รากุลได้ให้ข้อคิดเห็นกับพระองค์

“ข่าวลือนี้ ข้าพระองค์เองก็ได้ทราบข้อมูลมาเรื่อยๆความเข้มแข็งของไทก้าก็มีการลือกันมากขึ้น”

องค์ราชินีได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับอาณาจักรไทก้าจากรากุลรากุลได้ตอบว่า

“อาณาจักรไทก้าอยู่ไกลจากเรามากแต่ด้วยนวัตกรรมของเขาทำให้ยานบินของเขามาที่อาณาจักรของเราบ้างแล้ว ในช่วงแรกไทก้าไม่แน่ใจว่าจะต่อกรกับเราได้แต่ตอนนี้เขาแน่ใจมากขึ้นเรื่อยๆและข้าพระองค์เห็นว่าจุดที่ทำให้ไทก้าสนใจอาณาจักรวิคตอเรียก็คือ เออ ... คือ...เออ”

เห็นรากุลอ้ำอึ้งองค์ราชินีวิคตอเรียจึงกล่าวว่า

“ชื่อที่เจ้ากำลังจะพูดออกมาเจ้าหมายถึงเชนใช่ไหม”

รากุลนิ่งอยู่ชั่วครู่จึงได้กล่าวว่า

“ข้าพระองค์ไม่สบายใจเลยที่จะบอกว่าเชนมีส่วนอย่างมากในการที่ทำให้ไทก้าสนใจจะยึดอำนาจเราแต่ข้าพระองค์ก็ไม่อยากที่จะกล่าวหาเชนในลักษณะนั้นเพราะอย่างน้อยเชนก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของเรา”

การได้ยินเช่นนั้นทำให้องค์ราชินีพระทัยหายพระองค์ไม่ทรงอยากให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้เลยพระองค์เองรู้สึกผิดในใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้มีการเดินทางข้ามเวลาถ้าเชนไม่อาสาไปอนาคต เรื่องก็จะไม่เกิดพระองค์เริ่มลงโทษตัวเองว่าทำไมพระองค์ไม่คิดแต่ในเรื่องที่เป็นปัจจุบันแน่นอนว่าการเดินทางข้ามเวลาเป็นโครงการที่น่าสนใจและท้าทายแต่ถ้ามันทำให้เกิดผลเสียต่างๆมากมาย มันก็ควรที่จะต้องยุติลง

เมื่อเห็นองค์ราชินีทรงนิ่งไปรากุลจึงได้พูดต่อว่า

“แต่ข้าพระองค์มีแผนนะกระหม่อม”

องค์ราชินีนึกแปลกพระทัย

“แผนอะไรของเจ้า ไหนบอกข้ามาซิ”

“ข้าพระองค์จะให้เพื่อนของข้าพระองค์ชื่อมาร์โคไปสืบที่อาณาจักรไทก้าเพื่อนของข้าพระองค์มียานพิเศษที่สามารถจะหลบหลีกกลไกบางอย่างได้และข้าพระองค์จะให้มาร์โคพาเชนกลับมาก่อน เชนจะได้มาอยู่ที่นี่ถ้าเกิดสงครามอวกาศจริงๆแล้วเชนอยู่กับเราข้าพระองค์คิดว่าจะทำให้หลายฝ่ายรู้สึกดีมากขึ้น”

องค์ราชินีนิ่งคิดก่อนจะพูดว่า

“นับว่าเป็นแผนที่ดีนะงั้นเจ้าทำตามแผนนี้ได้เลย”

“ครับกระหม่อม”

หลังจากนั้นราชินีวิคตอเรียได้เรียกระดมขุนนางมหาอำมาตย์และเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งว่าอาณาจักรวิคตอเรียอาจจะต้องทำสงครามกับอาณาจักรไทก้าที่อยู่อีกซีกหนึ่งของจักรวาลข่าวนี้ทำให้ผู้คนตื่นตระหนกมาก เพราะเป็นข่าวที่ออกมาจากพระโอษฐ์ขององค์ราชินีเองทำให้มีการปรึกษาหารือกันอย่างกว้างขวางมีการระดมสมองกันอย่างแข็งขันจนได้ข้อสรุปว่าเห็นทีอาณาจักรไทก้าคงต้องขอความช่วยเหลือจากจักวรรดิออตโตมันของสมเด็จพระจักรพรรดิฟาโรห์

ผลสรุปนี้ทำให้องค์ราชินีต้องคิดหนักถึงแม้ว่าจักวรรดิอวกาศออตโตมันของจักรพรรดิฟาโรห์จะเป็นอีกอาณาจักรหนึ่งที่กำลังมาแรงและมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมากแต่การต้องไปขอความช่วยเหลือจากจักวรรดิออตโตมันจะทำให้อาณาจักรวิคตอเรียเสียรังวัดอาณาจักรวิคตอเรียเคยเป็นที่เลื่องลือว่าเป็นอาณาจักรอวกาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลแถมยังดูแลเมืองเนรมิตทั้งสี่บนโลกได้อย่างดีอีกด้วยแต่ปัจจุบันกลับจะต้องไปพึ่งพิงจักวรรดิอื่น คิดแล้วมันน่าน้อยใจจริงๆแต่ก็ไม่มีทางเลือกทางองค์ราชินีจึงยอมให้มุขมนตรีทำเรื่องติดต่อขอความช่วยเหลือไป

อีกอาณาจักรที่น่าสนใจคืออาณาจักรเวก้าแต่ตอนนี้อาณาจักรเวก้าเกิดปัญหาภายในมากมายราชินีโซเฟียแห่งอาณาจักรเวก้าเองก็เอาตัวเกือบไม่รอดองค์ราชินีวิคตอเรียจึงดำริว่ายังไม่ควรไปรบกวนอาณาจักรเวก้าส่วนราชาที่ปกครองเมืองเนรมิตทั้งสี่บนโลกก็แค่แจ้งให้พวกเขาได้รับรู้เรื่องราวดังกล่าวแต่ยังไม่ต้องมีมาตรการใดๆเป็นพิเศษเพราะองค์ราชินีวิคตอเรียไม่ต้องการให้ข่าวนี้ทำลายการสร้างสังคมทางจิตวิญญาณของพระเมตตริยะในเมืองเนรมิตแห่งที่สามที่กำลังรุ่งเรืองดี

### เป็นธรรมดาของชุมชนชาวเผ่าที่มักจะมีเรื่องบาดหมางระหว่างเผ่ากันอยู่ตลอดเวลาเพียงแต่ว่ายังไม่ปะทุเป็นสงครามเท่านั้นเผ่าของอนูบิสเองที่ชื่อว่าอากอนก็มักจะมีปัญหากับหลายเผ่าเพราะแต่ละเผ่าก็กำลังมีการยื้อแย่งพื้นที่เพื่อที่จะให้เผ่าของตัวเองมีอาณาเขตมากที่สุดซึ่งในขณะนั้น เผ่าอากอนก็มีอาณาเขตมากพอสมควรแต่ก็ยังไม่มากที่สุด เผ่าที่สนใจแผ่นดินของพวกอากอนมากคือเผ่าข้างเคียงที่มีชื่อสั้นๆว่าบรอนพวกบรอนมีทักษะในการสู้รบแบบกองโจร และโดยมากมักจะเฉลียวฉลาดเผ่าอากอนเคยมีสงครามกับบรอนเมื่อหลายปีก่อนแต่อากอนก็สามารถทานกำลังของเผ่าบรอนไว้ได้แต่คราวนี้เผ่าบรอนแน่ใจว่าพวกเขามีกำลังมากกว่าและมีคนที่มีชั้นเชิงในการทำสงครามมากกว่าก็เลยชิมลางส่งคนมาด้อมๆมองๆและชาวเผ่าอากอนก็สามารถสืบทราบมาได้ว่าเผ่าบรอนเริ่มที่จะทำสงครามครั้งใหญ่กับอากอน

ราชาแห่งอากอนได้เรียกแกนนำเผ่าคนสำคัญเข้าร่วมประชุมเพื่อการนี้รวมทั้งโอซิริสด้วย การที่เห็นโอซิริสอยู่ในการประชุมด้วยทำให้เซธลูกชายของหัวหน้าเผ่าไม่พอใจมากเขาพูดในที่ประชุมว่าพ่อไม่ควรให้คนนอกเข้าร่วมประชุมด้วยแต่เนื่องจากราชาแห่งอากอนถูกชะตากับโอซิริสโดยผ่านล่ามคืออนูบิสแต่ไม่พอใจเซธแต่แรกเพราะทำตัวไม่เป็นตัวอย่างอันดีแก่คนในเผ่าราชาแห่งอากอนจึงไม่เห็นด้วยกับเซธ และยอมให้โอซิริสเข้าประชุมด้วยได้ในการประชุมวันนั้นโอซิริสเองก็ได้เสนอแผนการอันแยบยลที่จะต่อกรกับพวกบรอนยิ่งทำให้เซธฝังแค้นกับโอซิริสมากขึ้นไปอีก

อนูบิสนำความที่เกิดในที่ประชุมมาเล่าให้เจ้าหญิงไอซิสฟังเจ้าหญิงเองวิตกกังวลมาก

“เซธไม่น่าคิดถึงเพียงนั้นเลยทางเผ่าดูแลพวกเราอย่างดีโอซิริสคงแค่คิดว่าเขาก็อยากจะตอบแทนคุณงามความดีของเผ่าบ้างเลยอยากจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่”

อนูบิสซึ่งเป็นลูกชายคนรองของหัวหน้าเผ่าก็ให้ความเห็นบ้างว่า

“เซธเองเป็นแบบนี้มานานแล้วมักจะให้ความเห็นที่ไม่ค่อยได้เรื่อง แต่อยากให้พ่อเห็นว่าตัวเองมีความสำคัญสมัยก่อนก็ชอบมาวุ่นวายกับข้า เพราะเห็นว่าเป็นผู้ชายด้วยกันก็มักจะมาชิงดีชิงเด่นกับข้า แต่ข้าไม่ชิงด้วยหรอกแต่ครั้งนี้เป้าของเขาคือโอซิริส”

เจ้าหญิงไอซิสวิตกกังวลมากขึ้น

“แล้วแบบนี้โอซิริสจะปลอดภัยไหมข้าชักจะเป็นห่วงเขาซะแล้ว”

อนูบิสนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบว่า

“ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะเพราะตอนที่เขาหาเรื่องข้าก็มักจะไม่ตามตอแย บางครั้งเขาก็ยังมีนิสัยแบบเด็กๆโมโหก็มาหาเรื่อง อารมณ์ดีก็หายไปเลยชอบไปทำอะไรที่มันไม่เกี่ยวกับบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา เช่น ล่าสัตว์หรือการรุกรานเผ่าที่เล็กกว่า”

ฟังจากที่อนูบิสเล่า ทำให้เจ้าหญิงไอซิสเบาใจไปเปราะนึงเพียงแต่ครั้งนี้ อนูบิสเองได้คาดการณ์ผิด ด้วยเหตุที่โอซิริสเป็นคนนอกความเป็นเดือดเป็นแค้นของเซธยิ่งมีมากเป็นเท่าทวีคูณและพร้อมที่จะระเบิดอยู่ตลอดเวลา และความกล้าบ้าบิ่นก็ปะทุออกมาอย่างรวดเร็วจนถึงขั้นที่ว่าเขาคิดฆ่าโอซิริสและแผนชั่วนี้ได้อุบัติขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด

เซธให้คนสนิทไปเชิญโอซิริสจากที่พักโดยให้บอกว่าเขาสำนึกผิดที่กล่าวหาโอซิริสต่างๆนานาในที่ประชุมเขาอยากจะเลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการไถ่โทษ โอซิริสเองก็นึกสงสัยอยู่แต่เขาก็ไม่อยากเล่าให้ใครฟัง และคิดว่าตัวเองน่าจะเอาตัวรอดได้จึงไปตามคำเชิญของเซธ คืนนั้นเขาเข้าไปในกระโจมของเซธ เซธเองต้อนรับเขาเป็นพิเศษและได้เทเครื่องดื่มลงถ้วยของเขา และถ้วยของโอซิริสเซธแสดงบริสุทธิ์ใจโดยการดื่มเครื่องดื่มจากถ้วยของเขาก่อน ทำให้โอซิริสไม่ทันระวังตัวและได้ดื่มเครื่องดื่มตอบเซธไปเพราะคิดว่าเครื่องดื่มนั้นไม่น่าจะมีพิษ

เพียงแต่ว่าพอโอซิริสดื่มไปได้ไม่นานเขาก็ล้มลงและสิ้นใจตายเพราะยาพิษนั้นได้เคลือบติดถ้วย พวกของเซธได้อำพรางเหตุการณ์นี้โดยการทำลายถ้วยของโอซิริสและได้รีบแจ้งไปยังราชาแห่งอากอนว่าพวกบรอนสืบได้ว่าโอซิริสเป็นคนวางแผนสำคัญในการทำสงครามครั้งนี้จึงส่งคนมาลอบทำร้าย และพวกมันได้เทยาพิษลงไปทางปากของโอซิริสทำให้โอซิริสสิ้นใจตาย พวกของเซธเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะพวกเขาก็โดนลอบทำร้ายเหมือนกัน เซธลงทุนถึงขั้นที่ทำร้ายลูกน้องตนเองไป 12คนและฆ่าทิ้งอีกสาม เพื่อให้เหตุลอบทำร้ายโอซิริสครั้งนี้ดูน่าเชื่อถือ

แต่คนที่รู้ความจริงทั้งหมดคืออนูบิสเขาเองสงสัยเซธอยู่แล้ว พอถามเพนดูลั่มก็ได้คำตอบที่แน่ใจมากขึ้นอนูบิสไม่บอกความจริงให้กับคนอื่นรู้ รวมทั้งเจ้าหญิงไอซิสด้วย เพราะน่าจะไม่เป็นผลดีพอเจ้าหญิงไอซิสรู้ข่าวถึงกับสลบไปอนูบิสเข้ามาบงการทุกอย่างโดยสั่งการให้คนของเจ้าหญิงดูแลเจ้าหญิงให้ดีเขาเองได้นำหมอประจำเผ่ามาดูแลเจ้าหญิงด้วย และเพื่อไม่ให้เซธสงสัยในตัวเขาเขาจึงส่งหมอประจำเผ่าไปดูแลเซธด้วย ส่วนศพของโอซิริสนั้น อนูบิสเห็นว่าต้องรักษาศพไว้ไม่ให้เน่าเปื่อยเพื่อรอให้เจ้าหญิงไอซิสมาเคารพศพเป็นครั้งสุดท้ายเขาเองมีความรู้ในการทำมัมมี่มาจากเผ่าอื่น แต่ไม่เคยลองทำเลยครั้งนี้เขาเลยคิดจะทำมัมมี่ของโอซิริสอนูบิสรีบสั่งให้ลูกน้องของตนมาช่วยกันทำมัมมี่ของโอซิริสก่อนที่ศพจะเน่า

เรื่องการทำมัมมี่นั้นอนูบิสก็เก็บเป็นความลับด้วย โดยนำศพโอซิริสไปไว้ที่ถ้ำแห่งหนึ่งและระดมคนมาช่วยกันทำมัมมี่ ขั้นแรกก็ต้องเอาอวัยวะภายในออกจนหมดพอเอาออกแล้วก็ต้องหาโถมาใส่อวัยวะภายในเหล่านี้เพื่อให้เกียรติผู้วายชนต่อมาเขาทำการเย็บศพของโอซิริสและเอาผ้ามาพันโอซิริสไว้ทั่วร่างเพื่อรอให้ศพแห้งและอยู่ได้นาน เขาหาวิธีทำน้ำย่พิเศษขึ้นมาเพื่อรักษาสภาพศพเพราะเขาเองพอจะมีความรู้ทางนี้อยู่บ้าง พอรักษาศพของโอซิริสไว้ได้แล้วสิ่งหนึ่งที่เขาให้ความสำคัญในขณะนี้คือการรอคอยให้เจ้าหญิงไอซิสฟื้นและพาเจ้าหญิงมาเคารพศพของโอซิริส

Create Date : 04 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2557 2:39:18 น.		0 comments
Counter : 276 Pageviews.
Share Tweet