|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
(Fic Shinhwa) เรื่องเล่าของเจ้าหญิง 11
ความเดิมตอนที่แล้ว
แล้วความรักที่ผิดหวังของฮเยซอง กับการแอบรักข้างเดียวของจอนจิน ก็ได้รับการเยียวยาสมานซึ่งกันและกันอย่างสมบูรณ์ (มั้ง) นับเป็นก้าวแรกของการเริ่มต้นแห่งความสัมพันธ์ใหม่ ที่ดูสดใสทีเดียว ยังงัย ร่วมเป็นกำลังใจให้กับเค้าทั้งคู่ดีกว่า
ชินฮวาได้ฤกษ์ปลุกอีกหน้าของตำนานขึ้นมาอีกครั้ง ก้าวต่อไปจะเป็นยังงัย ไม่มีใครรู้ แต่เรา ก็จะอยู่เคียงข้างตำนานเล่มนี้เสมอ ๆ
ตำนานที่หลับใหลมานานร่วม 4 ปี บัดนี้ถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากบรรดาเจ้าหญิงสีส้ม ซึ่งคำสัญญาที่ว่าจะรอคอยพวกเค้าเสมอ พวกเธอเหล่านั้น ยังคงเก็บรักษามันไว้อย่างดีเยี่ยม แผนการโปรโมทตามรายการและคอนเสิร์ตต่าง ๆ ที่ถูกรีเควสให้มีขึ้น ทำให้ตารางงานในแต่ละวัน แน่นขนัดแทบไม่ได้กระดิกตัว และแม้จะเหน็ดเหนื่อย แม้จะมีเหงื่อโทรมหน้า แต่ความสุข รอยยิ้มและเสียงหัวเราะก็ยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าทุกคนเสมอ ไม่เคยจางหายไป และนี่แหละ คือพวกเค้า ตำนานแห่งเทพเจ้า นาม ชินฮวา
ช่วงนี้ทุกคนมีเตรียมตัวซ้อมคอนเสริตใหญ่ ก็เหมือน ๆ กับทุกวัน ภาพที่เจอบ่อย ๆ จนชินตาในหลายปีที่ชั้นมีโอกาสได้เห็น มินอูกับรอยยิ้มหวาน เค้ามักนั่งจดอะไรยิก ๆ พร้อมกับการดีดนิ้วเป็นจังหวะดนตรี เสียงหัวเราะที่สลับกะเสียงทะเลาะกันเป็นระยะ ๆ ของแอนดี้และจอนจิน เสียงกดชัตเตอร์พร้อมเรื่องราวที่เล่าได้ไม่ขาดปากของดงวาน ฮเยซองกะการเกาะหน้ากระจกเป็นฐานที่มั่น หันมาหัวเราะหรือบางทีก็บ่นดงวานและสมาชิกอื่นบ่อย ๆ และอีกหนึ่งหัวหน้าวง ที่คร่ำเคร่งอยู่กะ ...... การหลับแบบเอาเป็นเอาตาย หรือกินไม่หยุดหย่อน พวกเค้าแต่ละคน มีเสน่ห์สมกับที่เรารักจริง ๆ นะเนี๊ยะ ^ ^
ดงวาน : ท่ามันยากไปนิดป่ะมินอู ท่อนฮุกน่ะ มินอู: เดี๋ยวชั้นซ้อมให้ นายน่ะทำให้อยู่แล้ว
มินอูเดินมาหยิบน้ำพร้อมผ้าเช็ดหน้าหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆ ดงวาน
มินอู: ไอ่ริคมันเป็นไรน่ะ นายสังเกตป่ะ ดงวาน: หืม ริคน่ะเหรอ ... ทะเลาะกะแอนดี้ล่ะมั้ง มินอู: เฮ้ย! ไม่ใช่หรอก ถ้าทะเลาะกะแอนดี้น่ะ แอนดี้มันมาฟ้องชั้นนานแล้ว ดงวาน: งั้นก็คงหิว มินอู: ไอ่นี่ ..ชั้นจะได้เรื่องได้ราวจากนายมั่งมั้ยเนี๊ยะ
ว่าแล้วมินอูก็ลุกเดินไปหาพ่อสุดหล่อที่นั่งหอบหายใจเพราะเพิ่งเลิกจากซ้อมเต้นมาหมาด ๆ เหมือนกัน ดงวานมองตามร่างเตี้ยที่เดินไปพร้อมสีหน้างง ๆ ดงวาน: อ่าว ก็คนมันไม่รู้นี่หว่า ผิดเรอะ???.
จากการใช้เรด้าพิเศษสังเกตอาการเอริคตั้งแต่เช้า ปรากฏว่าคลื่นผิดปกติกำลังแรงกล้า คลอบคลุมเพื่อนสุดหล่อของเค้าอยู่ชัวร์แน่ ๆ แล้ว มินอูเดินไปแตะบ่าเพื่อนก่อนทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ
มินอู: ว่างัยมั่ง เอริค: ว่างัยเรื่องไร มินอู: ก็มีเรื่องอะไรก็ว่ามาให้หมด เอริค: เอาจริงดิ .... งั้นชั้นขอพักซ้อมซักชั่วโมง มันเหนื่อยคอด ๆ ได้ป่ะ แค่นี้แหละเรื่องที่มี มินอู: เออ .. ก็ถ้าแค่นี้ก็เอาดิ เป็นไรไปเล่า พักก่อน เดี๋ยวชั้นว่าจะไปซ้อมท่าให้ดงวานมันพอดี
เงียบไปอีกครู่ใหญ่ เอริคหลับตาลง พักสายตาของเค้านิดนึง ก่อนจะลืมตา เหลียวมองไปทางแอนดี้ ที่ตอนนี้กำลังให้จอนจินสอนท่าเต้นอยู่อีกด้านหนึ่ง ไม่ไกลนัก เอริค: ... ชั้นคงไม่ได้อยู่ช่วยโซโล่ของแอนดี้ ถ้ายังงัยวานนายดูเค้าให้หน่อยละกัน
เอริคเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ หยิบน้ำมากรอกปากอึกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจพูดถึงสิ่งที่ตัวเองกังวลอยู่ขณะนี้กะเพื่อนซี้ด้วยสีหน้านิ่ง ๆ
มินอู: ทำมัย พ่อเรียกตัวแล้วเหรอ เอริค: อืม ... ให้กลับเลยด้วยซ้ำ แต่ชั้นขอเวลาเค้าหน่อย มินอู: ก็บอกน้องมันไปสิ แอนดี้ไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยากซักหน่อย เอริค: ให้ชั้นจัดการอะไรให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า ชั้นอยากให้เค้าภูมิใจในตัวชั้นในวันที่ชั้นทำสำเร็จแล้วมากกว่าน่ะ มินอู: งี้น้องมันจะน้อยใจเอานะ เส็ดจากโซโล่มันก็ต้องเข้ากรม แล้วนายก็ไม่อยู่อีก เอริค: ก็นั่นงัย เลยต้องให้นายช่วย
แอนดี้: พี่ริคจะไปไหนเหรอฮะ ทำมัยถึงไม่อยู่ มินอูกับเอริค คุยกันอย่างเคร่งเครียดจนลืมสังเกตว่าแอนดี้เดินมาหาพวกเค้า เสียงน้องเล็กดังขึ้นด้านหลัง ทำให้เค้าทั้งคู่สะดุ้งเฮือกพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
แอนดี้กำลังยืนหอบหายใจแฮ่ก ๆ เหงื่อโทรมทั่วทั้งตัว สีหน้าแดงระเรื่อเนื่องจากผ่านการเต้นมานานหลายชั่วโมง ถามเอริคขึ้นด้วยสีหน้างง ๆ เอริค: แอนดี้ เหนื่อยมะ (เสียงอ่อนเสียงหวานทันทีนะ ตามุน) แอนดี้: พี่สองคนคุยกันเรื่องอะไรฮะ มินอู: ชั้นว่าชั้นไปซ้อมเต้นให้ดงวานดีกว่า มันน่ะ เต้นท่าง่าย ๆ ยังไม่ได้เลย ไปนะ
แล้วมินอูก็ชิ่งไปซะเฉยๆ ปล่อยเอริคมองตามปากพะงาบ ๆ อย่างขอความช่วยเหลืออยู่ตรงนั้น
แอนดี้: ว่างัยฮะพี่ริค พี่จะไปไหน เอริค: ก็ไม่มีอะไรหรอก เสร็จกิจกรรมโปรโมทกะคอนนี้ ชั้นต้องกลับบ้าน ก็แค่นั้นแหละ แอนดี้: อ่าว แล้วโซโล่ผมล่ะ พี่จะไม่อยู่ช่วยงั้นเหรอ
น้องเล็กทำหน้าดุ คิ้วขมวดมองอีกคนอย่างหาเรื่องวีนเต็มที่ เอริค: ชั้นขอโทษนะแอนดี้ แต่นายให้มินอูช่วยก็ได้นิ ใช่มั้ย แอนดี้: พี่ริค พี่ผิดสัญญากะผมแล้วใช่มั้ย เอริค: ก็ ... จะให้ทำงัยเล่า นายช่วยเข้าใจชั้นหน่อยไม่ได้เหรอ (เอริคยังคงควบคุมเสียงตัวเองให้อ่อนหวานที่สุด ทั้ง ๆ ที่ในใจ เริ่มจะก่ออารมณ์เล็ก ๆ ขึ้นมามั่งแล้ว) แอนดี้: พี่ก็เอาเหตุผลที่มันเข้าใจง่าย ๆ มาบอกผมซะหน่อยไม่ได้เหรอ เอริค: ก็... คือ ...
แล้วเอริคก็ได้แต่เงียบ ขืนพูดต่อไป มีหวัง ได้ทะเลาะกันแน่ ๆ แอนดี้: พี่เอริค ...... พี่จะไม่พูดใช่มั้ย
ว่าแล้วแอนดี้ก็หันหน้าหนี ก้าวยาว ๆ ไปตรงประตู ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวจนเอริคได้แต่ถอนหายใจมองตามร่างเล็ก ๆ ด้วยสีหน้ากังวล
..... หลายวันถัดมา อาการเย็นชาใส่กันของทั้งคู่ พลอยทำให้เพื่อน ๆ ในวงหดหู่ตามๆ กัน จิน: ฮเยซองจ๋า ฮเยซอง: จอนจิน ใครใช้ให้นายเรียกชั้นว่าฮเยซอง ห๋า จิน: ก็อยากเรียกงี้ ไม่ได้เหรอ ฮเยซอง: ไม่ได้เฟ้ย จิน: อ่ะ งั้นเรียกที่รัก ฮเยซอง: ไม่ได้ จิน: พี่อ่ะ ฮเยซอง: นี่ นาย ... เลิกกวนอารมณ์ชั้นได้แล้ว
จิน: แล้วงี้ มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเหรอ จินยังคงทำเสียงออดอ้อนเต็มที่ ฮเยซอง: คำเรียกมันสำคัญกับนายมากนักเหรอ... สายตาพิฆาตบวกคำพูดเย็นเฉียบคำนี้ของฮเยซอง ทำให้ลูกนกได้แต่ปิดปากเงียบกริบไปตามระเบียบ จิน: โธ่ ไรอ่ะ เราก็นึกว่าจะหวานขึ้นมั่ง ... ฮเยซองหันไปมองอีกคน ที่ยังคงนั่งฮึดฮัด ๆ เหมือนเด็ก 5 ขวบโดนขัดใจอยู่คนเดียว ด้วยความระอาแต่ติดตลกซะมากกว่า
เอ่อ นี่หดหู่กันและชิมิ ....
เสียงฮเยซองกะจอนจินที่หน้ากระจก ดึงสายตาแอนดี้ ที่นั่งคอตกอยู่ตรงโซฟา หันไปมองด้วยอาการเซ็ง ๆ ก่อนถอนใจยาว ๆ อีกเฮือก
หลายวันมานี้ เค้าแทบจะไม่ได้คุยกะเอริคด้วยซ้ำ อยู่บนเวที เค้าเองแหละ ที่พยายามเดินเลี่ยงอีกคน กลับถึงบ้าน ก็อาบน้ำและชิงหลับก่อน ซึ่งเอริคพอเห็นว่าตัวเองหลับ ก็ไม่ได้รบกวนอะไร
มินอูนั่งมองอาการน้องอยู่นานสองนาน ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งลงข้าง ๆ แอนดี้
มินอู : ทำมัยทำหน้ามุ่ยอย่างนั้นล่ะแอนดี้ แอนดี้: ป่าวหรอกฮะ แค่เหนื่อย ๆ มินอู: ยังโกรธเอริคอยู่เหรอ แอนดี้: ก็พี่เค้าไม่เห็นพูดหรืออธิบายอะไรผมซักอย่างเลยอ่ะ มินอู: อืม ... แอนดี้: พี่ฮะ หรือว่าพี่ริคจะต้องกลับไปแต่งงานกะผู้หญิงที่ทางบ้านเลือกให้จริง ๆ ฮะ มินอู : เฮ้ย! ไม่จริงนะ เอาที่ไหนมาพูด แอนดี้: นั่นสิ ผมก็ว่างั้น แต่พี่จินนี่อ่ะ ดันมาพูดให้คิดมาก มินอู: มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เลิกคิดเหอะ แอนดี้: ผมก็ไม่อยากคิดหรอก แต่มันห้ามไม่ได้นิ พี่ห้ามความคิดตัวเองได้ด้วยเหรอ มินอู: ก็ไม่ได้หรอก แต่ ... .อืม.... เอางี้นะ เผื่อมันจะทำให้นายสบายใจขึ้น ...
มินอูนั่งตัวตรงตีสีหน้าจริงจังขึ้นนิด ก่อนเริ่มต้นอธิบายบางอย่างให้น้องคนเล็กเข้าใจ ปล่อยไปงี้ เค้าเองก้ไม่สบายใจเหมือนกัน แอนดี้: เอางัยเหรอฮะ มินอู : นายจำเรื่องที่ฮเยซองเล่าให้นายฟังเมื่อก่อนได้มั้ย เกี่ยวกับเอริคน่ะ แอนดี้: อ๋อ เรื่องแต่งงานน่ะเหรอ มินอู: อืม แล้วก็งานทางบ้านเอริคด้วย ... แอนดี้ : (- -) (_ _) (- -) (_ _) มินอู : มันก็แค่กลับไปเพื่อไปเคลียร์เรื่องนี้แหละ ก็แค่นั้น แอนดี้: แค่นี้เองเหรอ แล้วทำมัยไม่บอกล่ะฮะ ไม่เห็นจะมีปัญหาไรเลย ว่าแต่ เคลียร์ยังงัยเหรอฮะ มินอู: อันนี้ก้ไม่รู้แหะ แต่เอาน่า ขึ้นชื่อว่าเอริค หมอนี่มันทำได้อยู่แล้ว แอนดี้: ก็ถ้าแค่นี้ แล้วทำมัยพี่เค้าไม่บอกผมล่ะฮะ มินอู: มันกลัวว่านายจะคิดมากน่ะสิ มันต้องกลับไปทำงานที่มันไม่ชอบ นายก้รู้ใช่มั้ย ว่ามันเซโนกะงานอ๊อฟฟิชอยู่แล้ว แอนดี้: อืม ก็ใช่ แต่ ... ถ้าไม่ชอบ แล้วพี่เค้ายังต้องทำด้วยเหรอ เพราะผมใช่มั้ย เพราะพี่เค้าไม่ยอมแต่งงานใช่มั้ยฮะ มินอู: เห็นมั้ย นายก็ต้องโทษตัวเองอยู่ดีแหละ ความจริงแล้ว มันก็แค่กลับไปซักระยะ แค่นั้นแหละ ฉะนั้น นายอย่าโกรธเอริคมันเลย เวลาเหลืออยู่น้อย รักกันให้มาก ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ ใช่มั้ย ฮึ.. เรื่องอื่น หมอนั่นจัดการได้ พี่เชื่ออย่างนั้น..
มินอูโอบไหล่แอนดี้ ยิ้มหวานส่งกำลังใจให้อีกคน พลอยให้สีหน้าที่หมองเศร้า คลี่ยิ้มออกมาได้ แอนดี้: ก็ถ้าพี่บอกผมแต่แรก มันก็โอไปแล้ว (เสียงแจ่มใสขึ้นทันที) มินอู: คราวนี้ยังจะงอลไอ่ริคอีกมะ แอนดี้: ผมก็ปล่าวงอลหรอกฮะ แค่รอให้พี่เค้ามาง้อซักครั้ง แต่พี่เค้าก็เปล่าเลย นี่ก็ไม่รู้หายไปไหน มินอู: ไปธุระกะดงวานน่ะ เรื่องงาน เดี๋ยวก็มา ...จำไว้นะ เอริคน่ะเค้ารักนายมาก ไม่ต้องห่วงหรอก เชื่อใจมันเหอะ แล้วไม่ต้องบอกมันล่ะ ว่าพี่บอกอะไรนาย โอเค๊ แอนดี้: ฮะ ขอบคุณพี่มินอูฮะ
แล้วน้องน้อยของเราก็ยิ้มกว้าง มินอูได้แต่จับแก้มกลม หยิกเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู มินอู : นายก็น้องรักของพี่นี่ ไอ่โน่นก็เพื่อนรัก ไม่อยากให้ผิดใจกัน โน่นเอริคกะดงวานมาและ คุยกันดี ๆ นะ พี่เห็นเอริคมันเศร้าแล้ว รู้สึกผิดธรรมชาติชอบกล
แอนดี้หันไปมองตามเอริคที่ตอนนี้เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับดงวาน เค้าจึงตัดสินใจลุกจากที่นั่งข้าง ๆ มินอู เดินไปลากมือเอริคออกนอกห้อง .. และโดยไม่ทันตั้งตัว คนโดนลากก็ได้แต่ทำหน้างง ๆ แต่ยังคงเดินตามไปด้วยดี
เมื่อถึงห้องแต่งตัว แอนดี้ผลักประตูเปิด พร้อมดึงอีกคนเข้ามาและล็อคประตูนั่นซะ ก่อนจะปล่อยมือที่กุมอยู่ เปลี่ยนมาเป็นใช้สองมือจับไหล่กว้างของเอริค เขย่งปลายเท้ากดจูบลงบนแก้มคนตัวสูงเบา ๆ เอริค: หืม ... นายหายโกรธชั้นและเหรอ สีหน้าท่าทางที่ยังงง ๆ เหวอ ๆ ของเอริค เรียกรอยยิ้มใสบนใบหน้าอีกคนได้ทันที แอนดี้: ผมเปล่าโกรธพี่นะ แค่งอนนิดหน่อย พี่ก็ไม่ยอมง้อ ผมเลยคิดว่าจะเลิกงอนและ ไม่สนุกเลยเวลาที่ผมกะพี่ไม่พูดกันแบบนี้ เอริคยิ้มกว้าง สองมือประคองหน้าแอนดี้อย่างทะนุถนอม ดึงเข้ามาชิดกับใบหน้าเข้มของตัวเอง เอริค: ชั้นก็รู้สึกไม่สนุกเหมือนกันแหละ แต่ทำงัยได้ กลัวพูดไป นายจะยิ่งโกรธน่ะสิ แอนดี้: ต่อไปนี้ผมจะไม่โกรธพี่และฮะ ไม่ว่าพี่จะทำอะไร ผมเชื่อว่าพี่จะไม่ทำให้ผมเสียใจหรือผิดหวัง ใช่มั้ยฮะ เอริค: อืม แน่นอน .... แฟนชั้นเนี๊ยะน่ารักที่สุดในโลกเลย ว่าแล้วก็คว้าตัวแอนดี้มากอด ก่อนโน้มหน้าเค้าลงมาเพื่อหมายจะจุมพิตปากบางนั่น แต่ก่อนที่ริมฝีปากทั้งคู่จะได้แตะกัน
แอนดี้: พี่ฮะ พี่จะไม่อยู่ตอนผมโซโล่ แล้วตอนผมจะเข้ากรมไป พี่ก็จะไม่อยู่ใช่มั้ย พูดถึงตรงนี้ น้องน้อยมีสีหน้าสลดลงนิดนึง พลอยทำให้หน้าเปื้อนยิ้มกว้างของเอริค สลดลงไปทันทีด้วย เอริค: อืม... (เค้าก้มหน้าลงมองพื้น นึกโทษตัวเองอยู่ในใจ ทำมัยเพื่อคนที่รักคนเดียว เค้าถึงทำอะไรไม่ได้เลยซักอย่างนะ) แอนดี้: อย่าทำหน้าเศร้าสิฮะ เป็นไรหรอก ... แต่พี่สัญญากะผมได้มั้ย ว่าวันที่ผมกลับมา ผมจะต้องได้เห็นหน้าพี่เป็นคนแรก ใบหน้าหมองที่ก้มมองพื้นต่ำ กลับระบายยิ้มจาง ๆ มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง เอริค : ชั้นสัญญาด้วยชีวิตของชั้นเรย แอนดี้ นายจะได้เห็นชั้นเป็นคนแรกแน่นอน และแทนคำสัญญานั้น เอริคใช้ริมฝีปากแตะลงตรงหน้าผากอีกคนเบา ๆ ก่อนเลื่อนต่ำลงมาเป็นริมฝีปากแดงเรื่อนั้น เพื่อพันธนาการถ้อยคำสัญญาของเค้าไว้ นับจากวันนี้ไป เค้าจะไม่ทำให้ดวงใจดวงน้อย ๆ ของเค้าดวงนี้ ต้องเจ็บปวดอีกเลย นี่คือคำสัญญา ... จากผู้ชายปากแหลมคนนึง เอริค มุน..
. แต่ แอนดี้: อืม อื้มมมมมม ... เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากปากคนน้องเล็ก บวกกะอาการหายใจไม่ออก สองมือเล็กทั้งทุบทั้งตีทั้งผลัก เพื่อดันร่างของตัวเองให้หลุดจากอ้อมกอดที่รัดแน่น และปากของตัวเองที่กำลังจะหมดลมหายใจ แอนอี้: แฮ่ก ๆ ๆ พี่อ่ะ ผมเกือบตาย นี่บริษัทนะ เอริค: ก็นายน่ารักมากทำมัยเล่า ชั้นเลยอดใจไม่ไหว (ว่าแล้วก็ทำหน้าทำตาบ้องแบ๊ว โยนความผิดให้คนรักซะงั้น) แอนดี้ : พี่อ่ะ.. ไม่ทันให้แอนดี้ได้บ่นอีก เอริคชิงดึงเอาร่างที่เพิ่งหลุดจากกันเมื่อครู่ กลับมาไว้ในอ้อมแขนอีกครั้งแต่คราวนี้ เค้าโอบกอดร่างนั้นไว้อย่างหลวม ๆ ทะนุถนอม แต่ก็เต็มไปด้วยความรัก และอบอุ่นเหลือเกิน...
คอนเสิร์ตปิดอัลบั้มผ่านพ้นไปแล้วอย่างงดงาม ก่อนต้องพักวงต่อไปอีกกว่า 3 ปีเป็นอย่างน้อย เนื่องจากน้องเล็กในวง 2 คนที่ต้องไปเข้าประจำการเป็นทหารเหมือนพี่ ๆ กันบ้าง งานที่ต้องลุยต่อ ก็คือโซโล่ของแอนดี้และฮเยซอง
....วันนี้ก็เหมือนวันเดิม ๆ พวกเค้าจัดปาร์ตี้เพื่อเลี้ยงฉลองให้กับความสำเร็จเล็ก ๆ หลังงานปาร์ตี้กะทีมงานเมื่อคอนเลิก
ที่มุดหัวที่เดิม ๆ บ้านแอนดี้ เอริคที่นั่งอยู่ริมระเบียง กำลังยกเบียร์กระป๋องขึ้นมาจิบ สายตาก็ทอดมองไปยังร่างเล็ก ๆ ซึ่งกำลังสนุกสนานอยู่กะการโชว์มายากลให้จอนจินและดงวานดู สีหน้าเครียดบนใบหน้าขรึม ๆ ระบายไปด้วยยิ้มทุกครั้งที่เห็นอีกคนในห้องหัวเราะชอบใจกะมายากลของตัวเอง แววตาคู่สวยเศร้าลงนิดหน่อยเมื่อย้อนนึกถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดและเครียดอยู่ในขณะนี้ และการที่จมอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง จนไม่ทันได้สังเกตถึงใครอีกคนที่เดินมามองนั่งตรงข้าง ๆ มองหน้านิ่ง ๆ ของอีกฝ่ายอยู่นานแล้ว
ฮเยซอง: นายกำลังหลับในอยู่ใช่มั้ยเอริค
เสียงของฮเยซองเหมือนจะฉุดให้ความคิดของเค้ากลับมายังโลกปัจจุบันทันที
เอริค:
ป่าว แค่กำลังคิดอะไรเรื่อย ๆ ฮเยซอง : หนักใจเหรอ เอริค: หึ !! คนเก่ง ๆ อย่างชั้นเนี๊ยะ มีอะไรที่จะต้องหนักใจด้วยงั้นเหรอ ถามจริง (เอริคพูดยิ้ม ๆ พร้อมทั้งกระดกเบียร์อีกอึกใหญ่) ฮเยซอง : ไอ่นี่
ทั้งคู่นั่งดื่มเบียร์กันเงียบ ๆ ริมระเบียง สายลมหนาว ๆ พัดผ่าน จนต้องกอดกระชับเอาตัวเสื้อหนาที่ใส่ให้ยิ่งแนบตัวมากขึ้น สายตาของเอริค ที่เหม่อมองไปยังรอยยิ้มใส ๆ อยู่นาน และไม่มีทีท่าว่าจะเหนื่อยหน่ายที่ได้เฝ้ามองแม้แต่น้อย ส่วนสายตาฮเยซองมีจุดหมายไม่ได้ไกลไปกว่ากันนัก นั่นคือร่างสูงๆ ที่คอยหัวเราะพร้อมทุบตีเอาแขนดงวานทุกครั้งเวลาที่ชอบใจกะอะไรตรงหน้ามาก ๆ ทำให้ดงวานต้องหันกลับมาทำหน้าดุ ๆ ใส่ ใช่แล้ว ลูกนกนั่นเอง ... .. ผ่านไปอีกนาน
ฮเยซอง: นายคิดว่าแอนดี้จะเป็นงัย ถ้านายต้องไปแล้ว เอริค: เค้าเข้มแข็งพอน่า
มันก็แค่ชั่วระยะหนึ่ง ทำไม? นายยังจะคิดมาแย่งแอนดี้ไปจากชั้นอีกเหรอ
เอริคไม่พูดเปล่า หันมาทำตาค้อนใส่อีกฝ่ายอย่างคนหวงของ
ฮเยซอง:นี่ยังเห็นชั้นเป็นศัตรูหัวใจของนายอยู่อีกหรืองัย (ฮเยซองพูดปนหัวเราะ) เอริค: นายก็คอยแย่งแอนดี้ไปจากชั้นตลอดเวลาอยู่แล้วนิ เดี๋ยวจะบอกไอ่จินนี่ ให้จับตานาย 24 ชั่วโมง ฮเยซอง: ไอ่บ้านี่
ว่าแล้วก็ทำหน้าขรึมใส่กัน ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันทั้งคู่
มินอู: มีความสุขเชียวนะ มานั่งสารภาพรักไรกันตรงนี้วะ
มินอูที่ตอนนี้เดินออกมานั่งร่วมแจมกับเพื่อนด้านนอก ทักขึ้น
ฮเยซอง : สารภาพรักกะบ้าอะไร มันจะฆ่าชั้นอยู่เนี๊ยะ มินอู: นี่เอริค นายจะฆ่านักร้องนำของวงเราเลยเหรอ เอริค: ก็ถ้านายรับปากว่ายอดเทปของเราไม่มีทางตกแน่นอนหากไม่มีมัน ชั้นก็จะทำแหละ .... .. แล้วทั้งสามคน ก็นั่งจิบเบียร์ดื่มด่ำบรรยากาศภายใต้แสงจันทร์และกระแสลม สายตาทอดมองสิ่งมีชีวิตอีก 3 คนผ่านกระจกใส ที่ยังคงเล่นและหัวเราะกันอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้สนใจใครอื่นเลย ก่อนที่สายตาแอนดี้จะหันมาเห็นพี่ทั้งสาม ที่นั่งดื่มเบียร์หันมามองพวกตนเองอยู่ จึงกวักมือเรียกให้เข้ามาด้านใน เอริคยันตัวลุกขึ้น วางกระป๋องเบียร์ลง บิดขี้เกียจก่อนจะหันมาบอกเพื่อนทั้งสองคน เอริค: ยังงัยซะ ชั้นก็ฝากดี้ไว้กะนายสองคนด้วยละกัน โอเคมั้ย
ว่าแล้วก็เดินห่อไหล่กลับเข้าด้านใน ปล่อยอีกสองคนมองตามอย่างอดเป็นห่วงและกังวลในท่าทีนั้นไม่ได้
....
เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังชวนน่ารำคาญ ปลุกให้คนขี้เซาที่ยังไม่พร้อมจะลุกให้หัวเสียได้แต่เช้า มือเล็กควานหาแหล่งที่มาของเสียง แต่ควานหายังไงก็ไกลมือเหลือเกิน แอนดี้: พี่ฮะ ปิดนาฬิกาให้หน่อยสิ หนวกหูมากเลยอ่ะ ... แอนดี้: พี่เอริคฮะ ... ...พี่ริค มีเพียงเสียงนกร้องตรงหน้าต่างกับเสียงนาฬิกาที่ตอบกลับการเรียกของเค้าเท่านั้น แอนดี้รีบลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาแรง ๆ พลางสอดส่ายสายตาหาใครอีกคนที่เมื่อคืนก็นอนข้างๆ กันตรงนี้ ก่อนจะตะโกนวิ่งออกไปหาด้านนอกด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
แอนดี้: ไม่นะ พี่เอริค พี่ริค พี่...
บ้านทั้งบ้านมีเพียงความว่างเปล่า ทั้งในครัว ระเบียง ห้องน้ำ หน้าทีวี ไม่ปรากฏร่างของสิ่งมีชีวิตใดเลย นอกจากเค้าลำพัง หัวใจที่ยังเต้นโครมคราม บวกกะน้ำตารื้น ๆ ที่ตอนนี้แทบจะทะลักอยู่รมร่อ แต่ยังคงคิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่เค้า คงออกไปข้างนอกล่ะมั้ง ก่อนสองขาสั้น ๆ จะเริ่มต้นวิ่งเข้าไปยังห้องนอนอีกครั้ง ควานหาโทรศัพท์มือถือ กดเบอร์ที่คุ้นเคย
แต่แล้วก็มีเพียงความเงียบ ...
เสียงปลายสายบอกให้รู้ว่าขณะนี้เจ้าของเบอร์กำลังปิดโทรศัพท์ อะไรหนอที่ทำให้เค้าติดต่อไม่ได้ในตอนนี้ ตอนที่หัวใจดวงเล็กว้าวุ่นที่สุด
RRRRRRRRRRRR...
เสียงโทรศัพท์เข้า หน้าจอแจ้งชื่อว่าเป็นพี่มินอู แอนดี้รีบกดสายรับทั้งที่มือยังคงเย็นเฉียบเหมือนเดิม
แอนดี้: พี่มินอูฮะ มินอู: วันนี้ต้องเข้าบริษัทไม่ใช่เหรอ สายแล้วตื่นรึยังแอนดี้ แอนดี้: พี่ฮะ พี่เอริค .. พี่เอริคล่ะฮะ มินอู : ...นายเข้ามาที่บริษัทนะ มาคุยกันที่นี่ โอเคมั้ย พี่จะรอนายนะ แอนดี้: พี่บอกผมก่อนสิฮะ พี่เอริคล่ะ พี่เค้าอยู่กับพี่ใช่มั้ย มินอู: อาบน้ำซะนะ พี่จะรอ แอนดี้: พี่มินอู เดี๋ยวสิฮะ พี่ .. พี่ ตื๋ดดดดดดดดดด...
หัวสมองตอนนี้ ยากจะประมวลอะไรต่อมิอะไรได้เลย เหมือน ๆ เค้ากำลังสับสน ใจก็คิดหวังให้เอริค รอเค้าอยู่ที่บริษัท แต่เพราะสาเหตุอะไรล่ะ ทำมัยไม่รอไปพร้อมกัน ส่วนอีกใจ ยังมีอีกสาเหตุที่หากเป็นจริง ตัวเค้าก็รับไม่ได้เหมือนกัน แค่คิดก็พาลน้ำตาจะไหล แอนดี้สะบัดหัวแรง ๆ อีกครั้ง ก่อนเริ่มต้นตั้งสติใหม่ เค้ารีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำจัดการกับธุระส่วนตัวของตัวเองอย่างรีบร้อน
และทันทีที่ก้าวถึงบริษัท และรู้ว่ามินอูอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ขาอันอ่อนแรงมันก็พาให้ร่างกายมาเจอกับมินอูได้อย่างรวดเร็ว
แอนดี้: พี่ฮะ พี่เอริคล่ะฮะ พี่เอริคอยู่ที่นี่ใช่มั้ย มินอู : เอริคเดินทางเมื่อคืนแล้ว เค้ากลับเมกาไปแล้ว แอนดี้: พี่ว่างัยนะ พี่เอริคน่ะเหรอ ทำมัยฮะ พี่โกหกผมทำมัย มินอู: พี่ไม่ได้โกหกนาย พี่ไปส่งเจ้านั่นที่สนามบินเองเลยด้วยซ้ำ พี่จะโกหกนายเพื่ออะไรกัน แอนดี้: พี่เอริคขี้โกงอ่ะ ทำมัยไม่บอกผม ผมยังไม่ได้บอกลาเค้า ผมยังไม่ได้บอกเค้าว่าขอให้โชคดี เค้ายังไม่ได้พูดอะไรกับผมซักคำ ไม่ได้อะไรเลยอ่ะ
แล้วร่างเล็กก็ทรุดลง ใช้สองมือปิดหน้า น้ำตาที่กลั้นมาแต่เช้า บัดนี้ไหลระรินอาบแก้มใส มินอูได้แต่มองภาพตรงหน้าอย่างคนไม่รู้จะปลอบใจยังงัย
มินอู : เอริคฝากชั้นบอกนายว่า อย่าร้องไห้ และขอให้อัลบั้มชุดนี้ ประสบความสำเร็จก่อนนายต้องเข้ากรมไป แอนดี้: แค่นี้เหรอฮะ ฮือ ๆ ๆ แค่นี้เหรอที่พี่เค้าฝากมาน่ะ ฮือ ... แค่นี้เองเหรอ หนีไปแบบนี้ แล้วยังจะมาอวยพรอะไรงี่เง่า ๆ แบบนี้น่ะเหรอฮะพี่มินอู
บัดนี้อาการน้องเล็ก กลับรุนแรงขึ้นเกินกว่าที่มินอูคาดคิดไว้แต่แรก ร่างทั้งร่างสั่นระริกด้วยความโมโหบวกกะแรงกระเพื่อมของการสะอื้นไม่หยุดหย่อน โชคดีที่นี่เป็นเวลาเช้า และห้องนี้ ก็มักจะมีแค่บรรดาชินฮวาที่มาใช้งานเท่านั้น ไม่ค่อยมีใครมาเพ่นพ่านซักเท่าไหร่นัก
มินอู: เอริคไปเงียบ ๆ ก็เพราะเค้าไม่อยากเห็นสภาพนายตอนนี้น่ะสิแอนดี้ ดูสิ คิดเหรอว่าถ้าเป็นมัน มันจะยอมหันหลังเดินไปทั้งที่นายสะอื้นแทบตายแบบนี้น่ะ แอนดี้: พี่อย่ามาขึ้นเสียงนะ ... แล้วมันถูกต้องและใช่มั้ย ที่ไปโดยไม่บอกผมซักคำแบบนี้อ่ะ ไอ่พี่ใจร้าย พี่เอริคใจร้ายที่สุดในโลก ฮือๆ ๆ
มินอูได้แต่นั่งมองดูน้องที่ยังคงนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ตรงนั้น เค้าก็พอจะเดาได้หรอกนะ ว่าแอนดี้เสียใจขนาดไหน แม้คำล่ำลาก็ไม่มีซักคำ แต่เค้าก็เข้าใจเพื่อนอีกคน เอริคคงไม่อยากอยู่ในบรรยากาศแบบนี้แน่ ๆ หากเค้าเห็นน้ำตาของแอนดี้ตอนนี้ คาดได้ว่าเอริคคงแทบจะคืนตั๋วและยกเลิกการเดินทางซะด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้คืองานสำคัญ เค้าต้องไป เพื่อที่จะปกป้องความรักและความฝันของตัวเค้าเอง และคนที่รักที่สุดตรงหน้าเค้าตอนนี้ มินอู : ไหนนายเคยบอกพี่งัย ว่านายจะเชื่อมั่นในตัวเอริค นายจะไม่ทำให้เอริคหนักใจ นายจะไม่ทำให้เค้าเป็นห่วงนาย แล้วนี่อะไร ยังไม่ทันข้ามวันเลย นายก็อ่อนแอแล้ว แล้วงี้ไอ่ริคมันจะเป็นอันทำอะไร ถ้ารู้ว่านายมีสภาพแบบนี้น่ะแอนดี้
แอนดี้ .. (แอนดี้ยังคงสะอื้นต่อไป) มินอู : นายเลือกเอาแล้วกัน ว่าจะร้องไห้แบบนี้ หรือว่าจะเข้มแข็ง แล้วตั้งใจทำงาน รอเอริคอยู่ตรงนี้.
แอนดี้เงยหน้าขึ้นมองมินอูช้า ๆ ตอนนี้ดวงตาบวมช้ำอย่างมากเพราะการร้องไห้ น้ำตายังคงรินไหลอาบแก้มใสอย่างไม่มีทีท่าว่าจะขาดสาย
มินอู: นายจะเลือกทำข้อไหนแอนดี้ แอนดี้: พี่จะเป็นงัยฮะ ถ้าตื่นมาแล้วพบว่าคนที่นอนอยู่ด้วยกันข้างๆ กันทุกวันหนีไปอย่างไม่บอกไม่กล่าวน่ะ พี่จะอยู่เฉยๆ ไม่รู้สึกอะไรงั้นเหรอฮะ..
RRRRRRRRR .. เสียงโทรศัพท์มินอู ดังแทรกเสียงสะอื้นของแอนดี้ขึ้นมา
มินอู: ว่างัยถึงแล้วใช่มั้ย เอริค: อืม มินอู: ชั้นอยู่กับแอนดี้ จะคุยหน่อยมั้ย เอริค: ... อืม
แล้วมินอูก็ยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้าอีกคน แอนดี้รีบคว้าทันที ที่คิดว่าน่าจะเป็นสายจากเอริค แอนดี้: พี่ริคฮะ ทำมัยพี่ไม่บอกผม ทำมัยพี่ทำแบบนี้
แอนดี้ตะโกนใส่โทรศัพท์ด้วยอารมณ์รุนแรง ไม่หวั่นใด ๆ ถึงแม้ว่าอีกคนที่ปลายสาย จะเป็นคนที่เค้ารักสุดหัวใจก็เหอะ
เอริค: นายกำลังร้องไห้ใช่มั้ย นายร้องไห้เพราะชั้นใช่มั้ย แอนดี้ (เสียงเอริค ยังคงทุ้ม และอบอุ่นเหมือนเดิม) แอนดี้: ผมร้องไห้เพราะพี่นั่นแหละ รู้ไว้ พี่ใจร้าย ใจร้ายที่สุด ไม่เคยพบเคยเห็น ฮือๆ ๆ ทำมัยพี่ทำแบบนี้
เอริค: ...ในห้องแต่งตัววันนั้น นายบอกชั้นว่าอะไร จำได้มั้ย แอนดี้:ผมไม่อยากจำหรอก เอริค: งั้นนายต้องการให้ชั้นกลับไปหานายตอนนี้มั้ย เอามั้ย กลับไปปลอบนาย ไปโอ๋นายให้นายเข้มแข็ง ให้นายเชื่อใจชั้นเหมือนที่ชั้นเคยพูดซ้ำไปซ้ำมา เอามั้ย แอนดี้
จากเสียงนุ่ม ๆ ของเอริคเปลี่ยนเป็นจริงจัง ซึ่งคราวนี้ได้ผล แอนดี้เริ่มรู้ตัวว่าตัวเองกำลังตะโกนคำทุกคำออกไปด้วยอารมณ์รุนแรงมากเกินไปแล้ว
แอนดี้: ... อย่างน้อย พี่ก็น่าจะบอกผม พี่น่าจะให้โอกาสผมบอกลาพี่มั่ง เอริค: ชั้นคิดว่านายจะเป็นคนที่เข้าใจและรู้จักชั้นมากที่สุดซะอีก ชั้นไม่ต้องการได้ยินคำลา ไม่ต้องการเลย แล้วเราก็ไม่จำเป็นต้องบอกลา เพราะเราไม่ได้จากกันไปไหนซะหน่อยนี่ ชั้นก็ยังอยู่กับนาย นายจำไม่ได้เหรอ ฮึ! เด็กน้อย ชั้นเข้าใจผิดใช่มั้ย นายไม่เข้าใจชั้นเลยงั้นสิ แอนดี้:...เปล่าฮะ เอริค: ดีแล้ว งั้นต่อไปนี้ก็ไม่ต้องร้อง ชั้นจะสั่งให้มินอูคอยดูนายตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถ้านายร้องไห้ นายมั่นใจได้เลยว่าชั้นต้องรู้แน่ๆ แล้วน้ำตานาย มันก็จะทำให้หัวใจชั้นพลอยเจ็บปวดไปด้วย เมื่อใจชั้นเจ็บปวด ชั้นก็จะหมดแรง แล้วชั้นก็จะหมดกำลังใจ คราวนี้เข้าใจรึยัง แอนดี้: ... ...ฮะพี่
แอนดี้เริ่มสงบสติอารมณ์ของเค้าได้นิดหน่อย แต่ไหล่บาง ยังคงสะอื้นเล็กน้อย
แอนดี้: ผมขอโทษ เอริค: ... เด็กน้อยของชั้น ต่อไปนี้นายต้องตั้งใจทำงานนะ อีกไม่นานเราก็ได้เจอกัน ชั้นจะโทรมาหานายบ่อย ๆ โอเคมั้ย แอนดี้:... ฮะ
..
เอริค : ให้นายรู้ไว้เสมอ ว่าชั้น รักนายนะ แอนดี้ .. แอนดี้ยิ้มให้กับข้อความจากปากคำนั้นของเอริค ทั้งที่คราบน้ำตายังเกาะพราวอยู่บนแก้ม และขนตางอน ๆ คำพูดที่สร้างความอบอุ่นลึก ๆ ได้ แม้จะฟังผ่านโทรศัพท์เค้ากลับรู้สึกเหมือนว่าอีกคน มากระซิบตรงหูเค้าเบาๆ เลยทีเดียว แอนดี้: ผมก็รักพี่ฮะ พี่ริค
Create Date : 06 มิถุนายน 2551 |
|
13 comments |
Last Update : 7 มิถุนายน 2551 18:49:16 น. |
Counter : 887 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: แม่ยกชูงแจ IP: 61.19.231.4 6 มิถุนายน 2551 10:51:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: เจ้านิ 6 มิถุนายน 2551 12:20:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: arce IP: 202.91.18.192 6 มิถุนายน 2551 13:11:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bowiie IP: 58.64.90.87 6 มิถุนายน 2551 14:05:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: rattanam IP: 203.151.144.4 6 มิถุนายน 2551 20:11:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: สปาเก็ตตี้แฮมชีส IP: 202.5.81.6 6 มิถุนายน 2551 23:44:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: praery_za IP: 58.10.170.55 6 มิถุนายน 2551 23:53:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: ket_dd IP: 58.8.119.102 7 มิถุนายน 2551 0:27:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่ยกชูงแจ IP: 117.47.3.199 7 มิถุนายน 2551 8:08:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ++*WizzE*++ IP: 124.120.108.65 7 มิถุนายน 2551 9:39:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: rattanam IP: 203.151.144.11 7 มิถุนายน 2551 18:48:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: praery_za IP: 58.10.170.246 7 มิถุนายน 2551 21:02:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|