การเดินทางของ "พิบูลศักดิ์ ละครพล"


หากชีวิตฉันเป็นบทเพลง
เธอคือผู้บรรเลงทำนองหลัก
และมีโน้ตตัวหนึ่งซึ่งเพราะนัก
ทดแทนค่าความรักอันลึกซึ้ง

หากชีวิตฉันเป็นบทกวี
เธอคือถ้อยพจีจากก้นบึ้ง
หวานหอมเสน่หา ตราตรึง
ขาดคำหนึ่ง - คำนี้ – กวีตาย!

หากชีวิตฉันเป็นภาพวาด
เธอป้ายปาดฝีแปรงแต่งความหมาย
แต้มสีสด ลบสีเศร้า เหงาเดียวดาย
เติมรุ้งฉาย สวยพิสุทธิ์ เป็นจุดสนใจ

หากชีวิตฉันเป็นนวนิยาย
ตอนสุดท้ายเท่านั้น ฉันสงสัย
เธอจะจบเรื่องราว ลงอย่างไร
จะหัวเราะ หรือร้องไห้ ฉันไม่รู้!?

"พิบูลศักดิ์ ละครพล"





ผมหยิบบทกวีชื่อ "เธอ" ออกมาอ่านอีกครั้ง

เป็นบทกวีที่เขาเขียนขึ้นด้วยลายมือพร้อมสีน้ำลายดอกไม้ และนำขึ้นอ่านในงานหนังสือมหกรรมหนังสือทำมือฯ ที่ร้านเล่า เชียงใหม่ เมื่อเดือนพฤศจิกาที่ผ่านมา ก่อนยื่นให้ผม

ใช่, เขาคือนักเขียนในดวงใจของผมอีกคนหนึ่ง และถือว่าเขามีอิทธิพลต่องานเขียนผมเป็นอย่างมากในเวลาต่อมา

ไม่ว่าฉากบรรยากาศการใช้ชีวิตในหุบเขา บนดอยสูง
ภาษาที่ง่ายงาม เนียนนุ่ม สลวยและเศร้า
ไม่ว่ามุมมอง ความรู้สึกที่ได้สัมผัส กระทบ

ในศรัทธา ในความหวัง
ในความสุข ในความทุกข์
ในการต่อสู้ของคนผู้ด้อย
ทั้งการต่อสู้กับจิตใจตัวเองภายใน
ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และประสบด้วยตนเองทั้งสิ้น



ล่าสุด วันเสาร์ที่ผ่านมา,พี่ชายคนนี้ได้แวะเวียนมาหาผมอีกครั้ง

ณ บ้านเช่าใกล้เชิงดอยสุเทพ เชียงใหม่
เราสนทนากันอย่างออกรส
จากแดดสาย คล้อยบ่ายย้ายย่ำเย็น...
ทั้งกาแฟ เบียร์ และห้วงคำนึง
อดีตวัยฝันวันเยาว์ผุดพรายออกมาในความทรงจำ
ความฝันของคนหนุ่ม...

"บางที เมื่อเราเดินออกมาห่างๆ เรามักมองเห็นอะไรๆชัดเจนยิ่งขึ้น..." เขายังคงย้ำๆ คำนี้อยู่เสมอ

ผมนิ่งฟังเขาย้อนรอยภาพผ่านฉากของหุบเขาแสงตะวัน เมื่อครั้งที่เขาเคยใช้ชีวิตเป็นครูในแถบแม่ฮ่องสอน

รวมถึงภาพบ้านเช่าซอมซ่อกลางเมืองเชียงใหม่
ที่คนหนุ่มกับชีวิตระหกระเหิน
ก่อนมีหญิงสาวที่พลัดหลงเข้ามาขออาศัยอยู่
พบและพลัดพราก...กับฉากหนึ่งใน "ขอความรักบ้างได้ไหม"

กระนั้น เรายังคงถกเถียงถึงวันนี้และวันพรุ่ง
พูดถึงโลกและโลภ
ความเร็วของทุน
ความล้มเหลวของระบบการศึกษา
ความแปลกแยกแปลกเปลี่ยนของคน
รวมไปถึงความจริงและลวง



"อย่าลืม เขียนเรื่องสั้น...แล้วส่งมาให้ดู..." เขาเอ่ยย้ำอีกครั้ง

ผมพยักหน้ายิ้มรับ ก่อนเก็บแรงใจและไฟฝันจากเขาเอาไว้





Create Date : 11 มิถุนายน 2549
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 16:02:52 น.
Counter : 2427 Pageviews.

28 comments
  
ดีใจมากๆ เลยค่ะ ไม่นึกเลยว่า จะมีใครในบล็อกแกงค์ รู้จัก คุณ พิบูลย์สักดิ์....
สาวอย่างตายังทันไปร่วมเขียนกลอนอ่อนหวานเมื่อหลายปีก่อน...
เรื่อง ขอความรักได้ไหม ก็ไม่เคยจืดจางไปจากหัวใจเลยค่ะ ทุกวันนี้ตาเลี้ยงม้า เป็นคาวบอยสาว ใส่บู๊ท นุ่งกระโปรงย้วย เพราะไม่เคยลืมภาพสาวคนนั้นเลย...

ดีใจจังคะ...กรุณานำความรักและความระลึกถึงมากๆไปให้ด้วยได้ไหมคะ....

โดย: Tante Ta วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:22:27:07 น.
  
ถ้าได้พบคุณเขาอีกครั้ง ฝากบอกด้วยนะคะ ว่าเรื่อง "บ้านดวงใจ" เป็นหนังสือในหัวใจเราอีกเล่มหนึ่ง

โดย: นางสาวอาร์ต IP: 124.120.7.207 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:4:01:25 น.
  
มาอ่านเรื่องของนักเขียนอีกคนหนึ่งค่ะ
โดย: ปิ่นเดือน ครูดอย IP: 202.28.25.22 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:9:28:09 น.
  
ส่งดอกมาให้
โดย: ดอก IP: 203.151.140.117 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:9:39:03 น.
  
อ้ายปอนดูเจริญวัยไปนิดนึง

(จะโดนเตะหรือเปล่าหว่า อิอิ)

ไม่ได้เจออ้ายหลายปีแล้ว

คิดถึงครับ

อ้อ คิดถึง ปอน กระโดกด้วยนะ

อิอิ
โดย: ปะหล่อง IP: 203.148.195.194 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:12:30:09 น.
  
อ้ายภูครับ

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.49 ที่ผ่านมา
ผมไปนั่งพูดคุยกับพี่รายา ผกามาศที่ร้านปูชา-เชียงราย
(ทีแรกพี่รายานัดให้ผมไปเจอกันที่ร้านกาแฟดอยช้าง แต่พี่เขาโทรมาเปลี่ยนแปลงสถานที่ใหม่ ซึ่งเป็นร้านปูชา ร้านเล็ก ๆ แต่บรรยากาศดีครับ)

ในวันนั้นพี่รายากับผมได้พูดคุยกันหลายเรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่อง "ชีวิต" และ "วรรณกรรม" นั่นเอง

ในสำเนียงเสียงสนทนาของพี่รายากับผมวันนั้นมี "พิบูลศักดิ์ ละครพล" อยู่ด้วย

ผมบอกพี่รายาว่าผมอยากเจอตัวจริงของ "พิบูลศักดิ์ ละครพล" เพราะผมได้รู้จักกวี-นักเขียนท่านนี้ทางตัวหนังสือมานานแล้ว ผมจึงอยากเจอตัวจริงบ้าง

ผมอยากฟังพิบูลศักดิ์ ละครพลอ่านบทกวีครับ
โดย: อรุณ อโรคยา IP: 58.136.135.15 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:16:43:19 น.
  
จำได้ว่า...
เคยโดนใจกับประโยคหนึ่ง..
ซึ่งเขียนโดย.."พิบูลศักดิ์"..
หากจำมิได้ว่า..จากเรื่องใด..
.. ... .....
..".การรอคอยทำให้แดดยามเที่ยงวันหม่น..
..ทว่าการสิ้นความอดทน..ทำให้วันทั้งวันมืดดับ..."...
.. .. ..... ....
งานของพิบูลศักดิ์.. งดงาม .. เนียน.. นุ่มนวล..ลึก..
More than words ; )

โดย: หึหึ; ) IP: 202.57.189.4 วันที่: 14 มิถุนายน 2549 เวลา:13:51:25 น.
  
ชอบประโยคเดียวกันเลยค่ะ คุณรุ่ง

"การรอคอยทำให้แดดยามเที่ยงวันหม่น.."



โดย: กากีซ่าส์ วันที่: 14 มิถุนายน 2549 เวลา:23:35:19 น.
  
นักเขียนในดวงใจเหมือนกันค่ะ
โดย: Kontonnum วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:8:07:56 น.
  
“...แสงแดดสาดส่อง แตะต้องช่วงไหล่
เธอหอบดอกไม้ ยิ้มฉายบนหน้า
ฉันมองร่างเธอผ่านม่านน้ำตา
ภาพเธอพรายพร่า
เธอกลับมาจริงหรือไร
นานเหลือเกินที่เราจากกัน
หยุดอยู่ตรงนั้น ฉันขอร้องไห้
ขอร้องให้สากับความอาลัย
ช่างนานเหลือใจ ช่างนานเหลือเกิน...”

บางบทเพลงในนวนิยาย "ขอความรักบ้างได้ไหม"
ของ พิบูลศักดิ์ ละครพล
โดย: ภู เชียงดาว IP: 202.5.87.159 วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:10:19:59 น.
  
ตอบเพลงในนวนิยาย "ขอความรักบ้างได้ไหม"
“...แสงแดดสาดส่อง แตะต้องช่วงไหล่
เธอหอบดอกไม้ ยิ้มฉายบนหน้า
ฉันมองร่างเธอผ่านม่านน้ำตา
ภาพเธอพรายพร่า
เธอกลับมาจริงหรือไร
นานเหลือเกินที่เราจากกัน
หยุดอยู่ตรงนั้น อย่าฝันว่าฉันจะร้องไห้
มันหมดนานแล้วความอาลัย
ฉันมันหมดใจ เพราะที่เธอจากไปนั้นนานเหลือเกิน...”


ประชาสัมพันธ์ข่าวค่ะ
สาขาวิชาการเมืองการปกครองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะจัดการเสวนาทางวิชาการเรื่อง "อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับความหมายที่มองไม่เห็น"

หลักการและเหตุผล
เดือนมิถุนายน เป็นเดือนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทย ทั้งนี้เพราะเป็นเดือนแห่งการเริ่มต้นของระบอบประชาธิปไตยไทย อันเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ และวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ได้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวเรียกว่า "พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว" ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวรในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475
เพื่อระลึกถึงการกำเนิดของระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญไทย ตลอดจนเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับ อาจารย์มาลินี คุ้มสุภา ในโอกาสที่ผลงานเรื่อง “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับความหมายที่มองไม่เห็น” ได้รับรางวัล “ชูเกียรติ อุทกะพันธุ์” ในสาขาประวัติศาสตร์และโบราณคดี สาขาการเมืองการปกครองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงเห็นควรที่จะให้บริการทางวิชาการแก่สาธารณชนด้วยการจัดการเสวนาในหัวข้อ “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกับความหมายที่มองไม่เห็น” เพื่อเปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนทัศนะเรื่องประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญไทย

วัตถุประสงค์
1 .เพื่อเป็นเวทีให้เกิดการแลกเปลี่ยนทัศนะ สำหรับนักวิชาการ นักศึกษา และบุคคลทั่วไป
2. เพื่อให้การบริการทางวิชาการแก่สาธารณชนทั่วไป

วัน เวลา และสถานที่
วันพุธที่ 21 มิถุนายน 2549 เวลา 13.00 – 16.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 3 คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ดำเนินรายการโดย
รศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง

ร่วมเสวนาโดย
รศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ์
ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล
อ. อโณทัย วัฒนาพร
อ. มาลินี คุ้มสุภา

จึงเรียนมาเพื่อทราบค่ะ
ปล. งานนี้ฟรีค่ะ แต่ไม่เลี้ยงนะคะเพราะงบน้อยตามประสาโรงเรียนภูธร







โดย: ปิ่นเดือน ครูดอย วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:14:46:14 น.
  
ถ้าหายไปอย่าประหลาดใจนะ

มีปัญหาการเมืองนิดหน่อย

คาดว่าใน 2-3 วันนี้อาจถูกยึดอมยิ้ม

เพราะไปแจ้งลบคอมเมนต์ของมาเฟียเข้าน่ะ

ขอบคุณ....อาจได้พบกันในชื่ออื่น
โดย: ปิ่นเดือน ครูดอย วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:15:19:08 น.
  
เคยอ่านผลงานคุณพิบูลย์ศักดิ์อยู่บ้างเหมือนกันค่ะ

ภาษาที่เค้าใช้ สวยงามสละสลวยมากๆ
โดย: LaZyDaizY วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:0:34:25 น.
  
ถึงบ่ฮู้จัก แต่อ่านแล้ว อยากทำความฮู้จักเจ้า
โดย: varissaporn327 วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:10:05:18 น.
  
คิดถึงพี่ปอนจังนะ เงียบหายไปเลยนะค่ะ ไม่ทราบตอนนี้
ทำอะไรอยู่
โดย: เชียงใหม่ IP: 58.147.92.15 วันที่: 18 มิถุนายน 2549 เวลา:18:51:33 น.
  
อยากรู้จักตัวตนจริงๆ ของพี่ปอนจังเลย
จะมาเชียงใหม่เมื่อไหร่ บอกด้วยนะ จะรีบไปหาเน้อ ขอเพียงแต่บอกมา
โดย: คนเชียงใหม่ IP: 58.147.93.66 วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:23:22:44 น.
  
สมัยสาว ๆ ชอบอ่านงานของเค้านะ มาเห็นหน้าอีกที อืมมม ยังหล่อเหมือนเดิม
โดย: Kala_mydog วันที่: 12 สิงหาคม 2549 เวลา:0:48:15 น.
  
เห็นด้วยกับคุณ kala..mydog
อยากฟังเสียงอ่านบทกวี
จะติดตามไปฟังได้ที่ไหน
แล้วถ้าอยากรู้จักตัวตนจริงๆ
จะติดตามไปรู้จักได้ที่ไหน...ฮะ
โดย: ภูใจใส IP: 61.19.108.147 วันที่: 12 ตุลาคม 2549 เวลา:15:05:32 น.
  
พี่ปอน ตอนนี้เท่าที่เห็นมีงานเขียนอยู่ในกุลสตรี
คอลัมน์ กระท่อมดิน ทุ่งดาว
หวานละไม ได้บรรยากาศบ้านไร่ทุ่งดาวจริงๆ
มีภาพสีน้ำประกอบด้วย งามแต้ล่ะ
แล้วก็ในกรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอาทิตย์
คอลัมน์ ผ่านตามาตรึงใจ
แค่ดูภาพก็ตรึงใจแล้ว ขอบอก
น่าตัดเก็บไว้อย่างมาก

ส่วนตัวจริงพี่ปอนนั้น ต้องลองส่งเมล์ไปคุยกับ
อ้ายที่
machari17@thaimail.com (ดูจากหนังสือ)
ส่วนตัวเป็นๆ นั้น งานมหกรรมหนังสือ ที่กรุงเทพฯ
ก็ยังเจอพี่ปอนร้องเพลงเล่นกีตาร์อยู่ที่เวทีสสส.
อยู่เลยนะครับ
อ้อ...ก้ยังหล่อเหมือนเดิม

โดย: ภูผา ชมภูมิ่ง IP: 124.121.45.74 วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:0:15:34 น.
  
www.amarinpocketbook.com ค่ะ
ขอบคุณค่ะพี่
โดย: แก้ม อมรินทร์ IP: 58.9.143.184 วันที่: 12 กันยายน 2550 เวลา:11:06:44 น.
  
ตอนอายุ 12 เจอหนังสือเก่าๆ เล่มหนึ่ง ชื่อขอความรักบ้างได้ไหม มีไม่ครบหน้า บางแผ่นขาดแหว่งวิ่น ไม่รู้ที่มาของการที่มีอยู่ในบ้าน หยิบอ่านเพราะไม่มีอะไรจะอ่าน ที่บ้านหนังสือมีน้อยเล่มเหลือเกิน จำได้ว่านั่งอ่านอยู่นานทั้งที่มีไม่กี่แผ่น ปะติดปะต่อเรื่องราวไม่ต่อเนื่อง แต่หนังสือเก่า ๆ เล่มนั้นทำให้รู้สึกแปลกๆ อ่อนไหว อ่อนแอ และที่สำคัญ อยากรู้เรื่องราวทั้งหมด ได้เจอหนังสือเล่มเต็ม ๆ ตอนอายุ 15 อ่านไม่รู้กี่รอบ ใน 1 เดือน ตัวเองเป็นคนไร้ศาสนา ศาสดาใดก็ไม่ทำให้ซาบซึ้ง แต่กลับรู้สึกศรัทธาและวางหัวใจกับหนังสือหลาย ๆ เล่มของพี่เขา ถ้ามีโอกาสได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ และก็เฝ้าฟังพี่เขาสนทนาสักครั้ง คงจะรู้สึกดีเป็นที่สุด
โดย: มะลิ IP: 125.27.130.107 วันที่: 29 กันยายน 2550 เวลา:22:21:11 น.
  
อ๋าดีใจจังค่ะ มาเปิดเจอมีคนชื่นชมพ่อเราเยอะขนาดนี้เลย อิอิ แอบดีใจแทน วันนี้เป็นวันพ่อแล้วเข้ามาตะเวนเล่น รักพ่อที่สุดเลยค่า หนูก็ชอบเรื่องบ้างดวงใจที่สุดค่ะ พ่อเขียนถึงพี่หยิ่ง สนุกมากๆเลย ตอนพี่พ่อเล่นMSNด้วยค่ะ ไฮเทคไหมล่ะ
โดย: ลอมฟาง ลูกกวี IP: 125.25.61.164 วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:20:06:36 น.
  
ชอบการเขียนของพี่ปอนเหมือนกันค่ะ เขียนได้ดีมากเลยทีเดียวค่ะ

อรจะติดตามผลงานของคนเก่งคนนี้ตลอดไปนะคะ
โดย: อินอร IP: 125.26.179.213 วันที่: 17 ธันวาคม 2550 เวลา:20:27:18 น.
  
ชอบการเขียนของพี่ปอนค่ะ
คิดถึง

โดย: นานเหลือเกินที่เราจากกัน IP: 59.100.146.200 วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:49:45 น.
  
จำไม่ได้ว่ารู้จักผลงานของพี่ตอนไหน ตอนนี้เราอายุ 34 แล้ว หนังสือเล่มแรกที่ซื้ออ่าน คือ ขอความรักบ้างได้ไหม เป็นปกสีดำๆ มีรูปพี่อยู่หน้าปก ตั้งแต่นั้นก็ตามซื้อมาเรื่อยๆ แต่ช่วงหลังๆขาดช่วงไปบ้าง เพราะเหตุผลทางเศรษฐกิจ
แตก็ชื่นชม และชื่นชอบพี่มากๆนะ
อ่านหนังสือพี่แล้วมันมีความสุขแบบเศร้าๆไงก็ไม่รู้
โดย: บุ๋ม IP: 124.120.120.85 วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:14:32:34 น.
  
ได้ดู ทีวีไทย มีภาพคุณพิบูรณ์ศักดิ์ กล่าวบทกวี อึ้งไปเลย เหมือนได้ละทิ้งวิญญาณของตนเองไป หลายปีที่ผ่านมาผมทำงานพร้อมกับเรียนอย่างหนัก และก็คิดเสมอว่าตัวเองไม่มีเวลา และได้ละทิ้งจิตวิญญาณของตนออกไป
ความสุขอยู่ตรงไหนกัน อยุ่ที่ตอบความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้โดยสมบูรณ์หรือ แล้ววัตถุ หรือหัวใจ ที่ให้ความสุขกับชีวิตของเราอย่างแท้จริง
โดย: การกลับคืนมาของ หัวใจ IP: 125.27.118.124 วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:1:32:51 น.
  
หากพรุ่งนี้ฉันเอ่ยลา เธอจะน้ำตาให้ฉันไหม
ความรู้สึกเธอจะเป็นเช่นไร จะเจ็บปวดแปลบใจ หรือไม่เลย
เพลงรักสำหรับฉัน เธอจะขับร้องมันอีกไหมเอ่ย
อุ้งมืออบอุ่นฉันคุ้นเคย เธอจะปล่อยมันเปล่าเฉยอยู่กี่วัน
ก็คงไม่เป็นไร หากวันต่อไปไม่มีฉัน
สำหรับเธอยังมีสิ่งสำคัญ อีกหลายร้อยหลายพันให้ค้นพบ
ห่วงก็แต่ความฝัน เกรงมันจะค้างอยู่ไม่รู้จบ
วันเงียบ เดือนเหงา ปีเซาซบ มันจะหลบเร้นร่างอยู่อย่างไร
เก็บมันไว้ให้ฉันที ดูแลมันอย่างดีด้วยได้ไหม
อย่าทิ้งขว้างมันเมื่อฉันไป มีเธอมันจะได้ไม่เคว้งคว้าง
..............(ถึงท่อนนี้จำไม่ค่อยได้แล้ว ไม่แน่ใจว่า)..................
ตั้งใจทำงานนะ ฉันจะเฝ้าดูอยู่ห่างๆ
จะเฝ้าดูมือเธอที่แผ้วทาง ที่จะสร้างสะพานมุ่งสู่พรุ่งนี้
แล้วจะส่งรักมาเป็นแดดอุ่นทาบทามเธอทุกที
..............(ลืมไปท่อนนี้ ไม่แน่ใจว่า)..................
จะส่งความรักเราเท่าที่มี มาเป็นบทกวีและดอกไม้

ใครรู้จัก บทกวีบทนี้บ้าง ช่วยบอกหน่อย
ข้าพเจ้าจำได้ว่าได้ยินทางวิทยุตั้งแต่สมัยเรียน ม.ปลาย
ตอนนั้นราวๆ ม. สี่ นานแล้วอ่ะ แต่ชอบมากเลยจำได้
เป็นแฟนหนังสือพิบูลศักดิ์เหมือนกันค่ะ

รบกวนหน่อยนะคะ แล้วจะแวะมาอ่าน
โดย: wanarisa IP: 222.123.75.92 วันที่: 3 พฤษภาคม 2552 เวลา:13:05:21 น.
  
หนังสือ วัยฝันวันเยาว์ เป็นหนังสือในดวงใจ
อ่านแล้วได้กลิ่นกรุ่นของเยาว์วัย (ชีวิตที่ผ่านแล้วไม่อาจหวนคืน
ได้แต่คิดถึงเท่านั้น)

ชอบพี่ปอนมานานหลายปี ขอให้พี่มีชีวิตที่ดี และมีความสุข
สงสัยจังว่า จะมีอะไรที่หวาน เศร้า ซึ้ง ตรึงใจ เท่าบทกวีของพี่อีก?
โดย: จ๊ะจ๋า IP: 202.12.73.129 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:16:15:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

pu_chiangdao
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]



ภาพและงานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้
เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว
ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข
หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน
โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์
หากผู้ใดมีความประสงค์
จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์
หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด
โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง


***************************

งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ที่มา : เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา









มิถุนายน 2549

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
Friends Blog
[Add pu_chiangdao's blog to your weblog]