์จิปาถะที่จะพาให้ชาติบ้านเมืองล่มไปด้วยมั้ยละครับ เพราะเขาส่งมาขายในบ้านเมืองเราตั้งราคาแบบแขกศีรษะด้วยอวัยวะเบื้องต่ำ บางท่านก็ยังทุรนทุรายไปซื้อไปหามา เพราะหลงผิดคิดว่ากินแล้วผอมแถมยังโก้อีกด้วย เพราะของมันแพง มาลดน้ำหนักแบบประหยัดกันดีกว่าครับ แบบที่คนทั้งโลกจากอดีตจนถึงอนาคตกำลังแสวงหา นั่นคือแบบฝึกเอาชนะตัวเอง โก้กว่ามั้ยครับ ผอมลงได้เพราะสะกดจิตตัวเอง"
ที่มา : thaihypno.com
|