บนถนนสายนั้น...






“กับการเดินทาง คุณชื่นชอบถนนสายใดมากที่สุด!?...”บ่อยครั้งที่ใครหลายคนชอบตั้งคำถามกันแบบนี้

แน่นอนคำตอบย่อมแตกต่างกันไป สำหรับผม ตอบได้ทันใดเลยว่า ชอบและผูกพัน ถนนบ้านเกิด - - ถนนสายแรกของชีวิต ที่เริ่มต้นจากเส้นทางเล็กๆ ผ่านหุบห้วย ภูเขา ลำเหมือง ผ่านท้องทุ่ง มุ่งสู่ ถนนสายใหญ่ - - ไกลและไกลออกไป

ถนนสายนี้แหละ คือถนนที่พาชีวิตตัวเองออกมาเผชิญกับโลกกว้าง ทั้งโลกในจินตนาการและโลกของความจริง

เป็นถนนที่ทำให้ผมได้รู้จักถนนอีกหลากสาย ทั้งแปลกแยกแตกต่าง ทั้งเงียบสงบทั้งอลหม่าน

เป็นถนนที่พาผมไปพบกับถนนของความราบเรียบและคดเคี้ยว ถนนของความสุขและทุกข์ ถนนของความรื่นรมย์และขมขื่นในชีวิต

จริงสิ เมื่อพูดถึงการเดินทาง คนบางคน ออกเดินทางในนาม นักท่องเที่ยว- -นักเดินทาง เพียงเพื่อต้องการแสวงหาความแปลกใหม่

คนบางคนออกเดินทางไกล เพียงเพื่อแบกเอาความเศร้า ความทุกข์อันหนักหน่ายในชีวิต ในการงาน ไปปลดปล่อยทิ้งไว้ในอีกสถานที่หนึ่ง ก่อนเดินทางกลับคืน ไปจ่อมจมอยู่กับความจริงที่ไม่อยากจำอยู่ซ้ำๆ

และยังมีคนหลายคน ออกเดินทางไปพร้อมความมุ่งมั่น แรงกล้า พกพาหัวใจเต็มไปด้วยความหวัง ทว่าตอนหวนคืนย้อนกลับบนถนนสายเก่า กลับพกพาความผิดหวังรวดร้าวมาพร้อมกับชีวิตที่พังพ่าย


* * *...บนถนนแห่งความกล้าหาญนี้

สายลมพัดผ่าน ทิ้งพฤกษาใหญ่น้อยไว้เบื้องหลัง

ที่นี่ มีเพียงก้อนหินและตะไคร่เท่านั้น

ไม่มีสมบัติพัสถานใดๆ ไว้ให้ใครค้นหา

ที่นี่ ไม่มีใครได้เป็นเจ้าของ...



อ่านถ้อยความของ 'เฮสเส' บทนี้แล้ว ทำให้ผมนึกไปถึงคนคุ้นเคยและญาติพี่น้องของผมที่พาชีวิตเหวี่ยงออกมาจากบ้านเกิด ออกมาเดินไปตามถนนสายนั้น

ภาพของหนุ่มน้อยหลายคนออกจากหมู่บ้าน ไปเป็นทหารในกองทัพ แล้วหวนกลับมาพร้อมกับความบอบช้ำของสงคราม ทว่าบางคนไม่ยอมกลับสู่บ้านของความจน หากเฝ้าทำงานเป็นนักเลงคุมผับบาร์ ในเมืองเชียงใหม่แทน

ภาพของหญิงสาวออกจากหมู่บ้าน ไปเป็นลูกจ้างในร้านอาหาร ในโรงงานขนมปัง ในโรงงานนิคมอุตสาหกรรมลำพูน แล้วพาร่างกลับมาพร้อมกายอันซีดผอมด้วยโรคร้าย และจากไปอย่างเงียบๆ

นั่น, ภาพชายวัยกลางคนละลูกเมียไว้ในบ้าน ก่อนแบกกระเป๋าเดินไปตามถนนสายนั้น ไปเป็นยามตามโรงแรม เพียงไม่นาน…เมืองใหญ่ก็กลืนเขาหายลับไม่กลับคืนสู่บ้านอีกเลย

แน่นอน...มีหนุ่มสาวบางกลุ่มออกจากหมู่บ้าน มาเรียนต่อในเมืองเพื่อหาความรู้ แต่กลับพบกับความไม่รู้ วิถีเคว้งบนทางแยกแปลกใหม่

บ้างพึมพำร่ำไห้ในความสับสนและเมามาย จะเดินหน้าหรือว่าถอยหลังกลับไป...ไม่รู้ ไม่เข้าใจตัวเอง

มีหลานชายผมคนหนึ่ง เรียนจบแล้วตัดสินใจหวนคืนบ้านเกิดทันที เขาตัดสินใจกลับไปพลิกผืนดินทำสวนทำไร่ พร้อมกับบอกว่า เราต้องกลับไปยึดฐานที่มั่นเอาไว้...ผมยิ้ม เหมือนยังมีดอกไม้แห่งความหวังดอกหนึ่งผลิบานในใจ

ในขณะที่ยังมีอีกหลายคนหลายใคร ยังคงมุ่งหน้าออกเดินทางไกล...ไกลไปจากเดิม

แน่นอน ยังคงมีอีกหลายชีวิต ที่ยังพร้อมเผชิญย่ำเดินไปบนถนนเมือง บ้างพลัดหลงเข้าสู่ปลักวังวนของความฟุ้งเฟ้อและดำมืด บ้างตกใจพยายามตะเกียกตะกายคว้าไขว่หาที่เกาะให้ยึดมั่น

ทว่าสิ่งที่จับได้กลับไร้ราก เปราะบาง ร่างจึงร่วงผล็อย ชีวิตจึงบาดเจ็บอยู่ซ้ำๆ มิรู้หาย แต่ก็จำออกเดินทางไกล ระเหระหนบนความไม่แน่นอนกันต่อไป

หลานสาวอีกคน ทำสีหน้าเศร้า บอกว่า ใจหนึ่งอยากกลับบ้าน แต่ไม่รู้จะกลับไปทำไม ในเมื่อบ้านหลังนั้นล่มสลายไปนานแล้ว

และเพื่อนรักของผมคนนั้น ออกจากบ้านมานานพอๆ กัน แต่กว่าจะกลับคืนสู่บ้านอีกครั้งก็ต่อเมื่อเหลือแต่ร่างที่ไร้ลมหายใจ

นั่นเป็นการเดินทางไกลที่สุดของชีวิต, ในความรู้สึกของผม

ผมพยายามทำความเข้าใจ...ในวิถีชีวิตของทุกคนกับการเดินทางบนถนนสายนั้น

บางสิ่งดูหม่นมัวไม่มีความกระจ่าง บางอย่างก็มิอาจอธิบายให้ใครเข้าใจได้

เหมือนกับผมในห้วงยามนี้ ที่พาตัวเองออกมาจากบ้าน นานและไกลเช่นเดียวกัน...

จนบางครั้งทำให้ผมครุ่นคิดไปต่างๆ นานา ทำไมคนเราต้องออกเดินทาง หรือว่าแท้จริงแล้ว ชีวิตเราล้วนมาจากทางสายเปลี่ยว...มาจากถนนที่พาเราซัดเซพเนจร ถนนสายที่ใครหลายใคร กำลังเดินทางไปที่โน่นที่นั่น ที่นี่...

เป็นถนนที่เชื้อเชิญใครหลายคนพาชีวิตออกมาสู่โลกภายนอก

อีกทั้งยังเป็นถนนที่ทอดร่างรอรับการกลับคืนของใครอีกหลายคน

และมาถึงตอนนี้ ผมมิอาจคาดเดาได้เลยว่า ท้ายสุดแล้ว ถนนสายนั้น, มันจะเป็นถนนของความกล้าหาญหรือว่าเป็นถนนของความว่างเปล่า...

แล้วคุณล่ะ...ชอบถนนสายใดในชีวิต!?




** บางถ้อยความใน “พเนจร”ของ “แฮร์มานน์ เฮสเส” วัชรา ทรัพย์สุวรรณ แปล สนพ.เจ้าพระยา จัดพิมพ์,2526

ตีพิมพ์ล่าสุด ในคอลัมน์ คนคือการเดินทาง เสาร์สวัสดี กรุงเทพธุรกิจ 23 ก.ย.2549



Create Date : 25 กันยายน 2549
Last Update : 25 กันยายน 2549 10:29:51 น.
Counter : 564 Pageviews.

28 comments
  
ชอบบทความของคุณ pu_chiangdao
ซึ่งเป็นบทความแนววิเคราะห์เพื่อการพัฒนา
ชุมชนและสังคมค่ะ ..
รู้สึกได้ถึงความห่วงใย และความจริงใจที่จะ
ค้นหาคำตอบที่ยังมืดมน
อ่านแล้วทำให้นึกไปถึงเพลง "Blowing in
the Wind" เลยค่ะ ที่คำถามหลายๆ คำถาม
ก็ยังไม่มีคำตอบ

ในเส้นทางข้างหน้า ขอให้คุณ pu_chiangdao
ได้พบดอกไม้แห่งความหวังอีกหลายๆ ดอก
ที่จะผลิบานในใจนะคะ ..
โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:16:52:49 น.
  
คิดว่า...การเดินทางไม่ว่าถนนสายใด
ถ้ามีคนร่วมทางที่ดี มีกำลังใจที่ดี ถนนที่ปลายทางมีคนที่เรารัก ไม่ว่าถนนเส้นนั้นจะเดินทางลำบากเพียงใด ก็ยังพอใจที่จะเดิน...

แต่...ความจริงแล้ว บางเส้นของถนนที่เดิน ก็ดูเดียวดาย ไม่มีกำลังใจและไร้เพื่อนร่วมทาง หลายคนคงล้มกลางทางและไม่ลุกอีกเลย
โดย: PANDIN วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:18:07:12 น.
  
ไม่ว่าถนนเส้นใดไม่สำคัญ แต่ไปกับใครและเพื่ออะไรมากกว่าน่ะเราว่า ^^' แหะๆ
โดย: . . . แ ค่ บ า ง ที " วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:23:18:09 น.
  
คุณภูเจ้า..บ่ดีเข้าใจ๋ผิดไป
นักเขียนเมืองนอกเปิ้นรวยกั๋นทึ๊ดๆ...เจ๊า

มีก่ะคุณภูนี่ละ บ่ รวยซักเตื้อ เอ็นดูลูกๆที่กำลังจะเกิดมาเน๊าะ จะได้กิ๋นผักต้มก่ะว่าปล๋าทู...ฮู้
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.165 วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:23:55:57 น.
  
โดย: กวิสรา วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:2:04:15 น.
  
# 4 นักเขียนเมืองนอกไม่ได้รวยทุกคนค่ะ อย่างน้อยก็สามีอิชั้นแหละ ไม่รวย ฮ่าๆ

เดินบนถนนสายกลาง ดีที่สุดอะ ว่ามะ

ดีกว่าสายธนบุรี-ปากท่อ อีก
โดย: Kala_mydog วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:4:20:39 น.
  
คุณภู..อ่านข่าวเรื่องแมวที่เจ้าของเปิ้นเป๋นไฮโซ ก่ซื้อปล๋ารมควันของนอกหื้อแมวกิ๋น มันเค็มล้ำน่ะ

บ่เมินแมวก่ต๋าย หมอบอกว่า ไตวายครับ
กิ๋นดีล้ำ มันเลยต๋าย อั้นเป๋นลูกคุณภูดีกว่า
ต๋ายยาก..เพราะมีคนไปช่วยเลี้ยง..อิๆ
โดย: แม่น้องนิก IP: 4.232.144.212 วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:7:13:49 น.
  



อรุณสวัสดิ์ค่า
โดย: กวิสรา วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:9:00:07 น.
  
ถนนสายนี้แม้่ไม่รู้จุดหมายปลายทาง แต่ก็ยืนยันว่าจะเดิน(แม่-ง)ไปเรื่อย ๆ อย่างนี้แหละ
ไม่มีวันเดินย้อนกลับ อย่างมากก็แค่หันหลังกลับมามอง

ปลายถนนคือจุดสิ้นสุดของชีวิต....คิดไว้อย่างนี้

โดย: อ.ว.น. ถ้าเดินไม่ไหว .. จะคลาน IP: 124.157.237.120 วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:12:24:01 น.
  
ยินดีครับ...กับความรู้สึกของแต่ละคน บนถนนสายนั้น...
แม้ว่าบางครั้งมันอาจดูขรุขระกันดารบ้าง หรือว่าเจอกับถนนความว่างเปล่า

แต่เราก็จะเป็นต้องเดินต่อไปใช่มั้ยครับ...

หรือว่าบางครั้ง ชีวิตเป็นเพียงใบไม้ใบหนึ่งที่ผลิบานแล้วร่วงโรย เกลื่อนกล่น
โดย: pu_chiangdao IP: 203.150.116.243 วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:13:00:11 น.
  
ใช่...ชีวิตเป็นเพียงหนึ่งใบไม้ รอวันปลิดปลิ้วจากกิ่งก้านสาขา
ทิ้งตัวลงซบผืนดินแล้วเน่าเปื่อยผุพังไปอย่างเงียบ-เงียบ

ฉันก็เป็นหนึ่งใบไม้นั้น...
โดย: โลภมากลาภหายนะโว๊ยยยยย IP: 124.157.237.120 วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:13:50:25 น.
  
คนเรานั้นฤา.. ยิ่งเดินทางไกลเพียงใด.
คนๆนั้น..ยิ่งเข้าใก้ลหัวใจตนเอง..
โดย: nobody IP: 202.57.189.4 วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:15:47:29 น.
  
ชอบข้อเขียนของคุณทุกเรื่องเลย เพราะเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ ป่าเขา วิถีชีวิตของคนชนบท ซึ่งตัวเองก็ชอบอยู่แล้ว
อ่านครั้งใดก็ประทับใจครั้งนั้น
ชอบถนนสายใดในชีวิต
ตอบจริงๆว่าไม่ค่อยชอบถนน
แต่ชอบทะเล สายน้ำมากกว่าค่ะ
เพราะปักษ์ใต้มีทะเลงาม
ไปนั่งดูเกือบทุกวันเลยค่ะ
โดย: ซออู้ วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:19:57:02 น.
  



Wow... U r the best

i have a new BG na krab
thaxxx for ur story na

Ohm
โดย: Ohm USA (sochana9 ) วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:21:45:18 น.
  


เราชอบหมดทุกถนนอ่ะดิคุณภู
ไม่ได้กวนเลยนะคะ
แบบว่าขอให้เป็นเส้นทางในอารมณ์ช่วงนั้น
ที่ได้พาออกจากบ้านชอบหมด
ไปสู่บรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป
โดย: อุ้มสี วันที่: 26 กันยายน 2549 เวลา:22:35:56 น.
  
ลงเสาร์สวัสดีแล้วลงที่จุดประกายฯแหมก่อ?
โดย: กกซ. IP: 124.157.236.16 วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:9:46:39 น.
  
โดย: กวิสรา วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:10:52:59 น.
  
เอาลิงค์ ร้านเล่า...ร้านหนังสือเล็กๆ แต่งดงาม ของเวียงเจียงใหม่มาฝากครับ

//totell.exteen.com/20060829/entry
โดย: pu_chiangdao IP: 203.150.134.96 วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:12:48:15 น.
  
ถนนสาย เชียงของ-เชียงแสน


แป่ว...
โดย: September Blue IP: 125.24.138.161 วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:17:49:57 น.
  

อืมมมมม....

อ่านถนนหลายๆ สายจากหลายคนที่คุณภูเล่าให้ฟัง

ทำไมแต่ละสายเป็นเรื่องร้ายๆ มากกว่าล่ะ

ทำไมเขาไม่เลือกถนนสายดีๆ เดินกัน

เพราะอะไร???

โดยส่วนตัว ถนนที่เดินมา 30 กว่าปีนี้
ไม่ค่อยขรุขระ และออกจะเรียบๆ จนชักเบื่อ
เพราะเดินมานานอยู่

อยากออกไปเดินถนนที่แตกต่างบ้าง
แต่ยังหาถนนสายนั้นไม่พบ
และยังพยายามหาอยู่

แม้ว่าหากเจอแล้วมันจะขรุขระ แต่ก็อยากลองเดินดู
บางทีมันอาจทำให้ตัวเองแกร่งมากกว่าที่เป็นอยู่
ดูเหมือนชีวิตมันสำเร็จรูปจนน่าเบื่อน่ะ
โดย: sunny-low (sunny-low ) วันที่: 27 กันยายน 2549 เวลา:19:30:09 น.
  
แวะไปดูร้านเล่ามาแล้วเจ้าคุณภู
โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:7:32:53 น.
  
คุณภูคะ ตามไปดูร้านเล่าแล้วค่ะ ร้านน่าเข้าไปอ่านหนังสือมากเลย
โดย: PANDIN วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:9:13:46 น.
  




โดย: ขี้อวด (กากีซ่าส์ ) วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:11:49:44 น.
  
ถนนสายหัวใจ....
โดย: ดาริกามณี IP: 125.24.177.52 วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:19:53:19 น.
  
อ้ายภู แถวบ้านน้องก่ เป๋น แบบนี้ค่ะ

บ่ค่อยมีไผ ปิ๊กไปพัฒนาบ้านเกิด

สักคน เป็นถึง ดร.เน้อ แต่ละแม่อยู่บ้านคนเดียว เอ็นดูขนาด

น้องสบายดี อ้ายภูล่ะ น่าจะสบายดีเนาะ

อ่านเรื่องนี้ แล้วไข้ปิ๊กบ้านละเจ้า เขียนเก่งขนาด ได้ใจ๋แต๊ะ ๆ
โดย: varissaporn327 วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:20:27:33 น.
  
ลืม บอก ว่า

ใบไม้ ในกล่องคอมเม้นท์ งามดีเจ้า แสงเงาพอดีเลย
โดย: varissaporn327 วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:20:30:46 น.
  
ใบไม้ที่แก่ตัวก็ปลิดตัวเองทิ้งตัวลงหยอกล้อกับสายลม
ซบหน้ากับผืนดิน

หลับไหลผุพัง...ตลอดกาล....
โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 28 กันยายน 2549 เวลา:23:03:57 น.
  
``เผอิญเจอเว็บเพจหน้านี้โดยบังเิญ
สะดุดชื่อผู้แปลขึ้นมา ว่าเป็นคนเดียวกับคุณอาหมอ ที่อยู่หน้าหมู่บ้านเรานี่เอง
เคยสนทนากับอาหมอหลายที มุมมองในชีวิตดีขึ้นเยอะเลย
ถ้าใครสนใจเข้าคารวะ เชิญได้เลยนะ แถวรามคำแหงเอง
เมล์นัดรวมพลกันก่อนก็ได้เน้อ
chillchill2007@gmail.com
โดย: Veeranun IP: 125.26.160.63 วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:22:11:47 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pu_chiangdao
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ภาพและงานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข
หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน
โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์
หากผู้ใดมีความประสงค์
จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์
หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง


***************************

งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มา : เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา









กันยายน 2549

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
26
27
29
30
 
25 กันยายน 2549
All Blog
Friends Blog
[Add pu_chiangdao's blog to your weblog]