Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2557
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
4 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
Timeline เจาะเวลาผ่าจักรวาล (New Version) ตอนที่ 15 (จบองก์ 1)

โรเบิร์ตมีสีหน้างุนงงมาก

“นายช่วยขยายความหน่อยและช่วยสรุปด้วยว่าอะไรมันเป็นอะไร”

“เออ เอาเป็นว่า สิ่งที่รู้ตอนนี้คือ ปี 2014ถูกแบ่งเป็นสองโลกเรียบร้อยแล้ว คือโลกที่แพทตายกับ โลกที่แพทไม่ตาย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะมีคนย้อนเวลามาฆ่าแพทในปี2014”

“แสดงว่าจักรวาลนี้ไม่ยอมให้มีการก่ออาชญากรรมแบบข้ามเวลา”

รอนยิ้มอย่างมีความสุข

“นายสรุปได้ดีนี่โรเบิร์ต”

โรเบิร์ตยิ้มแต่เขาก็ไม่ได้เคลิ้มไปกับคำชม

“ยัง ยังก่อน นายอย่าเพิ่งชมผมมากนักเพราะเรายังไปไม่ถึงไหนกันเลยในเรื่องนี้สิ่งที่น่าสงสัยก็คือทำไมจักรวาลไม่ยอมให้มีการก่ออาชญากรรมข้ามเวลามันไม่น่าจะผิดอะไรนะ แต่ถ้าเราฆ่ามาริสาตอนนี้ ในเวลานี้ ในปีนี้ราชินีวิคตอเรียก็ไม่น่าจะมีอยู่เหมือนกัน และมันน่าจะง่ายกว่าด้วย”

“นั่นไงแผนบี โรเบิร์ตนายนี่เก่งมากนี่แหละแผนบี ฝ่ายต่อต้านจ้างพวกมิ้วให้ฆ่ามาริสาในปีนี้แทนว่าแต่นายรู้ได้ยังไงว่าแพทเป็นบรรพบุรุษของมาริสาและมาริสาเป็นบรรพบุรุษของราชินวิคตอเรีย”

โรเบิร์ตทำสีหน้าลำพองก่อนจะตอบว่า

“โดยตรรกมันต้องเป็นอย่างนั้นพวกมิ้วจะมาตามฆ่าใครถ้าไม่ใช่มาริสาแล้วพวกมันจะตามฆ่ามาริสาทำไมถ้าไม่ใช่เพราะมาริสาเป็นบรรพบุรุษของราชินีวิคตอเรีย”

รอนยังสงสัยบางอย่าง

“แต่แผนเอของฝ่ายต่อต้านทำไมมันถึงเลือกที่จะฆ่าแพทในปี 2014 ดูไม่มีเหตุผลเลย”

“กระสุนนัดเดียวได้นกสองตัวยังไงล่ะ”

“นายหมายความว่ายังไง โรเบิร์ต”

รอนถามแบบอยากรู้ โรเบิร์ตตอบออกมาว่า

“แผนเอจงใจฆ่าแพทแต่ส่วนหนึ่งก็เพื่อที่จะตัดกำลังภันดรด้วย ถ้าเขาโศกเศร้าพลังบางอย่างของเขาอาจจะลดลง”

“แสดงว่าภันดรคือหมากตัวหนึ่ง นายเจ๋งมากโรเบิร์ต ถึงผมจะมีพลังจิต มองเห็น ได้ยิน และอ่านใจคนอื่นออก แต่นายถนัดในการโยงตรรกต่างๆเข้าด้วยกัน”

โรเบิร์ตไม่ได้หลงคำชม เขายังคิดต่อไปว่า

“แสดงว่าฝ่ายต่อต้านเชื่อว่าแผนเอคือการย้อนเวลามาฆ่ามาริสาแต่ถ้าฆ่าเธอได้จริงๆ ภันดรอาจจะมาช่วยทำให้ทุกอย่างล่มได้”

รอนยิ้ม

“แผนเอเลยต้องเปลี่ยนมาฆ่าแพทเพื่อตัดกำลังภันดร”

โรเบิร์ตสานต่อว่า

“และคิดว่าถ้าฆ่าแพทได้ ราชินีวิคตอเรียจะหายไปและภันดรจะเศร้าจนหมดพลัง และไม่สามารถมายุ่งอะไรได้”

รอนเสริมว่า

“แต่เหตุที่เกิดกลายเป็นว่าราชินีวิคตอเรียไม่หายไปไหนแต่ยังไงฝ่ายต่อต้านก็ยังได้เปรียบเพราะทำให้ภันดรตกอยู่ในเอกภพคู่ขนานฝ่ายต่อต้านจึงเริ่มแผนบีทันทีคือการจ้างพวกมิ้วมาฆ่ามาริสา”

โรเบิร์ตพยายามใช้ความคิด

“แสดงว่าภันดรต้องมีอะไรบางอย่างที่จะทำให้แผนของฝ่ายต่อต้านพังได้และพวกนั้นมันก็รู้”

รอนทำสีหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างได้

“แต่นายก็น่าจะสำคัญนะโรเบิร์ตเพราะฝ่ายต่อต้านก็ไม่ยอมให้นายมาเจอมาริสาเหมือนกัน”

“นายรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ”

“ก็รู้ตอนที่จับมือนายนั่นแหละ”

“แสดงว่าผมน่าจะมีส่วนทำให้ฝ่ายต่อต้านล่มจมด้วยเหรอ”

รอนยิ้ม

“ใช่ รูปการบอกว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น”

“งั้นต่อไปเราน่าจะมาลองคิดดูว่าพวกฝ่ายต่อต้านเป็นใคร”

โรเบิร์ตชวนรอนเปลี่ยนประเด็นมาหาตัวการ ซึ่งรอนก็เห็นด้วย

“กลุ่มแรกเลยก็ต้องเป็นคนในยุคราชินีวิคตอเรีย พวกที่กระหายบัลลังก์ของพระองค์”

โรเบิร์ตนึกบางเรื่องไม่ออกจึงถามรอนว่า

“สมัยนั้นการที่จะโค่นล้มราชบัลลังก์มันยากขนาดนั้นเลยเหรอวะถึงกับต้องมีการคิดเรื่องย้อนเวลามาฆ่าบรรพบุรุษของอีกฝ่ายกันด้วย”

รอนนิ่งคิด

“ก็ยากเหมือนกันนะเพราะอาณาจักรในอนาคตมักจะเป็นอาณาจักรอวกาศ การทำสงครามกันมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆมันจะต้องลงทุนสูง และยังจะต้องเสี่ยงอีกหลายๆเรื่อง”

โรเบิร์ตเสริมต่อ

“พอมีโอกาสที่จะย้อนเวลากันก็เลยหาทางที่จะทำแบบนี้”

“เดี๋ยวก่อน” รอนเหมือนฉุกคิดอะไรบางอย่างทำให้โรเบิร์ตงงกับอากัปกิริยาของรอน

“มีอะไรเหรอ”

“อืมและถ้าผู้ได้ประโยชน์สูงสุดไม่ใช่คนในสมัยอาณาจักรวิคตอเรียแต่กลายเป็นคนในสมัยอื่นล่ะ”

โรเบิร์ตพยายามที่จะคิดตามรอน

“ผู้ได้ประโยชน์อาจเป็นคนสมัยอื่นเหรอ”

“ใช่ ถ้ามีการเดินทางข้ามเวลาได้ ผู้สมรู้ร่วมคิดก็อาจจะเป็นใครก็ได้ตลอดเส้นtimelineของจักรวาล”

โรเบิร์ตนิ่งไปอีกชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“นายทำให้งานของเราดูไม่ง่ายเลยนะ”

และทั้งคู่ก็ตกอยู่ในความเงียบจนรอนถามขึ้นมาอีก

“ชีวิตของกลุ่มพวกเราต้องเป็นแบบนี้เหรอ”

“นายหมายถึง”

“ก็ถูกคนตามล่า แล้วก็ต้องมาหลบๆซ่อนๆกันแบบนี้”

“ก็ตั้งแต่รู้จักพวกนั้นมาชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละ อยู่แต่ใน savehouse แล้วก็เปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ”

“นายรู้ไหมว่ามาริสาช่วยงานอะไรให้รัฐบาล”

“ไม่รู้ละเอียดนะแค่พอรู้ว่าใช้พลังจิตของเธอในการช่วยงานรัฐบาลอยู่”

รอนคิดหนัก

“เรื่องของมาริสาก็ดูมีอะไรแปลกๆอยู่นะ”

“นายว่าแปลกเหรอ แต่ผมว่าไม่แปลกเลยนะตรรกมันดูง่ายๆ มาริสามีพลังจิต คนของรัฐมารู้ ก็เลยติดต่อเธอมาช่วยงานแต่พอมันมีเรื่องยุ่งๆเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามเวลา พวกมิ้วก็เข้ามาไล่ล่ามาริสาแล้วพวกเราก็เข้ามาช่วยกันแก้ปัญหา”

รอนนิ่งคิดอีกครั้งหลังจากฟังโรเบิร์ตสาธยาย

“นายว่ารัฐบาลเข้าใจเหมือนที่เราเข้าใจรึเปล่าพวกเขารู้เรื่องการเดินทางข้ามเวลาด้วยเหรอ”

คำถามของรอนกระตุ้นต่อมอยากรู้ของโรเบิร์ต

“อืม จริงๆด้วยผมก็อยากรู้แล้วสิว่ารัฐบาลเข้ามามีเอี่ยวแค่ไหน และพวกเขารู้อะไรบ้าง”

“ซินเธียไง”

รอนตะโกนออกมาเสียงดัง

“ซินเธียเป็นตัวแทนของรัฐบาลคนเดียวที่พวกเรารู้จัก”

โรเบิร์ตเริ่มคิดคล้อยตามรอน เขาพูดว่า

“ประเด็นที่นายหยิบยกมานี้น่าคิดมากผมแทบจะไม่เคยคิดเลย เพราะวันๆผมอยู่กับพวกเขาผมก้าวเข้ามาในโลกของมาริสาก็เพราะปีเตอร์ ผมฟังเรื่องราวต่างๆจากพวกเขาแค่กลุ่มเดียวผมยังไม่มีโอกาสได้คุยกับใครที่เป็นคนนอกกลุ่มเลยนายเป็นคนแรกที่ผมมีโอกาสได้คุยด้วย”

“งั้นประเด็นนี้จะต้องเป็นประเด็นเกาะติดอีกประเด็นหนึ่งที่เราจะลืมไม่ได้”

ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูดังมาจากประตูห้องชั้นสองของหอคอยเลือดทั้งโรเบิร์ตและรอนมีอาการตื่นตกใจนิดหน่อย

“เจ้าชายน้อยทั้งสองรึเปล่าวะ”โรเบิร์ตพูดขึ้นก่อน

รอนซึ่งเป็นคนไม่กลัวเรื่องพวกนี้อยู่แล้วลุกขึ้นเดินไปทางประตู

“เดี๋ยวผมไปดูเอง”

พอรอนเปิดประตูออกเขาก็พบชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูแปลกหน้า เพียงแต่รอนรู้ว่าเขามาอย่างมิตรชายหนุ่มคนนั้นก้มศีรษะให้รอนนิดนึงก่อนจะเดินเข้ามาในห้อง โรเบิร์ตตกใจมากเขาลุกขึ้นจ้องมองชายผู้นั้น รอนเดินเข้ามากลางห้องเขาจ้องมองชายผู้นั้นตาไม่กระพริบ

“นายเป็นใคร” โรเบิร์ตถามขึ้นก่อน

ชายหนุ่มหันไปมองหน้าเขาทั้งสองก่อนจะพูดขึ้นว่า

“คนที่นายอยากพบไง”

ตอนนี้หน้าของรอนเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถามและแล้วเครื่องหมายคำถามก็เหมือนถูกยางลบก้อนมหึมาลบออกไป

“ภันดร” รอนตะโกนไปแบบไม่รู้ตัว

“ใช่ครับ ผมคือภันดร”

“ไม่น่าเป็นไปได้เลย” โรเบิร์ตถึงกับอึ้ง

รอนถามภันดรว่า

“คุณมาที่นี่ได้ไง”

ภันดรยิ้มก่อนจะตอบว่า

“อุโมงค์เวลา”

“จากไหนไปไหน” รอนถามด้วยความอยากรู้”

ภันดรสาธยาย

“จากชั้นใต้ดินของร้าน aceof cups ตรงถนนนาคนิวาส ใจกลางกรุงเทพในปี 2014 มาโผล่ที่อุโมงค์เวลาชั้นล่างสุดของหอคอยเลือด กรุงลอนดอนในปี 3014”

“อุโมงค์เวลาใต้หอคอยเลือดเนี่ยนะ”โรเบิร์ตสงสัยมาก

“ใช่ครับ แต่ตอนนี้มันปิดไปแล้ว”

“นายรู้เรื่องพวกนี้ได้ไง” รอนถาม

“ผมรู้จากไพ่ยิปซีและเพนดูลัมของผม”

เหมือนโลกหยุดชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่เสียงแรกแห่งจักรวาลจะดังขึ้นอีกครั้ง

“นายมาจาก timeline หลักใช่ไหมภันดร” รอนถามด้วยอาการตื่นเต้น

“ใช่ครับและผมก็ห่วงภันดรที่อยู่ในเอกภพคู่ขนานมาก”

รอนยังถามภันดรต่อด้วยอาการกระหายไคร่รู้

“นายรู้ได้ยังไงว่าเกิดเอกภพคู่ขนานขึ้นทั้งๆที่แพทไม่ตาย”

“ผมรู้จากความฝันและผมก็ปะติดปะต่อได้เองจากการถามเพนดูลัมและไพ่ยิปซี”

รอนยังยิงคำถามอย่างไม่หยุด

“แล้วตอนนี้แพทเป็นยังไงบ้าง”

“ในโลกของผม ถึงเธอจะยังไม่ตาย แต่เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราโดยไม่ทราบสาเหตุ”

“เจ้าหญิงนิทรา” โรเบิร์ตทวนคำ

“ใช่เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราตั้งแต่คืนนั้น และเธอยังไม่ตาย”

รอนถามต่อ

“แล้วในโลกของนาย เธออยู่ที่ไหน”

“อยู่ที่ร้าน aceof cups เราไม่กล้าเคลื่อนย้ายตัวเธอและไม่กล้าพาเธอไปโรงพยาบาล”

โรเบิร์ตหันมาถามภันดรบ้าง

“แล้วนายสามารถติดต่อภันดรในโลกคู่ขนานได้ไหม”

“ไม่ได้เลยได้แต่คลำทางจากอาการเดจาวูที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ”

“ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นนะ” รอนสงสัยภันดรเสนอความเห็นของเขา

“อย่างที่เราสามคนติดต่อกันได้เพราะเราอยู่ในtimelineเดียวกัน แต่คนละช่วงเวลา เหมือนคนที่อยู่ในตึกเดียวกันถ้าผมอยู่ชั้นล่างสุด ขึ้นไปหาใครก็ตามที่อยู่ชั้น 88 ขณะที่ผมกำลังจะขึ้นลิฟต์ไปหาเขา เหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นว่าผมได้คุยกับเขาคือเหตุการณ์ในอนาคตแต่พอผมได้คุยกับเขา แล้วลงลิฟต์มา เหตุการณ์ที่กำลังคุยกับเขากลายเป็นเหตุการณ์ในอดีตทั้งๆที่มันเป็นเหตุการณ์เดียวกัน”

รอนพูดด้วยเสียงอันน่าตื่นเต้นว่า

“เพราะฉะนั้นอดีตและอนาคตจึงไม่มีอยู่จริงเพราะเหตุการณ์เดียวกันจะเป็นเหตุการณ์ทั้งอดีตและอนาคตไม่ได้เพราะมันขัดแย้งกันแต่ทุกเหตุการณ์อยู่บน timeline เดียวกัน”

ภันดรพูดว่า

“ใช่ดังนั้นถ้าผมอยู่ในห้องนั้นตอนสองทุ่ม แล้วมีผมอีกคนอยู่ในอีกที่หนึ่ง ณเวลาเดียวกัน แต่อยู่คนละจักรวาล มันยากมากที่จะติดต่อกันได้และยากมากที่เขาจะมาหาพวกเรา”

“แต่ทำไมจิตวิญญาณถึงแยกออกไปได้อย่างนั้นตามโลกคู่ขนานที่แยกตัวออกไปจนทำให้เหมือนภันดรในโลกนี้กับโลกนั้นเป็นคนละคนแล้วตอนนี้”โรเบิร์ตถามขึ้นมาบ้าง

ภันดรตอบเขาไปว่า

“ไม่แปลกเลยครับเพราะตอนผมเกิดอาจมีวิญญาณสองดวงมาเกิดเป็นผม เช่นคุณสองคนตายพร้อมกันแล้วมาเกิดเป็นผม”

คำตอบของภันดรทำให้รอนกับโรเบิร์ตถึงกับนิ่งอึ้งไปพอทั้งสองคนรวมสติได้กลับมาใหม่ โรเบิร์ตจึงพูดขึ้นว่า

“เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่น่าจะใช้ติดต่อกันได้ระหว่างภันดรโลกนี้กับภันดรโลกคู่ขนานคือเพนดูลั่ม”

“ผมก็คิดว่างั้น เพียงแต่ยังไม่เคยลอง”ภันดรตอบไปอย่างเด็ดเดี่ยว

“แล้วแพทล่ะตกลงเธอเป็นยังไงจริงๆในสองโลก” รอนถามด้วยความสงสัย

ภันดรตอบตามที่เขาคิด

“ในโลกของผม เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราส่วนในโลกคู่ขนาน ผมไม่แน่ใจ”

“ในโลกคู่ขนานเธอตายแน่ๆแล้วจิตวิญญาณของเธอหายไปไหน” รอนพูดเหมือนรำพึง

ทันใดนั้นก็มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากม่านในห้อง

“จิตวิญญาณของเธอไปอยู่ที่โบม”

ทั้งสามคนหันไปมองทางทิศเดียวกันไม่นานนักก็มีชายหนุ่มปรากฏตัวออกมา ทำให้รอนกับโรเบิร์ตต้องอุทานพร้อมกัน

“จิมมี่”

ภันดรถามขึ้น

“โบมคือที่ไหน”

“โบมเป็นสวรรค์ลักษณะพิเศษที่รองรับเทพกับเทพธิดาที่ถูกฆ่าแต่ยังไม่ถึงเวลาที่พวกเขาและเธอจะตาย โบมไม่เกี่ยวกับสวรรค์หกชั้นนั้นและตอนนี้แพทก็กลายเป็นเทพธิดาในโบมไปแล้ว เธอเสวยพระนามว่าอุมาเทวี”

โรเบิร์ตสงสัย

“เป็นอุมาเทวีเดียวกับที่อยู่ในวรรณกรรมของมนุษย์รึเปล่า”

“ถามแบบนี้ใครจะไปตอบได้”จิมมี่ตอบแบบกวนๆ

“แล้วทำไมนายถึงรู้เรื่องของพระนางอุมาเทวีได้ละเอียดขนาดนั้น”

“อ้าว ก้ผมถอดจิตไปคุยกับเธอมาแล้ว”

“ถอดจิต” ชายหนุ่มที่เหลือทั้งสามคนพูดขึ้นมาพร้อมๆกัน

ทั้งห้องเงียบกันไปอีกครั้งจิมมี่จึงพูดขึ้นว่า

“องค์เจ้าแม่กวนอิมที่ท่านทรงยอมเสียอวัยวะบางส่วนเพื่อทำเป็นยาให้กับพระบิดาหลังจากท่านตายไปแล้วท่านก็ไปสู่สวรรค์ที่มีลักษณะคล้ายๆโบมก่อนที่จะไปสู่สวรรค์ในส่วนอื่นๆต่อไป”

รอนถามจิมมี่ว่า

“แล้ว timeline ของโบมเป็นยังไงบ้าง”

“timeline ของเทพแนวนี้จะคล้ายกันตรงที่ว่าท่านจะอยู่ในสเฟียร์ส่วนตัวซึ่งอาจจะใหญ่หรือไม่ใหญ่ก็ได้สเฟียร์ส่วนตัวนี้ดูเหมือนจะนิ่งแบบเคลื่อนที่ไม่ได้แต่ลองนึกว่าสเฟียร์ของเทพเป็นห้องๆนึงที่มี 4 ประตู แล้วก็แบบว่าประตูทางซ้ายเปิดไปเจอราชประสงค์ประตูทางขวาเปิดไปเจอเมืองที่อินเดีย ประตูด้านหน้าเปิดไปเจอคนในสมับพุทธกาล ส่วนประตูทางใต้เปิดไปเจอคนใน อนาคตอีกหลายแสนหลายล้านปีข้างหน้า”

รอนพูดว่า “ฟังดูแล้ว timelineของเทพสอดคล้องกับ timeline ของมนุษย์แบบที่เราเพิ่งคุยกันไปนะ”

จิมมี่ยังพูดอีกว่า

“สำหรับแพทตอนนี้เธอคือพระนางอุมาเทวีที่อยู่ในโบมแต่เธอก็ยังมีร่างที่จะกลับคืนสู่โลกมนุษย์ได้ในปี 2014 เธอจึงเป็นกึ่งเทพกึ่งมนุษย์”

ภันดรพูดว่า “ทำให้ผมนึกถึงพระเยซูนะ”

จิมมี่พูดเหมือนเป็นบทสรุปว่า

“เป็นอันว่าขอต้อนรับทุกคนสู่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ปี 3014 นะครับ และอย่างที่พวกเรา พูดกันไปพูดกันมาพวกเรายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องทำในเวลานี้”

จบองก์ 1




Create Date : 04 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2557 2:49:30 น. 1 comments
Counter : 4122 Pageviews.

 


โดย: Christian Trevelyan Grey วันที่: 9 มีนาคม 2561 เวลา:20:31:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

LXUAWROPDIQYT
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add LXUAWROPDIQYT's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.